“คุณคะ...คุณลืมกระเป๋าไว้ในร้านน่ะค่ะ นี่ไงคะ”
“โอ!...พระเจ้า...ขอบคุณมากนะครับ กระเป๋าใบนี้สำคัญกับผมมาก ผมนี่มันเลินเล่อจริง ๆ”
บุรุษหนุ่มเจ้าของความสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรและมีดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลยิ้มอย่างยินดี เขามองหญิงสาวชาวไทยด้วยความชื่นชม
“ขอบคุณมากจริง ๆ ครับ...เมื่อครู่ผมรีบมากไปหน่อย นี่ถ้ากลับไปถึงบริษัทผมคงนึกไม่ออกแน่ ๆ ว่าลืมของไว้ที่ไหน”
“ไม่เป็นไรค่ะ...ฉันไปก่อนนะคะ”
ชายหนุ่มผู้นั้นอยากจะอ้าปากถามชื่อเสียงเรียงนามของสาวไทยทว่าก็ไม่ทันหญิงสาวที่หันหลังเดินกลับเข้าไปในร้านอย่างเร่งรีบ เมื่อนิตากลับไปถึงโต๊ะอาหารเธอก็รู้สึกว่าต้องรีบออกไปหาที่พักเมื่อพลิกดูนาฬิกาข้อมือบอกเวลาเลยเที่ยงมามากแล้ว
“คิดเงินด้วยค่ะ”
ร่างแน่งน้อยกวักมือเรียกบริกรและทำท่าจะหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาเพื่อล้วงหยิบธนบัตรภายในนั้นทว่ากลับพบเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าอีกใบของเธอเท่านั้น
“กระเป๋า!...ตายละ...กระเป๋าอยู่ไหน!”
นิตาพยายามมองหาด้วยก้มลงดูใต้โต๊ะเพื่อหวังว่าเธออาจจะทำมันหล่นลงไป บนพื้นที่นั่งใกล้ ๆ หากก็ไม่พบกระเป๋าใบนั้นเลย
“นี่บิลค่าอาหารครับคุณผู้หญิง”
บริกรที่เดินมาวางบิลค่าอาหารลงบนโต๊ะ นิตาหันกลับมามองเขาก่อนจะถามขึ้นว่า
“ขอโทษทีนะคะ...ไม่ทราบว่าคุณเห็นกระเป๋าสะพายของฉันที่ตั้งอยู่ตรงนี้หรือเปล่า?”
ชายหนุ่มผู้นั้นเลิกคิ้วสูง “เอ...ผมไม่เห็นนะครับ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงไปลืมไว้ที่ไหนหรือเปล่าครับ?”
“ไม่นะคะ” นิตาส่ายหน้า หัวใจของเธอเต้นเร็วแรงเพราะในกระเป๋าใบนั้นมีเงินสด บัตรเครดิตและเอกสารการเดินทางข้ามประเทศที่สำคัญอยู่ทั้งหมด ถ้าเธอหามันไม่พบต้องเดือดร้อนแน่ ๆ
“ขอโทษทีนะคะ...ฉันไม่รู้ว่ากระเป๋าของฉันอยู่ที่ไหน” นิตาเสียงสั่น ใบหน้าของเธอเริ่มถอดสีเพราะความตกใจกับสิ่งที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น “คือว่า...เงินของฉันอยู่ในกระเป๋าใบนั้น ถ้าหามันไม่พบ ตอนนี้ในตัวของฉันก็ไม่มีเงินเลยสักบาท”
บริกรพลอยมีสีหน้าตกใจไปด้วย หากก็เพียงเล็กน้อย เขากวาดสายตาไปทั่วร้าน อยากจะช่วยหญิงสาวแต่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร
“ลองนึกดูสิครับว่าคุณไปลืมไว้ที่ไหนบ้าง?”
“มีอะไรกันหรือครับ?”
เสียงห้าวที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้คนทั้งสองชะงักและหันไปมองพร้อมกัน ชายหนุ่มในชุดสูทที่นิตาเอากระเป๋าซึ่งเขาลืมไว้วิ่งตามไปให้เมื่อครู่นั่นเอง
“คุณ...” เสียงแผ่วแหบโหยลอดออกมาจากปากของหญิงสาว ใบหน้าของเธอซีดจัดและดูเหมือนเขาจะรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังมีปัญหา
“กระเป๋าของคุณผู้หญิงคนนี้หายน่ะครับ”
บริกรเป็นฝ่ายหันไปบอก ชายหนุ่มผู้นั้นมองหญิงสาวที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนมุมปากของเขา
“ไม่เป็นไรหรอกครับ...เดี๋ยวผมจะจ่ายค่าอาหารมื้อนี้ให้เธอเอง”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงรื่นหู นิตาทำสีหน้าแปลกใจ เธอไม่ได้ต้องการให้เขาทำแบบนี้หากแต่ก็ไม่มีทางเลือก หญิงสาวหันไปมองตรงที่ที่เธอนั่งกินอาหารเมื่อครู่อีกครั้ง ทำอย่างไรเธอก็ไม่เห็นกระเป๋าใบนั้นอีกแล้ว
“คุณคะ...ขอบคุณมากค่ะ”
นิตายกมือไหว้ชายหนุ่มชาวอเมริกันด้วยดวงตาแดงก่ำหลังจากที่เขาจ่ายเงินค่าอาหารให้แก่บริกร แม้มันจะเป็นเงินจำนวนไม่มากแต่เธอก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่เป็นไรหรอกครับ...ถือว่าผมได้ตอบแทนคุณที่เอากระเป๋าไปให้เมื่อกี๊ ดีนะครับที่ผมกลับเข้ามาที่นี่เพราะลืมของอีกอย่างเอาไว้”
เขาชูสมุดโน้ตเล่มเล็ก ๆ ให้เธอดูพร้อมรอยยิ้ม “ผมชื่อลอว์สัน เบอร์ลิน...เรียกผมว่าลอว์ก็ได้ครับ แล้วนี่คุณกำลังจะไปไหนหรือครับ?”
นิตาเงียบไปชั่วครู่ แล้วหญิงสาวก็ไม่อาจห้ามน้ำตาหยดหนึ่งที่ไหลลงอาบแก้มได้
“ฉันชื่อนิตาค่ะ ฉันมาจากเมืองไทย...ฉันมาตามหาคนคนหนึ่ง”
“ตามหาคนอย่างนั้นหรือครับ?...แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเขาอยู่ที่ไหน?”
หญิงสาวส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ค่ะว่าเขาอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเขาอยู่อเมริกา อยู่ในนิวยอร์คซิตี้”
“โอ...แต่นิวยอร์คนี่มีคนมากมายเลยนะครับถึงแม้พื้นที่จะเล็ก ที่ที่คุณอยู่ตอนนี้คือเขตมิดทาวน์ คุณอาจตามหาคนที่คุณต้องการพบแต่ไม่รู้พิกัดว่าเขาอยู่ที่ไหนได้ลำบาก”
ลอว์สันกล่าวขณะจ้องมองดวงหน้างดงามซูบซีด นิตาเป็นผู้หญิงชาวเอเชียร่างเล็กแต่เธอก็สวยมากในความรู้สึกของเขา
“แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อไป”
“ฉันยังไม่รู้เลยค่ะ” เธอถอนใจเบา ๆ “ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรเลย ในกระเป๋าใบนั้นที่หายไปมีเงิน บัตรเครดิต และที่สำคัญมีเอกสารการเดินทางของฉันอยู่ในนั้นด้วย ฉันยังไม่รู้เลยค่ะว่าคืนนี้ฉันจะพักที่ไหน”
“นิตา...ถ้าคุณจะให้ความไว้วางใจผมในฐานะที่เราพึ่งรู้จักกัน...ผมมีห้องพักของเพื่อนผมที่เขาซื้อทิ้งไว้อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ผมจะพาคุณไปพักที่นั่นก่อนชั่วคราว”
นิตารู้สึกดีใจที่ลอว์สันแสดงความมีน้ำใจต่อคนที่กำลังลำบากอย่างเธอ แต่อีกด้านหนึ่งหญิงสาวก็ยังรู้สึกตะขิดตะขวงหากจะรับไมตรีจากเขาง่าย ๆ
“เอ้อ...”
“ผมรู้นะว่าคุณอาจจะไม่ค่อยสบายใจนัก การที่คุณเดินทางมาจากประเทศไทย มาที่นี่เพียงคนเดียวและมาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก มันอาจทำให้คุณรู้สึกว่ายังไม่อยากไว้วางใจใคร”
“ลอว์คะ...คือ...”
“แต่ผมก็อยากให้คุณรู้ว่าตอนนี้ผมอยากจะช่วยเหลือคุณจริง ๆ...ผมไม่ได้พักอยู่ที่นั่นหรอกนะครับ มันเป็นห้องชุดที่เพื่อนของผมซื้อทิ้งไว้และเราสนิทกันมาก ผมจะพาคุณไปพักที่นั่นก่อนพลาง ๆ ส่วนผมจะกลับไปที่คอนโดของผมอีกแห่งหนึ่ง”
นิตาทำท่าเหมือนเธอกำลังชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าลำบากอย่างแท้จริง กระเป๋าหาย ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่เหรียญเดียว และความหวังที่จะติดตามหา ใครคนนั้น ก็ดูเหมือนจะดับวูบลงในทันที