ตอนที่ 7 พยายามตีสนิท

1631 Words
หลังจากเกิดเหตุการณ์อันน่าอับอายที่สาวรับใช้ของหลูเจียงหลีทำงานผิดพลาด ทำให้ตกลงไปในสระน้ำกลางงานเลี้ยงแล้ว หลูเจียงหลีจึงไม่มีหน้าอยู่ร่วมงานเลี้ยงต่อ นางหาโอกาสแอบหลบเลี่ยงออกจากงานเลี้ยงไปก่อน เพราะเป็นคนที่ไม่มีผู้ใดให้ความสนใจ นางจึงสามารถออกมาจากงานเลี้ยงได้อย่างราบรื่น และพยายามขอพบกับคุณชายรองกู้ ทว่าเขากลับส่งบ่าวรับใช้คนสนิทให้มาบอกกับนางว่า ‘ทำงานไม่สำเร็จยังหวังอยากจะพบหน้าข้าอยู่อีกหรือ หากอยากให้ข้าอภัยให้เจ้า ก็จงไปตีสนิทคุณหนูรองสกุลซูเสีย พยายามผูกมิตรกับนางให้จงได้ มิเช่นนั้นก็ไม่ต้องมาพบหน้ากันอีก’ คนสนิทของคุณชายรองกู้อี้เหวินกล่าวจบก็รีบหลบออกไปจากบริเวณนั้นทันที หลูเจียงหลีรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ที่บุรุษที่นางมอบทั้งความรักและภักดีให้ กลับเห็นนางเป็นแค่เพียงหมากตัวหนึ่ง ที่จะช่วยให้เขามีอำนาจขึ้นมา แม้จะต้องใช้วิธีที่ต่ำช้าก็ตาม “เป็นเพราะเจ้า… หากข้าไม่เห็นว่าเจ้าเป็นสาวรับใช้เพียงหนึ่งเดียวที่ซื่อสัตย์ภักดีต่อข้า คอยปรนนิบัติรับใช้ข้ามาตั้งแต่เยาว์วัย ข้าจะให้ท่านแม่ขายเจ้าออกไปให้หอโคมเขียวเสียให้รู้แล้วรู้รอด” นางหันไปตำหนิสาวรับใช้ที่ทำงานผิดพลาด พลอยให้นางถูกกู้อี้เหวินเมินเฉยไปด้วย เขาคือความหวังเดียวของนาง ที่จะทำให้ชีวิตของนางหลุดพ้นจากจวนตระกูลหลูได้ “บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะคุณหนูสี่ ต่อไปบ่าวจะไม่ทำผิดพลาดอีกแล้ว” เถียวเอ๋อร์กล่าวออกมาทั้งน้ำตา หลูเจียงหลีถอนหายใจแรงด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนที่นางจะรีบขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วออกจากบริเวณหน้าจวนสกุลกู้ไปอย่างไม่สบอารมณ์ วันนี้ที่นางมาร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลกู้ได้ ก็เป็นเพราะนางได้รับเทียบเชิญมาร่วมงานมาจากคุณชายรองกู้ ซึ่งเขาเป็นธุระจัดการให้ พี่น้องที่จวนได้แต่อิจฉานาง แต่แล้วอย่างไรผู้ที่คุณชายรองกู้เลือกคือนาง หาใช่เหล่าพี่น้องของนางไม่ “พรุ่งนี้เจ้าไปสืบเรื่องราวของคุณหนูรองสกุลกู้มาที ว่านางชอบอะไรไม่ชอบอะไร ยามว่างๆ นางชอบทำสิ่งใด” นางเปิดม่านออกมาก่อนที่จะสั่งสาวรับใช้คนสนิทที่นั่งอยู่ข้างคนบังคับรถม้า “เจ้าค่ะคุณหนูสี่ เรื่องนี้ไว้ใจบ่าวได้เลย บ่าวไม่ทำให้คุณหนูสี่ผิดหวังแน่นอน” เถียวเอ๋อร์รีบตอบรับออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ ถึงแม้คืนนี้นางจะทำงานพลาด ทว่าคุณหนูไม่เพียงไม่ตำหนิรุนแรง กลับยังให้โอกาสนางได้แก้ตัวอีก พลันอารมณ์หดหู่ก่อนหน้ากลับมาดีขึ้นทันใด รถม้าเคลื่อนตัวออกจากหน้าจวนตระกูลกู้ไปเป็นคันแรกของบรรดาแขกที่มาร่วมงาน แสงแดดในยามเฉินส่องผ่านหน้าต่างของห้องนอนเข้ามา ทำให้ร่างบางที่ยังคงซุกกายอยู่ใต้ผ้าห่มรู้สึกตัว นางลุกขึ้นนั่งก่อนที่จะมองผ่านม่านกั้นออกไป สาวรับใช้กำลังเช็ดถูโต๊ะที่อยู่หน้าม่านกั้นอย่างเบาไม้เบามือ ครั้นเห็นว่าคุณหนูรองลุกจากที่นอนมานั่งอยู่หน้าคันฉ่องแล้ว ชิงหลวนจึงรีบถืออ่างน้ำเข้ามาให้คุณหนูรองได้ล้างหน้าล้างตา สาวรับใช้รุมปรนนิบัติอาบน้ำ ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้ซูเยว่ซินอยู่ไม่นานเท่าใดนัก หญิงสาวก็เตรียมตัวพร้อมที่จะออกไปกินมื้อเช้าตามลำพัง แต่ในขณะที่กำลังจะตั้งใจกินอาหารตรงหน้า สาวรับใช้ที่ทำหน้าที่ปัดกวาดเรือนหน้าก็เดินเข้ามาคำนับนาง ในมือถือกล่องไม้เอาไว้อย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะรายงานออกมา “คุณหนูรองเจ้าคะ นี่คือของกำนัลที่คุณหนูสี่ตระกูลหลูส่งมาให้ท่านเจ้าค่ะ นางบอกว่าเพิ่งรู้ว่าคุณหนูรองเพิ่งเข้าพิธีปักปิ่นไปไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงไม่ได้มอบของกำนัลใดๆ ให้ นางเลยมอบกล่องนี้มาให้เป็นของกำนัลเจ้าค่ะ” ชิงหลวนมองหน้าคุณหนูรองของนาง ซูเยว่ซินพยักหน้าให้ชิงหลวนไปรับกล่องในมือของสาวรับใช้มา สาวรับใช้ผู้นั้นจึงคำนับลาแล้วออกจากโถงเรือนซูซานไป ซูเยว่ซินหารู้สึกประหลาดใจหรือหาได้สนใจสิ่งของที่อยู่ในกล่องไม้นั้น นางยังคงละเลียดกินอาหารตรงหน้าอย่างมีมารยาทเช่นเดิม แม้จะเคยใช้ชีวิตในค่ายทหารมานานถึงสองปี ทว่ามารยาทระหว่างกินอาหารจากชีวิตก่อนนางก็ไม่เคยที่จะหลงลืม เรื่องนี้กลับทำให้พวกสาวรับใช้ในเรือนซูซาน ต่างรู้สึกพากันชื่นชมคุณหนูรองอยู่ไม่น้อย ว่าสมแล้วที่เป็นบุตรีของขุนนาง ‘สตรีผู้นั้นเริ่มพยายามเข้าหานางแล้ว’ มุมปากยกขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเลือนหายไป เหตุการณ์กำลังดำเนินไปเฉกเช่นในชีวิตก่อน เพียงแค่สถานการณ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากแผนการที่อีกฝ่ายได้ลงมือกระทำสำเร็จเมื่อคืน ทำให้สามารถเข้ามาตีสนิทกับนางได้อย่างง่ายดาย ทว่าในชีวิตนี้นางได้รู้ล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว ถึงได้ลงมือขัดขวาง ทำให้เหตุการณ์เมื่อคืนจากเดิมที่ควรจะสำเร็จ กลับกลายเป็นผิดพลาดขึ้นมา แต่อีกฝ่ายก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงความตั้งใจ ที่จะเข้าหานางอยู่ดี ‘ช่างน่าสนุกเสียจริง’ ซูเยว่ซินวางตะเกียบลงบนชามแล้วล้างมือ จากนั้นจึงลุกจากโต๊ะอาหารแล้วเดินออกจากโถงเรือนซูซานไปข้างนอก ชิงหลวน ชิงหลัว ติดตามคุณหนูรองออกไป ทิ้งให้ชิงหรงคอยกำกับสาวรับใช้ในเรือน ให้มาช่วยกันเก็บจานชามบนโต๊ะอาหารหลังจากที่คุณหนูรองลุกออกไป ซูเยว่ซินเดินชมไม้ดอกไม้ประดับภายในจวนตระกูลซูด้วยความเพลิดเพลิน ชิงหลวนนั้นรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เพราะยามที่คุณหนูสั่งนางให้รับกล่องไม้ที่สตรีสกุลหลูส่งมามอบให้เป็นของกำนัลกล่องนั้นมา จนถึงบัดนี้คุณหนูก็ยังไม่คิดที่จะใส่ใจเปิดกล่องไม้นั่นออกดูเลย หรือว่าคุณหนูรองรับน้ำใจอีกฝ่ายตามมารยาทเท่านั้น นางมิอาจคาดเดาความคิดของคุณหนูรองได้เลย ชิงหลวนถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ นางไม่อยากให้คุณหนูรองคบหาสตรีสกุลหลูผู้นั้น ดูก็รู้ว่าหาใช่คนดีไม่ แต่นางที่เป็นเพียงบ่าว จะกล้าห้ามปรามคุณหนูรองที่เป็นนายของนางได้เยี่ยงไร เหมือนซูเยว่ซินจะรับรู้ถึงความอัดอั้นตันใจของสาวรับใช้ที่ติดตามมา หญิงสาวจึงหันกลับไปมองชิงหลวนและชิงหลัว แล้วถามออกมาด้วยความใส่ใจ “เจ้าเป็นอันใดรึ…ชิงหลวน ข้าได้ยินเสียงเจ้าถอนหายใจหนักๆ ออกมาหลายครั้งหลายคราเชียว” “นั่นสิเจ้าคะ หลังจากที่ออกจากโถงเรือนมา ข้าน้อยก็ได้ยินพี่ชิงหลวนถอนหายใจติดๆ กัน” ชิงหลัวกล่าวออกมาอย่างเห็นด้วย สองสาวต่างวัยจึงพากันจ้องหน้าชิงหลวนเป็นตาเดียวกัน ชิงหลวนยิ้มแหยๆ ก่อนที่จะตัดสินใจกล่าวความในใจออกมา “ข้าน้อยรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลยเจ้าค่ะ หากคุณหนูรองจะคบหาสตรีสกุลหลูนางนั้น” คำตอบของชิงหลวนไม่เกินความคาดหมายของซูเยว่ซินเท่าใดนัก ทว่าชีวิตก่อนนางไม่เคยเปิดโอกาสให้สาวรับใช้ของตน แสดงความคิดเห็นออกมาเช่นนี้ นางจึงไม่เคยรับรู้เลยว่า สาวรับใช้ของนางนั้นห่วงใยนางมากถึงเพียงใด “เพราะเหตุใดรึ” ซูเยว่ซินแสร้งถามออกมา ถึงชิงหลวนจะไม่ถกถึงเรื่องนี้ ชีวิตนี้นางก็ไม่คิดที่จะคบหาสตรีผู้นั้นเป็นสหายอยู่ดี ผู้ใดบ้างจะยอมเดินลงไปในกับดักสัตว์เป็นคราที่สอง หากเป็นเช่นนั้นสวรรค์คงนึกเสียดายแย่ ที่มอบโอกาสให้แล้วกลับยังโง่เขลาอีกหน “ดูก็รู้ว่านางไม่ใช่คนดีเท่าใดนักเจ้าค่ะ เหตุการณ์เมื่อคืน หากให้ข้าน้อยคาดเดา ข้าน้อยคิดว่านางจงใจจะใส่ร้ายคุณหนูรองสกุลกู้ ว่าเป็นผู้ผลักคุณหนูใหญ่สกุลเจียงให้ตกน้ำ แต่ทำเช่นนั้นเพื่อเหตุใด ข้าน้อยก็จนปัญญาที่จะคาดเดาเจ้าค่ะ แล้วสตรีที่มีจิตใจซับซ้อนเช่นนี้… ข้าน้อยจะวางใจให้คุณหนูไปคบหานางได้เยี่ยงไรเจ้าคะ” นางเพิ่งจะรู้ว่าชิงหลวนนั้นเป็นสาวรับใช้ที่เฉลียวฉลาดและเป็นคนที่ช่างสังเกตยิ่งนัก มิน่าในชีวิตก่อนนางถึงได้รู้ว่าชายหญิงสารเลวคู่นั้นวางยาพิษสังหารนาง ทว่ายังไม่ทันได้บอก กลับต้องมาตายจากไปเสียก่อน ชีวิตนี้ดีแค่ไหนแล้วที่นางเปิดโอกาสให้สาวรับใช้ข้างกาย ได้แสดงความเห็นของพวกนางออกมาอย่างอิสระ เพราะหากนางทำเฉกเช่นชีวิตก่อน มีหวังคงจะไม่ได้ยินความปรารถนาดีเหล่านี้จากพวกนางอีกเป็นแน่ “เจ้าไม่ต้องกังวลไป สตรีเช่นนางมิคู่ควรได้เป็นสหายของข้าหรอก” ครั้นกล่าวจบซูเยว่ซินก็ก้าวเดินต่อไป ชิงหลวนผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในใจพลันรู้สึกยินดีที่ได้ยินคุณหนูรองกล่าวออกมาเยี่ยงนี้ ชิงหลัวยังไม่รู้เรื่องอันใดมากนัก จึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ รอถามไถ่สาวรับใช้รุ่นพี่ยามที่พวกนางอยู่กันตามลำพัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD