“ที่สำคัญเราอาจจะไม่กลายมาเป็นแบบนี้ก็ได้” อยู่ดีๆความรู้สึกอึดอัดก็เข้ามาถาโถมใส่ร่างกายฉันจนแทบเซ มันอัดอั้นราวกับคลื่นโหมใส่ในคราเดียวจนรู้สึกหายใจไม่ออก การพูดแต่ละคำมันช่างยากเย็นยิ่งกว่าอะไรดี เจ็บจะตายอยู่แล้ว... “แล้วเก้าเชื่อแบบนั้นจริงๆหรือไง?” เธอพูดเสียงแห้งผากพอกัน ราวกับว่าฉันและเธอต่างก็เป็นเหยื่อแต่ความจริงมันไม่ใช่เลย ฉันคนเดียวต่างหาก อย่าทำหน้าเหมือนว่าตัวเองโดนทำร้ายเลยจะดีกว่ามั้ย! “เชื่อสิ” ฉันเม้มริมฝีปากทำใจให้เข้มแข็งเพื่อมองหน้าเธอ “เพราะเก้าเชื่อมันถึงได้เป็นแบบนี้ไง” “เก้าไม่น่าโง่เลยเนอะ ถ้าฉลาดกว่านี้สักนิดก็คงจะดี จริงมั้ย?” ฉันพูดไปในทำนองประชดประชันก่อนจะจ้องตาเธอเพื่อค้นหาว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทว่ามันกลับเลือนรางเพราะน้ำตาของฉันเอง... แหมะ “การทรยศมันเริ่มมาจากการที่เราไว้ใจ” “...” “แต่รู้อะไรมั้ย? การที่เก้าให้อภัยไม่ได้หมายความว่าไว้ใจเท่าเดิ