“แต่ว่าน่าเสียดายจังค่ะ คุณชายเล็กไม่ค่อยกลับมาค้างที่บ้านสักเท่าไหร่มักจะหมกตัวอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ในเมืองมากกว่า”
เสียงถอนใจคล้ายกับผิดหวังของคู่สนทนาทำให้รำไทยถึงกับเป่าปากออกมาด้วยความโล่งอก ก็ยังดีที่ไม่ต้องเจอหน้ากันทุกวัน ไม่อย่างนั้นหล่อนคงจะต้องเผลอแสดงท่าทางปลาบปลื้มเขาออกไปแน่ๆ ซึ่งก็ไม่ต้องเดาเลยว่าจอมมารคนนั้นจะแสดงท่าทางอะไรตอบโต้ออกมา
เหยียดหยาม ดูถูก ขยะแขยง และชิงชัง สิ่งพวกนี้แหละที่ภามิน ขว้างมันใส่หน้าหล่อนยามที่รู้ว่าหล่อนตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น
“แล้วคุณโรมพัทล่ะคะ มาค้างที่บ้านบ้างหรือเปล่า”
เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนการสนทนา รำไทยจึงเลือกที่จะพูดถึงคุณชายใหญ่ของบ้านแทน เพราะชื่อของโรมพัทไม่ได้ทำให้หัวใจของหล่อนเต้นผิดจังหวะเหมือนชื่อของภามินแม้แต่นิดเดียว
“รายนั้นอยู่ที่นี่นั่นแหละค่ะ แต่ถ้ามีงานด่วนก็ต้องไปค้างที่อื่น เช่นตอนนี้เห็นว่าต้องอยู่คุมงานที่พัทยานานเลยทีเดียวอาจจะเป็นอาทิตย์เลยมั้ง อิฉันเดาเอาค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คุณรำไทยไม่ต้องสนใจคุณชายใหญ่หรอกค่ะ มาสนใจคุณชายเล็กดีกว่า เพราะคนนี้ยังโสดสนิท แม้ว่าจะมีสาวๆ รอบเอวก็ตาม...”
แม่บ้านร่างท้วมเดินมาดันร่างของหล่อนให้ทรุดนั่งลงบนขอบเตียง จากนั้นก็เริ่มสาธยายสรรพคุณของพ่อจอมมารหล่อลากไส้อย่างภามินให้ฟังอีกยืดยาว หญิงสาวฟังไปก็หัวใจเต้นโครมครามแทบจะทะลุอกไปตลอดเวลา
“เอ่อ แล้วคุณชายเล็กของป้าไม่มีแฟนที่คบจริงๆ จังๆ เลยหรือคะ”
ทับทิมรีบส่ายหน้า “ไม่มีหรอกค่ะ เห็นแค่สี่ห้าวันคุณชายเล็กก็เขี่ยทิ้งหมดแล้ว แต่ไม่ต้องตกใจนะคะ คุณชายเล็กกับคุณชายใหญ่โตที่อังกฤษและก็รับวัฒนธรรมตะวันตกมาเต็มๆ ดังนั้นเรื่องพวกนี้พวกเธอไม่แคร์หรอกค่ะ จ่ายเงินซื้อเมื่อถูกใจ พอเบื่อก็ต่างคนต่างไป เป็นเรื่องปกติค่ะอิฉันกับคุณผู้หญิงเห็นมาจนชินตาแล้ว แต่ก็ยังดีที่พวกคุณๆ ไม่เคยพาผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาในบ้านเลยแม้แต่คนเดียว”
“ไม่เคยพาเข้ามา แล้วเอ่อ... ป้ารู้ได้ยังไงคะว่า บรรดาคุณชายของป้าคบกับใครอยู่บ้าง”
แม่บ้านร่างท้วมฉีกยิ้มกว้าง “คุณชายทั้งสองของอิฉันดังจะตายไปค่ะ ข่าวซุบซิบลือกันให้แซด แต่ส่วนมากจะเป็นเรื่องของคุณชายเล็กมากกว่า เพราะคุณชายใหญ่ค่อนข้างจะระวังตัวเรื่องนี้มาก น้อยครั้งนักที่ภาพควงผู้หญิงจะหลุดออกไปสู่สายตาประชาชน หรือพูดง่ายๆ ก็คือแม้แต่รูปของตัวเองคุณชายใหญ่ยังไม่ยอมให้นักข่าวนำไปลงเลยค่ะ เขียนชื่อได้แต่ห้ามลงรูป”คงเพราะอย่างนี้ล่ะมั้งคุณมารันพี่สาวบุญธรรมของหล่อนถึงไม่เคยได้เห็นหน้าโรมพัทมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
รำไทยยิ้มบางๆ ขณะที่ในสมองนึกถึงเรื่องของภามินไม่หยุดหย่อน แน่นอนหล่อนพอจะรู้อยู่เต็มอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นที่ต้องการของสาวๆ น้อยใหญ่ทั้งประเทศ แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจถึงได้ยังเจ็บแปลบๆ อีกนะ ความจริงหล่อนไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้ไม่ใช่หรือ
ภามินก็แค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญรู้จักกัน และหล่อนก็ห้ามหัวใจไม่ได้จึงตกหลุมรักเขาจังเบ้อเร่อ แต่ภามินนั้นไม่ได้ชายตาแลผู้หญิงโปรไฟล์ต่ำแบบหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียวแถมยังตั้งป้อมทำท่ารังเกียจรังงอนหล่อนอย่างโจ่งแจ้งอีกด้วย
อยู่ห่างๆ เขาไว้คงจะเป็นทางที่ดีที่สุด...
“งั้นอิฉันขอตัวก่อนดีกว่า คุณจะได้พักผ่อน เห็นว่าเย็นนี้คุณจะต้องไปพัทยาอีกไม่ใช่หรือคะ” ทับทิมลุกขึ้นยืนจากเตียง ขณะเดินไปหยุดกลางห้อง
หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ นี่แหละคือสิ่งที่หล่อนกำลังกังวล หล่อนอยากไปเอง แต่ก็ไม่มีปัญญาไป ต้องให้ผู้ชายคนนั้นขับรถไปส่ง เขาจะต้องไม่พอใจแน่ๆ ที่ได้รับภาระนี้
“ค่ะ ไปหาคุณโรมพัท คุณรันฝากของมาให้เธอน่ะค่ะ”
“งั้นอิฉันไปนะคะ คุณจะได้เตรียมเนื้อเตรียมตัว แต่หากมีอะไรขาดเหลือบอกได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ”
คู่สนทนาเอ่ยขึ้นอย่างมีน้ำใจ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปจากห้อง รำไทยถอนใจออกมาเบาๆ ขณะกวาดตามองสำรวจไปรอบๆ ห้องกว้าง
ห้องนี้ตกแต่งด้วยโทนสีหวานๆ ทั้งผ้าม่านและเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงเตียงนอนขนาดใหญ่ที่มีผ้าคลุมเตียงสีชมพูหวานคลุมทับเอาไว้ ห้องนี้เหมือนถูกจัดเตรียมไว้ให้คนพิเศษ ซึ่งแน่นอนต้องไม่ใช่หล่อนแน่ๆ แล้วใครกันล่ะ คนรักของภามินอย่างนั้นหรือ
อาจจะใช่เพราะห้องนี้อยู่ติดกับห้องของเขานี่...
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพียงแค่ความคิดแบบนี้ผุดขึ้นมาในสมอง หัวใจของหล่อนจะเหี่ยวเฉาลงราวกับดอกไม้หน้าแล้งไม่มีผิดเพี้ยนทำไมต้องรู้สึกเจ็บนะ ทำไมต้องรู้สึกไม่พึงพอใจด้วย... นี่ภามินผู้ชายที่สบตากันแค่ไม่กี่ครั้งจะทำให้หัวใจของหล่อนมีความรู้สึกแปลบๆ แบบนี้ได้ยังไงกันนะ
“คิดบ้าอะไรนะรำไทย... เธอคิดแบบนี้ไม่ได้นะ เขาไม่มีทางมองเธอหรอก”
หญิงสาวร้องเตือนตัวเองเบาๆ ในลำคอ ภาพสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ดูแคลนที่เขาใช้มองหล่อนเมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมานี้มันตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่า ภามินไม่มีทางแลหล่อน และหล่อนก็ไม่คู่ควรกับเขาสักนิด แม้แต่ตำแหน่งนางบำเรอก็ตาม