นีรนาทยิ้มรับเธอเทแป้งสีขาวขุ่นที่เจ้าของร้านเตรียมไว้ให้และเกลี่ยแป้งจนแผ่กระจายเต็มหน้าเครื่อง รอให้แป้งได้ที่จึงค่อยๆ ทาเนยและบีบวิปครีมลงไปบนนั้น ตาด้วยเครื่องประกอบที่เป็นที่นิยมไม่ว่าจะหมูหยองหรือผลไม้ก่อนจะตลบแป้งเป็นแผ่นสามเหลี่ยมใส่ในกรวยกระดาษยื่นให้ลูกค้าพร้อมรอยยิ้ม
เธอรับสตางค์ที่เขาส่งให้หย่อนลงในกระป๋องข้างตัวและสาละวนทำงานต่อเมื่อต้องเตรียมพร้อมหลายอย่าง...ราคาที่พอรับได้เพราะเป็นอาหารมื้อเช้าที่หากินได้ง่าย มีร้านเล็กๆ แบบนี้ตั้งขายกระจายอยู่ตามตรอกเล็กๆ เต็มไปหมด
วันๆ หนึ่งเธอต้องทำเครปแบบนี้ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง มันเป็นอาชีพของคนไม่มีทางเลือก แต่ก็สุจริตไม่ได้เบียดเบียนใคร ความจริงนีรนาทอยากเปิดร้านเอง เพราะเธอทำเป็นแทบทุกอย่างตั้งแต่การเตรียมแป้งหรือการลงมือทำ ติดตรงที่...เธอไม่มีเงินทุน เงินที่หาได้ละลายหายไปกับขวดเหล้าของบิดาเป็นส่วนใหญ่ สักวันหนึ่งในอนาคตน่า...เธอปลอบใจตัวเองและพยายามสร้างความหวัง จะได้มีกำลังแรงใจต่อสู้ต่อไปในอนาคตโดยที่ไม่ท้อแท้ไปเสียก่อน
อากาศเย็นเฉียบบาดผิวกายจนชายิบ แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ เธอเป็นคนหาชาวกินค่ำที่ต้องทน จะให้นอนสบายๆ อยู่ในบ้าน แล้วเธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ...นี่ล่ะปัญหาของคนจน...ได้แต่แหงนมองฟ้า และวิงวอนร้องขอพระผู้เป็นเจ้าเงียบๆ
การประชุมเคร่งเครียดจบลง ได้ข้อสรุปที่ไม่ดีเท่าไร เมื่อมือมืดตัวก่อเรื่องไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น มันเก็บตัวเงียบ แค่สร้างความตื่นตระหนกให้กับเจ้าของกิจการและคนที่มาเที่ยวแล้วบังเอิญรู้เรื่องเข้า
ปัง!!
ทั้งห้องเงียบกริบ ดิมิทรีลุกขึ้นยืน เขากระแทกสันมือตัวเองบนโต๊ะ ก่อนจะกวาดตามองคนใต้บังคับบัญชาทุกคนด้วยแววตาดุดัน
“คุณรู้ใช่ไหมว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น!!” เขาพูดช้าๆ เมื่อหาข้อสรุปไม่ได้ ว่าใครกันแน่ที่กล้าลองเชิง ‘เบนิคอฟ’
“คนร้ายคงแค่ข่มขู่ มันอาจจะเป็นการเข้าใจผิดก็ได้ครับ” หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยตอบคำถามแบบกล้าๆ กลัวๆ
“ผมรู้!! แต่ผมต้องการทีมมานที่ฝีมือทำงานได้ดีไม่มีข้อติ เอาเป็นว่า... หาตัวการให้เจอ ผมจะคุยกับไอ้หมอนั่นเองว่ามันต้องการอะไร?”
ดิมิทรีสรุปสั้นๆ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้คนที่โทรฯ เข้ามาขู่มันหวังผลอะไร?
“ครับ เราตามสืบจนพอจะรู้เลาๆ มันอาจจะเป็นแค่การกลั่นแกล้งครับ”
“เยี่ยม!! ผมไม่ผิดหวังเลยที่เลือกคุณขึ้นมาทำงานตรงตำแหน่งนี้ สลาฟส์” ชายหนุ่มกดมุมปากเหมือนจะยิ้ม เขาเลิกหัวคิ้วขึ้น เพราะรู้ดีว่าหาก ‘สลาฟส์’ เอ่ยปากเขาต้องมีข้อมูลอยู่ในมือ
“แม่กลับก่อนแล้วกันนะ ลูกจัดการได้ตามสบาย งานเลี้ยงที่เหลือแม่จะไปแทนลูกเอง” มาดามโรส ลุกขึ้นยืน เธอไม่อยากเห็นความโหดเหี้ยมของลูกชาย เพราะเขาขึ้นชื่อจนมีแต่คนขยาด เป็นหมีขาวที่เลือดเย็นสุดๆ
“ครับ... มัม...เอาล่ะ ใครมีหน้าที่อะไรที่ต้องทำเชิญตามสบาย ผมจะคุยกับสลาฟส์เอง เชิญ...”
ชายหนุ่มผายมือไปทางประตูเหมือนกับเป็นการไล่ทางอ้อม และทุกๆ คนรู้ดีว่าดิมิทรีไม่อยากให้ใครรู้ จนกว่าเขาจะบัญชาการลงมาเกี่ยวกับคนปริศนาที่โทรศัพท์มาข่มขู่เรื่องการวางวัตถุระเบิด ทุกคนรีบเดินออกจากห้อง ถึงให้อยากรู้แค่ไหน? ก็ไม่ใครกล้าพอที่จะตื้อขอฟังด้วย...
“พูดมาสลาฟส์ ใคร?” น้ำเสียงเย็นเฉียบยิ่งกว่าเกล็ดหิมะด้านนอกตัวอาคาร
ชายสูงวัยหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ จากข้อมูลที่สืบทราบ เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าจะใช่คนคนนั้น?!!
“อีวาน...โบรีส อดีต รปภ. ที่เคยทำงานที่ห้างสรรพสินค้าครับท่าน เขาถูกไล่ออกเพราะเมาสุราขณะทำงาน”
“อดีต!! รปภ. ที่ถูกไล่ออก!! แล้วไอ้หมอนั้นมันต้องการอะไร?”
“ผมยังไม่รู้ครับ ว่าเขาต้องการอะไรในการลงมือทำครั้งนี้ ความจริงเขาออกไปเป็นปีๆ หากมีเรื่อแค้นเคืองก็น่าจะลงมือตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่” สลาฟส์วิเคราะห์ตามข้อมูลที่รู้มา เขาแปลกใจพอๆ กับทุกคนที่อยู่ในทีมสืบสวน
“เอาตัวไอ้หมอนั่นมาให้ผม ผมจะสอบสวนมันเอง!! ให้มันรู้ไปสิว่ามันกล้า...” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาต้องมาเสียเวลาที่แสนจะมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ แค่คนงานชั้นล่างสุด ก่อเรื่อง แต่มันเป็นการกระทำที่ทำให้เขาเสียรายได้มหาศาล สร้างความขุ่นเคืองในหัวใจ จนไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ไปง่ายๆ ได้
“ครับ” สลาฟส์รับคำเสียงหนักๆ เขาเองก็อยากรู้ว่าอีวานต้องการอะไร ชายแก่นั่นจมอยู่กับกองขวดเหล้า แล้วจู่ๆ ไอ้หมอนั่นมันนึกสนุกอะไรขึ้นมาถึงก่อเรื่อง แถมเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย หากดิมิทรีเอาเรื่องขึ้นมา อีวานคงได้ไปนอนตบยุงอยู่ในคุกอย่างแน่นอน
ดิมิทรีท้าวสองมือกับเอวสอบเขาเพ่งมองฝ่าความมืดมิดไปไกลแสนไกล มุมปากได้รูปกระตุกยิ้ม เขาจะจัดการคนที่กล้าลองดีให้เป็นเยี่ยงอย่าง ต่อไปจะได้ไม่มีใครกล้า มาลองเชิง ‘เบนิคอฟ’ อีก
“แค่คนชั้นต่ำ กระจอก!” เสียงเย็นชาผ่านริมฝีปากออกมา และหากอีวานรู้เขา เขาจะต้องหนาวไปถึงกระดูก เพราะความเมา ทำให้ตัวเองนึกสนุก โทรศัพท์ไปแกล้งคนที่ทำงานเดิม แต่มันเป็นความโชคร้าย ที่มีคนได้ยินและเอาไปเล่าลือ เสียงเล่าลือนั้น ทำให้ ‘เบนิคอฟมอลล์’ วันนั้นเงียบยังกับป่าช้า เป็นผลกระทบที่อีวานเองก็คาดไม่ถึง เขาแค่อยากเห็นทีมรักษาความปลอดภัยวิ่งวุ่น เหนื่อยกับการหาระเบิดเวลา ที่เขาแค่อุปโลกน์ขึ้นมาเฉยๆ
ชายชรายังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะตกอยู่ใต้อุ้งเท้าของพญาหมีขาวที่เรืองอำนาจ อีวานกลายเป็นแค่มดปลวกตัวเล็กๆ ที่ไม่สามารถที่จะต่อสู้อะไรได้ ความผิดครั้งนี้ของเขาไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดที่ดิมิทรีจะต้องลงมือเอง เพียงแต่เขาต้องการเขียนเสือให้เศษสวะ ทั้งหลายทั้งแหล่กลัวแค่นั้น แต่มันเป็นความโชคร้ายที่อิวานกลายเป็นหนูทดลองให้กับผู้มีอำนาจ...อย่างดิมิทรี!!
ตัวบ้านเงียบกริบ ไฟฟ้าหรือฮีตเตอร์ไม่ทำงาน นีรนาทเขม่นมองบ้านหลังเล็กๆ ของตัวเองเธอไขกุญแจที่ประตูหน้าบ้าน ควานมือในความมืดกดเปิดไฟและเปิดเครื่องทำความร้อนเพื่อให้ตัวเองรู้สึกอบอุ่นขึ้น เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัว ทุกอย่างคงเหมือนเดิม คือมันรกระเกะระกะ เกลื่อนกระจายไปด้วยของใช้
“แด๊ดเมาอาละวาดอีกสิ แล้วไปอยู่เสียที่ไหนล่ะ บ้านปิดเงียบเชียว” เธอรำพึงแผ่ว ก้มลงเก็บข้าวของบนพื้น เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม
ก๊อกๆ...นีชาๆ...
เสียงเคาะประตูหน้าบ้าน กับเสียงเรียกคุ้นหู หญิงสาวจึงเดินสวบๆ ตรงไปเปิดประตู
“มีอะไรคะ แด๊ดสั่งอะไรถึงนีชาเหรอเปล่าคะ?” เธอไม่ได้รอให้คนมาใหม่เอ่ยปาก เพราะมันเป็นเรื่องปรกติที่อีวานมักจะฝากข้อความถึงเธอหากเขาออกไปสังสรรค์ไกลบ้าน
“เห้อ!! เปล่าหรอกนีชา ลุงจะบอกเรายังไงดีล่ะ ไอ้แก่ขี้เมานั่นมันไม่ได้ไปไหนหรอก เมาแอ๋อยู่ที่บ้านนี่ล่ะ แต่...ว่า”
“แต่อะไรคะลุง แด๊ดเป็นอะไร ไม่สบายเหรอคะ?” ร่องรอยวิตกกังวลในดวงตาของฝ่ายตรงข้าม ทำให้นีรนาทหวั่นวิตก อิวานไปก่อเรื่องให้เธอต้องรับผิดชอบอีกหรือไร?
“พ่อเราน่ะทำเรื่องใหญ่โตมโหฬาร!! ลุงเกรงว่าครั้งนี้คงจะต้องติดคุกนะสิ”
“คะ? อะไรนะคะ”
“ก็เมื่อ2สองสามวันก่อน ที่ห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ มีข่าวลือว่ามีการวางระเบิด จนห้างต้องกันคนออกนอกพื้นที่กะทันหัน ปิดห้างก่อนเวลาต้องปิดตั้งหลายชั่วโมง” เสียงเขาเล่าแบบหนักอกหนักใจ
“เอ่อ...มันเกี่ยวกับแด๊ดตรงไหนคะ แด๊ดไม่ได้ทำงานที่นั่นเกือบปีแล้วนี่คะ?” เธอไม่เข้าใจเลยว่าเพื่อนบ้านต้องการบอกอะไร อิวานบิดาขี้เมาจนไม่น่าจะทำเรื่องร้ายๆ แบบนั้นได้ เขาไม่มีอาวุธ