สายลมพัดกรูเหมือนจะร่วมอวยพรให้กับนีรนาท หญิงสาวก้าวเท้าเดินตามไปห่างๆ เพียงผ่านประตูเหล็กเข้าไปภายใน ความงดงามแตกต่างกับภายนอกลิบลับ หลังกำแพงหินทึบๆ มีแต่ความสวยงาม ไม้ดอกไม้ประดับส่งกลิ่นหอมรวยริน แม้อากาศจะหนาวจัดแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความงามนั้นลดทอนลงไปเลย กุหลาบดอกโตๆ เกือบจะเท่าหน้าของเธอ สีจัดจ้านสลับกับสีอ่อนๆ เรียงรายดูงดงามจับตา ไม้ยืนต้นสูงใหญ่เด่นตระหง่าน เหมือนกับคฤหาสน์ของเจ้าหญิงในนิทานที่เล่าให้เด็กๆ ฟังก่อนนอน ปราสาทของอสูรกาย ที่คอยจับตัวคนหลงทางเพื่อต่อรองเอาของแลกเปลี่ยนเพื่อให้ตัวเองพ้นคำสาป!!
“ทางนี้” หลังเดินผ่านประตูหน้าบ้านที่เป็นกระจกแก้วสลับสี สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น ภายในยิ่งตะลึงแลมากกว่าเสียอีก เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นงดงามเกินคำบรรยาย เป็นคนรวยนี่ดีจังเลยเนอะ ทุกสิ่งรอบตัวล้วนมีแต่ของสูงค่าราคาแพง
ห้องหนังสือกึ่งห้องทำงาน ดิมิทรีใช้เป็นที่เจรจา...
มือแข็งแรงรูดซิปปลดเสื้อวอร์มหนาๆ ออกไปจากลำตัว เพราะภายในบ้านมีเครื่องทำความร้อน เขาโยนมันไว้บนโซฟาตัวหนึ่งและเหลือบมองหญิงสาวที่ยังคงยืนนิ่งๆ
“”ถอดออกก็ได้นะ เธอจะร้อนเปล่าๆ” เขาปรายตามองเสื้อโค๊ทเก่าแสนเก่า ที่สำคัญมันสกปรกว่ะ!!
นีรนาทก้มมองเสื้อตัวใหญ่เก่าแสนเก่าของตัวเอง ช่วยไม่ได้เธอมีแค่เสื้อตัวนี้ตัวเดียวที่ใช้สำหรับห่อหุ้มร่างกายป้องกันความหนาวของอากาศภายนอกบ้าน เธอค่อยปลดกระดุมและถอดเสื้อออกไปจากตัวช้าๆ ด้านในเธอมีเสื้อยืดหนาๆ อีกหนึ่งตัว เบนิคอฟหนุ่มหรี่ตาลง เขาลุ้นและกำลังประเมินหุ่นของแม่สาวขยะเก่าๆ ว่ามันจะคุ้มไหมหากเขาจะลงทุนเกลือกกลั้วด้วย
อืม...มันเป็นอะไรที่เกิดคาด!! แม่สาวน้อยตรงหน้าหุ่นดีจนเขาคาดไม่ถึง ลาดไหลกลมกลึงใต้เสื้อยืดพอดีตัวสีขาวขุ่นๆ เพราะความเก่า เนินอกอวบอิ่มรับกับช่วงเอวกิ่วเรื่อยไปถึงสะโพกผายกลมกลึงใต้กางเกงสีขรึมๆ ที่เก่าไม่แพ้กัน ชายหนุ่มพ่นลมหายใจพรวดๆ ระบายความร้อนในร่างกายที่วิ่งพล่านผิดปรกติ ‘ยัยนี่มีอะไรใหม่บ้างนะ ความจนเกาะทั่วทั้งตัว’ ชายหนุ่มยกยิ้มเหยียดๆ ถึงจะดูดีไม่มีที่ติ แต่เธอก็เป็นแค่ดอกไม้ข้างทาง ที่ถูกเด็ดดมและทิ้งขวางเมื่อมันไม่ได้ทำให้เขาโดดเด่นขึ้น เป็นได้แค่ของใช้ชั่วคราว หลังหมดความหวาน เธอก็จะเหลือกแค่กากที่ไร้ประโยชน์...
“เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า...” เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวใหญ่สีดำทะมึนเอนตัวพิงพนักโซฟาและยกขาขึ้นไขว้ พุ่งสายตามองตรงไปยังผู้หญิงสาวสวย!!
นรีนาทมองสบตากับเขา แต่เธอไม่สามารถทนกระแสความร้อนแรงนั้นได้จึงเสเบือนหน้าหนี
“ฉันจะยอมความให้!! แต่มีข้อแม้นะ...ในเมื่อฉันเป็นนักธุรกิจ...ต้องการผลรับที่คุ้มค่า เธอจะยอมตกลงไหมล่ะ?”
“ยอม...หมายถึงอะไรคะ?”
“ฉันมีข้อเสนอให้ มันขึ้นอยู่กับว่าเธอจะยอมรับไหมแค่นั้นเอง” ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาวางมือเหนือหัวเข่าและรอคอยคำตอบ
“ถ้าคุณไม่เอาเรื่องแด๊ด...จะให้นีชาทำอะไรก็ได้ทั้งหมด” แววตาโชนแสงคู่นั้น มองเขม็งมายังเธอจนเนื้อตัวสั่นเทาเพราะความหวั่นกลัว เธอรู้ดีว่าในคำถามนั้น ชายหนุ่มต้องการอะไร? เมื่อเศรษฐีหนุ่มๆ ส่วนใหญ่ย่อมต้องการให้ผู้หญิงจนๆ อย่างเธอไปเป็นอะไรได้ล่ะ อย่างน้อยที่สุดก็คือของเล่นชั่วคราว หรืออีกในหนึ่งก็คือ ‘นางบำเรอ’ เธอเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะตกลงใจแน่วแน่ เพราะทางเลือกของเธอมีแค่ทางนี้ทางเดียว ช่างมันเถอะกับไอ้ความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไม่มีใครเห็นค่า
“สรุป...เธอตกลงงั้นสิ รู้ใช่ไหมว่าฉันต้องการอะไร?” ชายหนุ่มเอ่ยเหยียดๆ ช่างเป็นการยอมที่ง่ายดายเสียจริง คงจะหวังล่ะสิว่าเขาจะชมชอบและรับเลี้ยงหากถูกใจ ฝันไปเถอะ!! ของต่ำๆ ครั้งเดียวก็เกินพอ!!
หน้าเล็กๆ ก้มต่ำเธอพยักหน้ารับคำ พร้อมกับหยดน้ำตาที่ค่อยๆ รินไหล เธอยกมือขึ้นปาดคราบน้ำร้อนๆ นั้น ไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นและซ้ำเติม
“ดี!! ฉันจะให้คนของฉันไปจัดการให้ และจะส่งคนไปรับเมื่อถึงวันที่ฉันต้องได้รับสิ่งตอบแทน หมดเรื่องที่จะคุยแค่นี้ใช่ไหม? ฉันขอตัวก่อนล่ะ ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันต้องทำ” เขาเด้งตัวขึ้นยืน ร่างสูงใหญ่องอาจเหมือนพญามารที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก เขาเดินเฉียดผ่านหน้าเธอไปแบบจงใจจะข่มให้เธอกลัว และเขาทำสำเร็จ เธอกลัวจนขาสั่นไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเดิน
“อังเดรย์ส่งแขก” ส่งเสียงเรียกคนรับใช้ส่วนตัวให้มาจัดการส่งนีรนาทออกจากบ้าน
นีรนาทก้มหน้าลง เธอรู้สึกเหมือนกับว่าแผ่นดินใต้ฝ่าเท้ากำลังจะสูบร่างของเธอลงไปในนั้น เกิดมาจนป่านนี้ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองสิ้นศักดิ์ศรีและด้อยค่า วันนี้เธอถูกผู้ชายคนหนึ่งมองอย่างเหยียดหยาม กดลงต่ำติดดินด้วยแววตาสีมรกตคู่นั้น!! จะไปโทษเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ เธอไม่มีทางเลือกอื่น ไม่มีเงินก็ไม่มีศักดิ์ศรี ในสังคมคนในยุคปัจจุบัน...
หญิงสาวคว้าเสื้อโค๊ทตัวเก่า มากอดไว้ที่อกและเดินตามผู้ชายสูงวัยคนหนึ่ง เขาคงชื่อ ‘อังเดรย์’ เธอเหลือบมองผู้ชายเย็นชาคนนั้น เขาขึ้นไปยืนอยู่บนที่ของเขา ทอดสายตาดูแคลนลงมายังที่เธอยืนอยู่ เจ็บ!! มันเจ็บแสบไปทั่วทั้งตัว อยากซ้ำเติมอะไรก็เชิญเถอะ ขอแค่ช่วยบิดาออกมาจากที่คุมขังได้ จะให้เธอเสียอะไรก็ยอมทั้งหมด...
“กลับมาแล้วโว้ย...นีชาอยู่ไหนลูก” อิวานเดินกระปรกกระเปลี้ยเข้ามาภายในตัวบ้าน เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้เก่าๆ ตัวหนึ่ง ส่งเสียงอ่อนๆ เรียกบุตรสาวเพราะจู่ๆ ก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากที่คุมขัง
เงียบ...
ไม่มีเสียงตอบกลับอีลูกเวรนั่นไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่มาสนใจคอยดูแลเขาเลย...
“อีเด็กเปรตนั่นไปในวะ กูหิวเหล้าจะตายอยู่แล้ว” เขาก่นด่าออกมาเสียงเคร่งๆ จะซื้อเข้ามาเองในกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีเศษเงินสักสตางค์ จึงจำใจซมซานกลับมารังนอน แต่ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเสียที ร่างอวบท้วมเดินรื้อของภายในบ้านเพื่อค้นหาเศษสตางค์ไปหาซื้อเหล้ามาล้างปาก ไอ้เศรษฐีเจ้าของห้างจู่ๆ มันก็ใจดีขึ้นมา ไม่เอาเรื่องเอาราวที่เขาไปก่อไว้ ไอ้ตำรวจน่าโง่ทั้งสถานีจึงปล่อยตัวเขากลับบ้าน...
“เจอแล้วอีลูกเวรแอบซุกเงินไว้นี่เอง” ชายสูงวัยทีมัวเมาอยู่ในโลกน้ำเมาไม่สนใจความเหนื่อยยากของบุตรสาว เธอสู้อุตส่าห์เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน นอกเหนือที่จับจ่ายภายในบ้าน แต่ก็ยังถูกอิวานฉกเอาไปอยู่ดี
เขาเปิดประตูบ้านเดินฝ่าความหนาวเย็นเพื่อไปร้านเหล้า...และจะกลับมานอนซุกตัวอยู่ในบ้านกินเหล้าเปรมปรีดิ์เมื่อเงินที่เจอในห้องของนีรนาทมีมากเกินคาดถึง...
“โธ่!! นีชา...นึกว่าจะสบายเสียที ไอ้เวรอิวานกลับมาเสียแล้ว ใครนะปล่อยคนชั่วๆ แบบมันกลับมาได้” เพื่อนบ้านมองฝ่าความมืดเขาเห็นอิวานเดินท่อมๆ ออกไป เขาจึงบ่นพึมพำต่อว่าโชคชะตาที่ไม่เข้าข้างผู้หญิงน่าเห็นใจคนนั้น
“นีชาหนูไม่กลับบ้านหรือ?” สาวใหญ่เจ้าของร้านขายขนมเห็นหญิงสาวเหม่อลอย เธอจึงร้องทักจนคนตัวเล็กๆ สะดุ้งสุดตัว หญิงสาวหันมาและส่งยิ้มแหยๆ ให้
“แหะๆ ลืมค่ะ นีชามาสายวันนี้ ก็เลยอยากจะทำเกินเวลาให้มิส...จะได้ไม่ขาดทุน”
“พุทโธ่!! ช่างมันเถอะ ไปๆ กลับบ้านพักผ่อนได้แล้ว ปล่อยอิวานไว้แบบนั้นละฉันเห็นด้วย จะได้ดัดนิสัยมันเสียบ้าง” เธอโบกมือไล่ และสำทับเสียงเคร่งๆ ใจนะอยากให้เจ้าหน้าที่ขังลืมอิวานไปเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวตรงหน้าจะได้สบายอกสบายใจเสียบ้าง
“ไม่หรอกค่ะ คุณดิมิททรีเขาสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่อง” เธอแย้งเสียงแผ่วก่อนจะรีบก้มหน้าหลบสายตาของคุณป้าเจ้าของร้าน
“อะไรน่ะ? เธอไปเจอเขามารึนีชา...คุณพระ!!”