“เอยไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่คะ อิ่มแล้วค่ะ” คนพูดรวบช้อนส้อมเอื้อมมือไปยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มตาม
“ก่อนกลับเรามาถ่ายรูปคู่กันหน่อยดีไหมครับน้องเอย ร้านสวย ๆ แบบนี้พี่อยากเก็บบรรยากาศเอาไว้”
“ก็ได้ค่ะ” แค่ถ่ายรูปพรธีราคิดว่าไม่น่าจะเสียหายอะไร
นวินลุกขึ้นเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังของพรธีรา เขาย่อตัวลงต่ำแล้วแนบใบหน้าชิดกับหน้าของหญิงสาว ทำการถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าไปสองรูป
“ภาพสวยมากน้องเอยเห็นวิวชัดด้วย แล้วพี่จะส่งรูปให้น้องเอยยังไงครับนี่ มีไลน์ไหมครับมาแลกไลน์กันดีกว่า”
“ก็ได้ค่ะ” พรธีราไม่คิดว่าภัยกำลังจะมาถึงตัวเลยแม้แต่น้อย หากเอะใจสักนิดเงยหน้าขึ้นมองสักหน่อย จะเห็นว่ามุมปากของนวินยกยิ้มขึ้นอย่างมาดร้าย ไม่ได้ใจดีอย่างที่เขาแสดงให้เห็นแม้แต่น้อย
“พี่ส่งรูปให้แล้วนะครับน้องเอย” เขาบอกหลังได้ไลน์ของหญิงสาวมาเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณค่ะพี่กันต์” พรธีราเปิดรูปถ่ายคู่ของเธอกับเขาขึ้นดู ใบหน้าร้อนเห่อขึ้นมาในทันที รอยยิ้มนุ่ม ๆ ของเขากับใบหน้าหล่อเหลา แทบจะชิดกับแก้มของเธออยู่แล้ว เธอรู้ว่าหน้าเขาอยู่ใกล้ แต่ไม่คิดว่าจะใกล้ขนาดนี้ หากคนอื่นมาเห็นรูปนี้แล้วบอกว่าเป็นแฟนกันก็คงจะไม่แปลก
“ยิ้มแบบนั้นแปลว่าพี่หล่อใช่ไหมครับน้องเอย”
หญิงสาวถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ นอกจากความหล่อแล้วอารมณ์ขันของเขานี่แหละ ที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ใช่ค่ะ เอยกำลังยิ้มให้กับความหล่อของพี่กันต์ หล่อมากค่ะ” หญิงสาวลากเสียงยาวประชดเขา
“เงินพี่เก็บเงินเลยนะ”
“ค่ะ”
นวินเรียกพนักงานมาคิดเงิน เขาอยากอยู่ต่ออีกสักพักแต่ไม่มีเรื่องไหนชวนคุยต่อได้อีก อีกทั้งยังเร็วเกินไปที่จะชวนไปไหนต่อได้ แต่วันนี้เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะจากพรธีราหลายครั้งแล้ว นับว่าหญิงสาวเริ่มเปิดใจให้เขาบ้างแล้ว ต้องไม่บุ่มบ่ามจนเกินไป เจอกันแค่ครั้งสองครั้งพรธีราคงไม่คิดตามเข้าไปห้องง่าย ๆ แน่ เพราะดูจากนิสัยใจคอของหญิงสาวแล้วดูเหมือนจะระมัดระวังตัวเรื่องผู้ชายอยู่ไม่น้อย ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดไว้ในตอนแรกเลย
“ความจริงพี่อยากอยู่คุยกับน้องเอยนาน ๆ นะครับ แต่อย่างว่าพี่รับปากว่าวันนี้จะไปค้างที่บ้านให้คุณแม่เห็นหน้าหน่อย เลยต้องรีบกลับน่ะครับ”
“พี่กันต์ไม่ได้นอนที่บ้านเหรอคะ”
“ครับพี่นอนคอนโดมันใกล้ที่ทำงาน แต่พี่ยังไม่ได้ทำงานตอนนี้นะครับน้องเอย”
“ทำไมคะ”
“พี่ขี้เกียจ”
“อ้าว”
“ล้อเล่นน่ะครับ พี่แค่อยากพักสมองหน่อย อยู่ที่โน่นพี่ก็ทำงานที่บริษัทของตัวเองมาตั้งหลายปี กลับมาจะให้ทำงานเลยพี่ก็รู้สึกว่ามันเร็วไป ขอพักผ่อนสักเดือนสองเดือนก่อน แต่กว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะยอมก็ต้องต่อรองกันหน่อย”
“ก็ดีนะ ได้พักผ่อนสมองจะได้โล่ง ๆ งั้นเรากลับกันดีกว่าค่ะ” พรธีราอยากรู้จักเขามากกว่านี้ แต่หญิงสาวไม่อยากถามตรง ๆ คงต้องรอเวลาเขายอมเล่าออกมาเอง
“ถ้าพี่จะโทรหาน้องเอยบ้างน้องเอยจะด่าพี่ไหมครับ” นวินแสร้งถามเสียงอ่อยตอนเดินออกจากร้านอาหารมา
“ทำไมต้องด่าด้วยค่ะ เอยไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลสักหน่อย ว่าแต่พี่กันต์จะโทรมาหาเอยทำไมคะ”
‘เด็กโง่นี่พี่จีบอยู่นะ’
“นั่นสิครับน้องเอยคิดว่าพี่จะโทรหาน้องเอยทำไม พี่ไปก่อนนะครับ” นวินทิ้งคำพูดให้หญิงสาวได้คิด ก่อนเดินขึ้นรถของตัวเองแล้วขับออกไป
พรธีราคิดตามที่เขาพูดก่อนจะยิ้มแก้มแทบแตกในเวลาต่อมา คงไม่แย่หากคนที่เข้ามาหาเธอเป็นคนแบบเขา ยังมีเวลาให้ศึกษากันไปอีกนาน หญิงสาวเดินไปขึ้นรถของตนเองแล้วขับกลับบ้านไป
“น้องเอยครับเดินยิ้มแก้มปริมาแบบนี้มีอะไรเหรอเปล่าบอกพี่ได้น้า” คนเป็นพี่ชายทักทันทีที่เห็นหน้าของน้องสาว
“เปล่าค่ะไม่ได้มีอะไร”
“ที่สปามีอะไรพิเศษหรือเปล่าลูก” นางฤทัยรัตน์เดินถือแก้วน้ำผลไม้ออกมาจากห้องครัวทักลูกสาวอีกคน ก่อนวางแก้วน้ำผลไม้ลงบนโต๊ะตรงหน้าของสามี
“นั่นสิต้องมีอะไรแน่ ๆ” นายอักษรผู้เป็นบิดาที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ก็ร่วมวงเย้าแหย่ลูกสาวด้วย
“นี่ทุกคนรุมเอยเหรอคะ เอยไม่ได้มีอะไรผิดปกติสักหน่อย ไม่คุยด้วยแล้ว” คนกลัวถูกจับได้รีบเดินเร็ว ๆ ขึ้นบันไดบ้านไป
“เอื้อว่าไงลูก” นายอักษรหันไปถามลูกชาย
“ไม่รู้สิครับคุณพ่ออาจไปเจอหนุ่ม ๆ สปาก็ได้ใครจะรู้”
“น้องเอยโตเป็นสาวแล้วจะมาหวงเป็นเด็กประถมอีกไม่ได้นะคะสองพ่อลูก ปล่อย ๆ น้องเอยบ้างเถอะ แค่นี้ก็จะขึ้นคานอยู่แล้ว” คนเป็นแม่ดูเหมือนจะเข้าข้างลูกสาวตนเอง
“คุณฤทัยน้องเอยแค่ยี่สิบสองเองนะคุณ”
“อายุเท่าน้องเอยฉันกับคุณก็เป็นแฟนกันแล้วนะคะ”
“อ้าว มันไม่เหมือนกัน” คนเป็นสามีทำหน้าไม่ถูกหลังถูกย้อนความหลังแบบนี้
“อย่าทะเลาะกันครับคุณพ่อคุณแม่ ผมจะไม่ถามไม่ตามน้องเอยแล้ว ปล่อยน้องเอยให้ใช้ชีวิตเอง ตามที่คุณแม่ต้องการเลยครับ”
“ดีแล้วเอื้อปล่อยน้องบ้างเถอะลูก แค่นี้น้องก็แทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว เอื้อเล่นเขม่นผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้น้องเอยไม่ได้นะลูก” นางฤทัยรัตน์เห็นการหวงน้องสาวเกินเหตุของลูกชายแล้วอดปรามไม่ได้ ตั้งแต่เล็กจนโตพัสวีแทบตามติดเป็นเงาน้องสาวไม่ยอมห่าง มีแค่ช่วงไปเรียนต่อต่างประเทศที่ได้ห่างกันไปบ้าง แต่พอกลับมาก็เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ชั้นสองภายในห้องนอนของพรธีรา หญิงสาวกำลังเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนอน หลับตาลงพริ้มพร้อมกับรอยยิ้มที่หุบไม่ลง จนคนทั้งบ้านรับรู้ถึงความผิดปกติของเธอ
ตึ๊ง เสียงข้อความในไลน์ดังขึ้น
‘น้องเอยถึงบ้านหรือยังเอ่ยพี่เป็นห่วงครับ’
เขาทำเหมือนเธอเป็นเด็กไปได้ แต่พรธีรากลับรู้สึกว่าปริ่มใจยามได้อ่านข้อความนี้ หญิงสาวพิมพ์ตอบกลับเขาไปว่า
‘ถึงแล้วค่ะพี่กันต์’
‘โอเคครับพี่ก็ถึงบ้านแล้วเหมือนกัน’
หญิงสาวอ่านแล้วยิ้มตามเขาไปด้วย กดดูรูปถ่ายที่เขาส่งให้ขึ้นมาดู ใบหน้าหน้าร้อนเห่อขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
‘นั่นสิครับน้องเอยคิดว่าพี่จะโทรหาน้องเอยทำไม พี่ไปก่อนนะครับ’
การถูกจีบมันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง หัวใจพองโตขึ้นจนแทบจะทะลุออกมานอกเบ้า ทั้งที่ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วยซ้ำว่าชอบเขาหรือเปล่า แต่กลับหุบยิ้มไม่ลงหัวใจเต้นแรงทุกคนที่ได้เห็นหน้าเขา หญิงสาวยกฝ่ามือขึ้นปิดหน้าตัวเองทั้งสองข้าง ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกพลุ่งพล่านในใจนี้จะดับมันได้อย่างไร