ตอนที่ : 4 ต้อนเหยื่อ

1351 Words
2 ต้อนเหยื่อ                        ช่วงเวลาในการพักผ่อนของนวิน เขาเลือกนอนที่คอนโดมิเนียมเป็นหลัก แต่ก็ไม่ลืมกลับไปค้างที่บ้านในบางวันเพราะกลัวว่ามารดาจะบ่นน้อยใจเอา ระหว่างนี้ชายหนุ่มได้ให้คนไปสืบประวัติพรธีรามา จนรู้เรื่องกิจวัตรประจำวันของหญิงสาวเป็นอย่างดี เขายิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นข้อมูลร้านนวดสปาแห่งหนึ่ง ซึ่งพรธีราไปทุกวันหยุดเลยก็ว่าได้            นับจากวันที่ไปส่งหญิงสาวที่โรงแรมวันนั้น ได้ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว นวินไม่มีเหตุให้ติดต่อกับพรธีราได้อีก เพราะเรื่องรถหญิงสาวให้คนที่บริษัทมารับไปแทน การที่เขาจะโทรกลับไปหาหญิงสาวอีก ก็เกรงว่าจะดูเป็นการจงใจใกล้ชิดจนเกินเหตุ ผู้หญิงบางคนไม่ได้ชอบการตามตื๊อสักเท่าไร เขาเลยเลือกเว้นระยะห่างเอาไว้สักหน่อย วันนี้นวินอยู่ในชุดลำลองแบบเบาสบาย เป็นชุดวอร์มแถบเส้นลายขาวน้ำเงิน แม้ชุดจะธรรมดาแต่นาฬิกาบนข้อมือกับรองเท้ากระเป๋าต่าง ๆ นานา รวมกันแล้วราคาราว ๆ เจ็ดหลักทีเดียว เขาชอบแต่งตัวดูดีอยู่ตลอดเวลา อาจเพราะหน้าที่การงานในตำแหน่งใหญ่โต หรือว่าอนาคตที่ต้องดูแลกิจการของบิดาทั้งหมด เขาเลยถูกสอนมาดีในเรื่องการวางตัว ซึ่งกว่าที่นวินจะสร้างบุคลิกแบบนี้ได้ เขาก็ผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมาค่อนข้างหนักอยู่เหมือนกัน ต้องเรียกว่าสมัยวัยรุ่นนั้นก็ออกแนวเกเรอยู่ไม่น้อย            ชายหนุ่มจอดรถด้านหน้าของร้านสปาชื่อดัง วันนี้เขาขับรถอีกคันมา เผื่อว่าใครบางคนมองเห็นรถของเขาแล้ว อาจทำให้เปลี่ยนใจไม่กล้าเข้าร้านก็เป็นได้ พรธีรามาตรงตามเวลาที่เคยมาเป็นประจำ คงมีนัดหมายเวลากับทางร้านไว้แล้ว เขาเปิดประตูรถเดินตามหลังหญิงสาวเข้าไปติด ๆ            “สวัสดีครับ ผมเพิ่งมาครั้งแรกไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรบ้างครับ” เขาเจตนาทักทายพนักงานด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดัง ทำให้หญิงสาวที่กำลังเซ็นชื่อเอกสารบนเคาน์เตอร์อยู่ ถึงกับหันมามอง            “คุณ เอ่อ พี่กันต์เหรอคะ” พรธีราทำตาโตหลังเห็นเขา            “อ้าว น้องเอยนั่นเองบังเอิญจังเลยนะครับ” เขาทำทีเหมือนเป็นการเจอกันแบบไม่ได้ตั้งใจ มั่นใจว่าการแสดงของตนต้องชนะเลิศอย่างแน่นอน เพราะอีกฝ่ายยิ้มให้เขาแบบไม่ได้ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด            “ค่ะ โลกกลมเกินไปนะคะแบบนี้” พรธีรามองเขาแบบแปลกใจ นึกว่าคงไม่ได้มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้ว            “เชิญด้านนี้ค่ะคุณผู้ชาย ไม่ทราบจะสมัครสมาชิกเลยหรือเปล่าคะ” พนักงานของร้านเดินเข้ามาสอบถามนวิน            “เอ เอาไงดี น้องเอยว่าไงดีครับที่นี่สปาดีไหม” เขาทำท่าคิดแล้วหันมาถามหญิงสาวด้านข้าง            “แล้วแต่พี่กันต์สิคะมาถามเอยทำไม”            “ก็น้องเอยใช้บริการมาก่อนพี่นี่ครับ ช่วยพี่หน่อยเร็วพี่อยากได้ร้านสปานวดประจำอยู่เหมือนกัน”            พรธีราหันไปมองพนักงานสาวสวยสองคน ต่างก็ทำหน้าเว้าวอนให้เธอช่วยเชียร์เขาอีกแรง            “ที่นี่นวดดีมากค่ะพี่กันต์ พนักงานก็สุภาพกันทุกคนค่ะ” หญิงสาวจำต้องเชิญชวนเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้            “งั้นก็เอาเลยครับสมัครสมาชิกเลยครับรายปีใช่ไหมครับ”            “ใช่ค่ะ งั้นเชิญคุณผู้ชายด้านนี้ก่อนค่ะ ช่วยกรอกเอกสารด้วยนะคะ” พนักงานฉีกยิ้มอย่างดีใจ ที่ได้ลูกค้าคนใหม่ที่สำคัญหน้าตาดีจนสาว ๆ ในร้านหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน            “งั้นเอยไปเปลี่ยนชุดเข้าทำสปาก่อนนะคะ เชิญพี่กันต์ตามสบายเลยค่ะ” พรธีราเอ่ยขอตัวกับเขา            “ครับน้องเอย”            นวินมองตามหลังจนหญิงสาวเดินเข้าห้องสปาด้านในไปแล้ว เขาหันมาโปรยเสน่ห์ให้พนักงานสาวสวยตรงหน้าแทน            “ไม่ทราบว่าคุณเอ่อ เปรมสุดาพอจะรู้ไหมครับว่าวันนี้น้องเอยเขานวดสปากี่ชั่วโมง” เขาก้มหน้ามองป้ายชื่อตรงอกของหญิงสาว แล้วส่งยิ้มหวานพร้อมกับคำถามที่ต้องการรู้            “เอ่อ คือ”            “ผมกับน้องเอยเราสนิทกันครับ พอดีจะไปกินมื้อเที่ยงกันต่อเลยอยากให้เวลาตรงกัน” นวินยิ้มเหมือนคำพูดเขานั้นเป็นความจริงทุกอย่าง เลิกคิ้วสูงรอคอยคำตอบจากคนตรงหน้า            “อ๋อค่ะ สองชั่วโมงค่ะ” พนักงานคนสวยไม่กล้าปฏิเสธรอยยิ้มนุ่ม ๆ ของลูกค้าหนุ่มมากเสน่ห์คนนี้            “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมเองก็นวดสปาสองชั่วโมงเหมือนกันนะครับ เอาแบบที่น้องเอยนวดเลยนะครับ นี่ครับเรียบร้อยแล้ว” เขาเลื่อนแผ่นกระดาษส่งคืนให้หญิงสาว สายตาก็คอยแต่จะมองไปทางห้องสปาที่อยู่ด้านใน            “เรียบร้อยค่ะ คุณผู้ชายเชิญด้านนี้เลยค่ะ”            “ที่นี่แยกห้องชายหญิงใช่ไหมครับ”            “ใช่ค่ะแยกห้องชายหญิง” นวินนึกเสียดายอยู่ในใจ แต่คิดไปอีกทีก็ดีเหมือนกันดีสำหรับตัวของพรธีราเอง เขาเดินตามหลังพนักงานเข้าห้องสปาไปอย่างเงียบ ๆ การนวดสปาสองชั่วโมงได้ผ่านพ้นไป พรธีราพูดไม่เกินจริงแม้แต่น้อย ที่นี่บริการดีมากจริง ๆ พนักงานที่นวดให้เขาไม่ได้ชวนคุยมากจนน่ารำคาญเหมือนที่อื่น ปล่อยให้เขาหลับไประหว่างนวดเลยทีเดียว กลับออกมาอีกครั้งนวินเห็นพรธีรานั่งดื่มชากุหลาบ ซึ่งมีควันสีขาวลอยกรุ่นเหนือถ้วยแก้วในมืออยู่บนเก้าอี้ เขารีบเดินเข้าไปหาหญิงสาว แล้วทรุดตัวลงนั่งด้านข้างกับเจ้าตัว            “เป็นไงบ้างคะพี่กันต์โอเคไหม” สีหน้าของคนถามดูยิ้มแย้มหลังผ่านการผ่อนคลายมาตลอดสองชั่วโมง            “ดีมากครับน้องเอย คิดไม่ผิดที่เชื่อน้องเอยเลยนะครับ พี่หลับตลอดสองชั่วโมงเลย ไม่รู้นอนกรนให้พนักงานเขารำคาญบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้” นวินแอบกระซิบเบา ๆ ทำเหมือนเกรงว่าพนักงานจะได้ยิน            “ไม่หรอกค่ะพี่กันต์ พนักงานที่นี่เขาไม่ถือกันหรอกค่ะ พี่กันต์ก็อย่าคิดมากไป” พรธีราพลอยขำไปกับท่าทีของเขาด้วย และเผลอมองสบสายตาหวานฉ่ำของเขาเข้าจนได้            “เอ่อ เอยต้องไปแล้วค่ะพี่กันต์” หญิงสาววางถ้วยชากุหลาบลงบนโต๊ะ ยกมือขึ้นทัดเส้นผมตรงใบหู เผยให้เห็นพวงแก้มเนียนใสน่ามอง            “เดี๋ยวสิครับน้องเอย ไหน ๆ เราก็มาเจอกันโดยบังเอิญแล้ว พี่อยากจะขอเลี้ยงข้าวน้องเอยสักมื้อหนึ่ง เพื่อขอโทษเรื่องขับรถชนคราวก่อนหน่อยนะครับ”            “แต่พี่กันต์ให้ประกันซ่อมรถให้เอยแล้วนี่คะ เราไม่ได้มีอะไรติดค้างกันแล้ว ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” หญิงสาวบอกเขาอย่างเกรงใจ            “แต่พี่ไม่สบายนี่ครับ นะครับน้องเอยถือว่าไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่ก็ได้” ชายหนุ่มออดอ้อนทั้งสีหน้าและแววตา            “หรือว่าน้องเอยมีธุระสำคัญถ้างั้นไม่เป็นไรก็ได้ครับ”            นวินทำหน้าละห้อยจนพรธีราเห็นแล้วนึกสงสารขึ้นมา อย่างไรเสียวันนี้เธอก็ว่างทั้งวันอยู่แล้ว ไปกินข้าวกับเขาสักมื้อจะเป็นไรไป            “เอยไม่ได้ติดธุระที่ไหนค่ะ งั้นไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่กันต์ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวใจอ่อนในที่สุด            “จริงนะครับน้องเอย” นวินแสดงสีหน้าดีใจออกมาอย่างชัดเจน ทำให้คนเห็นถึงกับยิ้มกับความตรงไปตรงมาของเขา            “ค่ะ”            “งั้นรอพี่แป๊บนะครับเดี๋ยวมา”            “ได้ค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD