“เร็วๆ นี้ เมื่อเธอกลับมา วันเก่า ๆ ของเธอจะหมดลง ฉันชักชวนให้พ่อของคุณแต่งงานกับเธอในตระกูลบราวน์ ผู้ชายจากตระกูลบราวน์นั้นรวยแต่แก่กว่าพ่อคุณ แต่งงานกับเขา ไม่ต้องห่วง สการ์เล็ต ฉันจะไม่ยกโทษให้เธอ”
วาเนสซ่าพูดอย่างเย็นชา
หลังจากได้ยินเช่นนั้น สการ์เล็ตต์ก็อารมณ์ดีขึ้นทันที
ตราบใดที่เฮเซลแต่งงานกับชายชราผู้น่ากลัว ชีวิตของเธอก็จะต้องพังทลาย
แม้ว่าในที่สุดจูเลียนก็รู้ความจริง เขาก็คงจะเบื่อหน่ายกับสิ่งนั้น
“แม่ คุณเก่งที่สุด…” สการ์เล็ตต์พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจในทันที
วาเนสซ่าพูดอย่างสนใจว่า "นั่นเป็นเพราะเธอคือลูกสาวที่มีค่าของฉัน ถ้าฉันไม่รักเธอแล้วใครจะรักเธอ ไม่ต้องห่วง ฉันจะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เธอ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร มันจะเป็นของเธอ"
สการ์เล็ตต์ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของแม่...
ที่สนามบิน เฮเซลไม่ได้วางแผนที่จะกลับบ้านเพื่อเก็บสัมภาระของเธอด้วยซ้ำ
เธอคิดว่าเธอน่าจะซื้อเสื้อผ้าทั้งหมดในต่างประเทศดีกว่า ทั้งหมดที่เธอต้องการทำคือออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด!
ครอบครัวคอลลินส์เป็นครอบครัวที่สูงส่งในเมืองโอเรียบี แต่ไม่ว่าคนจะยิ่งใหญ่เพียงใด พวกเขาไม่สามารถยิ่งใหญ่ไปกว่าตระกูลคอลลินส์ได้!
แม้ว่าในที่สุดเขาจะรู้ว่าเธอหนีไปแล้ว เขาจะไม่พาดพิงถึงครอบครัวของเธอในฐานะสการ์เล็ตต์ ซึ่งเป็นคู่หมั้นของครอบครัวคอลลินส์
เธอเชื่อว่าจูเลียนจะปกป้องสการ์เล็ตอย่างแน่นอน
เฮเซลกำลังรออยู่ในคิว เมื่อถึงเวลาที่เธอจะได้รับตั๋ว เธอมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แต่ไม่ได้สังเกตว่าพนักงานต้อนรับมีสายตาแปลก ๆ ในสายตาของเธอเมื่อเห็นข้อมูลของเธอบนคอมพิวเตอร์
มีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้สำหรับเจ้าหน้าที่สนามบิน ผู้โดยสารไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินหากพวกเขาถูกทำเครื่องหมายภายใต้หมวดหมู่พิเศษในบันทึกของคอมพิวเตอร์
นอกจากเครื่องบินแล้ว พวกเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือ รถโดยสารประจำทาง และรถไฟ เนื่องจากข้อมูลของพวกเขาจะถูกบันทึกไว้ในที่เก็บถาวร
และตอนนี้ ผู้หญิงที่บอบบางคนนี้ถูกทำเครื่องหมาย... ภายใต้สีแดง? ระดับคำแนะนำการเดินทางสูงสุดระบุว่ามีการห้ามเดินทาง!
กล่าวอีกนัยหนึ่งพวกเขาไม่อนุญาตให้เธอขึ้นเครื่องไม่ว่าในกรณีใด ๆ และต้องใช้มาตรการตอบโต้เป็นการส่วนตัวโดยติดต่อหัวหน้าแผนกซึ่งมีหมายเลขโทรศัพท์ปรากฏอยู่ในบันทึก
พนักงานต้อนรับยิ้มและบอกเฮเซลว่า "ขณะนี้ข้อมูลของคุณมีข้อผิดพลาด เราต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน แต่ในขณะเดียวกัน คุณอาจจะพักผ่อนที่ห้องรับรอง เราจะแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุดเพื่อให้คุณสามารถ ขึ้นเครื่อง" พนักงานต้อนรับทำได้เพียงหาข้ออ้างที่จะขัดขวางผู้โดยสารพิเศษรายนี้ในขณะนั้น
เฮเซลขมวดคิ้วด้วยความสับสนในดวงตาของเธอ แต่เธอไม่ได้คิดอะไรมาก เธอเพียงพยักหน้าและพูดอย่างสุภาพ “โอเค ขอบคุณ…”
เมื่อเธอนั่งอยู่ที่ห้องรับรอง พนักงานต้อนรับก็แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทันทีเพื่อจับตาดูเธอ และติดต่อหัวหน้าแผนกตลอดทาง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
เฮเซลรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยราวกับว่ามีสิ่งเลวร้ายกำลังเกิดขึ้น
ขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้น กลุ่มผู้ชายชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเธอ
ดวงตาของเฮเซลเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว
เป็นเพราะเธอนึกถึงคนที่เธอเคยพบมาก่อนเมื่อเห็นเครื่องแต่งกายของคนเหล่านี้เป็นครั้งแรก เมื่อเธอตามชายคนนั้นไปเมื่อวานนี้ เธอเห็นลูกน้องที่เคารพนับถือของเขาแต่งตัวเหมือนกัน
โดยเฉพาะแม็กซ์ที่สวมแว่นขอบทองและยิ้มให้เธอ เขามองดูเธอและถามว่า “คุณวิลกินสัน คุณจะไปไหน หากไม่อนุญาตจากคุณมอร์ริส คุณจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้ ได้โปรดมากับฉัน...”
หลังจากนั้น คนสองคนวางแผนที่จะคุ้มกันเฮเซลทันที
เมื่อเฮเซลที่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างสุดขีดกำลังจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือ เธอได้ยินแม็กซ์พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าคุณวางแผนที่จะกรีดร้องขอความช่วยเหลือ เชื่อฉันเถอะ ไม่มีใครช่วยคุณได้ เพราะคุณเป็นที่รู้จักในฐานะคนพิเศษแล้ว ยศอาชญากรที่สนามบิน ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูเลย มากับพวกเราเถอะ ขอบคุณ”
นิ้วของเฮเซลสั่นด้วยความกลัว
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? เธอสงสัยในความสับสนอย่างมาก
เธอกัดริมฝีปากของเธอเมื่อความกลัวของเธอเพิ่มมากขึ้น
เธอมองดูผู้คนรอบๆ แต่ก็พบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบินเข้ามาใกล้เธอ
“พวกเจ้าไม่กลัวหรือว่า...จะมีใครมาแจ้งตำรวจ?”
ดวงตาของแม็กซ์กลายเป็นเย็นชา เขามองไปที่เฮเซลและพูดคำต่อคำ “คุณลองดูได้ว่าใครกล้าที่จะเข้าควบคุมคดีของอาจารย์เรแกน มอร์ริส และแม้แต่แทรกแซงในเรื่องของเขา!”
ดวงตาของเฮเซลเบิกกว้างอีกครั้ง และหัวใจของเธอก็เย็นชาไปพร้อม ๆ กัน
“อาจารย์เรแกน มอร์ริส…” ชื่อของผู้ชายคนนั้นยังติดอยู่ในใจเธอ
เธอแข็งตัวทันที
ใช่... เธอไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคุณมอร์ริสเป็นใคร
แต่เธอเคยได้ยินชื่อเสียงของเขา
เลือดของเธอแข็งตัว
เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าชายคนนั้นจะเป็น... อาจารย์เรแกน มอร์ริส!