EP 36

1130 Words
“อุ๊ย!!!” ดวงหน้าขาวสวยตกใจจนซีดเผือด เมื่อเสียหลักเกือบล้ม หากไม่มีวงแขนแข็งแรง ของผู้เป็นสามีคอยรับไว้อย่างว่องไว การ์ดยืนคอยบริการรีบเข้ามาช่วยรับแก้วน้ำ กับกระเป๋าจากมือบางไว้ได้ทัน “คุณโอเคมั้ย” พลาธิปกระซิบถามด้วยความห่วงใย ขณะช่วยประคองให้เมียยืนได้ด้วยตัวเอง แต่เขายังไม่ปล่อยมือจากเอวคอด เพราะยังไม่ไว้ใจกาบเรือที่ขยับขึ้นลงอยู่ตลอด แล้วก็พาเมียก้าวข้ามช่องว่างระหว่างเรือกับฝั่งไปพร้อมๆ กัน ปิยธิดาที่เมื่อแรกยิ้มเยาะเย้ยในความเปิ่นของลูกเมียน้อย แต่ต่อมาต้องอารมณ์ขุ่นมัว เมื่อเห็นแววตาแห่งความห่วงใยที่มีต่อเมียของแฟนเก่าอย่างไม่ต้องจ้องนาน “คุณหนึ่งดื่มอะไรดีครับ ไวน์เหมือนสองสาวหรือเปล่าครับ” รหัทนั่งอยู่ฝั่งที่ต้องยกแก้วเครื่องดื่มจากบริกรแจกจ่ายเพื่อนๆ รอบโต๊ะ เลยเอ่ยถามเมียเพื่อนเป็นคนสุดท้าย “หนึ่งขอน้ำเปล่าค่ะคุณเปิ้ล” รหัทจัดให้ตามคำตอบ โดยไม่ได้ติดใจอะไร ทว่าคู่นอนแสนเปรี้ยวของสามี อดหมั่นไส้แม่เมียแต่งไม่ได้ที่ทำตัวเป็นกุลสตรีเวอร์ ไม่ยอมดื่มของมึนเมา จึงถามออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลท่าทีธรรมดา จนคนรอบโต๊ะไม่คิดว่าเจ้าหล่อนกำลังประชดอยู่ “คุณหนึ่งไม่ลองชิมไวน์ล่ะคะ งานนี้เขาเลี้ยงของมีคลาสๆ ทั้งนั้นนะคะ ไม่ใช่ไวน์ขวดละสามสี่ร้อยตามร้านทั่วไป เอ...ไม่ทราบว่าคุณหนึ่งไม่เคยดื่ม หรือกลัวเมา หรือกลัวว่าดื่มแล้วจะติดใจ จนวางแก้วไม่ลงกันแน่คะ” “ไม่ใช่ค่ะ คุณแม่ให้หนึ่งลองดื่มมาแล้วค่ะ ไม่ว่าจะราคาร้อยหรือหมื่น แต่หนึ่งไม่ชอบก็เลยขอน้ำเปล่าพอค่ะ” ปราณปริยาวดีหันไปยิ้มให้คนถามอย่างไม่หวาดหวั่น และตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แม้จะรู้อยู่เต็มอก ว่าคู่นอนสามีจงใจจะประชดก็ตาม รัตติกาลให้ขัดเคืองไม่น้อย เมื่อถูกตอบกลับแบบสบายๆ จากอีกฝ่าย จึงยิ้มเยือกเย็นให้และกำลังจะอ้าปากถามต่อ “น้ำเปล่าดีที่สุดสำหรับร่างกาย คุณหนึ่งเลือกถูกแล้วล่ะครับ อย่ามาหลงผิดเหมือนพวกผมเลย” แต่ก็ถูกวัทน์แทรกขึ้น เพื่ออย่าศึกสองนารีทันควัน ด้วยรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร พลาธิปได้ทีรีบยกแขนขึ้นโอบไหล่เมีย แล้วจึงยิ้มให้เพื่อนๆ ก่อนเอ่ย “ก็เมียฉันฉลาดเลือกนี่ แถมเป็นกุลสตรี เป็นแม่บ้านแม่เรือน ดูแลสามีอย่างดี แบบนี้กลับไปต้องให้รางวัลงามๆ แล้วนะจ๊ะหนึ่งจ๋า” แล้วเขาก็ยื่นจมูกไปหอมแก้มนุ่มด้วยความรวดเร็ว ปราณปริยาวดีหันไปมองด้วยความคาดไม่ถึง ว่าเขาจะทำแบบนี้ต่อหน้าเจ้านายรัตติกาลที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย เควินยิ้มให้ทั้งสอง ก่อนจะหันไปถามเลขาอย่างรัตติกาลว่าทุกคนคุยเรื่องอะไร รัตติกาลได้โอกาสเล่นงานอีกวาระ จึงบอกเจ้านายว่าให้ถามปราณปริยาวดีเอง ซึ่งทำให้ปิยธิดาชอบใจที่สุด เพราะจะได้เห็นแม่ลูกบ้านน้อยเอ๋อรับประทาน แต่ตัวเองกลับต้องอยู่ในสภาพนั้นแทน เมื่อปราณปริยาวดีตอบกลับเควินด้วยภาษาอังกฤษ มีสำเนียงใกล้เคียงเจ้าของภาษา ประหนึ่งเคยไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดนมาสักระยะก็ไม่ปาน พลาธิปยิ้มให้เมียแล้วกระชับวงแขนเข้าอีก ที่เมียไม่ทำให้ขายหน้าเหมือนที่เขากลัวในตอนแรก “เรียนภาษาอังกฤษจบแล้ว ก็เรียนฝรั่งเศสกับญี่ปุ่นไว้หน่อยนะหนึ่ง เผื่อต้องใช้ในอนาคต หรืออย่างน้อยๆ ก็จะได้เอาไว้ใช้ ตอนหนึ่งเปิดโรงเรียนสอนรำ หรือเอาไว้รับงานให้คุณตาเวลาบริษัทพวกนี้มาจ้างไงล่ะ” ปราณปริยาวดีอยากจะกลับไปขอบคุณแม่สักร้อยหน ที่คิดการไกลไว้ให้อย่างรอบคอบ และแม้ปราณปริยาวดีจะรู้ดีว่าแม่บกพร่องในหลายๆ ข้อ โดยเฉพาะไม่ปล่อยบางกับพวกบ้านใหญ่ แต่แม่ก็ไม่เคยบกพร่องการทำหน้าที่แม่ที่ดีให้ลูกอย่างเธอเลยสักนิด     “พี่เป้คะ ไปเต้นรำกันดีกว่าค่ะ” และเมื่อปิยธิดาทนเห็นแฟนเก่า สวีตกับเมียเย้ยตัวเองในหลายๆ เรื่องไม่ไหว ไม่ว่าจะคอยตัดอาหารจานนั้นจานนี้ให้ จูงมือพาไปเข้าห้องน้ำ คอยใช้ทิชชู่เช็ดปากให้เวลามีอาหารเปื้อนนิดๆ หน่อยๆ  พออิ่มและแขกหลายคู่ไปยืนอยู่กลางฟลอร์แล้ว เลยอยากจะหลีกหนีภาพเหล่านั้น ด้วยการหันไปชวนสามี ภาธรรีบลุกขึ้นโค้งเมียด้วยรอยยิ้มทันที รัตติกาลเองก็ถูกเจ้านายลุกขึ้นโค้งออกไป ในเวลาไม่ไล่เลี่ยกัน คงเหลือสามหนุ่มกับหนึ่งสาว นั่งมองแต่ละคู่เคลื่อนย้ายกายเบาๆ คลอเคล้าเสียงเพลงอย่างเพลิดเพลิน พลาธิปอยากจะชวนเมียไปไม่น้อย เมื่อเห็นอดีตแฟนแนบกายไปกับอกผู้เป็นสามี แต่ติดตรงที่เขาไม่แน่ใจว่าลูกเมียน้อยอย่างเจ้าหล่อน จะเต้นรำเป็นบ้างหรือเปล่า จึงนั่งนิ่งๆ เท่านั้น “หนึ่งคะ เราไปเต้นรำกัน บอสของมิ้นท์เต้นไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ ขอยืมสามีหน่อยคุณหนึ่งสักเพลงนะคะ” รัตติกาลพาเจ้านายกลับมานั่งที่ แล้วก็ดึงแขนพลาธิปขึ้น และยิ้มเยาะเย้ยคนข้างๆ เขาก่อนจะเอ่ยตามมารยาท ปราณปริยาวดีแค่ยิ้มให้และขยับกายให้เขาออกไปได้สะดวกเท่านั้น แล้วก็นั่งมองเขากับคู่นอน คลอเคลียกันอยู่กลางฟลอร์ชนิดไม่เกรงใจสายตาใครเลย เพลงแรกจบก็ต่อเพลงที่สอง เควินหายเหนื่อยแล้ว ก็รีบลุกขึ้นมาโค้งปราณปริยาวดีที่นั่งอยู่ “ไปเถอะครับคุณหนึ่ง ไอ้หนึ่งมันไม่ว่าหรอก ทีมันยังเต้นกับคนอื่นเลย อย่างนี้ต้องแกล้งให้เข็ด” รหัทบอกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เมื่อปราณปริยาวดีหันมาหาคล้ายจะขอความเห็น เพราะไม่กล้าทำอะไรโดยพละการ ด้วยกลัวผู้เป็นสามีจะไม่พอใจ แน่นอนว่าหญิงสาวเกรงกลัวไม่ผิด สายตาคมเข้มจ้องมองมาหาเมียทันที นับตั้งแต่ยื่นมือให้เจ้าฝรั่งประคองมากลางฟลอร์แล้ว และยิ่งเห็นอีกมือของเจ้านั่นโอบเอวคอดเมีย ทำเอาเขาฉุนจนลมออกหูวื้ดๆ เลยต้องพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ ด้วยการเยื้องย่างไปตามร่างอรชรของคู่ขา แต่ไม่ถึงนาทีเขาก็สงบแทบไม่อยู่ เมื่อเห็นเมียพูดคุยกับไอ้ฝรั่งนั่นแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD