แม่บ้านรีบจูงมือสะใภ้ออกจากห้องโดยเร็ว แต่ไม่นาน มือบางก็ได้กะละมังกับผ้าขนหนูขึ้นมา แล้วรีบเข้าห้องไปรองน้ำมาส่งให้แม่สามีอย่างรู้งาน
และระหว่างที่ไม่อยากจะมองร่างเปลือย ก็หันไปเปิดตู้แล้วเลือกเสื้อผ้าใส่สบายๆ ที่สุดมารอไว้
“เจ้าลูกคนนี้มันเอาแต่ใจ เมื่อคืนทุบประตูแทบจะพังไม่ใช่เหรอ คุณน่ะมัวแต่ตามใจมันจนเคยแล้ว อยากได้อะไรมันถึงจะเอาเดี๋ยวนั้นไง”
พาทิศบ่นลูกชายขึ้นมา ระหว่างนั่งกินมื้อเช้าด้วยกัน สุดาถูกสั่งให้นั่งร่วมโต๊ะด้วยหันไปยิ้มให้สะใภ้ที่นั่งเงียบ เพราะอดขำท่าทีเจ้านายเมื่อคืนไม่ได้ พิไลพรรณเองก็อยากจะขำ
ทั้งอยากจะตำหนิสะใภ้ไม่น้อยที่ปล่อยให้ผัวนอนหง่าวมาตั้งแต่แต่งงานกัน ครั้นคิดอีกทีก็เห็นใจอยู่บ้าง เพราะถ้าเป็นตัวเองแล้วเจอผัวทำแบบนี้ ก็คงจะไม่เย็นได้อย่างสะใภ้เป็นแน่
“ลูกที่ไม่ค่อยมีพ่อคอยมาช่วยแม่เลี้ยงดู แต่ไปกกอีหนูแทนก็เป็นแบบนี้ล่ะ”
“อ้าว! เป็นงั้นไปอีก เฮ้อ! เจอแต่เช้าเลยเรา”
พาทิศเลยเงียบแล้วกินอย่างเดียว เพราะไม่ว่าจะเอ่ยอะไรออกมา ก็เข้าตัวไปหมด
“แม่สุ! กินเสร็จแล้วอย่าลืมไปดูสองหนุ่มที่ยังหลับไม่รู้เรื่องด้วยล่ะ เผื่อจะพร้อมใจกันป่วยขึ้นมา วันนี้ฉันกับคุณผู้ชายจะไม่อยู่นะ ดูแลกันให้ดีๆ คงจะดูไหวนะ ถ้ายังไงก็เรียกแม่สองสาวมาช่วยก็แล้วกัน”
ปราณปริยาวดีรู้ดีว่าแม่สามีเหน็บกรายๆ พอกินมื้อเช้าอิ่ม จึงรีบโทรไปหาเพื่อนรักให้มาสอนแทน ตัวเองเลยอยู่บ้าน คอยดูแลสามีจะได้ไม่ถูกหาว่าบกพร่องต่อหน้าที่ เพื่อนก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง
“ดีแล้วล่ะหนึ่ง เขาจะได้ไม่มาว่าเราไม่ทำหน้าที่เมีย ถึงไม่ยอมให้นอนด้วยก็อย่าขาดเรื่องดูแลเอาใจใส่ล่ะ”
วางสายได้แล้ว ปราณปริยาวดีจึงหอบแท็ปเลสเข้าไปนั่งทำในห้องสามีที่หลับเป็นตายอยู่บนเตียง จะได้ไม่เสียงานโปรโมทและหาลูกค้าของตัวเองไปด้วย
ส่วนสุดารับหน้าที่ดูแลสองหนุ่ม ที่ยังนอนกองกันชนิดไม่มีวี่แววว่าจะตื่นเลยสักนิด
ส่วนคนหลับยาว จนเกือบจะถึงเที่ยงก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น พร้อมอาการหนักเนื้อตัว ปวดหัวและวิงเวียนไปหมด เหงื่อก็ไหลท่วมตัว กวาดตามองไปไม่เท่าไหร่ ก็รู้ว่าตัวเอานอนอยู่ในห้อง
แล้วก็เห็นคนที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่กับจอ ตั้งใจจะลุกขึ้นในทันที แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะหนักหัวไปหมด ปราณปริยาวดีเหลือบมาเห็นพอดี เลยละจากงานตรงหน้าลุกเดินมาใกล้ๆ
“คุณจะเอาอะไรรือเปล่าคะ”
“ผมร้อน แล้วก็หิวน้ำ”
ปราณปริยาวดีรีบไปรินน้ำใส่แก้วที่มีหลอดเตรียมไว้แล้ว ไปจ่อใส่ปากให้เขา และช่วยพยุงต้นคอให้ดื่มน้ำได้สะดวก คนป่วยดื่มเกือบหมดถึงได้นอนลงตามเดิมแพราะหนักหัวเต็มที
“ฉันจะเช็ดตัวให้นะคะ แล้วคุณจะได้กินข้าวและกินยา”
เพราะเห็นเหงื่อเม็ดโตๆ ผุดออกมาตามหน้าผากเขา เมื่อแม่สามีไม่อยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะหาใครมาช่วยได้ เลยรีบลงไปเรียกคนสวน แต่ก็เห็นกำลังยุ่งอยู่กับงานพรวนดิน เนื้อตัวก็มอมแมม
จึงตัดสินใจเดินกลับขึ้นมาจัดการเองจะได้หมดเรื่อง ส่วนคนป่วยไม่ได้ว่าอะไร นอกจากนอนนิ่งๆ รอให้คนออกจากห้องน้ำพร้อมกะละมังขึ้นมานั่งบนเตียง แล้วแกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดๆ
ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดไปตามใบหน้าหล่อเหลาอย่างแผ่วเบา ไล่ลงไปเรื่อยตามเนื้อตัวและแขนขา ละไว้ตรงที่ไม่อยากจะเมียงมองเท่านั้น เสื้อผ้าชุดใหม่ถูกเอามาวางไว้ เสื้อน่ะพอจะใส่ให้ได้ แต่สำหรับกางเกง
“คุณใส่นะคะ เดี๋ยวฉันจะลงไปเตรียมอาหารกับยาขึ้นมาให้ค่ะ”
แม้คนป่วยจะปวดหัวหนึบๆ แต่ก็ยังเผลอยิ้มออกมาได้ด้วยความขำกับเจ้าของร่างเพรียว ที่เดินไปถึงประตูแล้ว เขาจึงแข็งใจลุกมาจัดการกับตัวเองอย่างยากลำบาก
ไม่นานปราณปริยาวดีก็ขึ้นมาพร้อมข้าวต้มร้อนๆ กับส้มสามลูก เอาไปวางบนเตียงไว้ แล้วขึ้นไปช่วยพยุงให้เขาลุกนั่งเอาหลังพิงหัวเตียงได้สะดวก และเมื่อเห็นว่าเขาแรงไม่มี จึงตัดสินใจตักข้าวต้มมาจ่อรอตรงปากให้
“ไม่หิวเลย”
แต่เขาก็ยังอิดออดเพราะขมปากจริงๆ
“กินนิดหนึ่งนะคะ จะได้กินยาตามไป ตัวคุณไม่ร้อนเท่าเมื่อเช้าแล้ว ได้ยาไปอีกสักชุดก็คงจะดีขึ้นค่ะ ข้าวต้มกุ้งสับด้วยนะคะ ป้าสุบอกว่าคุณชอบ”
แต่สุดท้ายเขาก็จำต้องอ้าปากรับอาหารอย่างเสียไม่ได้ กินได้แค่สี่ห้าช้อนก็ส่ายหน้าไม่เอาแล้ว ปราณปริยาวดีจึงยอม แล้วหันไปปอกส้มให้ ดึงใยออกจนหมดเกลี้ยง ถึงได้ยื่นใส่ปากเขา
“คุณนอนพักนะคะ ฉันจะเอาของลงไปเก็บแล้วจะรีบขึ้นมาค่ะ”
ปราณปริยาวดีเอ่ย ขณะดึงผ้าหุ่มขึ้นไปคลุมให้เขาถึงคอ หลังป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนส้มและป้อนยาเสร็จ แล้วถึงได้ออกจากห้อง คนป่วยนอนจ้องไปทางประตูนับตั้งแต่วินาทีนั้น
แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่เห็นเมียเดินเข้ามาสักที จนเผลอหลับไปเอง พร้อมด้วยอาการงอนนิดๆ เลยอดได้เห็นเมียเดินเข้ามาในห้อง หลังมื้อเที่ยงอันแสนเร่งรีบเสร็จ และนั่งทำงานอยู่ตามเดิม
“คุณหนึ่งจะแยกทำกับข้าวให้คุณหนึ่งต่างหากหรือเปล่าคะ ป้าจะได้เหลือของไว้ให้”
สุดาหันมาถาม เมื่อปราณปริยาวดีเดินเข้ามาในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นให้คนป่วย
“อืม! แยกดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนึ่งต้มข้าวเสร็จแล้ว จะไปทำเองค่ะ”
สุดาจ้องมองมือบาง บรรจงหั่นผักที่จะผัดให้เป็นชิ้นเล็กกว่าปกติ กุ้งกับหมูก็สับหยาบๆ แทนที่จะหั่น ยำปลาเก๋าก็จะเอาก้างออกจนหมดไม่มีเหลือ
ปลาสลิดทอดก็เลาะเอาแต่เนื้อมาตัดเป็นคำๆ จัดใส่ถ้วยเล็กๆ ส้มก็ปอกแล้วเลาะไยออกจัดเรียงใส่จานแล้วใช้ที่แล็บไว้เพื่อไม่ให้แห้ง