EP 30

1126 Words
“อ้าว! คุณหนึ่งลงมาแล้วเหรอคะ รอสักครู่นะคะคุณหนึ่งกำลังจะยกกาแฟมาให้ค่ะ” สุดากำลังยกถาดอาหารมาจัดขึ้นโต๊ะทักทายเจ้านาย แต่ก็ต้องชะงักเล็กน้อย เมื่อมีอีกสาวเดินตามมาไม่ห่าง ปราณปริยาวดีที่มือยังถือถาดกาแฟก็มีอาการไม่แพ้กัน แต่มันก็เกิดขึ้นแค่นิดเดียวเท่านั้น ก่อนจะเดินมาหาโต๊ะด้วยท่าทีปกติ พลาธิปหันไปมองแล้วยิ้มเยาะเย้ยให้ ก่อนจะสั่งด้วยน้ำเสียงเข้ม “จัดที่เพิ่มให้แขกผมด้วยสิ” แล้วคว้าหนังสือพิมพ์มาอ่านเหมือนทุกวัน “วันนี้ทำอะไรให้กินล่ะแม่สุดาดวง” เสียงพิไลพรรณร้องถาม ก่อนตัวจะมาถึงประตูห้องอาหารซะอีก แล้วอาการเดียวกับแม่บ้านและสะใภ้ ก็เกิดขึ้นกับใบหน้าที่ยิ้มเมื่อครู่ถึงกับหุบลงทันควัน แต่ก็เดินไปนั่งในตำแหน่งเดิม โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก ปราณปริยาวดีจัดจานชามเพิ่มให้แขกพิเศษของสามีตรงที่นั่งเดิม ส่วนตัวเองก็อ้อมมานั่งอีกฟาก “แม่สุมากินด้วยกันเลยนะ ฉันจะได้มีเพื่อนคุย” พิไลพรรณมีน้ำเสียงไม่ใคร่จะชอบใจนัก แล้วมองไปยังสะใภ้ ที่ยังคงนั่งกินเงียบๆ ไม่กี่คำก็ขอตัวแล้วเดินออกจากห้องไป โดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น พอได้กระเป๋าสะพายคู่กายแล้ว ก็เดินออกประตูรั้วไปตามบาทวิถีเฉกเช่นทุกวัน ถึงปากซอยก็พอดีรถเมล์มา ไม่ถึงชั่วโมงก็มายืนอยู่หน้าบ้านตากับยายแล้ว บ้านเงียบเชียบเพราะทุกคนไปแสดงในงานบวช ถ้าเป็นก่อนแต่งงาน ป่านนี้ปราณปริยาวดีก็คงกำลังได้ช่วยงานตากับยายและคนในวงยกของนั่นของนี่แล้ว หรือไม่ถ้าเจ้าภาพจ้างรำด้วยก็คงกำลังแต่งตัวรวมกับดาริกาและสาวๆ อยู่เป็นแน่ แต่ตอนนี้คุณตาเปล่งไม่ยอมให้หลานทำอย่างนั้นแล้ว เพราะเกรงใจหลานเขย ที่คุณตาเองก็ได้เห็นหน้าแค่ครั้งเดียวในวันงานเท่านั้น ปราณปริยาวดีไขกุญแจประตู้รั้วเข้ามา แล้วตรงขึ้นเรือน ไขล็อคตรงหน้าซุ้มเข้าระเบียง เจ้าแตงไทยรีบวิ่งมารับ เพราะถูกขังเอาไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว ร่างสูงเพรียววางกระเป๋าสะพาย แล้วก้มไปอุ้มเจ้าหูยาว ที่ดีอกดีใจเมื่อเจอเจ้าของ เนื้อทอดในตู้กับข้าว ถูกหยิบมาเป็นรางวัลปลอบใจมันหนึ่งชิ้น ก่อนจะปล่อยให้มันหามุมนั่งแทะได้ตามสบาย ส่วนตัวเองก็เข้ารีบปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้ยาย เพราะจะมีสอนตอนสิบเอ็ดโมง เป็นนักเรียนเดี่ยว ส่วนบ่ายก็จะมีสองกลุ่มเป็นพนักงานออฟฟิศ เสร็จแล้วก็ต้องเตรียมตัวกลับบ้าน ไปทำหน้าที่เมีย หน้าที่สะใภ้ตามที่ตากับยายอยากให้เป็น ส่วนครอสนักเรียนตัวเล็กๆ ในช่วงเย็น ปราณปริยาวดีถูกตากับยายสั่งงดสอน และให้ดาริกาเพื่อนรักมาสอนแทน แบ่งประโยชน์กันคนละครึ่ง ดาริกาเลยรับทรัพย์เยอะหน่อย เพราะสอนเสร็จก็ต้องไปรำที่ร้านอาหารไทย ซึ่งเป็นงานประจำอยู่แล้ว ส่วนกลางวันก็จะรับงานว่าจ้างทั่วไป บางทีรำแก้บนเพื่อนก็เคยถูกจ้าง แต่ปราณปริยาวดีไม่เคยได้ไปรำแบบนั้น เพราะคุณตาไม่อยากให้รับงานมาก อยากให้เน้นการสอนมากกว่า เสร็จจากงานเก็บกวาด ก็เข้ามานั่งโต๊ะทำงานเล็กๆ ตั้งไว้มุมห้องรำ เพื่อทำบัญชีรายรับจ่ายให้วงของคุณตา และของตัวเอง จากนั้นก็จะโปรโมทโรงเรียนเล็กๆ และวงดนตรีเล็กๆ ทางโซเชียลเน็ทเวิร์ค ซึ่งก็ช่วยให้ได้ลูกค้ามาหาไม่น้อย ความจริงแล้ว ปราณปริยาวดีตั้งใจจะเปิดเป็นบริษัทจัดหาการแสดงไปตามงานต่างๆ ให้เป็นเรื่องเป็นราวหุ้นกับดาริกา แต่แผนทั้งหมดต้องหยุดไว้ เมื่อตัวเองต้องแต่งงานโดยไม่รู้ล่วงหน้า ไม่รู้ตัวมาก่อน ครูสาวรีบลุกจากโต๊ะไปต้อนรับผู้ปกครองที่พานักเรียนมาส่ง พูดคุยทักทายเล็กน้อยก่อนจะหาน้ำท่ามาต้อนรับ และปลีกตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมสอน ปล่อยให้ผู้ปกครองเดินเข้าไปชมผลหมากรากไม้ในสวนตามใจชอบ “น้องปันปันวอร์มร่างกายก่อนนะคะ ท่ากระดกเสี้ยวก็ได้ค่ะ นั่นล่ะค่ะดีเลย ลุกขึ้นได้ค่ะ ทีนี้ก็วอร์มเท้านะคะ อ้าว! จะโจงจะทิ่งโจงทิ่ง สองข้างนะคะ...” แม้ครูผู้สอนจะมีปัญหามาจากทางไหน แต่ทุกครั้งที่ต้องสอนนักเรียนตัวน้อยๆ ไม่ว่าจะสอนคลอสเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม ก็มักจะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง แล้วทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด จนผู้ปกครองที่มาแอบยืนมองลูกตัวเอง ถึงกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในความเอาใจใส่ของครู     “ดา! เมื่อเช้าได้เมล์จากลูกค้าจะจ้างไปรำในงานสองที่แน่ะ หนึ่งเป็นกลางวัน อีกที่ก็ค่ำๆ เขาจ้างสามชุดน่ะ งานกลางวันหนึ่งไม่มีปัญหา แต่งานค่ำต้องถามดาว่าสนหรือเปล่า เราก็แบ่งกันครึ่งๆ เหมือนเดิม แต่หนึ่งไปด้วยไม่ได้นะบอกไว้ก่อน” ปราณปริยาวดีย้ำเตือนในข้อจำกัดอีกครั้ง และเสียดายไม่น้อยที่ตัวเองทำงานได้ไม่เต็มที่ดังที่ตั้งใจไว้ ดาริกาเพิ่งกลับจากรำพร้อมวงหันมาหาเพื่อนแล้วคิดนิดหนึ่ง ก่อนตอบออกไปอย่างรอบคอบ “รับเลยดีกว่าหนึ่ง เดี๋ยวจะเสียลูกค้าเปล่าๆ เราจะจ้างเพื่อนที่รำอยู่ร้านอาหารไปแทนหนึ่งก็ได้ไม่เป็นไร หนึ่งก็ดูงานช่วงกลางวันไปแล้วกัน กลางคืนดาจะจัดการเอง ว่าแต่พี่ทินจะว่างขับรถไปให้หรือเปล่าหรอก แล้วจะต้องให้ค่าเหนื่อยครั้งละเท่าไหร่ดี เดี๋ยวก็มาคิดเราแพงๆ มีหวังไม่เหลืออะไรแหงๆ” “ว่าง! ให้เท่าไหร่ก็ไปไม่เกี่ยงหรอกจ้ะแม่คุณ และคราวหน้าถ้าขืนนินทาพี่ระยะเผาขนแบบนี้นะ จะคิดแพงๆ ให้เข็ด” ไวทินตอบออกมาเสียงดังฟังชัด แม้ตัวจะยังขนของลงจากหลังปิ๊กอัพขึ้นไปบนเรือนอยู่กับนักดนตรีคนอื่นก็ตาม ทำเอาสองสาวหัวเราะออกมาด้วยความขำ แต่ไม่นานปราณปริยาวดีก็หันมาหาเพื่อน แล้วพูดเป็นการเป็นงานขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD