~ Chapter 9 ~ เธอเป็นใคร

1198 Words
-เพียงฝัน- ข่าวใหญ่ของเช้าวันนี้คือ พี่วิลล์มีแฟน! ฉันเข้าใจแล้วว่าเมื่อวานคนที่บ้านหายไปไหนหมด เพราะทุกคนเตรียมงานแถลงข่าวให้พี่วิลล์ ซึ่งฉันก็งงอยู่เหมือนกัน แฟนพี่วิลล์เป็นดาราก็เลยต้องมีงานแถลงข่าว และในข่าวบอกว่าพี่เขาคบกันมานานแล้ว ว่าแต่การมีแฟนมันเป็นยังไงนะ อยู่ ๆ ฉันก็ยิ้มออกมาอย่างไร้เหตุผล ไม่หรอก มันมีเหตุผลของมัน หลังจากพี่พอตเตอร์มาส่งฉันที่บ้านพี่เขาก็ขอไลน์ฉัน ตอนนั้นฉันมือสั่นพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกอยู่ตั้งนานแหนะ แต่ในที่สุดก็ได้ให้ไลน์พี่เขาไป และเมื่อกี้พี่เขาเพิ่งส่งข้อความมาบอกว่าไม่ได้มารับฉันแล้วเพราะติดธุระ ฉันเสียใจนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจได้ ก็พี่เขามีธุระนี่นา “ฝันจ้ะ เย็นนี้อาชิลล์จะชวนแฟนพี่วิลล์มากินข้าวที่บ้าน วันนี้งดเที่ยวนะ” ฉันยิ้มบาง ๆ ให้กับคุณอา คุณอาชื่อแอนนี่เป็นภรรยากับคุณอาไทป์ที่เป็นเพื่อนแด๊ดดี๊ของฉันเอง และอาชิลล์ที่ว่าก็คือแม่ของพี่วิลล์ และอาแอนนี่ก็ยังเป็นพี่สาว (ไม่แท้) ของหม่ามี๊ ฉันก็ไม่รู้จะเรียกว่าป้าหรืออาดี แต่อาแอนนี่บอกให้เรียกอาเพราะจะได้ดูเด็ก “เที่ยวไหนอ่ะเราเมื่อคืน อาจะบอกว่า พ่อหนูรู้เรื่องนะ” ฉันยิ้มให้กับคุณอาแอนนี่ ฉันคิดแล้วว่าแด๊ดดี๊ต้องรู้ แต่มันเป็นสัญญาณที่ดีนะ แสดงว่าแด๊ดดี๊ปล่อยฉันแล้วจริง ๆ “ค่ะ วันนี้งดเที่ยว” ฉันยกมือขึ้นบอกโอเคคุณอาก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารเพราะมันก็ใกล้เวลาไปเรียนแล้ว “เดี๋ยวอาให้คนไปส่งนะ” “ไม่เป็นไรค่ะ ไปแท็กซี่ก็ได้ ฝันอยากลองเดินทางคนเดียวค่ะ” “งั้น ถึงแล้วส่งข้อความมาหาอาหน่อยนะ” “โอเคค่ะ” ฉันยิ้มกว้างให้กับคุณอา ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ไป ฉันไม่ได้เข้ารับน้องเหมือนกับคนอื่นมันทำให้ฉันรู้สึกกลัวอยู่เหมือนกันว่าจะไม่มีเพื่อน แต่ฉันก็ชินแล้วล่ะกับการอยู่คนเดียว แม้ฉันจะมีน้องแต่น้องสองคนก็เป็นผู้ชาย นาน ๆ จะได้เจอกัน ชีวิตของน้องฉันก็ไม่ต่างจากฉันมากหรอกเราไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหน มันแย่นะ แต่ก็นั่นแหละ แต่ฉันก็ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกแด๊ดดี๊ แม้คนจะมองว่าแด๊ดดี๊เป็นคนไม่ดีก็ตาม ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่บนรถแท็กซี่แล้ว และกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ในหัว ในทุกวันที่อิตาลี มีข่าวมากมายเกี่ยวกับธุรกิจของแด๊ดดี๊ และคอมเม้นท์ในโซเชี่ยลก็เต็มไปด้วยถ้อยคำด่าทอ แด๊ดดี๊ทำธุรกิจสีเทาออกไปทางดำเลยล่ะ มันถูกกฎหมายได้เพราะเงินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นบ่อนพนัน ผับบาร์ และล่าสุดก็ค้าอาวุธ แด๊ดดี้เป็นคนทรงอิทธิพล แน่นอนเพราะแบบนี้ฉันถึงถูกขังไว้ที่บ้านตั้งแต่เด็ก แต่โชคยังดีที่ประเทศไทยไม่ค่อยมีศัตรูของแด๊ดดี๊ มีแค่ตำรวจที่ไม่ชอบเฟีย แต่ฉันว่าเงินมันทำได้ทุกอย่างนะ ฉันถึงสามารถมาอยู่ที่นี่ได้ ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถเพื่อมองวิวของเมืองหลวง มันแปลกตาสำหรับฉัน ทุกอย่างมันดูแปลกตาไปหมด และขณะนั้นเองที่ฉันเห็น “พี่พอตเตอร์” ฉันพึมพำออกมาเสียงแผ่วเบา เมื่อเห็นว่ารถคันหรูของพี่พอตเตอร์กำลังเลี้ยวเข้ามหา’ลัยเหมือนกับรถแท็กซี่คันที่ฉันนั่งอยู่ แม้ฉันจะมองไม่เห็นพี่พอตเตอร์เพราะกระจกรถคันหรูติดฟิล์มดำ แต่ฉันจำรถของเขาได้แม่น และป้ายทะเบียนที่มีเลขเก้าเลขเดียวนั้นฉันจำได้ดี มหา’ลัยนี้เป็นมหา’ลัยอันดับหนึ่งของประเทศ มันใหญ่มากถึงขนาดมีไฟจราจรอยู่ในมหาลัย รถของพี่พอตเตอร์จอดติดไฟแดงข้าง ๆ แท็กซี่คันที่ฉันนั่งอยู่ ฉันรู้สึกแปลกใจที่พี่เขาทำธุระเสร็จเร็วมาก แต่แล้ว “โอ๊ะ” อยู่ ๆ บานกระจกรถพี่พอตเตอร์ก็เลื่อนลง และภาพที่ฉันเห็นมันก็ทำให้ฉันชะงักไปในทันที “ใครกัน” ผู้หญิงที่นั่งรถมากับเขาเป็นใครกัน ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าเลย และทำไมถึงสวยมากขนาดนี้ ฉัน... “เอ่อ คุณลุงช่วยขับรถตามคันนั้นได้ไหมคะ” “อ้อ ครับ” ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร หากว่าเป็นแฟนของเขาตามที่ฉันคิด ฉันจะได้หยุดความคิดก่อนหน้านี้ทิ้ง แต่พี่พอตเตอร์เคยบอกว่าเขาไม่มีแฟนนี่นา อย่างที่บอกมหา’ลัยนี้ใหญ่มาก รถของพี่พอตเตอร์แล่นไปจอดที่คณะที่เขียนไว้บนตึกสูงว่า ‘คณะวิศวกรรมศาสตร์’ “เอ่อ จอดตรงนั้นก็ได้ค่ะ” พอเห็นพี่พอตเตอร์จอดรถอยู่หน้าคณะของเขา ฉันก็เลยบอกให้ลุงคนขับแท็กซี่จอดรถตรงกันข้ามกับตึกคณะวิศวะฯ แทน ก่อนที่ฉันจะล้วงมือเข้ากระเป๋าสะพายหยิบเงินให้คุณลุงไป แกร็ก~ “เอ่อ หนู เงินมันไม่ใช่...” เหมือนว่าฉันจะได้ยินคุณลุงพูดอะไรบางอย่างแต่เสียงมันก็หายไปทันทีที่ฉันปิดประตูลง ก่อนที่คุณลุงจะเปิดประตูลงตามมา “หนู...รอเอาเงินทอนก่อนจ้ะหนู” “ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันพอเข้าใจ เพราะวันนั้นที่ร้านกาแฟฉันก็ได้เงินทอนคืนเหมือนกัน สงสัยเงินมันจะมากกว่าราคาที่จ่ายไป แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบเดินตามพี่พอตเตอร์ “งั้น ลุงขอบใจนะ” ฉันยิ้มให้คุณลุงก่อนจะหันหน้าไปมองหาพี่พอตเตอร์ แต่กลับไม่เห็นเสียแล้ว “เห้อ...ก็เลยไม่รู้เลยแฮะ” ฉันถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินไปตามฟุตบาตพร้อมยกแขนขึ้นมองนาฬิกาบนข้อมือด้วย เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงถึงจะถึงเวลาเข้าเรียนวิชาแรก หรือว่าฉันจะลองเดินไปหาพี่เขาที่ตึกคณะของเขาดีนะ แต่แบบนั้นมันจะเกินไปหรือเปล่า เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แต่ฉันก็แค่อยากรู้ ถ้าได้รู้ก็จะได้รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวยังไงถึงจะถูก คิดได้ดังนั้นฉันก็เลยเดินข้ามถนนไปที่ตึกคณะวิศวะฯ ฉันหวังว่าจะได้เจอพี่เขานะ.. -เพียงฝันจบ-
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD