ในเวลาเดียวกัน [สาธารณรัฐอิตาลี]
มาเฟีย.. เป็นชื่อเรียกของกลุ่มสังคมที่ผิดกฎหมายอย่างลับ ๆ เชื่อกันว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงกลางของศตวรรษที่ 18 ในเกาะซิซิลีประเทศอิตาลี จากนั้นจึงเริ่มแผ่กระจายไปยังสหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย
โดยดั้งเดิมแล้ว มาเฟีย คือ กลุ่มพันธมิตรในยุคกลางของอิตาลี ที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านชาวนอร์มันและชาวเติร์ก ต่อมาจึงกลายเป็นคำเรียกองค์กรลับต่าง ๆ ในอิตาลี หนึ่งในองค์กรลับ ๆ ที่เป็นที่กล่าวขาน คือ ตระกูลคาร์น
“พอเลยค่ะ ปล่อยเธอไปใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปนั่นแหละค่ะ ให้มีแฟน มีเพื่อน” บนคฤหาสน์สุดหรูมีเสียงของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งดังขึ้น มันทำให้ดวงตาคมของชายวัยกลางคนตวัดมองภรรยาของตนทันที ไม่คิดว่าเธอจะอนุญาตให้ลูกสาวคนเดียวมีแฟนเร็วขนาดนี้
“ฝันไปเถอะ” เควิน คาร์น มาเฟียหนุ่มใหญ่เอ่ยออกมาเสียงเรียบนิ่ง หลังจากได้รับข่าวสารจากลูกน้องว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของเขานั้นกำลังขึ้นรถไปกับชายแปลกหน้า คำสั่งอย่างหนึ่งที่เขาจะสั่งลูกน้องคือพาเธอกลับมาที่นี่ แต่พอเห็นใบหน้าง้ำงอของภรรยาแล้ว คำสั่งเมื่อครู่จึงต้องถูกสั่งไว้ในใจก่อน
“ถ้าให้ลูกกลับมา ก็ไม่ต้องคุยกันค่ะ” เธอว่าพลางลุกขึ้นยืน ก่อนจะกระทืบเท้าบึกปังหนีเข้าห้องไป มีเมียเด็กนั้นมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เควินลุกขึ้นยืนก่อนที่เขาจะเดินตามภรรยาของตนเข้าห้องนอนไป เธออายุห่างจากลูกคนโตเพียงแค่สิบเก้าปี ความเข้าใจลูกสาวนั้นจึงมีมากกว่าเขาหลายเท่าเลยก็ว่าได้
เวลาต่อมา... [กรุงเทพฯ]
บรรยากาศภายในรถพอร์ชคันหรูเงียบสงัดไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงแอร์รถยนต์ หญิงสาวแทบกลั้นลมหายใจเพราะกลัวมันจะดังออกไปรบกวนเขา
“เหมือนเธอมีคำถามนะ”
“อ๊ะ...” เสียงทุ้มลึกของเขาดังขึ้นทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดนี้ เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเพราะไม่มั่นใจว่าควรถามได้หรือเปล่า แต่ก็เอาเถอะมันก็ควรถามอยู่เหมือนกัน
“เอ่อ ทำไมถึงบอกผู้ชายคนนั้นว่า เป็นแฟนฝันคะ” เธอตกใจมากที่เขาได้พูดออกไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่พอตเตอร์เลื่อนกระจกรถลง ประโยคแรกที่เขาพูดคือ ‘คุยอะไรกับแฟนกู’
“แล้วฝันอยากให้พี่พูดว่าอะไรล่ะ” หญิงสาวทำแก้มป่องออกมา เพราะชายหนุ่มตอบคำถามของเธอด้วยคำถามอีกแล้ว
“พูดว่าเป็นพี่ชายก็ได้นิคะ”
“อ้อ เราอยากเป็นแค่น้องสินะ”
“ไม่ใช่นะ!!” รอยยิ้มมุมปากของเขากระตุกขึ้นเมื่อเธอโพล่งเสียงออกมาแทรกเขาแบบนี้ “คือ ฝันหมายถึง เอ่อ...ฝันไม่ใช่น้องแท้ ๆ ของพี่นี่หน่า” หญิงสาวแก้ตัวน้ำขุ่น ซึ่งมันก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะดูเหมือนเขาจะดูออกว่าเธอกำลังหวั่นไหวอยู่
“ลืมมันไปเถอะค่ะ” แม้นว่าเธอจะพูดแบบนั้น แต่ก็รู้ดีว่าคงไม่มีใครลืม เพียงฝันกำกระโปรงตัวเองแน่นด้วยความประหม่า
“มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราอยากรู้จักใครมาก ๆ ให้ชวนไปดื่ม” เพียงฝันค่อย ๆ หันหน้ามามองใบหน้าคมสันของเขา ซึ่งพอตเตอร์กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถฝ่าสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอยู่
“หืม? ดื่มเหรอคะ หมายถึงเหล้าน่ะเหรอ” ชายหนุ่มเพียงแค่พยักหน้ารับ ซึ่งเธอก็พยักหน้ายินยอมเช่นกัน เพราะเธอไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาอยู่แล้ว
“ว่าไง”
“อ้อ ได้ค่ะ” พอตเตอร์ยกยิ้มขึ้นมาเบา ๆ ที่ได้ยินอย่างนั้น สงสัยวันนี้จะได้กินกวางน้อยซะแล้วสิ ความร้อนของเหล้านั่นแหละจะทำให้เธอไร้ข้อกังขากับเขา
“แล้ว...ทำไมวันนี้ถึง เอ่อ...มาช้าคะ”
“โทษที พี่แฮงก์”
“หืม?”
“เมื่อวานไปดื่มกับเพื่อน ไอ้วิลล์ก็ไป ไม่เชื่อโทรไปถามมันสิ”
“อ้อ ไม่หรอกค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ ถ้าเขาบอกอย่างนี้ก็แล้วไป เธอก็นึกว่าเขาลืมนัดเธอเสียอีก แค่รู้ว่าเขาไม่ลืม เธอก็ดีใจมากแล้ว
@Friday nigth Club
ทันทีที่เดินเข้ามาภายในผับหรู เพียงฝันเธอตาโตขึ้นมากับสิ่งที่เห็น เคยเห็นแต่ในทีวีและอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยย่างกรายเข้ามาสถานที่แบบนี้เลยแม้ว่าธุรกิจของครอบครัวเธอจะมีแบบนี้เช่นกัน
ท่าทีตื่น ๆ ของหญิงสาวนั้นทำให้ชายหนุ่มฉวยโอกาสยื่นลำแขนแกร่งออกไปโอบเอวบางของเธอเข้าแนบชิดกาย การกระทำของเขามันทำให้เลือดในกายของหญิงสาวสูบฉีดขึ้นทันที ใบหน้านวลเห่อร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่เคยมา?” ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปกระซิบเบา ๆ ที่ใบหูเล็ก อาจจะเป็นเพราะเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มเขาก็เลยทำแบบนี้ แต่มันกลับทำให้หญิงสาวตกใจ เธอยกมือยันแผงอกของเขา ก่อนจะห่อไหล่ขึ้น
“ค่ะ ไม่เคย” น้ำเสียงสั่น ๆ ของเธอทำให้เขานึกขัน ก่อนที่เขาจะเดินโอบเอวบางของเธอเข้าไปในสถานที่เริงรมย์นี้
ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างมองมาที่ชายหนุ่ม เขาเป็นที่รู้จักของสาว ๆ ในผับแห่งนี้ด้วยหน้าตาและฐานะ แต่พอมีเพียงฝันเดินมาด้วยสายตาของหญิงสาวหลายคนที่มองมากลับเปลี่ยนไป
เพียงฝันรู้สึกประหม่าจนตัวแข็งทื่อไปหมด เธอไม่รู้จะวางมือไว้ที่ไหน และจะทำตัวยังไงเมื่อมีสายตาของคนหลายคนมองมาแบบนี้
“เอ่อ ไม่ต้องนั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ร่างบางขยับตัวออกจากลำแขนแกร่งของเขา ซึ่งเขาก็ปล่อยออกโดยง่าย
หญิงสาวเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงกันข้ามกับเขา เธอก้มหน้างุดลงด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เธอรู้ดีว่าทำไมมีคนมองมาทางเธอมากขนาดนี้ หลายคนคงมองผู้ชายที่เธอมาด้วย และไม่แปลกที่คนเหล่านั้นจะมองมาที่เธอด้วย
“ไม่เคยมา แล้วดื่มเป็นหรือเปล่า”
“ปะ เป็นค่ะ” หญิงสาวตอบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงมากนัก ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจ แต่สายคมของเขาที่มองมานั้นมันแฝงอะไรบางอย่างจนทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา
“แล้ว ชอบดื่มแบบไหน” กวางตัวน้อยอย่างเธอหรือจะดื่มเหล้าเป็น เธอคิดจะหลอกเขาเหรอ หรือยังไง
“หืม ดื่มได้หมดค่ะ วิสกี้ วอดก้า จิน บรั่นดี เตกีลา ลิเคียว รัม อืมม...อะไรอีกนะ อ้อ แอพเพอริทิฟค่ะ ฝันดื่มยังไงก็ไม่เมา” พอตเตอร์เลิกคิ้วข้างหนึ่งด้วยความงุนงงเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้
“แด๊ดดี๊ฝึกให้ฝันดื่มตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบแปดเลย ดื่มเรื่อย ๆ จากที่เมาก็ไม่เมาอีกเลย แด๊ดดี๊บอกว่าโตขึ้นจะได้ไม่ถูกผู้ชายเลวมอมเหล้าค่ะ”
“หึ หึ” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะออกมาในลำคออย่างนึกขัน ก็มาลองดูว่าจะคอแข็งได้แค่ไหนกันเชียว ว่าแล้วฝ่ามือหนาก็ยกขึ้นเรียกพนักงานเสิร์ฟทันที
“วอดก้า หนึ่ง” หญิงสาวตาโตขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าเขาจะเล่นเหล้าแรงแบบนี้เหมือนกัน
“นำเข้าประเทศไหนคะ” เพียงฝันหันไปถามพนักงานเสิร์ฟด้วยท่าทีกระตือรือร้น มันผิดคาดสำหรับพอตเตอร์นิดหน่อย
“อ้อ จากบัลแกเรียครับ” หญิงสาวยกยิ้มขึ้นก่อนจะพยักหน้ารับ บัลแกเรียแอลกอฮอลล์แปดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เธอนึกคิดในใจหากแต่ไม่ได้แสดงสีหน้าเป็นกังวลอะไรจนชายหนุ่มที่มองอยู่นั้นขมวดคิ้วมองด้วยความแปลกใจ
พอตเตอร์ลุกขึ้นยืน ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งข้าง ๆ เธอหลังจากพนักเสิร์ฟรับออเดอร์ออกไปแล้ว มันทำให้เพียงฝันตกใจ เธอพยายามขยัยออกห่างแล้วแต่เขาก็เข้ามาใกล้ แบบนี้หมายความว่ายังไง
“เอ่อ...”
“เบื่อคนมอง” ชายหนุ่มพูดขึ้น ก่อนที่เพียงฝันจะหันหลังไปมองและเธอก็พบกับสายตาหลายคู่ที่มองมาเช่นกัน
“อ้อ ค่ะ” สงสัยเขาจะไม่ชอบให้คนมองเหมือนกับเธอ แต่เขาหน้าตาดีแบบนี้ ทำไมยังไม่ชินกันนะ หญิงสาวคิดวุ่นในหัวโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นล้วนเป็นถ้อยคำแห่งการหลอกลวง เขาน่ะเคยชินกับสายตาที่มองมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในอดีตที่เขาเคยทำวงดนตรีกับเพื่อน ๆ หรือตอนที่เขาแข่งรถ แต่ที่มานั่งกับเธอนั้นเขามีข้อสงสัยบางอย่าง
“เธอ...ใช้น้ำหอมอะไร” กลิ่นหอมจากคนตัวเล็กนั้นเขาได้กลิ่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอ และตอนนี้เขาก็ได้กลิ่นมันอีก อดไม่ได้ที่เขาจะยื่นมือไปเขี่ยปอยผมของเธอออกจากต้นคอขาว
“ทะ ทำอะไรคะ” หญิงสาวตกใจราวกับกวางน้อยที่เพิ่งมองเห็นเสือ เธอดีดตัวหนีห่างเขาออกไปนั่งไกลจนสุดขอบโซฟาตัวยาว
“หึ” พอตเตอร์แค่นหัวเราะออกมา ขณะที่ใจของหญิงสาวกระหน่ำเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง มันเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นกระดอนออกมา หญิงสาวทำตัวไม่ถูกเธอคิดว่าเธอควรไปตั้งหลัก
“ฝะ ฝันไปเข้าห้องน้ำนะคะ”
“หืม รู้เหรอว่าไปทางไหน”
“พี่แค่บอกก็พอค่ะ” น้ำเสียงสั่น ๆ ของเธอนั้นทำให้เขานั้นนึกขันอยู่ในใจ แต่เธอใจกล้าดี ถ้าจะกลัวเขามากขนาดนี้ เธอไม่ควรขึ้นรถมากับเขาตั้งแต่แรก หรือในใจเธอนั้นชอบเล่นกับไฟ
“เดินตรงไป มันมีป้ายบอก”
“โอเคค่ะ” เพียงฝันยกมือขึ้นทัดผมที่ใบหู ก่อนที่เธอจะเดินอ้อมโต๊ะเหล้าของเขาและเธอไป ขณะที่สายตาคมของเขายังคงมองแผ่นหลังบางของเธอด้วยความรู้สึกบางอย่าง
พอตเตอร์นั่งที่โต๊ะของเขาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและหมุนตัวเดินไปหาหญิงสาวคนหนึ่งที่มองเขาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว และดูท่าจะยังไม่หยุดมอง
ชายหนุ่มเดินไปใช้ข้อศอกค้ำบาร์ที่ตั้งอยู่ระดับเอวของเขา ขณะที่หญิงสาวที่เขานั้นรู้สึกว่าเธอมองเขาอยู่กำลังนั่งบนเก้าอี้หันหน้าไปทางบาร์เทนเดอร์
“น่าเสียดายจัง ผมนึกว่าคุณมองผมอยู่ซะอีก”
“หึ คะ?” เธอค่อย ๆหันมามองเขา หลังจากที่เสแสร้งทำเป็นไม่ได้มอง
“ว้า...”
“ก็มองว่าวันนี้คุณไม่ได้มาคนเดียวน่ะสิ” หญิงสาวหน้าตาสะสวยพูดขึ้น เธอยกแก้วไวน์ขึ้นแกว่งเบา ๆ ขณะที่พูดไปด้วย
“หึ งั้นแสดงว่ามองมาตลอด”
“ค่ะ ก็รอให้คุณรู้อยู่เหมือนกัน” พอตเตอร์กระตุกยิ้มที่มุมปากทันที ก่อนที่เขาจะวางโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาลงที่บาร์
“เบอร์?” ริมฝีปากบางของเจ้าหล่อนเผยอค้างเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะสนใจเธอเช่นกัน ก่อนที่มือบางจะยื่นไปคว้ามันมากดเบอร์โทรศัพท์ของเธอลงไป หลังจากกดเสร็จเธอก็ยื่นให้เขา
“ฉันนึกว่าคุณมากับแฟนซะอีก”
“แฟนผมยังไม่มีหรอก แต่ถ้าจะมีก็คงเร็ว ๆ นี้”
“คิก” หญิงสาวยกมือขึ้นป้องปากเมื่อเธอหลุดขำให้กับมุกจีบสาวของเขา
“เดี๋ยวผมโทรหา” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเดินไป แต่ก่อนจะได้เดินไป เรียวขาขาวเนียนในส้นสูงห้านิ้วก็ยื่นมาเขี่ยเบา ๆ ที่ต้นขาของเขาเสียก่อน
“รออยู่นะคะ” พอตเตอร์ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิด จริง ๆ ควรจัดเรียงคิวดี ๆ ของหวานควรกินหลังของคาวซึ่งเขาเพิ่งเขี่ยทิ้งไปเมื่อช่วงสายของวัน เขาต้องกินของหวานก่อนถึงจะกลับมากินของคาวได้อีกน่ะสิ
“หึ” เขาไม่ได้หันหลังกลับไปหาเธอ เพราะจังหวะนั้นกวางน้อยของเขากำลังเดินกำสายกระเป๋าสะพายเข้ามาข้างในพอดี ผมเผ้าของเธอที่เสียทรงทำให้เขาขมวดคิ้วสงสัย เห็นอย่างนั้น ชายหนุ่มจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาเธอทันที
ตึก ตึก~
หมับ!
“จะไปไหน?” หญิงสาวหมุนตัวมาหาเขาตามแรงกระชากของมือหนา ก่อนที่คิ้วหนาของเขาจะขมวดเข้าหากันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะหน้าของเธอนั้น...
“ใครทำอะไรเธอ”
“ฮึก..”
“เพียงฝัน...ใครทำวะ”
“มีคนบอก ฮึก...ว่าเป็นแฟนพี่”