~ Chapter 2 ~
พ่ายแพ้
เสียงโห่ร้องของบรรดากองเชียร์ดังสนั่นจากอัฒจันทร์เมื่อยามรถฟอร์มูล่าวันของฝ่ายตรงข้ามแล่นผ่าน สนามแข่งรถบีทีเรซซิ่งคาร์บรรจุผู้ชมมากกว่าหนึ่งพันคน และเสียงของรถแข่งที่มีมากกว่าสิบคันมันดังมากจนแสบแก้วหู แต่แล้ว
เอี๊ยดดด!!
แคว่กก~
ปัง!
ตุบ!!
“กรี๊ดดดด~” เสียงอึกทึกครึกโครมเกิดขึ้นทั่วทั้งสนามแข่งรถเซอร์กิตหรือการแข่งรทางเรียบ ก่อนที่ธงสีแดงจะถูกยกขึ้นรอบสนามแข่งขัน เป็นอันรู้กันว่าผู้เข้าแข่งขันทุกคนควรปฏิบัติตนเช่นไร
เช่นเดียวกันกับนายสนามที่จะสั่งให้เซฟตี้คาร์สออกวิ่งนำรถแข่งทุกคันเพื่อควบคุมระยะห่างของรถแข่ง โดยที่นักแข่งรถทุกคนต้องรักษาตำแหน่งของตนห้ามแซงโดยเด็ดขาด เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มเจ้าของรถฟอร์มูล่าวันสีน้ำเงินครามนี้
“บ้าชิบ!” เขาสบถออกมาภายใต้หมวกกันน็อคสีน้ำเงิน ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ออกมาเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลโกงของผู้เข้าแข่งขันฝั่งตรงข้าม
รถแข่งที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นของฝั่งไหนเขารู้ดี การแข่งขันที่ดำเนินไปมากกว่าเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์เช่นนี้ มันอดคิดไม่ได้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่คิด
ตุบ!
“บัดซบ!!!” เขาตบพวงมาลัยรถอย่างแรงพร้อมกับสบถออกมาด้วยความหัวเสีย ซึ่งมันเป็นเพราะฝั่งตรงข้ามนั้นรู้ว่าเขาจะขับรถแซงในอีกยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ที่เหลือ มันก็เลยสร้างสถานการณ์แบบนี้ขึ้นมาเพื่อให้การแข่งขันในครั้งนี้ชะงักไป
และดูเหมือนโชคจะเข้าข้างฝั่งนั้น
นายสนามได้ประกาศให้รถแข่งที่อยู่ตำแหน่งแรกชนะทันทีหลังจากที่การแข่งขันผ่านไปแล้วเจ็บสิบห้าเปอร์เซ็นต์ มันไม่ได้เกินความคาดการณ์ของเขามากนัก เพราะเขารู้ว่านี้เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์
“พวกโง่” แม้นจะหงุดหงิดเต็มทน แต่ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากตัวเขา พวกที่โกงเกมการแข่งขันพวกนั้นไม่ควรชนะเสียด้วยซ้ำ
พอตเตอร์ลงจากรถแข่งของเขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรต่อหน้านักข่าว หรือกลุ่มผู้คนที่มองมา ชายหนุ่มเดินฝ่าฝูงนักข่าวที่รอให้เขาสัมภาษณ์ถึงความพ่ายแพ้ที่ไม่จริง และการชนะอันน่าสะอิดสะเอียนของฝั่งตรงข้าม
“เฮียแม่ง!! ผมบอกแล้วไงว่าอย่าขับแซงตอนท้าย” ทันทีที่เขาเข้ามายังห้องพักเพื่อเปลี่ยนชุด เสียงของเพื่อนนักแข่งก็ดังขึ้น
“กูจะแซงตอนไหนก็ได้ มันไม่ใช่ความผิดของกู พวกเหี้ยนั่นต่างหากที่เล่นไม่ซื่อ” เดิมทีหากเกิดอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขัน จะมีการควบคุมสถานการณ์และเริ่มออกจุดสตาร์ทที่ใหม่โดยที่นักแข่งต้องรักษาตำแหน่งเดิมของตน แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ที่เกิดขึ้นนั้นมันได้ดำเนินการแข่งขันมานานแล้วทำให้นายสนามตัดสินแบบนั้น และการตัดสินของกรรมการถือว่าเป็นอันสิ้นสุด
ไม่ใช่ความผิดของเขาที่เป็นคนชอบเร่งเครื่องแซงตอนท้าย อย่างที่เขาพูดเขาจะแซงตอนไหนก็ได้ ถ้าฝั่งนั้นไม่เล่นแบบนี้ก่อน
“ทีมเราแพ้ อีกแล้ว”
“อีกแล้วเหี้ยไร เพิ่งแพ้” เขาเอ่ยพูดขึ้นขณะเปลี่ยนชุดกลับมาเป็นชุดลำลองปกติตามเดิม
“พูดแล้วหงุดหงิด มันยอมเสียรถทั้งคันเพราะอยากชนะ โคตรโง่”
“หึ อย่าบอกนะว่าเฮียเสียดายรถ”
“ก็เออสิวะ เอาถ้วยไปทำเหี้ยไรได้ อย่างน้อยรถมันก็ขายได้ มีแต่พวกโง่เท่านั้นที่ทำแบบนี้”
“ผมก็ว่างั้น แล้วเฮียจะกลับเลยเหรอ สัมภาษณ์หน่อยไหมเอาใจสาว ๆ หน่อย”
“ไม่ละ กูจะกลับ” เขาว่าพลางยกบุหรี่ขึ้นจุดสูบ ก่อนจะเดินกลับออกไปทางด้านหลังสนามรถแข่ง
ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีดำและกางเกงยีนทรงกระบอกมันทำให้เขาดูดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว สายตาคมเพ่งมองไปยังแผ่นหลังบางของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังชะเง้อคอมองหาใครบางคน ก่อนที่เขาจะเอ่ยทักเธอ
“ชา...”
“โอ๊ะ!! ตกใจหมด ชามองหาพี่แทบตาย” หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาสะสวยร้องตกใจเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเธอโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง
“หึ ก็เห็นแล้วนี่ไง” เธอส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับความกวนของเขา
“พี่คะ ชาว่าเราไปเอาเรื่องพวกมันดีไหม มีแค่กรรมการเท่านั้นแหละที่โง่ตัดสินแบบนั้น”
“ห้าวนักนะเรา ดูตัวเองด้วย”
“ก็..”
“กลับกัน รีบไปผับไม่ใช่ไง”
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องลดตัวลงไปเล่นกับพวกที่ต่ำกว่าเราหรอก เสียเวลาหายใจ”
“คิก เนอะ” หญิงสาวหัวเราคิกคักออกมา ก่อนที่เธอจะชะงักไปเมื่อถูกสายตาคมมองเหมือนกับถูกต้องมนต์ รอยยิ้มมุมปากของเขายกขึ้นเบา ๆ ก่อนที่เขาจะหมุนตัวหนีเธอและยกบุหรี่ขึ้นดูดอีกครั้ง
ดอกไม้บางประเภทก็ควรถูกเก็บไว้เชยชม ไม่ควรเด็ดออกมาให้มันแห้งเหี่ยว ปล่อยให้มันเบ่งบานสวยงามอยู่อย่างนั้นน่าจะดีกว่า เขาคิดอย่างนั้น
“สูบบ่อยไม่ดีนะคะ”
“บางอย่างมีดี และไม่ดีทั้งนั้นแหละ”
“อืม งั้นเอามาสูบหน่อย”
“เฮ้...” พอเธอพูดอย่างนั้น ก้นบุหรี่ที่ใกล้หมดก็ถูกดับด้วยปลายเท้าของเขา ก่อนที่เขาจะโยนมันลงถึงขยะ
“ยิ้มอะไร”
“ก็ เปล่าค่ะ” พอตเตอร์เพียงแค่ขมวดคิ้วให้เธอ ก่อนที่เขาจะเดินนำหน้าเธอไปขึ้นรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกลสนามแข่งรถมากนัก
“พี่ไปฟังชาร้องเพลงไหม คลายเครียด”
“อืม”
“โอเค อย่าลืมกฎของเรา ถ้าไปผับกับชาห้ามควงสาว”
“หึ” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถให้เธอ
“งั้น...พี่ไม่ไปละ”
“ได้เหรอ”
“ก็คงอย่างงั้น เพราะพี่อยากควงสาววันนี้” ใบหน้าเล็กของน้ำชาถอดสีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เธอจะรีบดึงสีหน้าให้กลับมาเป็นดังเดิม
“งั้น กลับบ้านพักก่อนก็ได้ค่ะ ให้ชาไปเอารถตัวเองก่อนก็แล้วกัน” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่ปิดประตูรถให้เธอก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ
แม้นว่าจะรู้ดีว่าเธอก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับเขา แต่เขายังไม่พร้อมที่จะจริงจังกับใครในตอนนี้ อีกอย่างเขาต้องการปล่อยให้เธอไปเจอคนที่ดี และถึงวันนั้นเขาก็พร้อมจะยินดีกับเธอแม้ว่าจะต้องเสียใจ แต่สุดท้ายแล้วถ้าเธอยังไม่ได้เจอใครที่ดีพอ เขาก็อยากจะเป็นคนนั้นให้เธอ...สักวัน