บทที่ 2
พี่แทนของน้อง
พอฝนซาฟ้าก็สดใส ยุริญดาหอบเอาแฟ้มงานหอบใหญ่ออกจากรถของตัวเอง เธอยิ้มให้กับอากาศอันสดชื่นยามเช้า เมื่อคืนฝนตกหนัก พลอยทำต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี เธอชอบบรรยากาศดีๆ แบบนี้ ชอบที่สุดคือได้หลุดออกจากกรงของบิดามารดา แม้เพียงชั่วครู่ชั่วยามก็ยังดี
“บ่ายสองพี่จะมารับนะ รอรับโทรศัพท์พี่ด้วย” ริษาบอกคนที่เธอเพิ่งขับรถมาส่ง
“เลตสักชั่วโมงไม่ได้เหรอ ฉันก็อยากไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง”
ยุริญดาต่อรองกับพี่เลี้ยง แม้อายุห่างกันเพียงสองปี แต่ริษานั้นโตเป็นผู้ใหญ่กว่าเจ้านายมากนัก
“ได้สิคะ ถ้าคุณท่านสั่งมาพี่จะเลตให้ ลองโทรไปหาคุณพ่อดูสิ”
พอพี่เลี้ยงเอ่ยอย่างนั้น ยุริญดาก็ค้อนขวับ
“พี่นี่โหดจริงๆ ไม่คิดจะขัดคำสั่งพ่อฉันบ้างเหรอ”
พี่เลี้ยงสาวยิ้มรับอย่างขออภัย ยุริญดาหอบแฟ้มงานเอาไว้แล้วร่ำลาเจ้าหล่อนดิบดี เพื่อนนักศึกษาเริ่มเดินกันขวักไขว่ ส่วนมากก็คนที่มีเรียนเช้า ส่วนเธอมีเรียนตอนเก้าโมงเศษๆ คิดว่าจะหอบแฟ้มงานไปส่งอาจารย์แล้วค่อยไปหาอะไรกินที่ร้านข้าง ม. เธอรีบออกมาจนไม่ได้กินมื้อเช้าที่ริษาเตรียมไว้ให้
ยุริญดาในชุดนักศึกษาที่กระโปรงพลีทยาวคลุมเข่า ส่วนตัวเสื้อเหมือนจะใส่เบอร์ใหญ่กว่าปกติไปสองเบอร์ หญิงสาวแต่งหน้าเพียงบางๆ แต่พวงแก้มสวยและดวงตากลมโตดำขลับก็ทำให้คนที่เฝ้าดูอยู่สะดุดตาเอาง่ายๆ
แทนไทก้าวออกมาจากหลังต้นเสาที่หน้าตึกคณะบริหารฯ ยุริญดามองเขาเช่นที่มองเพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆ ไม่ได้มีปฏิกิริยาอื่นใดแม้แต่น้อย
“นี่! ใจคอจะไม่ทักฉันหน่อยเหรอ”
แทนไทในชุดนักศึกษาที่ยัดชายลงในกางเกงไม่เรียบร้อยนัก เอ่ยทักน้องสาวเพื่อนด้วยเสียงห้วนๆ วีรกรรมของยุริญดานั้น เขาจำฝังใจทีเดียว
“ทักทำไม รั้วบ้านก็ติดกัน เห็นหน้ากันแทบจะสามเวลาหลังอาหาร”
“แล้วเรื่องเมื่อวานล่ะ”
ยุริญดาทำหน้าครุ่นคิด สองมือยังหอบแฟ้มงาน สองขาก้าวไปยังลิฟต์ตัวที่อยู่ใกล้สุด แทนไทตามเธอมา และคว้าเอาแฟ้มทั้งหมดไปถือไว้เสียเอง
“เรื่องเมื่อวานอะไร อ้อ...” เธอละไว้ในฐานที่เข้าใจ เข้าลิฟต์ไปกำลังจะกดชั้นที่ต้องการ น้องนักศึกษาชั้นปีหนึ่งที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าก็ก้าวขาจะเข้ามาในลิฟต์ด้วย ทว่ารุ่นพี่ปีสี่ขาโหดอย่างแทนไท กลับถลึงตาใส่จนพวกเขาถอยร่นออกไปตามๆ กัน เธอส่ายหัวระอา แต่ก็ยอมกดปุ่มให้ลิฟต์เลื่อนขึ้นไป
“เธอลืมเหรอ ลืมง่ายๆ เนี่ยนะ?”
“แล้วพี่จะมาอะไรกับฉันล่ะ งานฉันเยอะพี่ก็เห็น” เธอชี้ใส่แฟ้มงานในอ้อมแขนเขา
“แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะลืมง่ายๆ เธอนี่มัน...”
แทนไทสุดจะเอ่ยคำใด ได้แต่เม้มปากแน่น ระงับความขุ่นเคือง
ยุริญดากลั้นขำ เอื้อมมือไปหาท่อนแขนตึงเปรี๊ยะที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อแขนยาวที่พับแขนขึ้นมาถึงศอก เธอตบแขนเขาเบาๆ ราวกับปลอบประโลม
“เอาน่า...อย่าคิดมาก ฉันไม่บอกใครหรอกว่าของพี่น่ะไม่อร่อย”
แทนไทมึนงง ยัยคนนี้พูดบ้าอะไรนี่
“แน่ะๆๆ ยังมาถลึงตาใส่เราอีก เขินละสิ ไม่ต้องเขินนะพี่ ทั้งดื่มหนักทั้งสูบบุหรี่อย่างพี่น่ะ รสชาติมันก็คงประมาณนั้นแหละ”
“นี่เธอ!?”
“จุ๊ๆๆ ไม่เถียงกันได้ไหม เสียพลังงานมากเลย ฉันหิวนะเนี่ย”
“สรุปว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องเมื่อวานเลยใช่ไหม”
“อะไรวะพี่นี่! พูดไม่รู้เรื่อง ก็ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง ก็เออ...เสียวดีนั่นแหละ”
“ยุริญดา!?”
“โอ๊ย! จะมาร้องใส่หน้าฉันทำไมฮะ”
“ก็เธอ...เธอ!”
ป้าบๆๆ
เสียงมือน้อยตบแรงๆ บนบ่าของชายหนุ่ม แทนไทมองมือหล่อนตาขวาง นี่เขาเป็นเพื่อนเล่นหล่อนหรือไง
“ใจเย็นๆ พี่ ฉันเข้าใจพี่นะ แต่ว่า...ฉันโตแล้วไง ถึงจะแอบแรดไปบ้างแต่ฉันก็เลือกนะ หน้าที่ฉันคือเรียนหนังสือ ฉันไม่หาเรื่องใส่ตัวด้วยการมีแฟนให้แม่ด่าหรอก โดยเฉพาะแฟนแบบพี่เนี่ย ตกลงคบกันไปฉันคงน้ำตาเช็ดหัวเข่า โอ๊ย...แค่คิดยังสงสารตัวเอง ไม่ไหวอะพี่ ฉันว่าฉันตั้งใจเรียนดีกว่า”
แทนไทอ้าปากค้างเมื่อพูดไม่ทันแม่คนช่างจ้อ สิ่งที่อยากพูดถูกเบรกจนหมดหนทาง แล้วเขาจะพูดอะไรได้อีก
ติ๊ง!
สัญญาณลิฟต์ดังเมื่อถึงที่หมาย ยุริญดายิ้มร่า เอื้อมมือไปหาแฟ้มงานของตัวเอง แต่ว่า...
โครม!
แฟ้มงานมากกว่าหนึ่งหล่นลงเบื้องล่าง ยุริญดามองมันอย่างตกตะลึง แทนไทยักไหล่ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“พอดีมือฉันไม่มีแรงน่ะ สงสัยร่างกายต้องการคาเฟอีน เธอก็...รีบๆ เก็บแล้วเอาไปส่งอาจารย์เองละกัน” พูดจบก็เดินออกจากลิฟต์ด้วยมาดกวนๆ
ยุริญดาถลึงตาใส่แผ่นหลังกว้างของเขา ก้มลงเก็บเอาแฟ้มงาน ปากก็ให้พรเขาไปด้วย
“ไอ้คนเลว! ขาดคาเฟอีนอย่างนั้นเหรอ หายาโรคประสาทแดกเหอะจะได้หายบ้า! ฮึ่ม!” ครางฮึ่มๆ ด้วยเคืองใจในการกระทำของเพื่อนพี่ชาย พวกเธอเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกันแต่คนละสาขา อันที่จริงเมื่อวานมันคือความผิดพลาดนะ เธอไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นกับใครหรอก ถึงบางทีจะอยากก็เถอะ ต้องโทษฝนนั่นแหละ โทษฝนที่ตกกระหน่ำกับความมือไวใจกล้าหน้าด้านของเขานั่นแหละ!