EP. 1 : ถ้าเธอหนี เธอเจอฉันแน่
“คุณหญิงปุ้ม วันนี้ที่เดิมไหมคะ”
“จะพลาดเหรอคะ ไปให้สุดแล้วหยุดที่สลบ”
“ฮ่าๆ เออๆ กูชอบๆ”
ฉันกับเพื่อนพากันหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็เก็บของบนโต๊ะใส่กระเป๋า อ่อ สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ปุ้ม ชื่อจริงก็ นางสาวชรินทร์ทิพย์ ตั้งคงประเสริฐ อายุ 20 ปี เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ปีที่ 2 เป็นลูกเป็นหลานแม่ย่าโมจ่ะ คนบ้านเอง ตอนนี้สีผมฉันทำสีหม่นเท่า ยาวถึงกลางหลัง ตัดหน้าม้าซีทรู ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโต ปากกระจับ รูปหน้าทรงวี ฉีดนู่นเติมนี่ แล้วดูจากการคุยของพวกฉันแล้ว ใช่ค่ะ ฉันไม่ใช่สาวหวานแน่นอน เปรี้ยวจี๊ด เปรี้ยวจนก้นกระดก สูง 167 น้ำหนัก 51 สัดส่วนของดิฉันก็คือ 40 27 39 มีน้ำมีนวลเนื้อแน่นมากค่ะ บวมเหล้าไม่ใช่อะไร คิกๆ บรรยากาศมันดี ข้อไก่อร่อย อ่อ ฉันเรียนการตลาดจ่ะ ตอนนี้ก็ไลฟ์สดขายเสื้อผ้าแล้วก็ขายทุกอย่างที่หามาขายได้ คนติดตามเพจฉันก็ 2.3 ล้านคน เฟสบุ๊คส่วนตัวก็ประมาณ 1.1 ล้านคน แล้วเพื่อนที่สนิทเลยมีอยู่ 10 คน ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิด ขออนุญาตไล่ชื่อเพื่อนนะคะ เพื่อนผู้หญิงก็มี เทียนหอม น้ำอิง อาย เพลิน กระแต เพื่อนสาวก็มี อินดี้ น้ำปั่น ปาแปง ดาต้า แล้วก็อิ่มเอม ถ้าถามว่าสนิทกันแค่ไหน คือเพื่อนตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงตอนนี้เลยแม่ ไม่รับใครเข้ากลุ่ม แต่ก็คุยกับเพื่อนในห้องนะ ไม่ได้เชิ่ด แต่มันก็จะมีกลุ่มที่เราเข้าใจกันอะ อ่อแล้วสไตล์การแต่งตัวคือเสื้อพอดีตัว พอดีแบบพอดี แล้วก็กระโปรงทรงเอผ่าหน้ายาว 16 รองเท้าส้นสูง 5 นิ้ว กระเป๋าแบรนด์ที่ชอบหนึ่ง ฉันเป็นลูกคนที่สอง มีพี่ชายหนึ่งคน เรียนจบได้สองปี ตอนนี้พี่เขาเป็น ส.ส.ไปแล้ว แล้วก็มีน้องสาวหนึ่งคน ตอนนี้อยู่ ม.4 เรียนอยู่โรงเรียนของจังหวัด ส่วนฉันซื้อบ้านที่โครงการบ้านใกล้มออยู่เลย ถ้าว่างหรือปิดเทอมก็กลับบ้าน พ่อแม่ฉันวัยรุ่นสุดๆ เข้าใจลูก ไม่กดดัน ฉันเลยมีความสุขกับการใช้ชีวิตมาก อุ้ย แนะนำตัวซะยาวเลย ขอไปคุยกับเพื่อนก่อนนะ
“ปะ เลิกครึ่งวัน ไปกินอะไรกันดี”
“ไปกินร้านอาหารข้างมอกันดีกั่ว”
“ขุนพระ อิแปง เว่าให้ชัดค่ะ ดีกว่า”
“โอ๊ย กูคนโคราชบ้านเองค่ะ ชัดสุดชีวิตแล้วนิ”
“คิกๆ สัสเอ๊ย อุ้ย หนุ่มวิศวะห้องนั้นเลิกพร้อมเราอีกแล้ว”
“อิดี้ เขาเลิกเวลานี้กันหมดแหละค่ะ ฮัลโหล”
“ค่ะ ไปค่ะ”
ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็พากันเดินออกมา แล้วคือมันมอรัฐบาลอะเนาะ ลิฟต์มีบ้างแต่ก็ไม่ใช่ทุกตึก ส่วนมากก็เดินเองจ่ะ ถ้ารอลิฟต์มันก็นาน ฉันเลยชอบเดินกันมากกว่า
“มึงว่าถ้าถึงรุ่นลูกเรา เขาจะเพิ่มลิฟต์หรือเปล่าวะ กูสงสารลูกกูเด้สู”
“เออ เดินลงไม่เท่าไหร่ กูท้อตอนเดินขึ้นมากมากแม่”
“อุ้ย”
ฉันเดินมาถึงทางลงบันไดแล้วก็เจอกับกลุ่มผู้ชายที่เขาเรียนวิศวะ ถ้าถามว่าทำไมรู้ เสื้อช็อปจ่ะ มอฉันเสื้อช็อปสีแดง แล้วเขาก็จะลงเหมือนกัน ฉันเลยพากันหยุด เขาก็พากันหยุด แล้วสายตาคือสะดุดกับผู้ชายคนหนึ่ง ตัวสูงๆ ผอมๆ ผิวขาว หน้าเนียน เจาะหูข้างหนึ่ง ใส่แว่นตากรอบทอง หน้าออกตี๋ๆ แต่นิ่งสุด แล้วกลุ่มเขาดูดีทุกคนเลย เพราะฉันก็ส่องจ่ะ คิกๆ แต่พอเห็นสายตาที่เขามองมาเท่านั้นแหละ เหมือนไม่พอใจฉันอะ หรือพวกเขาจะรีบแล้วมาเจอฉันเลยลำคานอะไรแบบนี้ปะ ฉันเลยตัดสินใจบอกเพื่อนถอยออกมาให้พวกเขาไปก่อน
“พวกมึงถอยหน่อย”
“ห๊ะ อิปุ้ม มึงถอยให้ผู้ชายไปก่อน”
“เออ มึงสิแมนไปไสว่ะ”
“ไม่เป็นไร พวกเธอไปก่อนเลย”
“อืมๆ เธอไปกันก่อนเลย”
ไม่ใช่เขาหรอก แต่เพื่อนเขาก็ดูนิ่งไม่ต่างกันหรอก แล้วเหมือนเขาก็ยังจ้องฉันอยู่ฉันเลยเบะปากใส่แล้วก็เดินลงมาเลย ไม่งั้นก็จะยืนอยู่ตรงนั้นแหละ แล้วก็ได้ยินเสียงพวกเขาดังขึ้นมาแต่พวกฉันก็ไม่ได้สนใจหรอก หมั่นไส้
“หื้อ ไอ้วี เขาเบะปากใส่มึงใช่ปะวะ”
“เชี้ยยย แล้วยังไง”
“ฮึ”
“ง้วววว”
Part นาวี
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น
“นักศึกษาอย่าลืมทำชิ้นงานมาส่งกันนะครับ คลาสหน้าเช็คชื่อออนไลน์แล้วคุณก็ทำชิ้นงานกัน มาเจอกันอีกทีอาทิตย์ถัดไปพร้อมนำเสนอชิ้นงาน ถ้าใครชิ้นงานไม่เสร็จผมขออนุญาตให้ f ในวิชานี้นะครับ เพราะผมให้เวลาคุณทำงาน ถ้าไม่เสร็จคุณก็ติดวิชานี้แล้วเอามาเจอกันเทอมต่อไปหรือซัมเมอร์ สำหรับวันนี้เลิกเรียนได้ครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
“กูกำลังจะบอกว่าอาจารย์เขาใจดี แต่พอฟังอาจารย์แกพูดสรุปอาจารย์เขาใจดีปะวะ”
ผมยิ้มมุมปากก่อนจะตอบไอ้แพ็คกลับไปตามความคิดของตัวเอง
“ฮึ แต่อาจารย์เขาก็พูดถูกนะ ไม่ทำ ไม่ส่งก็ตกแล้วเจอกับเขาใหม่”
“ครับ ไอ้คุณนาวี ไอ้ลูกรักของอาจารย์ทุกคน”
“เออ ขนาดแม่งไม่ค่อยพูดนะ ถ้ามันพูดเยอะคงไม่ต้องทำอะไรอาจารย์เขาก็ให้ A ไว้รอแล้วอะ”
“ฮ่าๆ เออ อันนี้ได้”
“ปะ กลับ”
“เออๆ เฮ้ย ก่อนกลับ ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือร้านประจำกัน กูไม่ได้กินข้าวเช้ามา แม่งโคตรหิวเลย”
“เออๆ กูด้วย”
“อืมๆ”
ผมสะพายกระเป๋าคาดอกของแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งแล้วก็ถือไอแพดจากนั้นก็พากันเดินออกมาจากห้องเรียน อ่อ ผมลืมแนะนำตัว สวัสดีครับ ผม นาวี หรือ นาย ทิวากร รติพัฒนานนท์สกุล อายุ 20 เรียนวิศวกรรมโยธา ปีที่ 2 สูง 189 น้ำหนัก 65 คุณพ่อของผมเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ส่วนคุณแม่ก็คนโคราชแท้ ผมเป็นลูกชายคนสุดท้อง บ้านผมมีพี่น้องสี่คน 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด ตอนนี้พี่สาวคนโตของผมก็อายุ 35 ชื่อ นตา คนที่สองอายุ 33 ชื่อ นีน่า คนที่สาม อายุ 30 ชื่อ น้ำอิง พี่นตาเขาเป็นคุณหมอ ส่วนพี่นีน่ากับพี่น้ำอิงเขาทำธุรกิจเป็นของตัวเองแล้วก็ช่วยดูแลธุรกิจของที่บ้าน ที่บ้านผมทำอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่รุ่นปู่ทวดแล้วก็สืบต่อกันมาจนถึงคุณพ่อผม ส่วนคุณแม่เขาก็มีธุรกิจที่แปรรูปเนื้อไก่แล้วก็ขายส่งชิ้นส่วนต่างๆ ของไก่ ส่วนมากก็ส่งไปให้ห้างสรรพสินค้าแล้วก็โรงงานอุตสาหกรรมที่เขาต้องการ ซึ่งผมกับพี่ๆ ทุกคนก็มีหุ้นอยู่ในกิจการของครอบครัวที่ละ 5 หุ้น แล้วทุกคนก็ค่อนข้างจะตามใจผมมากพอสมควรไม่ว่าจะเป็นพี่สาวหรือพ่อแม่ แต่ผมไม่ใช่บุคคลอันตรายบนสังคมนะ ผมเป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง คือถ้าไม่สนิทก็ไม่คุย แต่ถ้าสนิทก็คุยเยอะ แล้วเพื่อนผมคบกันมาตั้งแต่มัธยมเลยสนิทกันมาก จบจากที่เดียวกันแล้วก็มาเรียนต่อคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน ก็มี แพ็ค ไรวิน คีน ภาม ปริญ แล้วก็เติร์ด
“วันนี้ไปผับกูปะ”
“ไปดิ พรุ่งนี้หยุด กูจะแดกให้สติดับเลย”
“เออ กูบวก ไอ้วี มึงไปปะ”
“ไปดิ ไม่นานหรอก”
“อืมๆ”
ผมพากันเดินออกมาจากห้องโดยที่เดินคุยกันมาแล้วก็เห็นกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเดินมาทางนี้เหมือนกันแล้วในจังหวะที่กำลังจะลงบันไดก็เดินมาเจอกันพอดี ซึ่งกลุ่มเขาก็หลายคน กลุ่มผมก็หลายคนผมเลยมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่งๆ แล้วสายตาก็ไปหยุดที่ผู้หญิงคนหนึ่ง สวยแบบเซ็กซี่ๆ ผิวขาวๆ ไม่ถึงกับอวบมากขนาดนั้น แต่ก็มีน้ำมีนวล ไม่พร้อมแห้ง ผมสีเทา แต่ดูจากการแต่งตัวก็รู้เลยว่าเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างจะชอบแต่งตัวเซ็กซี่ เพราะดูจากชุดนักศึกษาที่มันพอดีเหมือนที่บ้านเหลืออยู่ชุดเดียว แล้วพอยัยนั่นมองมาที่ผมแล้วก็บอกให้เพื่อนของตัวเองถอยออกไปจนเพื่อนผมบอกให้กลุ่มยัยนั่นไปก่อน แล้วหน้าตายัยนั่นก็เหมือนจะไม่พอใจแล้วในจังหวะที่กลุ่มผู้หญิงกำลังทยอยลงไปผมเหมือนเห็นยัยนั่นแลบลิ้นใส่ผมนะ ถ้าผมตาไม่ฝาด ผมเลยเลิกคิ้วแล้วพอยัยนั่นกำลังเดินลงไปเพื่อนผมก็พากันพูดขึ้นมา ผมเลยยิ้มมุมปากแล้วก็หยักคิ้วให้เพื่อน เพราะยัยนี่ก็ดูน่าสนใจดีนะ จากนั้นพวกผมก็พากันเดินลงบันไดตามหลังยัยนั่นมา
“แม๊ อะไรยังไง”
“อะไรยังไงล่ะ วันนี้กิ๋นอะไรกั๋นดีวะ”
“อุ้ย คุณปุ้ม พูดให้ชัดค่ะ วันนี้กินอะไรกันดีวะ”
“บ่ แม่ย่าต้องภูมิใจ๋ในตัวฉันจ่ะพี่”
“คิกๆ จริง ภาษาบ้านเราน่ารักเต็มสิบ ขนาดว่ามีพจนานุกรมภาษาโคราชเลยเด้อ”
“จริง งั้นเราไปกินก๋วยเตี๋ยวหลังมอกั๋น”
“ดีย์ รีบกินรีบกลับไปนอน เก็บแรงไปผับค่ะ”
ฉันหัวเราะออกมาแล้วก็ตอบเพื่อนกลับไป คือเห็นกลุ่มฉันแรงแต่เข้าเรียนทุกครั้ง ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย เมาหัวทิ่มก็ตื่นมาสู้ค่ะ แล้วถ้าอยู่ในห้องก็ตั้งใจเรียน งานส่งครบ เกรดของเทอมที่ผ่านมาคือ 3.89 แต่พอออกมาจากห้องเรียนก็ทิ้งค่ะ ไม่คิด ไม่คุย ไม่อะไรทั้งนั้น เพราะเอาเวลาตรงนี้มาใช้ชีวิตค่ะ
“บวกค่ะ ปะ”
“ไอ้วี กูว่าเขาใช่ของมึงแล้วแหละ”
“อะไรของพวกมึง เขาใช่อะไร”
“นู่น”
“เชรดด จอดรถข้างกันด้วยครับผม”
ผมเดินมาถึงที่จอดรถแล้วก็มองไปที่รถของผมซึ่งยัยผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็จอดรถสปอร์ตสีขาวข้างรถของผม พักเดี๋ยวเท่านั้นแหละ
“กูว่าวันนี้กูคงก้าวขาผิดตอนออกจากบ้าน”
“ฮ่าๆ โคตรโบะบ๊ะเลย”
ครืดคราด
“สาว เสียงอะไรวะ”
“อย่าบอกนะ”
ฉันถอยรถแล้วเหมือนมันจอดชิดกันมากอะ ฉันเลยกะระยะผิดรถฉันเลยขูดกับรถสปอร์ตสีแดงที่จอดอยู่ข้างๆ ฉันเลยบอกไอ้อินดี้กับไอ้น้ำปั่นที่มากับฉัน
“เดี๋ยวเราลงรอเจ้าของรถเขาก่อนแล้วกัน”
“เออๆ”
“มึง แล้วเจ้าของรถเขาจะมาตอนไหนวะ”
“ไม่รู้ว่ะ รอหน่อยแล้วกัน ถ้าเขายังไม่มาเดี๋ยวเขียนใส่กระดาษแล้วก็เหน็บไว้ข้างหน้า”
“เคๆ อิปุ้มๆ”
“หื้อ”
“นั่นกลุ่มที่เราเจอวันนี้นี่หว่า มึงดูทั่วะ”
ฉันกอดอกแล้วก็มองไปตามเพื่อนที่ส่งซิกให้ฉันหันไปมอง พอฉันหันไปก็เห็นว่าใช่จริงๆ ด้วย แล้วคนที่หน้านิ่งๆ ที่ฉันแลบลิ้นใส่ก็เดินมาทางนี้พร้อมกับเพื่อนเขา
“อย่าบอกนะว่าปอร์เช่สีแดงคันนี้เป็นของเขา แม่เจ้า กามเทพแผงศรเข้าหามึงแล้วค่ะคุณนายปุ้ม แม่ลักษมีประทานให้มึงเต็มคาราเบลเลยแม่”
“งื้ออ กูอิจฉาอะ กูต้องมูบ้างละ หล่อ เบ้าดีมาก ฐานะก็คงสมกัน กูว่าเขานี่แหละ ว่าที่ผัวอิหญิงปุ้มของกู”
“แต่มึงดูนางสองคนก๊อน จะแดกหัวกันอยู่แล้ว”
“คือฉันอันดับแรกฉันขอโทษถ้าเป็นรถของนาย ฉันขับรถโดนรถนายแล้วรถนายก็เป็นรอย นายเอาเข้าศูนย์แล้วกัน ส่วนค่าใช้จ่ายฉันรับผิดชอบเองทั้งหมด ฉันไม่หนี ฉันรับผิดชอบ”
“มันเยอะปะวะไอ้วี”
ผมละสายตาจากยัยผู้หญิงที่ยืนอยู่แล้วก็มองไปที่รอย ซึ่งมันก็หลายรอยนั่นแหละ แต่ไม่ได้ยาวมาก เป็นรอยแถวๆ ฝั่งประตูของผม ซึ่งคันนี้ผมเพิ่งซื้อเอามาขับได้ไม่ถึงอาทิตย์ยัยนี่ก็เจิมให้ผมซะละ
“ก็พอได้ ลูกกูยังไม่ถึงมือหลวงพ่อเลย เจิมให้กูซะละ”
“ฮ่าๆ สัสเอ๊ย”
“พรืด อิปุ้ม เขาเป็นคนตลก”
ฉันมองคนตัวสูงที่ดูไม่ได้เดือดร้อนหรือหัวเสียอะไร แต่มันก็ต้องมีความไม่พอใจอยู่นิดหน่อยนั่นแหละ เพราะของใครเขาก็รัก แต่ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจแล้วก็ไม่ได้หนีนะ
“แล้วนายจะเอายังไง ฉันรับผิดชอบนะ ฉันไม่ได้หนี”
“ดีที่เธอไม่หนี ถ้าเธอหนี เธอเจอฉันแน่”