ข่าวร้าย&สู่ขอ

1701 Words
เวลาต่อมา “ แม่จ๋า หนูหิวจังเลยคะ” เบญรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเธอก็บ่นออกมาว่าหิวพอดี แก้วกับเฟยที่กำลังจัดการมื้อเย็นอยู่นั้นเมื่อเห็นคนเป็นลูกเดินออกมาจากห้องนอนแล้วก็บ่นว่าหิวอย่างกับเด็กๆ ทั้งคู่ก็อดยิ้มอย่างนึกเอ็นดูลูกสาวไม่ได้ “ ยัยตัวแสบ ตื่นมาก็ร้องหิวเลยนะลูก มาๆนั่งๆก่อน เดี๋ยวแม่ตักข้าวให้” แก้วบอกผู้เป็นลูกให้นั่งลงก่อน เบญเมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่กับมาเธอกลับมาเพื่อเติมพลัง แต่ระหว่างที่เบญกับครอบครัวกำลังกินข้าวเย็นและก็คุยกันอย่างออกรสออกชาติอยู่นั้น อยู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ จากทางบริษัทโทรเข้ามา กริ๊ง…..กริ๊ง…..กริ๊ง… “ คะ” เบญกดรับสายก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่งเปลี่ยนท่าทางการพูดทันทีเพราะเธออยู่ในสถานะลาพักร้อนไม่ก่อนมาเธอบอกบอสแล้วว่าห้ามโทรตามห้ามโทรหาเพราะเธออยากกลับไปพักผ่อน ( โทษทีเบญญา พอดีที่ไซส์งานเกิดเรื่องคนงานแทงกันตายแล้วก็แผ่นดินไหวทำให้ตึกถล่มลงมาทับคนงานของเราตายกันหมดเลย ทางเจ้าของที่ดินเคยบอกเราแล้วว่าถ้าเกิดเรื่องอะไรแบบนี้เขาจะไม่จ่ายและก็รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เขาถือว่าไม่ใช่ความผิดของเขาเบญเราจะทำยังไงดี ) บอสเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่โทรมารายงานเกี่ยวกับไซสืงานที่เธอรับผิดชอบ เบญเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ตกใจเป็นอย่างมากเธอไม่ได้ตกใจเรื่องที่แผ่นดินไหว แต่เธอตกใจที่ลูกน้องอยู่ๆฆ่ากันตายได้ยังไง และทีมของเธอไม่มีใครกินเหล้าหรือว่าเที่ยวอย่างว่าเลยเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ แล้วไหนจะเรื่องที่ตึกถล่มลงมาทับคนงานทีมเธออีก ด้วยความที่ทุกคนอยู่กันมานานและก็อยู่กันอย่างครอบครัวเลยทำให้เบญรู้สึกตกใจและก็ตัวชาวูบขึ้นมาทันที “ บอส เราจะเอายังไงกันดีนั้นมันครอบครัวของเบญที่ทำงานกันมาตั้ง5ปีเลยนะคะ อึก อึก อึก “ เบญเมื่อตั้งสติได้เธอก็ถามบอสทันทีว่าเธอจะทำยังไงดี เพราะคนงานของเธอทุกคนล้วนแล้วแต่เหมือนครอบครัวของเธอ ทุกคนนอนกลางดินกินกลางทรายเหมือนกัน สู้งานมาด้วยกันเมื่อเธอนึกถึงพวกเขาน้ำตาของเธอก็ไหลแมะลงมาทันที จากนั้นเธอก็คุยกับกับบอสด้วยสีหน้าเครียดเป็นอย่างมาก แก้วกับเฟยมองหน้ากันด้วยความเป็นห่วงลูกสาว เพราะเรื่องที่เธอกับสามีกลัวมาตลอดก็เกิดขึ้น หลังจากที่เบญคุยกับบอสเสร็จแล้วเธอก็เดินเข้ามาหาพ่อกับแม่ก่อนจะนั่งที่โต๊ะกินข้าวด้วยหัวใจที่แตกสะลายเพราะเพื่อนคู่ทุกคู่ยากของเธอบาดเจ็บล้มตายกัน “ เบญเอ้ยฟังแม่นะลูก จำที่คุณยายพุดตอนที่หนูไปบวชครั้งแรกตอนอายุ15ปีได้ไหมลูก “ แก้วเอ้ยออกมาเพื่อเรียกสติของลูกสาวเพราะเธอรู้ว่าตอนนี้ลูกสาวของเธอรู้สึกยังไง เฟยก็เอามือมากุมที่มือของลูกสาวเพื่อให้กำลังใจ เบญเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่เรียกสติเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อ10ปีก่อน “ เบญ หลังจากนี้ยายขอให้ลูกมีสติให้มากขึ้นนะลูกไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นยายอยากให้เบญมีสติ ไม่มีปัญหาอะไรที่อยู่กับเราตลอดชีวิตหรอกนะลูก ยายขอให้หลานของยายตั้งมั้นอยู่ในศิลและก็สติ “ ยายหน่อยบอกผู้เป็นหลานสาวด้วยความเป็นห่วง ตอนนั้นเบญยังเด็กเธอไม่ได้คิดอะไรเยอะแต่พอครั้งนี้เบญกับนึกถึงสิ่งที่คุณยายเคยพูดไว้ กลับมาที่ปัจจุบัน “ เบญไปบวชเถอะนะลูกไปบวชที่วัดป่าไผ่ ตามที่หลวงตาเคยบอกไว้” แก้วบอกผู้เป็นลูกสาว ในขณะที่เบญกำลังร้องไห้เสีใจอยู่นั้น อยู่พี่ทองก็มีท่าทางแปลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พี่ทองเลื่อยมาชูคอมองเบญจากนั้นน้ำตาของพี่ทองก็ไหลออกมาอย่างกับว่าเสียใจกับเบญ เบญ แก้ว เฟย เมื่อเห็นแบบนั้นทั้งคู่ก็ตกใจเป็นอย่างมาก ตอนที่เบญอายุครบ15ปีพี่ทองสามารถแปลงร่างได้ ตอนนี้เบญอายุ25ปีพี่ทองก็ร้องไห้ออกมา “ พี่ทองพี่ทองเสียใจตามเบญเหรอจ๊ะ ฮืออออออ พี่ทอง เบญอยากให้พี่ทองเป็นคนจังเลยพี่ทองคงจะเป็นพี่ที่ดีของเบญคงจะปลอบใจเบญ หรือว่าช่วยเบญแก้ปัญหานะจ๊ะ “ เบญร้องไห้พูดออกมาด้วยความรู้สึกจริงจังเพราะคนที่อยู่ข้างเธอตอนที่เธอมีปัญหานอกจากครอบครัวแล้วก็มีพี่ทองนี้แหละที่อยู่ข้างเธอ เบญก็เลยพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นตันใจถึงแม้ว่าความจริงแล้วเรื่องที่เธอพูดนั้นจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย " ยังเคราะดีนะลูกที่หนูกลับมาบ้านถ้าวันนี้หนูไม่กลับมาพ่อไม่อยากคิดเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ จะเป็นยังไง” เฟยพูดออกมาด้วยความจริงเมื่อนึกถึงลูกสาวที่ทำงานอย่างกับผู้ชายเธอไม่เคยปล่อยให้ลูกน้องทำงานหนักคนเดียว เบญเธอทำงานทุกอย่างเหมือนกับลูกน้องทำ ด้วยความที่เธอเป็นลูกพี่ที่ดีเลยทำให้ลูกน้องรักและก็ทำงานอย่างทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง เบญเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่าจริงอย่างที่พ่อพูด ถ้าวันนี้เธอไม่กลับมาละก็เรื่องราวคงไม่ใช่แบบนี้แน่นอน เธออาจจะต้องเป็นคนที่อยู่ในโรงพร้อมกันกับลูกน้องของเธอเป็นแน่ ระหว่างที่3คนพ่อแม่ลูกกำลังคุยกันอยู่นั้นอยู่ๆก็มีเสียงรถของคุนขับเข้ามาในบ้านด้วยความเร็ว เฟย แก้ว และก็เบญที่กำลังนั่งกลุ้มใจอยู่นั้นทั้ง3ที่นั่งปรึกษาหาลือกันอยู่ก็มองอย่างสนใจเพราะคนที่มานั้นไม่ใช่แค่คุนแต่เป็นกังกับเมียด้วย “ อ้าวกัง เหมย ไปไงมาไงถึงได้ยกกันมาทั้งครอบครัวแบบนี้ละ” เฟยถามออกมาด้วยความสงสัยว่าเพื่อนมาทำอะไรที่นี้เพราะเวลานี้เป็นเวลาของครอบครัว กังเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็ยิ้มอย่างขำขันอย่างคนไม่รู้ว่าที่นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น “ ฮ่าๆฮ่าๆ ทำไมกูจะมาไม่ได้ว่ะบ้านมึงกูก็มาบ่อยจะตายห่า “ กังหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างคนไม่รู้เรื่อง เฟยที่กำลังเครียดอยู่ตอนนี้ก็แทบกระโดดกัดคอเพื่อนแต่ก็ได้แก้วห้ามไว้ได้ทัน เบญเมื่อเห็นเพื่อนของพ่อกับแม่เธอก็ยกมือไหว้อย่างทำความเคารพ “ สวัสดีคะคุณลุง คุณป้า พี่คุน” เบญยกมือไหว้สวัสดีทั้งสามอย่างนอบน้อมแล้วก็ทำท่าจะเดินเข้าบ้านเพราะเธอคงไม่มีอารมณ์จะคุยอะไรกับผู้ใหญ่เพราะเรื่องที่เธอเจอมันหนักเกินไป เบญที่ทำท่าจะเดินเข้าบ้านคุนก็ร้องทักเอาไว้ก่อนเพราะเขาคิดถึงเธอมาตลอดทั้งวัน “ เบญคุยกันก่อนได้ไหมพี่กับครอบครัวมีเรื่องจะคุยด้วย” คุน เรียกหญิงสาวที่กำลังจะเดินเข้าบ้านเธอก็หันมามองคุนและก็พ่อแม่ของชายหนุ่มก่อนจะหันมามองพ่อแม่ของเธอเอง เฟยขมวดคิ้วหนามองมายังเพื่อนด้วยความรู้สึกมีแต่คำถามว่ามันมีเรื่องอะไรถึงได้เรียกลูกสาวของเขาไว้ เมื่อผู้ใหญ่เรียกไว้เบญที่อุ้มพี่ทองอยู่ในอ้อมกอดแบบนั้นเธอก็มานั่งลง ตามที่ผู้ใหญ่ขอ “ ว่ามามึงมีเรื่องอะไรไอ้กัง” เฟยพูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง กังเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดออกมาอย่างเป็นงานเป็นการ “ เอาละถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน เมื่อ15ปีก่อนกูเคยให้ลูกชายเอาจดหมายมาส่งให้มึง มึงได้จดหมายนั้นแล้วใช่มั้ย” กังถามเพื่อนรักออกมาอย่างหยั่งเชิงดูก่อน เฟยเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วหนามองเพื่อนด้วยความสงสัยก่อนจะหันมามองลูกสาว เบญเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็นึกถึงวันนั้นวันที่เธอโดน ไอติมกับเพื่อนลุมทำร้ายเพื่อที่จะแย่งซองจดหมายของเธอ แต่ด้วยความที่วันนั้นเธอกับครอบครัวรีบกลับไทยเบญก็เลยไม่มีเวลาอธิบายให้ใครฟัง เมื่อคุนและครอบครัวได้ยินแบบนั้นทั้งสามก็รู้ได้ทันทีว่าเฟยกับแก้วยังไม่รู้ว่าจดหมายที่เขียนมาวันนั้นเขาเขียนอะไรไว้ “ เอาละถ้าอย่างนั้นฉันก็จะบอกเองว่าจดหมายนั้นเขียนว่าอะไร” กังพูดออกมาด้วยน้ำเสียงซีเรียสตอนนี้บรรยากาศเริ่มตึงเครียดเป็นอย่างมาก เบญรู้สึกได้ขนาดพี่ทองที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอยังไม่กระดุกกระดิกเลย “ จดหมายที่กูเขียนวันนั้น กูบอกว่ากูอยากได้หนูเบญมาเป็นลูกสะไภ้ แต่เกิดความผิดพลาดกูก็เลยไม่รู้แต่ว่าวันนี้ในเมื่ออยู่กันพร้อมหน้ากันแล้วกูขอพูดเลยก็แล้วกัน กูอยากได้หนูเบญมาเป็นลูกสะไภ้มึงจะว่ายังไง “ กังพูดออกมาด้วยเสียงจริงจัง เฟยเมื่อได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้นความเงียบก็เข้ามาครอบงำทันที เบญที่กำลังเครียดเรื่องคนงานก็ต้องช็อกเพราะเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามาลุมเร้าเธอ เธอรู้ว่าเธอไม่ได้รักชายหนุ่มไม่รู้ทำไมเหมือนกันเธอไม่เคยคิดที่จะมองหรือว่ารักเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD