ณัฏฐนิชนอนร้องไห้กระซิกได้เพียงชั่วครู่อาการวูบวาบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็เริ่มคืบคลานเข้ามาร่างกายวูบวาบผิดวิสัย หญิงสาวรู้สึกร้อนรุ่มภายในจนต้องหายใจถี่ขึ้น มือสองข้างกำจิกผ้าปูที่นอนแน่น กายสาวเริ่มสั่นเทาด้วยความรู้สึกแปลกๆ “หึ หึ หึ ยาเริ่มออกฤทธิ์แล้วล่ะสิ” ชายหนุ่มร่างใหญ่มีเพียงกางเกงชั้นในสีดำตัวเดียวติดกายที่นั่งอยู่ข้างๆ เพื่อรอคอยเวลา พลิกตัวคร่อมร่างบอบบางที่นอนตะแคงซ่อนใบหน้าไว้ใต้พวงผมดกดำ
อคิราห์ค่อยๆ โน้มใบหน้าปัดปอยผมออกจากพวงแก้มเป่าลมอุ่นๆ กระทบใบหน้าเธอที่บัดนี้แดงระเรื่อ เสียงหายใจก็ถี่ขึ้นคล้ายคนเหนื่อยหนัก
“ต้องการฉันหรือยัง...ณัฏฐนิช” ชายหนุ่มถามเสียงกระเส่าแลบลิ้นเลียใบหนูขาวนวลจนเปียกฉ่ำ พรมจูบเบาๆ ทั่วหน้าและลำคอระหงอย่างไม่รีบร้อน
“อื้อ...ช่วยด้วย” เสียงแหบพร่าเบาหวิวหลุดลอดออกมาจากปากบางที่ยามนี้สั่นระริกด้วยความร้อนรุ่ม อคิราห์หยุดภารกิจทุกอย่างแล้วลุกขึ้นหยิบบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อมานั่งสูบอย่างใจเย็น เขาแสยะยิ้มกับความทรมานของหญิงสาวที่กำลังนอนบิดกายฉีกทึ้งชุดนอนสีขาวให้พ้นตัว
“คนเลว...ทำไม...ทำแบบนี้” แม้ฤทธิ์ของยาจะส่งผลต่อร่างกายแล้วแต่หญิงสาวก็ยังมีสติสัมปชัญญะรับรู้ทุกอย่างได้ดี เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เขาทำเหมือนกับเธอเป็นเพียงสัตว์ตัวหนึ่งที่กำลังมีความต้องการเสพสมอย่างหน้าไม่อาย ไม่มีคำตอบจากคนใจดำ หูได้ยินเพียงเสียงหัวเราะแว่วๆ จากในลำคอของเขา
ความร้อนระอุในตัวเพิ่มสูงขึ้นจนณัฎฐนิชแทบอยากฉีกเสื้อผ้าออกเป็นชิ้นๆ ให้ทันกับใจที่ร้อนรุ่ม หญิงสาวเริ่มคว้าสะเปะสะปะ ลูบไล้ตามสรีระของตัวเอง ชุดนอนที่เป็นกระโปรงถูกถลกขึ้นสูง ขาสองข้างยกชันเข่าขึ้นถ่างออกอย่างลืมอายเรียกเสียงหัวเราะกระหึ่มจากอคิราห์ที่ยังคงนั่งดูดบุหรี่อยู่ข้างๆ
“ฉัน...ช่วยด้วย...อื้อ” หญิงสาวบิดกายเร่าไปมาด้วยความต้องการแปลกประหลาด ใบหน้าแดงซ่านหายใจหอบระรัวขึ้น เอื้อมไปจับแขนอคิราห์ด้วยมือที่สั่นเทาเย็นเฉียบ ชายหนุ่มหันมองเธอกลับด้วยสายตาเหยียดหยาม
“คุณคีม...ได้....ได้โปรด รัญ...รัญไม่ไหวแล้ว”
“ต้องการอะไร...บอกฉันสิว่าเธอต้องการอะไรจากฉัน หึ หึ” เสียงหัวเราะของผู้กำชัยดังเครือครั้งแล้วครั้งเล่าอคิราห์ได้ยาปลุกเซ็กซ์ซองนี้มาจากเพื่อนเก่าคนหนึ่งตอนที่นั่งในบาร์เหล้าตอนที่ไปนั่งดื่มเมื่อตอนหัวค่ำด้วยความบังเอิญ
จากคำบอกเล่า ยาตัวนี้มีฤทธิ์เร็วและแรงมากกว่ายาปลุกเซ็กซ์ชนิดอื่นๆ จึงเป็นที่นิยมกันมากในหมู่นักเที่ยวตอนนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจจะเอาไว้ในตอนแรกแต่ไม่อยากขัดใจคนกันเองจึงรับใส่กระเป๋ากางเกงแก้ขัดไปไว้เท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะได้เอามาใช้งานจริงเร็วขนาดนี้
ชายหนุ่มใช้มือลูบไล้ต้นขาขาวนวลที่ยกแยกออกจากกันจนชายกระโปรงชุดนอนถลกไปถึงต้นขาอ่อนเผยให้เห็นเนินเนื้อสาวที่ถูกปกปิดไว้ภายใต้ชั้นในตัวจิ๋ว เลือดในกายที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ระดับหนึ่งเดือดพล่านไหววูบเหมือนเขาเป็นผู้ที่ถูกวางยาเสียเอง
“รัญ...รัญไม่รู้ ไม่รู้ว่าต้องการอะไรจริงๆ...” ด้วยความไม่เคยรับรู้ในเรื่องความสัมพันธ์ของชายหญิงแม้ว่าจะผ่านบทรักจากเขามาแล้วก็ตาม แต่ความต้องการที่เกิดจากการถูกตัวยากระตุ้นมันมากมายกว่าที่เธอเคยรู้สึกครั้งนั้นมากนัก ณัฏฐนิชได้แต่บิดกายส่ายไปมาบางทีก็ยกสะโพกมนสูงเหมือนจะควานหาอะไรสักอย่าง
“ดูเหนียมๆ อย่างนี้ เอาจริงขึ้นมาไม่เบาเหมือนกันนะ หึ...” ชายหนุ่มโยนบุหรี่ในมือทิ้งแล้วถอดชั้นในเพียงชิ้นเดียวออกกระโจนขึ้นนั่งบนที่นอน รวบคว้าเอาร่างบางมานั่งตรงระหว่างขาของตัวเอง
“นี่ไงล่ะณัฏฐนิช สิ่งที่เธอต้องการ...” ชายหนุ่มจับขาขาวนวลทั้งสองข้างพาดบนหน้าขาแกร่งกระชากแพนตี้ตัวนั้นจนขาดวิ่นปลดปล่อยเนินสาวที่ถูกปกคลุมด้วยปอยไหมบางๆ ออกมารับโลกภายนอก ความสาวที่แยกออกจากกันเปิดให้เห็นร่องสีชมพูอมแดงระเรื่อที่ประดับด้วยเม็ดทับทิมสีสดเต่งนูนอย่างท้าทาย กลีบกุหลาบในร่องหลืบเปียกฉ่ำไปด้วยน้ำหวานที่กลั่นออกมาจากร่างระทวย
ชายหนุ่มที่มองดูแทบอยากจะกดเธอลงนอนแล้วสอดแทรกแก่นกายแข็งขึงเข้าไปในร่องชื้นนั้น และรีบส่งมอบให้เธอเพื่อคลายความต้องการ แต่เขาก็ต้องทนไว้ ชุดนอนสายเดี่ยวถูกร่นจากด้านบนจนลงมาถึงเอวเผยส่วนหัวไหล่ขาวผ่องและสองเต้าอวบอัดที่ถูกโอบอุ้มด้วยบราเพียงครึ่งเต้า เนื้อแน่นก้อนใหญ่ของทรวงอกโผล่พ้นบราออกมาจนแทบเห็นปลายถัน
อคิราห์ไม่รีรอสิ่งใดอีกแล้ว เขาจับแก่นกายของตัวเองที่แข็งดุนดันสะโพกมนออกมาเผชิญหน้ากับร่องสาวที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน จับส่วนหัวถูไถร่องรักจนหยาดน้ำจากกลีบสาวชโลมชุ่ม มือข้างหนึ่งจับมือของเธอเอาไว้ชักนำให้มาคลึงเคล้นเต้าอวบโดยมีมือหนาของเขาประกบทับบงการอยู่
บราสีอ่อนสร้างความรำคาญให้ชายหนุ่มไม่น้อยมันเกะกะขวางกั้นไม่ให้มือได้สัมผัสกับเนื้อแน่นนั่น มันจึงถูกกระชากออกจนขาดเป็นริ้วแล้วถูกโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี ทรวงอกทั้งสองข้างดีดตัวออกจากพันธนาการ มันเต่งตึงชูชันอวดท้าสายตา เนินอกขาวผ่องเหมือนน้ำนมอวบอัดเกินตัวตรงปลายยอดมีปานสีอ่อนประดับด้วยเม็ดบัวสีชมพูสดที่แข็งเป็นไตชี้ชันชูช่อบ่งบอกถึงความต้องการของร่างกาย
“อา...สวยเหลือเกิน ไม่นึกเลยว่าเธอก็มีดีเหมือนกัน” อคิราห์ครางฮือในลำคออย่างพอใจกับสรีระของภรรยาสาว แม้จะผ่านเกมรักกับเธอมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นเขาเมาจนจดจำอะไรไม่ได้สักนิดเลย ไม่เท่าครั้งนี้ที่ได้เห็นและใช้ทุกความรู้สึกสัมผัสร่างกายของเธอ
มือหนากอบกุมมือที่สั่นเทาของเธออีกครั้งจับให้ฟอนเฟ้นทรวงอกตามแรงปรารถนา ณัฏฐนิชครวญครางไม่เป็นศัพท์ ไม่รับรู้อะไรอีกแล้วนอกจากรอรับสิ่งที่เขาป้อนให้ รวมถึงความต้องการที่จะให้เขาเป็นผู้ปลดปล่อยเท่านั้น
“ให้มันได้อย่างนี้สิ...ถึงจะคุ้มกับเงินสิบล้านหน่อย หึ หึ หึ” คำพูดเสียดแทงจิตใจส่งผลให้หญิงสาวหลั่งน้ำตาด้วยความอดสู แม้จิตใจและร่างกายจะกำลังตอบสนองเขาเต็มที่แต่จิตสำนึกลึกๆ แล้วเธอยังรู้ตัวดีว่าทุกอย่างเป็นเพียงความต้องการที่ผิดธรรมชาติไม่ได้เกิดขึ้นเพราะหัวใจเรียกร้องแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มยังคงป้อนสอนบทรักอย่างไม่บันยะบันยัง นิ้วร้ายพัวพันกับนิ้วเล็กของเธอจากมือข้างหนึ่งชักนำไปสู่ใจกลางส่วนล่างใช้กำลังที่เหนือกว่ากดบังคับให้นิ้วเรียวค่อยๆ กรีดกรายตรงรอยแยกร่องหลืบ นิ้วน้อยถูกกดให้แทรกสอดล่วงล้ำสู่ร่างกายของตัวเอง ชายหนุ่มค่อยๆ ชักลากขึ้นลงสำรวจร่องรักทุกซอกมุม ไล้วนกลีบกุหลาบสีสวยทีละข้างจนขึ้นมาถึงปุ่มแข็งสีชมพู ใช้นิ้วของตัวเองกดนิ้วมือเธอเบาๆ เน้นหนักสลับกันแล้วลากวนลงด้านล่างรอยแยกอีกครั้ง คราวนี้ล้วงลึกลงไปที่จุดรวมแห่งความซ่านเสียวนิ้วทั้งสองค่อยๆ คืบคลานหายเข้าไปในช่องทางรักทีละนิดๆ
ณัฏฐนิชสะดุ้งด้วยความเจ็บจี๊ด เนื่องจากนิ้วร้ายของเขานั้นใหญ่ไม่ใช่น้อยยังมาบวกรวมกับนิ้วของเธอเข้าไปอีก ความคับแน่นจึงยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นแก่หญิงสาวมากขึ้นแม้จะมีความเจ็บนิดๆ ปนเปอยู่บ้างแต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับความสยิวที่ได้รับ
อคิราห์บังคับลากเข้าลากออกจนน้ำหวานปริ่มไหลเยิ้มออกมาชโลมทั้งสองนิ้ว บางส่วนยังหยดย้อยไปถึงแก่นกายที่แข็งขึงอยู่เบื้องหน้าเนินสาวด้วยซ้ำเนื่องด้วยตอนนี้เธอนั่งแนบอยู่บนตักเขา ในขณะที่มืออีกข้างของทั้งคู่ก็กำลังคลึงเคล้านวดเฟ้นทรวงอกสองข้างสลับไปมา หญิงสาวบิดตัวด้วยความเสียวเกินบรรยายศีรษะแหงนซบหน้าอกหนาบึกบึน ปากบางร้องครางเสียงกระเส่าตลอดเวลาจนลำคอแหบพร่าเหมือนขาดน้ำมานานแสนนาน
ชายหนุ่มยังคงชอนไชนิ้วร้ายที่พัวพันกับนิ้วน้อยเข้าออกช่องรักเร่งความเร็วถี่ยิบเรื่อยๆ พร้อมกับจ้วงลึกเข้าหาความอุ่นร้อนภายในลึกล้ำมากขึ้นด้วย จนหญิงสาวต้องแอ่นสะโพกให้ความเป็นหญิงรับกับจังหวะเข้าออกนั้นได้หนักแน่นกว่าเดิม อคิราห์เองตอนนี้แทบจะควบคุมสติไม่อยู่เช่นกันเมื่อได้เห็นความเร่าร้อนที่เรียกร้องและต้องการของหญิงสาว เขาลากนิ้วออกจากซอกกายสาวดึงเข้าหาตัวมาหยุดตรงใบหน้างามของณัฏฐนิช
“ดูผลงานเธอสิณัฏฐนิช...ต้องการฉันมากแล้วใช่ไหม” หญิงสาวปรือตามองตามที่เขาพูด ใบหน้าของเธอแดงซ่านทั้งอายทั้งยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังถูกกระตุ้นอย่างหนัก ไม่รอช้าอคิราห์รีบจับร่างน้อยของเธอพลิกให้นอนราบบนที่นอนก่อนตัวเองจะทาบทับตาม
ปากหนากดทับจาบจ้วงปากสีชมพูที่ส่งเสียงครางสูดปากเบาๆ ด้วยความรัญจวนแถมยังเผยอน้อยๆ อย่างเชิญชวน ลิ้นหนากวาดไล้ทั่วโพรงปากตอดรัดลิ้นเล็กมาดูดรัดจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บแปลบ สองมือก็ทำหน้าที่คลึงเคล้นสองเต้าใหญ่อย่างไม่เกียจคร้าน อกหยุ่นถูกจองจำอยู่ในกรงนิ้วจนเนื้อแน่นเล็ดลอดออกตามซอกร่องไม่เว้นแม้แต่เม็ดบัวสีหวานที่รัดตัวแข็งเป็นไตชูช่อล่อภมรหนุ่มอย่างเชื้อเชิญ
อคิราห์ถอดถอนลิ้นชื้นจากโพรงปากสาวไล่ขบเม้มลงมาเรื่อยๆ จากปลายคางมน ลำคอขาวระหง จนมาถึงเนินเนื้อที่ตัวเองกอบกุมอยู่ ความงามของดอกบัวตูมทั้งคู่นอกจากจะสร้างความตะลึงตื่นตาให้แล้ว ยังเพิ่มการหมุนเวียนสูบฉีดเลือดหนุ่มในตัวให้พลุ่งพล่านขึ้นด้วย
ภมรหนุ่มไม่รอช้าใช้อุ้งปากครอบครองยอดถันที่อยู่ระหว่างนิ้วอย่างคนหิวกระหาย ลิ้นใหญ่กวาดตวัดเม็ดบัวเล็กจนเปียกชื้นสร้างความรัญจวนใจให้เจ้าของยิ่งนัก หญิงสาวได้แต่บิดกายด้วยความสยิวซ่านในรสเสน่หานั้น คราวนี้ร่างบางถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อทรวงอกสาวถูกครอบครองหายเข้าไปในปากจนแทบถูกกลืนหายไปหมดทั้งเต้า อคิราห์ใช้ฟันคมขบกัดอย่างไม่ปราณี อกอวบที่มีรอยแดงจากการถูกเน้นน้ำหนักในการบีบให้ยิ่งบอบช้ำมากขึ้น แต่ความเจ็บที่ได้รับกลับถูกแปรให้เป็นความเสียวซ่านรัญจวนแทนจนหมดเกลี้ยง
“อา...คุณคีม...คุณคีม” ณัฏฐนิชครวญครางอยู่ใต้ร่างหนา มือเล็กกำจิกผ้าปูที่นอนจนยับย่นยันตัวรับกับชิวหาที่ละเลงเล่นกับยอดเกสรสีชมพู ชายหนุ่มดื่มกินความนุ่มอันแสนหวานจากทรวงอกทั้งสองข้างสลับกันไปมาจากซ้ายไปขวาจากขวาไปซ้ายจนหนำใจ จึงละมือข้างหนึ่งนวดเฟ้นลงมาจนถึงเนินสาวอวบอูม นิ้วใหญ่แหวกวนพุ่มไหมนุ่มเข้าหารอยแยกแห่งความสาวกดเน้นตรงปุ่มอิสรีอย่างหนักมือจนหญิงสาวสะดุ้งครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเสียวซ่านที่ปะปนกับความเจ็บร้าว จากนั้นค่อยๆ ซอกซอนเข้าหาความชุ่มชื้นของร่องรัก
นิ้วแกร่งแหวกกลีบผกาวนไล้ไปมาก่อนจะกดเข้าหาช่องทางรัก ให้เนื้อนุ่มจากโพรงสาวรัดโอบอุ้มเอาไว้ หญิงสาวครางฮือเหมือนจะพอใจในสิ่งที่เขากระทำ
ร่างบางยิ่งบิดส่ายคล้ายคนทรมานอย่างหนัก ในขณะที่ปากหนาก็ยังคงทำหน้าที่ครอบครองทรวงอกเอาไว้ อคิราห์เองก็แทบคลั่งตายกับสรีระแม่สาวช่างยั่วคนนี้ ทุกอย่างสวยงามราวประติมากรรมที่สรรค์สร้างมาเพื่อให้เขาใช้มนตร์พิศวาสซัดกระหน่ำโดยเฉพาะ ร่างใหญ่หนายกตัวสูงให้ห่างจากร่างเล็กที่นอนระทดระทวยครางกระเส่าเพื่อจะได้มองอย่างเต็มตา
ดวงเนตรคมกล้ากวาดมองสำรวจเรือนกายสาวสะพรั่งตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า มาหยุดอยู่ตรงที่ร่องอิสตรีที่มีนิ้วหนาของตัวเองขยับเข้าออกเป็นจังหวะ นิ้วร้ายถูกชโลมด้วยน้ำทิพย์ที่ถูกขับออกเพื่อแสดงความพร้อมในการเสพสม กลีบสาวสีชมพูสดที่ฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำหวานเผยอออกเล็กน้อยเชิญชวนให้องค์คุลีทำงานได้ถนัดถนี่ เม็ดทับทิมสีสดที่ประดับไว้ตรงส่วนบนสุดของความเป็นหญิงเครียดขยายจนเห็นได้ชัดแต่มันก็ยังล่อตาล่อใจภมรหนุ่มได้อย่างดีเยี่ยม
อคิราห์ใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการอดทนไม่ให้เอาหน้าของตัวเองกดลงไปซุกซบกลางช่องขาที่เปิดอ้าอยู่นั้น ทว่าความอดทนของเขาก็ต้องหมดไปเมื่อน้ำหวานที่ฉ่ำเยิ้มท่ามกลางกลีบกุหลาบสีสวยสดบวกกลับกลิ่นเฉพาะของอิสรีเพศที่หอมฟุ้งทำให้สติไร้การควบคุม
อคิราห์ซุกหน้าลงกลางใจสาวอย่างตะกละตะกลาม อ้าปากครอบครองมันไว้เกือบทั้งหมดขบกัดไม่เว้นไว้สักส่วน แล้วปล่อยออกตวัดลิ้นกวาดเลียจนทั่วถ้วนแม้กระทั่งตรงช่องทางรักที่ยังมีนิ้วมือของตัวเองสอดคาอยู่
ลิ้นชื้นหนาถูกใช้งานอย่างหนักในการลากไล้ตามร่องสาว ปาดเลียกลีบกุหลาบงามทีละข้างสลับกันไปมาแล้วตวัดขึ้นหาเม็ดทับทิมเม็ดเล็ก เลียวนรอบๆ เบาๆ บางครั้งก็กดเข้าหาใช้ริมฝีปากเม้มหนักๆ ส่วนล่างก็ยังถูกรุกรานจากนิ้วร้ายจนน้ำทิพย์ยิ่งชโลมปริ่มไหลมากขึ้น
ณัฏฐนิชแอ่นหยัดกายเข้าหาอย่างลืมตัวเหมือนเชื้อเชิญเพิ่มการกระทำนั้นเข้าไปอีก ความรู้สึกสยิวซ่านจนท้องน้อยปั่นป่วนร้อนรุ่มคืบคลานเข้ามาหา มือเล็กละจากผ้าปูที่นอนมากอบกุมศีรษะสามีหนุ่มขยำกำกอบเส้นผมดกดำไว้ในอุ้งนิ้ว แล้วกดเข้าหาความสาวที่เขากำลังมัวเมาอยู่ ขณะที่สะโพกมนก็หยัดรับด้านล่างไว้ด้วย
“อ๊ะ....คุณคีม...อีกนิดค่ะ” อคิราห์รู้ดีว่าอาการอย่างนี้หมายถึงเธอกำลังจะไต่ปีนป่ายขึ้นขอบสวรรค์เต็มทีแล้ว เขาจึงถอดนิ้วร้ายแล้วหยุดภารกิจทุกอย่างลงเพียงแค่นั้น ณัฏฐนิชทรุดฮวบลงบนที่นอนทันทีที่ชายหนุ่มละทิ้งทั้งๆ ที่เขาก็ยังคร่อมอยู่เหนือตัวเธอ
หญิงสาวรู้สึกคล้ายถูกโยนจากที่สูงลงสู่เบื้องล่างจนร่างกายร้าวรานปวดแปลบไปหมด ร่างเล็กบอบบางค่อยๆ ตะแคงข้างแล้วขดตัวเข้าหากัน มือทั้งสองกอดกายเอาไว้จิกทึ้งลำแขนขาวๆ จนเลือดซึมตามรอยแผล ร่างสูงที่อยู่เบื้องบนมองดูด้วยความสะใจ
“อา...ฉันไม่ทิ้งเธอหรอก แม่โสเภณีน้อย แต่ฉันยังไม่พร้อมเลย เธอต้องช่วยฉัน...ณัฏฐนิช” ชายหนุ่มกลั้นเสียงแหบพร่าออกมาจากลำคอบ่งบอกความต้องการให้หญิงสาวเบื้องล่างรับรู้ ก่อนที่ตัวเองจะขยับมานั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ แก่นกายที่ขยายตัวพองโตเต็มที่ถูกกอบกำไว้ในมือหนา
หญิงสาวเห็นการกระทำของเขาก็รู้แล้วว่าเธอจะต้องทำอย่างไรแม้จะไม่มีประสบการณ์แต่โดยสัญชาตญาณมันสอนให้เธอเรียนรู้อย่างรวดเร็ว เลือดในกายสาวฉีดพล่านจนแก้มนวลแดงปลั่งกำสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้า
“จัดการมันสิณัฏฐนิชแล้วฉันจะทำให้ความต้องการของเธอสิ้นสุดลง อา...เร็วเข้า” หญิงสาวขยับตัวราวต้องมนตร์ตราเพ่งมองแก่นกายอวบใหญ่ในกำมือของเขา เธอแหงนหน้ามองผู้เป็นสามีด้วยสายตาหวานฉ่ำ เหมือนรอคอยให้เขาบอกวิธีการ
“ลองจับดูสิ แล้วค่อยๆ ใช้ปากอย่างที่ฉันทำกับเธออย่างไรล่ะ...เร็วเข้าฉันจะขาดใจอยู่แล้ว” ชายหนุ่มพร่ำสอนศิษย์น้อยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าราวกับในลำคอขาดน้ำมาแรมปี หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่ ค่อยๆ เอื้อมมือไปกอบกำความแข็งแกร่งนั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ เขาปล่อยมือจากอาวุธร้ายให้เธอกอบกุมได้ถนัดเต็มที่ ใบหน้าสวยแดงระเรื่อค่อยๆ โน้มเข้าหาใช้ริมฝีปากประทับจูบตรงส่วนปลายที่เป็นรอยแยก ลิ้นสีชมพูชื้นสัมผัสกับส่วนนั้นเบาๆ สายตาเหลือบมองหน้าคล้ายจะขอความเห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ถูกหรือผิด แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าคมคายหลับตาปรือสูดปากราวกินของเผ็ดร้อน ซ้ำมือหนายังจับศีรษะเธอไว้แน่นขยำจนผมยาวสยายยุ่งเหยิงเธอก็ได้รับคำตอบแล้วว่ากำลังมาถูกทาง อารมณ์พิศวาสที่เกิดจากการกระตุ้นของยาออกฤทธิ์เต็มที่
ความอายไม่มีหลงเหลือไว้ในสมองของณัฏฐนิชตอนนี้อีกแล้ว คงมีแต่ความอยากรู้อยากเห็น และอยากไต่เต้าให้ไปถึงสิ่งสูงสุดที่เธอรอคอยเท่านั้น
สองมือเล็กกอบกุมความใหญ่โตเอาไว้ค่อยๆ ใช้ลิ้นแตะจากส่วนปลายจนถึงล่างสุดวนเวียนจนรอบครั้งแล้วครั้งเล่า ความกล้าที่มีในตัวผลักดันให้เธออ้าปากแล้วครอบครองแก่นกายนั้นทันที โดยค่อยๆ อมกลืนเข้าไปทีละน้อยแต่ก็ได้เพียงแค่ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ มันช่างมีขนาดมหึมานักทั้งขนาดและสัดส่วน
หญิงสาวรู้สึกจุกอัดในลำคอจนรู้สึกหายใจไม่ออก อยากจะคายสิ่งนั้นออกมาเหลือเกินแต่ติดที่คนตัวใหญ่กดศีรษะเอาไว้ไม่สามารถขยับเขยื้อนถอยออกได้
ความใหญ่โตยังคงดุนดันอยู่ในโพรงปากอุ่นสร้างความเสียวสยิวให้แก่เจ้าของ แต่คนตัวเล็กเริ่มจะหายใจไม่ออกเข้าไปทุกทีแล้วเมื่อมันยิ่งขยายจนคับปากไปหมด ลิ้นเล็กพยายามผลักดันสิ่งแปลกปลอมออก แต่เมื่อมันได้สัมผัสกับแก่นชายกลับกลายเป็นการเพิ่มความซาบซ่านให้ชายหนุ่มเข้าไปอีก ลิ้นน้อยๆ ที่ทั้งเล็กและนุ่มกว่ามากสร้างความกระสันรัญจวนทุกครั้งที่มันขยับเข้าแตะต้อง
“อื้อ...” คนตัวเล็กเริ่มประท้วง พยายามผลักดันสิ่งแปลกปลอมออกจากปากเมื่อหายใจเอาอากาศเข้าปอดได้น้อยลงทุกที
“กระดกลิ้นให้ต่ำลงสิจะได้ไม่เหนื่อย” ปากหนาพร่ำสอนคนตัวเล็กที่ยังอ่อนประสบการณ์ให้จัดเจนยิ่งขึ้น ณัฏฐนิชขยับจากท่านอนตะแคงพยุงให้เป็นกึ่งนั่งกึ่งนอนเพื่อจะได้สะดวกขึ้นสองมือเล็กจับตรงโคนขาเป็นที่ยึดเหนี่ยว แล้วกระดกลิ้นให้ต่ำตามคำบัญชา อคิราห์ดันตัวส่งแก่นกายเข้าไปถึงลำคอทันทีเมื่อทางสะดวกขึ้น
สะเอวสอบขยับโยกเข้าออกรับกับจังหวะมือที่กดใบหน้าเข้าหากลางลำตัว หญิงสาวเริ่มเรียนรู้และจับจังหวะเองได้จึงใช้ปากขบเม้มดูดดึงแล้วคายเข้าคายออกสลับกันไปมา เสียงครวญครางของอคิราห์ดังก้องราวกับถูกทรมานจนแสนสาหัสทุกครั้งที่ตัวตนถูกบีบรัดจากริมฝีปากบาง
“ณัฏฐนิชเธอ...เธอมันร้ายกาจนัก อืม...” ชายหนุ่มขยับอ้าขาให้กว้างขึ้น ยกคนตัวเล็กให้ใบหน้าเข้ามาประชิดกลางหน้าขา แล้วใช้สองมือดันเข้าดึงออกศีรษะทุยอย่างลืมตัว
“ไม่ไหวแล้ว...อืม ฉันทนไม่ไหวแล้ว” อคิราห์พ่นวาจาออกมาเพียงเท่านั้นก็ถอดถอนความเป็นชายจากอุ้งปากเธอทันที พลิกตัวให้หญิงสาวอยู่ในท่านอนหงายแล้วพาตัวเองขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ สอดแขนเข้าใต้ข้อพับขายกขึ้นแล้วโยกไปด้านหน้า ร่องอุ่นร้อนชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำผึ้งที่ประพรมทั่วสรรพางค์ถูกเผยให้เห็นถนัดตา
กุหลาบสีเย้ายวนฉ่ำชื้นเต้นตุบตามจังหวะหัวใจเรียกร้องให้ชายหนุ่มไม่อาจรั้งรอสิ่งใด มือหนาวนกลับมาจับตัวตนที่เปียกชื้นจ่อตรงร่องหลืบเร้นทันที สะโพกสอบดันตัวเองไปข้างหน้าสุดกำลังส่งมอบแก่นกายแกร่งให้ความเป็นหญิงของเธอโอบอุ้มเอาไว้จนสุดทางรัก
ณัฏฐนิชเจ็บแสบตรงส่วนที่ถูกล่วงล้ำ ถึงแม้ความพร้อมจะมีมากมายเพียงใดแต่ด้วยเคยถูกคุกคามมาเพียงครั้งเดียวกายสาวจึงยังเปิดทางไม่เต็มที่ยังเล็กและคับแคบอยู่มาก แต่กระนั้นคนตัวใหญ่ก็ไม่คิดปราณี โพรงสาวที่ตอดรัดเขาจนแทบหายใจไม่ออกยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้เขาเดินหน้าไปไม่ยั้ง
“คุณคีม...เจ็บ...” เสียงเล็กกระท่อนกระแท่นทั้งยังแหบพร่า รวมไปถึงหน้าตาที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บจุกไม่สามารถฉุดรั้งสัตว์ร้ายที่กำลังจู่โจมโรมรันเหยื่อตัวน้อยได้เลย
“ณัฏฐนิช แน่นมาก แน่นเหลือเกิน...พระเจ้าเธอกำลังฆ่าฉัน” อคิราห์ครางลั่นด้วยความสมใจอย่างที่สุดเมื่อได้ขยับกายเข้าออกจากกลีบผกา หญิงสาวเองก็ทอดทิ้งความเจ็บปวดไว้เบื้องหลังเมื่อความกระสันซ่านเข้ามาเยือนมากขึ้นทุกทีๆ บวกกับยาที่ทานเข้าไป เธอยกสะโพกให้สูงขึ้นรับการรุกรานของเขาอย่างเต็มที่ พร้อมส่งเสียงครวญครางแข่งกับเสียงแหบห้าว
“คุณคีมรัน...อ๊ะ” ณัฏฐนิชร้องลั่นกับความสยิวกับสิ่งที่เขาส่งมอบให้และเธอได้รับมันเต็มๆ ช่องทางรักตอดตุบทุกครั้งที่ถูกโรมรัน จังหวะขยับเข้าออกหนักหน่วงขึ้นตามอารมณ์ที่เดือดพล่าน สองกายประสานรับและรุกอย่างรู้จังหวะความสัมพันธ์ที่แนบแน่น
“อืม...ณัฏฐนิช” เสียงแหบห้าวครางกระหึ่มราวสัตว์ร้ายที่เจ็บหนัก วางขาทั้งสองข้างลงแนบกับที่นอนถอดถอนกายจากกลีบผกาสาวแล้วจับเธอพลิกให้อยู่ในท่านอนคว่ำจับสะโพกกลมมนยกสูงขึ้น หัวเข่าสองข้างกลายเป็นที่รองรับน้ำหนักตัว ส่วนช่วงลำตัวก็ยังคงนอนราบกับที่นอนมีเพียงสะโพกกลมกลึงเท่านั้นที่ลอยเด่นอวดท้าสายตา
ชายหนุ่มจับโคนขาสองข้างแยกออกจากกันพอประมาณ ส่วนตัวเองก็ยืนขึ้นแล้วย่อตัวให้ความเป็นชายอยู่ตรงปากทางที่กำลังจะบุกเข้าหาเขาสอดแทรกแก่นกายเข้าหาช่องทางหฤหรรษ์พุ่งตัวเข้าครั้งเดียวจนสุดลำรัก
“คุณ...คุณคีม คุณคีม” หญิงสาวผู้ถูกรุกรานโดยไม่ทันตั้งตัวหวีดครางรับกับจังหวะโรมรันที่ชายหนุ่มกระแทกตัวเข้าหา อคิราห์ใช้สองมือจับช่วงเอวคอดเล็กดึงเข้าหาตัวในขณะที่สะโพกสอบก็โยกรับเต็มกำลัง เกมรักปะทุดุเดือดจนทั้งสองเหงื่อกาฬไหลท่วมตัว ช่องทางอุ่นร้อนที่ชุ่มชื้นตอดรัดความเป็นตัวตนของอคิราห์จนแทบสิ้นใจหลายต่อหลายครั้ง ชายหนุ่มลดตัวใช้เข่าวางลงบนที่นอนแล้วโน้มตัวเข้าหาร่างเล็ก มือสองข้างกอดรัดคนใต้ร่างเอาไว้ซุกไซ้หาความหอมกรุ่นตามซอกคอขาว มือข้างหนึ่งผลักใบหน้าให้ตะแคงเข้าหาด้วยที่เขากำลังใช้จมูกและปากนัวเนียอยู่ ริมฝีปากบางสีชมพูที่บวมเจ่อถูกฉกจูบแล้วลิ้นหนาใหญ่ก็แทรกเข้าควานหาความหวานนุ่มของโพรงปากสาว
อคิราห์ดูดดึงลิ้นเล็กพัลวันก่อนที่มือทั้งสองข้างจะกลับมาทำหน้าที่ครอบครองทรวงอกอวบอีกครั้งบีบขยำคลำเคล้นจนแทบแหลกคามือ ณัฏฐนิชที่ถูกรุกรานจากทุกด้านเสียวซ่านจนเกินคำบรรยาย ช่วงเอวคอดกิ่วส่ายไปมายกสะโพกมนเขาหาความเป็นชายที่กำลังกระหน่ำตัวเข้าออกในช่องทางรักอย่างโหยหา คล้ายจะบอกเขาว่าเธอต้องการมากกว่านี้ เร็วกว่านี้ และแรงยิ่งกว่านี้เพื่อให้มันพาไปเยือนแดนวิมานที่กำลังรอคอยอยู่เบื้องหน้า
“อื้อ...อื้อ!!” เสียงครางในลำคอที่ไม่สามารถเล็ดรอดผ่านริมฝีปากหนาที่ประกบทับอยู่ได้บ่งบอกว่าเธอได้เข้าสู่ห้วงเหวลึกดำดิ่งลงสู่มหาสมุทรแห่งความสุขสมเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเองก็รับรู้ได้จากการที่ผนังกายสาวตอดกายแกร่งของเขาสองสามครั้งและน้ำทิพย์ที่รินไหลอาบตัวตนตามจังหวะขับเคลื่อน อคิราห์ปลดปล่อยปากบางให้เป็นอิสระจากการถูกรุกรานแล้วเพิ่มแรงโรมรันเข้าไปอีก
“คุณคีมขา...”
“ถึงตาฉันแล้วณัฏฐนิช” ชายหนุ่มขยับกายเข้าออกด้วยความรุนแรงและเร็วสุดกำลังชายชาตรีช่วงเวลาตอนนี้ต่อให้ฟ้าถล่มหรือแผ่นดินทลายก็ไม่อาจฉุดรั้งความต้องการของเขาเอาไว้ได้อีกแล้วแม้แต่เสี้ยววินาที
“อืม...ที่รัก...” และแล้วสายธารแห่งเชื้อพันธุ์ก็ถูกปลดปล่อยเข้าไปในตัวหญิงสาวจนเอ่อล้นส่วนที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ไหลเปื้อนตามโคนขาขาวละมุน พร้อมๆ กับมีเสียงครางระงมดังก้องทั่วห้องพักสุดหรู สองกายที่ยังสอดประสานกันอยู่ทรุดฮวบลงราบกับที่นอนในท่านั้น เสียงหอบหายใจเหมือนกับวิ่งระยะทางไกลปะปนกับเสียงครางฮือในลำคอ อคิราห์พลิกให้หญิงสาวใต้ร่างนอนหงายส่วนตัวเองก็ทาบทับด้านบนตะโบมจูบปากแดงที่บวมเจ่อจากพิษรักเมื่อสักครู่จนเจ้าของรู้สึกเจ็บแสบซ้ำเข้าไปอีก เมื่อถูกรุกรานอีกครั้งสัญชาตญาณบอกเธอว่าชายหนุ่มกำลังจะมอบบทเรียนรักบทต่อไปให้กับเธออีกคราแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะผ่านเกมกามมาเพียงไม่กี่นาทีแท้ๆ
อคิราห์ใช้ช่วงเวลาเสพสมกับร่างบอบบางอย่างคุ้มค่า เขาไม่ปล่อยให้เธอหลุดรอดจากกรงสวาทแม้แต่สักเสี้ยววินาที
ครั้งแล้ว...ครั้งเล่า...
เนิ่นนานจนแทบลืมวันเวลา
ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ถูกวางยา...