“ขะข้าอึก อึก”น้ำตาพรั่งพรูราวเขื่อนแตก
“องค์หญิง เราทุกคนล้วนต้องพบเจอกับความทุกข์ตรมกับบางอย่างที่กลัวว่าจะต้องก้าวผ่านมันไป แต่ในเมื่อเราจะเป็นต้องก้าวผ่านสิ่งนั้นที่ยากลำบากบางทีอาจมี สิ่งดีดีรออยู่ข้างหน้าเราเพียงแค่ไม่กล้าก้าวเดินเลี่ยงผ่านมันไปหรือหยุดเดินเสีย ข้างหน้านั้นอาจมีของกำนัลชิ้นใหญ่รออยู่หากว่าเราไม่สิ้นศรัทธาเสียก่อนสวรรค์เพียงลองใจว่าเรามีความอดทนเพียงใดแล้วสวรรค์ก็จะหยิบยื่นของกำนัลที่ต้องการให้เราเอง”
“ถงหมิ่นพาท่านกลับไปที่วังหลวง องค์หญิงรองท่านเป็นคนเดียวที่ฝ่าบาทอยากให้เคียงข้างในยามนี้”
ลี่หลันเล่อยิ้ม กวาดตามองรอบๆ เนินดินที่รายล้อมไปด้วยดอกเหมยกุ้ยฮวา บางทีนี่อาจเป็นของกำนัลหอมหวานของลี่หลันเล่อ ต่อจากนี้ไปคงถึงคราวที่เอ่อหลันเล่อนางจะต้องได้รับของกำนัลหอมหวานบ้างลี่หลันเล่อยิ้มเศร้าๆ หลับตาไล่หยาดน้ำตา ก่อนที่จะหมดสติทรุดลงไปกองกับพื้น
ถงหมิ่นหอบเอาร่างบางไว้ในอ้อมแขน
“อาจารย์ เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”ใบหน้าและแววตาใสซื่อ
ถงหมิ่นยิ้มอ่อนโยน
“เรากำลังจะกลับวังหลวง”เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วังหลวง
ต้าหมิงคุนนั่งบนบัลลังก์มังกร ด้วยท่าทีองอาจ แผลรอยมีดที่อกข้างซ้ายยังสร้างความเจ็บปวดให้ตลอดเวลา
“รอคอยการมาของพวกเราช่างเป็นนกรู้เสียจริง”หลันตี้พูดขึ้นดังๆ ก้าวขาเข้ามาในท้องพระโรงโอ่อ่า
“ความจริงความขัดแย้งนี้เป็นเพียงของท่านคนเดียวหลันตี้ไท่จือ ข้ายังคงยึดถือความสัมพนธ์อันดีระหว่างสองแคว้นในเมื่อท่านน้าก็ยังอยู่ที่ปาเอ่อถัว
หลันตี้ขมวดคิ้ว
“หลันเล่อเล่านางอยู่ที่ไหนกัน ท่านอย่าบอกว่าคุมตัวนางไว้เสียแล้ว”ต้าหมิงคุน ยิ้มเศร้าๆ
“ท่าน ให้นางมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งหลันเล่อที่แสนจะพิสุทธิ์ ท่านจงใจให้นางต้องพบกับความขัดแย้งอย่างเลี่ยงไม่ได้”
“นางเป็นคนปาเอ่อถัวจะเกิดหรือจะตายก็เป็นคนปาเอ่อถัว”
“ท่านคิดดังคนเห็นแก่ตัว ท่านเองหาได้สนใจว่าหลันเล่อจะต้องพบเจอกับสิ่งใดมใ่ดีเป้นข้าที่รุ็ทันไม่ได้สั่งให่ลงทัณฑ์นางอย่างที่ท่านต้องการแต่ถึงกระนั้น สุนัขป่าหากอยากจะกินลูกแกะก็ต้องหาทางกินจนได้ ไม่ว่าข้าจะทำเช่นไรท่านก็จะต้องส่งทัพมาที่แคว้นหานอยู่ดี”
“พูดได้ดีพูดได้ดี หลันตี้ทำอะไรไม่เคยอ้อมค้อม เช่นนั้นบัลลังก์แคว้นหานขอข้าเสีย”ตวัดกระบี่ในมือด้วยความหมายมาดไม่ได้ย้ำเกรงต่อต้าหมิงคุนแม้เพียงน้อยนิดคิดว่าอย่างไรหยางซานชิงก็จะต้องนำทัพเข้ามาช้าตลบหลังต้าหมิงคุนกำกระบี่ไว้ในมือแน่นจื่อจื่อกลับไวเสียกว่าหลันตี้ตวัดดาบยาวเข้ากางกั้นต้าหมิง
“อารักขาฝ่าบาทสุดกำลัง”
“ไม่ต้องห่วงข้า ไล่ส่งทหารปาเอ่อถัวกลับบ้านไปเสีย”ต้าหมิงคุนถลาเข้าใส่หลันตี้เช่นเดียวกันเหล่าทหารฮึกเหิมโห่ร้องดังลั่นเมื่อเห็นว่าต้าหมิงคุนกล้าหาญไม่เกรงกลัวจนหัวหด
กลับกลายเป็นหลันตี้ที่เริ่มหวั่นใจ เมื่อไม่อาจได้แตะเพียงปลายก้อยของต้าหมิงคุนองครักษ์ล้อมไว้ถึงสองชั้นสามชั้น ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจเข้าใกล้ต้าหมิงคุนได้
เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหวไม่ยอมก็ต้องยอมในเมื่อกำลังคนน้อยกว่าสุดท้ายหลันตี้ก็ถูกจื่อจื่อบังคับให้คุกเข่าลงกับพื้น ทหารของปาเอ่อถัวไร้หนทางที่จะเอาชนะได้ในเมื่อที่นี่คือวังหลวงแคว้นหานที่ยิ่งใหญ่เข้าถ้ำเสือหากไม่เก่งจริงก็เพียงแต่ยอมรับความตายเท่านั้น
นึกแช่งชักหยางซานชิงที่ไม่ยอมนำกำลังมาช่วยเสียที
“ฆ่าข้าเสีย”เปล่งวาจาห้าวหาน ไม่ได้พรั่นพรึงว่าตัวเองกำลังจนตรอกด้วยหวังเต็มเปี่ยมว่าหยางซานชิงจะต้องเร่งนำกำลังเข้ามา และก็เป็นดังคาด
รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของหลันตี้เมื่อเห็นว่าหยางซานชิงนำกำลังเข้ามา
“ฝ่าบาท มาทันเวลาพอดี ข้ารอฝ่าบาทอยู่”หลันตี้แสยะยิ้ม ดีใจที่เห็นหน้าหยางซานชิง
“หยางซานชิงถวายพระพร ต้าหมิงคุนฮ่องเต้”หลันตี้เริ่มหันหน้าหันหลัง
“ไม่คิดว่าจะได้พบกันที่นี่อีก”ต้าหมิงคุนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“หยางซานชิงบังอาจล่วงเกินแล้วครั้งนี้จึงตั้งใจมาขอให้ฝ่าบาทประทานอภัยต่อเรื่องราวที่ผ่านมา”
“หมายความว่าอย่างไรหยางซานชิงที่เราตกลงกันไว้”
“หลันตี้ไท่จือ ข้าไม่ควรฉวยโอกาสหรือไม่จะทำการสิ่งใดไปไม่แน่ว่าจะส่งผลดีเห็นได้ชัดว่าทุกอย่างที่ต้าหมิงคุนฮ่องเต้ทำล้วนเหมาะสมไม่เคยระรานผู้อื่นหรือแคว้นน้อยใหญ่มีอยู่ร่วมกันฉันมิตรข้าไม่ได้มีข้อกังขาสิ่งใดเพียงแต่หลันเล่อที่ข้าตั้งใจจะได้นางมาเคียงข้างแต่ในเมื่อเห็นได้ชัดว่าหมดหนทางที่จะแย่งชิงข้าก็ไม่มีสิ่งใดที่อยากได้ไว้ในครอบครองไม่ควรนำเอาชีวิตทหารและความสัมพันธ์ของสองแคว้นที่ย่ำแย่ยิ่งกลับทำให้มันแย่ลงไปกว่าเดิม”หลันตี้หน้าเสียแต่ยังคงไม่ยอมจำนน
“เจ้า หยางซานชิงเจ้าคนขี้ขลาด ข้าประเมินเจ้าสูงเกินไปประเมินสูงไปเสียแล้ว”
“หลันตี้ปาเอ่อถัวกับแคว้นหานแคว้นใต้เดิมเชื่อมสัมพันธ์กันด้วยดีมารดาท่านเป็นคนแคว้นใต้สนมบิดาท่านเป็นคนแคว้นหาน ฮองเฮาแคว้นหานเป็นองค์หญิงรองหลันเล่อทุกคนล้วนเกี่ยวข้องผูกพันเป็นญาติสนิทท่านยังคิดจะสร้างความร้าวฉานอีกหรือไร”
“ไม่มีทาง ทุกอย่างเป็นข้าที่จะต้องตัดสินใจเพียงลำพังความสัมพันธ์ใดกันข้าล้วนไม่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น”ยังคงดื้อดึง
“หลันตี้ไตร่ตรองให้ดี ชั่วลูกชั่วหลานจึงจะได้ชื่อว่ามั่นคงไม่สั่นคลอน”
“ข้าไม่ต้องการสิ่งที่ข้าต้องการในตอนนี้คือปัดคมดาบในมือคว้าดาบจากมือของจื่อจื่อตวัดฉับเข้าพาดลำคอของต้าหมิงคุนง่ายดาย ร่างสูงเซถลาด้วยพิษบาดแผลที่ยังไม่หายดี หลันตี้ยิ้ม ท่ามกลางความตกตะลึงของจื่อจื่อและหยางซานชิง
“เพียงปลิดชีพต้าหมิงคุนกัยหยางซานชิงคนทรยศเสียก็จะสามารถครองความยิ่งใหญ่ในสามแคว้น”ตวัดคมดาบกดลงบนลำคอของต้าหมิงคุนใช้ร่างของต้าหมิงคุนเป็นที่กำบังลากให้ถอยห่างออกไปเหล่าองครักษ์ต่างล้อมกรอบเข้าใกล้
“ถอยไปไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ยั้งมือแน่เพียงกดคมดาบเพียงนิดคาดว่าดาบขององครักษ์จื่อจื่อคงไม่ได้ทื่อไร้คมแน่”
“ปล่อยฝ่าบาทแล้ว แล้วท่านไปเสียหลันตี้”จื่อจื่อต่อรอง
“555คิดว่าง่ายเพียงนั้นหรือสุนัขจนตรอกเช่นข้าไม่จำเป็นต้องหนีไปตอนนี้ข้าเป็นฝ่ายที่พวกเจ้าต้องอ้อนวอนขอแล้วหาใช่ต้องมาออกคำสั่ง”
“พี่ใหญ่อย่าทำแบบนี้ปล่อยฝ่าบาทเถิด”ลี่หลันเล่อวิ่งเข้ามาในท้องพระโรง
“หลันเล่อเจ้ามาพอดี ข้ากำลังจนตรอกเจ้าอย่างน้อยก็เป็นน้องข้ามาตรงนี้มาอยูข้างๆ พี่ใหญ่”
“หลันเล่อ ถอยไปนี่เป็นเรื่องของข้ากับพี่ชายเจ้าคนอื่นหาได้เกี่ยวข้อง”
“พี่ใหญ่ ยอมจำนนเสียอย่าได้ทำให้เรื่องเลวร้ายไปกว่านี้”
“หลันเล่อ ข้าตัดสินใจแล้วในเมื่อกระทำการมาถึงขั้นนี้แล้วจะให้เลิกล้มความคิดง่ายดายไม่อาจกระทำ”
ถงหมิ่นอยู่ด้านหลังในขณะที่หลันตี้ให้ความสนใจในหลันเล่ออยู่ ถงหมิ่นกระโดดรวบตัวหลันตี้ไว้ผลักต้าหมิงคุนออกห่าง เสียงดาบใหญ่ในมือร่วงกระแทกพื้นเสียงดังลั่น
จื่อจื่อรีบเข้าประคองต้าหมิงคุนให้ลุกขึ้น บาดแผลเปรอะไปด้วยเลือดสดๆ ที่ไหลซึมออกมา
“หลันเล่อ เจ้ากลับมา”
“ข้าไม่อาจทนเห็นความขัดแย้งและข้า..ข้าไม่อาจดูดายที่จะให้ท่านอาฝ่าบาทโดดเดี่ยวเพียงลำพัง”
“หลันเล่อเจ้าปล่อยให้พวกเขาทำร้ายข้าคลุมตัวข้า หรือเรามิใช่พี่น้องกันหรือไร”สายตาแสดงความผิดหวัง
หลันเล่อก้มหน้า
“ฝ่าบาท หลันเล่อมีบางอย่างอยากจะขอ ปล่อยพี่ใหญ่ไปเสีย”ต้าหมิงคุน พยักหน้าไปมา
“ข้าไม่คิดจะกล่าวโทษเขาอยู่แล้วเพียงแค่เขากลับใจอย่างไรความสัมพันธ์สองแคว้นยังเป็นเหมือนเดิมเพราะท่านน้ายังอยู่ที่นั่นและเจ้ายังอยู่ที่นี่”
“ข้ายินดีคุมตัวเขากลับปาเอ่อถัวด้วยตัวเอง”หยางซานชิงอาสา เหลือบตามองหลันเล่อด้วยความรู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่อาจเคียงข้างนางได้
หลันเล่อทรุดกายลงข้างๆ หลันตี้
“พี่ใหญ่ กลับไปที่ปาเอ่อถัวเสียเถิด”หลันตี้สะบัดมือจ้องหน้าหลันเล่อด้วยสายตาเกลียดชังอย่างที่หลันเล่อไม่เคยเห็นมาก่อน
“เจ้ากับข้าขาดกันตั้งแต่วันนี้ข้าทำทุกอย่างเพื่อปาเอ่อถัวให้รุ่งเรืองแต่เจ้ากับเห็นแก่ผู้อื่น”หลันเล่อสะอื้นอย่างแรง
“ข้าผิดเอง หลันเล่อไปอาจเกลียดชังได้เท่าที่ลี่หลันเล่อต้องการหลันเล่อไม่อาจ...ตัดใจจากคนที่ทำร้ายทำลายตัวเองในครั้งก่อนได้ เพราะที่หลันเล่อเห็นคือฝ่าบาทที่ใจดีที่สุด”หยางซานชิงกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น
“หลันเล่อ อย่าร้องไห้ได้โปรดข้าไม่อยากทนเห็นน้ำตาของเจ้าได้”ต้าหมิงคุน ส่งเสียงอ้อนวอน
“พอเสียที่ฝ่าบาทเราสองคนจบสิ้นบุญคุณความแค้นต่อกัน หลันเล่อตั้งใจกลับไปที่ปาเอ่อถัวพร้อมกับพี่ใหญ่เราสองคนเลิกข้องแวะกันเสียเถิดข้าไม่อาจผิดต่อวิญญาณ แค้นเคืองของลี่หลันเล่อ”
“ไม่ไม่ หลันเล่อเจ้ากลับมาแล้วได้โปรดอยู่ที่นี่อภัยให้ข้า”
“ลี่หลันเล่อนางตายไปแล้ว แต่ความแค้นของนางยังฝังในใจข้า ทุกค่ำคืนข้าเพียงฝันถึงแต่เรื่องราวทุกข์เข็ญซ้ำๆ กับคำว่า...ข้าไม่มีทางอภัยให้ท่านต้าหมิงคุน...แม้หลันเล่อจะไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องฝันถึงเรื่องราวเลวร้ายนั้น ทว่าความเจ็บปวดและแค้นเคืองมันชัดเจนทุกๆ การกระทำ ฝ่าบาทจะให้หลันเล่อกลับไปเหมือนเดิมคงไม่มีทางในเมื่อวิญญาณเจ็บซ้ำของนางในตัวข้าพร่ำบอกกับข้าว่า นางไม่มีทางให้อภัย...จนกระทั่ง”กลืนก้อนแข็งๆ ลงคอแสนลำบาก คิดถึงเนินดินที่รายล้อมไปด้วยดอกเหมยกุ้ยฮวา
“หลันเล่อได้โปรด ข้าขอโทษ”
“หลันเล่ออภัยให้ท่านอาฝ่าบาท แต่เราสองคนควรจะแยกจากกันเสีย เผื่อว่าข้าจะได้ไม่ต้องเจ็บซ้ำไปกว่านี้ หลันเล่ออยากจดจำช่วงเวลาดีดีร่วมกันกับ...ท่านอาฝ่าบาท ในใจฝ่าบาทมีเพียงลี่หลันเล่อหาใช่เอ่อหลันเล่อ” ต้าหมิงคุน ใบหน้าถอดสี ส่ายหน้าไปมาทันที
“ไม่ หลันเล่อไม่ แม้ข้าจะรู้สึกผิดกับนางแม้ข้าจะอยากให้นางกลับมาแต่ ...ข้าก็ไม่เคยไม่รักเจ้า”เอ่อหลันเล่อกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ยิ้มเศร้าๆ
“หลันเล่อแค่เพียงภาพจำและเงาของนางก็เท่านั้น ฝ่าบาทไม่เคยรักข้า...ในหัวใจฝ่าบาทมีเพียงลี่หลันเล่อ”หันหลังก้าขาจากไป ต้าหมิงคุนผุดลุกขึ้นคว้าร่างบางมาแนบอก เมิ่งเม่ยก้าวเดินมาจากที่แห่งใดกัน
“ตายเสียเถอะลี่หลันเล่อ”จ้วงมีดคมกริบในมือต้าหมิงคุนพลิกร่างบางให้หลุดจากคมมีด เสียงผิวเนื้อฉีกขาดพร้อมกับคมมีดที่ถูก แทงเข้าไปบนแผ่นหลังของต้าหมิงคุน
“ฉึก”ร่างสูงของต้าหมิงคุนกระตุกไหวดวงตาเหลือกถลนด้วยความเจ็บปวดทรุดลงไปบนอ้อมแขนของ หลันเล่อที่กอดประคองไว้แต่กัลบทรุดลงไหปกองกับพื้นพร้อมกัน
“ฝ่าบาทททททท”จื่อจื่อและคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง ส่งเสียงเรียกต้าหมิงคุนพร้อมๆ กัน เมิ่งเม่ยอ้าปากค้าง ถอยห่างออกจากภาพที่ทำเอาหัวใจแหลกสลาย
“ฝะฝะฝ่าบาท ไม่ไม่ไ่ม่ จะต้องไม่ใช่ฝ่าบาทจะต้องไม่ใช่ข้า ข้าไม่มีทางทำร้ายฝ่าบาท ไม่ๆๆๆๆๆๆ ” หยางซานซิงย่างสามขุมเข้าหาเมิ่งเม่ย ด้วยความโกรธเกลียด
“เจ้าทำผิดซ้ำซากเกินกว่าจะให้อภัย”เมิ่งเหม่ย เหลือบตามองต้าหมิงคุนที่นิ่งเงียบพร้อมกับหยาดเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วพื้น
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทเมิ่งเม่ยไม่ได้ตั้งใจ “น้ำตาร่วงริน ฝ่าบาท อภัยให้เมิ่งเม่ยเมิ่งเม่ยจะฆ่าลี่หลันเล่อคนนั้นเมิ่งเม่ยไม่ได้คิดจะฆ่าฝ่าบาท”
“วางมีดลง ได้ยินไหมวางมีดลงถงหมิ่นกับหานจงก้าวเท้ามาตรงหน้า
“ไม่ ข้าไม่ได้ทำร้ายใครอย่า ๆๆๆ เข้ามานะ ท่านนี่เองท่านนี่เองไท่จือแคว้นใต้ท่านสมคบคิดกับลี่หลันเล่อเฝ่าบาทเห็นไหมพวกเขารักกันพวกเขามาอยู่ด้วยกันหลอกลวงฝ่าบาทข้าไม่ได้ใส่ความนาง นางตั้งใจหลอกลวงฝ่าบาท อย่า อย่าเข้ามานะ”กำมีดในมือไว้แน่นจ่อที่ลำคอของตัวเองดวงตาเลื่อนลอย
“ลี่หลันเล่อทำไมไม่เป็นเจ้า”ชี้มือไปที่หลันเล่อ
“ข้าฆ่าฝ่าบาท ข้าฆ่าคนที่นางรัก แต่ไม่ใช่ความผิดข้าตอนนั้นเป็นเพราะนางที่บังอาจรักฝ่าบาทเป็นเพราะนางที่บังอาจแย่งชิงข้า ข้าใส่ร้ายนางข้าจงใจให้ฝ่าบาทเกลียดนาง ข้าไม่มีทางอภัยให้นาง ฝ่าบาทสั่งให้ลงทัณฑ์นางเพราะฝ่าบาทรักข้าฝ่าบาทรักข้าได้ยินไหมหลันเล่อ”
“ข้าไม่เคยรักเจ้าเมิ่งเม่ย”ต้าหมิงคุนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ”
“ไม่ไม่จริงฝ่าบาทรักข้าฝ่าบาทเลยลงทัณฑ์นาง” ต้าหมิงคุน ขยับตัวด้วยความยากลำบาก
“หมอหลวง ตามหมอหลวง”หลันเล่อตะโกนลั่น
“เจ้าอภัยให้ข้าแล้วใช่ไหม”
“ไม่ฝ่าบาทอย่าอภัยให้นางนางเป็นคนที่ ทำร้ายเมิ่งเม่ยได้ยินไหมฝ่าบาทรักเมิ่งเม่ยฝ่าบาทจะต้องเกลียดนาง”
“คนที่ข้ารักคือหลันเล่อได้ยินไหม เมิ่งเม่ย คนที่ข้ารักก่อนหน้านั้นคือลี่หลันเล่อและตอนนี้คนที่ข้ารักคือเอ่อหลันเล่อ”
กระอักเลือดสดสดออกมา หลันเล่อกอดร่างเปื้อนเลือดสะอื้นไห้ เมิ่งเม่ยยิ้มหยัน
“ฝ่าบาทไม่รักเจ้าได้ยินไหมเมิ่งเม่ยได้ยินไหมเจ้ามันนางแพศยา เจ้ารู้ดีว่าฝ่าบาทไม่เคยรักเจ้า”เมิ่งเม่ยตะโกนดังลั่นสติเลื่อนลอย คล้ายดังคนเมา ชี้มีดไปตรงหน้าเอ่อหลันเล่อ
“เจ้ากลับมาทำไมกลับมา ทำไมทั้งๆ ที่ข้ากับฝ่าบาทกำลังจะลงเอยด้วยดี ฝ่าบาทกำลังจะลืมเจ้า นางมารเจ้ากลับมาทำไม”
“เมิ่งเม่ยส่งมีดให้ข้า”จื่อจื่อค่อยๆ ขยับกายเข้าใกล้
“ไม่พี่ใหญ่ข้าฆ่าคนที่นางรักนางจะต้องทวงแค้นข้าเหมือนที่ผ่านมาพี่ใหญ่ ข้าเกลียดนางได้ยินไหม แต่เพราะสวรรค์ไม่เคยเข้าข้างข้ามีข้าจะต้องมีนางแล้วยังให้นางเหนือกว่าข้าทุกอย่างแม้กระทั่งตอนนี้นางยังเป็นถึงฮองเฮาทั้งๆ ที่ข้ารอคอยตำแหน่งนี้มานาน หวังว่ามานานว่าจะได้ครองรักกับฝ่าบาท สวรรค์ได้ยินไหมสวรรค์ข้าจะไม่มีทางยอมแพ้นางไม่ยอมได้ยินไหมถึงข้าจะถูกกลั่นแกล้งก็ตาม”จ่อมีดเข้าที่คอหอยอีกครั้ง
“ตายเสียเถอะลี่หลันเล่อ555”ทั้งหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมกัน
จื่อจื่อ วิ่งเข้าหาเมิ่งเม่ยแต่ช้าไปเสียแล้วเมิ่งเม่ยใช้มีดคมวาวในมือปาดฉับเข้าที่ลำคอของตัวเอง เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดเมิ่งเม่ยล้มลงขาดใจตายตรงหน้า หลันเล่อที่หลับตาไล่ความขมขื่นในใจ จื่อจื่อประคองร่างของเมิ่งเม่ยก้มหน้าร้องไห้
“ หลันเล่อ หลันเล่อ”ต้าหมิงคุนไอเบาๆ แต่เลือดสดสดกลับไหลออกจากบาดแผลดังเขื่อนแตก
“ฝ่าบาทไม่ต้องพูดแล้ว หลันเล่ออภัยให้นางแล้ว”
“ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าอภัยให้นางแต่ข้าขอให้เจ้าหยุดความแค้นเคืองไว้เสียเท่านี้ ในเมื่อยิ่งแค้นเคืองใจเจ้ายิ่งไม่เป็นสุข”
“ลี่หลันเล่อนางส่งต่อความแค้นเคืองมาที่หลันเล่อ และนางก็ส่งต่อ..ความรักปักใจที่มีให้กับฝ่าบาทมาที่หลันเล่อเช่นกัน แม้ว่าหลันเล่อพยายามที่จะเข้าใจเรื่องราวของนางรุ็ว่านางต้องเจ้บซ้ำและก็อดที่จะเจ็บปวดไปกับนางไม่ได้ แต่หลันเล่อไม่เคยเข้าใจว่า ฝ่าบาทเหตุใดยังกล้าพูดว่ารักเอ่อหันเล่อทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น ฝ่าบาททำทุกอย่างเพื่อลี่หลันเล่อมาตลอด ยอมเปลี่ยนตัวเองด้วยสำนึกผิดกับนาง”
“พูดไปเหมือนคนเห็นแก่ตัว ข้าแต่เดิมไม่เคยรู้ใจตัวเองเผลอทำร้ายทำลายลี่หลันเล่อเมื่อนางจากไปความเจ็บซ้ำที่ข้าได้รับยิ่งทำให้ข้ารู้สึกผิดพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ความรู้สึกผิดหายไป แต่เปล่าเลย ไม่ว่าจะทำมากเพียงใดเปลี่ยนตัวเองเพียงใดกับรุ็สึกว่าข้ายิ่งผิดต่อนาง ในเมื่อทุกอย่างมันสายไปตอนนางอยู่ทำไมข้าไม่ ทำเพื่อนางไม่เข้าใจนางไม่มองยนางในแบบที่นางอยากให้ข้าเห็นข้ามองนางแค่เพียงในแบบที่เมิ่งเม่ยอยากให้เห็นก็เท่านั้น ถึงตอนนี้จึงนึกเสียใจ”หลันเล่อหลับตาลงช้าๆ
“เพราะฝ่าบาทรักนาง” ต้าหมิงคุนเอื้อมมือเย้นเฉียบกุมมือเอ่อหลันเล่อไว้
“ต้าหมิงคุนไท่จือรักลี่หลันเล่อ แต่...ท่านอาฝ่าบาทมีหญิงหนึ่งในดวงใจหญิงที่โกนหนวดเคราของข้าทิ้งไปเหมือนกับจะทำให้ข้าเริ่มต้นใหม่กับใครบางคนที่ ข้าไม่อาจไม่รักนาง เอ่หลันเล่อที่แสนน่าเอ้นดุคนนั้นนางโยนเรื่องราวเจ็บซ้ำวุ่นวายไปพร้อมกับหนวดเครารุงรังนั้น ทำให้ข้าพบว่า ต้าหมิงคุนไท่จือรักลี่หลันเล่อเพียงใด ข้าต้าหมิงคุนฮ่องเต้กลับรักเอ่หลันเล่อมากว่าร้อยเท่าพันเท่า”หลันเล่อยิ้มเศร้าๆ สะอื้นเบาๆ
“ฮองเฮาหมอหลวงมาแล้ว”ถงหมิ่นพูดขึ้นเบาๆ ข้างกาย
“ไม่มีประโยชน์”ต้าหมิงคุนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
“ฝ่าบาทให้หมอหลวงตรวจดูอาการเสียหน่อย”หลันพูดไปสะอื้นไป
“ข้า อยากอยุ่กับเจ้าแบบนี้เวลาข้าเหลือน้อยแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเจ้าจะเป็นลี่หลันเล่อหรือเอ่อหลันเล่อข้าอยากจะบอกว่าดีใจที่ชดใช้ให้ลี่หลันเล่อ แต่เสียใจยิ่งที่ไม่อาจได้อยู่มองหน้าเอ่อหลันเล่อฮองเฮาที่ข้ารักยิ่ง ได้นอนร่วมแท่นนอนกับนางได้จุมพิตนางได้ ดูแลยามนางป่วยไข้แล้วก็ได้มีผู้สืบสายเลือดร่วมกันกับนาง ข้าขอโทษ”
“ท่านอาฝ่าบาทพร่ำพูดแต่คำว่าขอโทษ หลันเล่อไม่รับคำขอโทษท่านอาฝ่าบาทจะต้องอยู่ที่นี่ อยู่กับข้าได้ยินไหม”
“สวรรค์คงอยากให้ข้าชดใช้ ลี่หลันเล่อเองนางก็คงดีใจที่ข้าได้ใช้ให้นางแล้ว”
“ช่างนางหลันเล่อไม่ให้ท่านอาไปไหนไม่มีทางข้าไม่ยอม”ต้าหมิงคุนหลับตาไล่หยาดน้ำตา
“ข้ายอมจำนนแล้วเอ่อหลันเล่อไม่ว่ากี่ครั้งข้าก้ไม่อาจได้เคียงคู่กับคนที่รักสวรรค์ลงโทษข้าที่ทำกับลี่หลันเล่อ”หลับตาลงช้าๆ มือบางค่่อยค่อยคลายออก
“ท่านอาฝ่าบาท”
“ข้ารักเจ้าเอ่อหลันเล่อ”
“ม่ายยยยย ท่านอาฝ่าบาทอย่าจากหลันเล่อไป”ถงหมิ่นทรุดกายลงข้างๆ เอ่อหลันเล่อที่ซบหน้าร้องไห้กับร่างไร้วิญญาณเหมือนจะขาดใจตามไป
เสียงแตรดังยาวเหยียดด้วยท่วงทำนองเศร้าสร้อย หลันเล่อสะอื้นไห้อย่างหนักกอดร่างไร้วิญญาณไม่ยอมปล่อยมือ
ถงหมิ่น จื่อจื่อ และหานจงต่างทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
“ไท่จือทำไมต้องทำร้ายตัวเองเพียงนี้ ท่านแพ้ดอกเหมยกุ้ยฮวา”
“จื่อจื่อ แต่นางชอบมัน ลี่หลันเล่อนางชอบกลิ่นดอกเหมยกุ้ยฮวาชอบทุกอย่างที่เป็นดอกเหมยกุ้ยฮวาเห็นไหมบิดานางปลูกดอกเหมยกุุ้ยฮวาเต็มบ้านลี่ หากข้าไม่สามารถได้กลิ่นดอกไม้ชนิดนี้ แล้วข้าจะนำสิ่งใดไปมอบให้นางในทุกวัน”
“ไท่จือแต่ท่านป่วยไข้อีกทั้งยังกระอักเลือดสดสดออกมาเพียงนี้เกรงว่าร่างกายจะรับไม่ไหว”
“ดีข้าอยากพบนางอีกครั้งแม้จะต้องตายข้าก็ไม่เคยหวั่น แม้จะต้องพบนางที่บนสวรรค์นั่นข้าก็ไม่กลัวเพียงแค่ได้พบ ลี่หลันเล่อขอโทษนางแม้นางจะไม่ยกโทษให้ข้าแต่ข้าก็จะไม่ปริปาก เพียงแค่ขอพบนางบอกความในใจกับนางอีกครั้ง...ความในใจที่ข้าไม่เคยยอมรับมัน”ยิ้มเศร้าสร้อยผ่านม่านตาที่พร่ามัว
จบบริบูรณ์