Tulip 9

1006 Words
Tulip 9 “พี่จะตีให้” พี่พิมพ์กอดอกทำหน้าดุและงอนฉันมาเกือบห้าวันแล้วที่จู่ ๆ คืนนั้นฉันก็หายไปแต่ก็ส่งข้อความบอกอยู่นะไม่ใช่ไม่บอกสักหน่อย “ฮื่อ ไม่งอนนะ โอ๋เอ๋นะคะ” ขยับเข้าใกล้และกอดพี่สาวอย่างออดอ้อน “ไม่งอนแล้วน่า แต่ก็ห่วง” “เข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ซนแล้ว” เอ่ยบอกพี่สาวเพื่อให้หายเป็นกังวล “อื้อ พรุ่งนี้งานหนักเลยนะไปส่งของ” ใช่สินะ พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์ ออเดอร์มีเข้ามารัว ๆ เลยค่ะ ฉันเองก็จะต้องออกไปส่งด้วย ออเดอร์เยอะถึงแม้จะเหนื่อยแต่พอมองรายได้ที่จะเข้ามาฉันก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ ต้องได้ค่าขนมเยอะแน่เลยล่ะ “รับทราบค่ะ อ้อ พี่พิมพ์หลังวันวาเลนไทน์หนูขอไปเที่ยวกับไข่มุกนะคะสักสามสี่วัน” “ไปได้ค่ะ แต่จะไปกันยังไง?” พี่พิมพ์ยังถามต่อ มือก็ฉีดน้ำใส่ต้นไม้ในช่วงเช้าของวัน สงสัยล่ะสิว่าทำไมฉันตื่นเช้าแบบนี้ ฉันจะเล่าให้ฟังก็ได้ค่ะ คือว่าฉันน่ะ ฉันยังไม่ได้นอนเลยค่ะ ทำงานเสร็จแล้วลงมากินน้ำก็เจอพี่พิมพ์เลยออกมานั่งคุยเล่นด้วยนี่แหละ “คงจะนั่งเครื่องบินไปค่ะ ขับรถไม่ไหวหรอก” “ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจหน่อย พี่อนุญาตค่ะ” “ขอบคุณค่ะ หนูไปนอนแล้วนะ วันนี้อาจจะบ่าย ๆ เลยค่ะ” “โอเค ไปพักได้แล้ว” พี่พิมพ์เอ่ยย้ำ ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะกลับเข้ามาภายในบ้าน หลังจากที่ล้างมือและเท้าเสร็จฉันก็กระโดดขึ้นเตียงนอนหลับไปทันทีราวกับถูกปิดสวิสซ์ร่างกาย หลังจากวันวาเลนไทน์ฉันเหนื่อยมากหลับลึกสุด ๆ แต่ก็มาได้ยินเสียงร้องโวยวายจนสะดุ้งตกใจตื่น ไม่รู้เสียงดังจากที่ไหนกระทั่งได้ยินเสียงพี่สาวถึงได้รีบออกจากห้องนอนเพื่อลงไปดู ก็เห็นว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังออกจากบ้านและน้องลมที่บาดเจ็บ หลังจากนั้นก็วุ่นวายเป็นอย่างมาก ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกมาเปิดร้านแทนพี่พิมพ์ที่พาน้องไปหาหมอส่วนฉันมาส่งดอกไม้ให้ลูกค้าที่จะมารับหน้าร้าน รอไม่นานพี่มายด์และพี่มาลีก็มาถึงที่ร้าน “พิมพ์ไปไหนล่ะ ได้นอนหรือยังเนี่ยหน้าเพลียมาก” พี่มายด์รีบเอ่ยถามระหว่างที่ช่วยฉันเปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้ “พี่พิมพ์กำลังพาน้องไปหาหมอค่ะ ไม่รู้ว่าบาดเจ็บเยอะไหมมีคนมาทำร้ายน้อง” “ตายจริง แล้วกลับมาหรือยัง พิมพ์บาดเจ็บด้วยไหมเนี่ย” พี่มายด์รีบถามกลับมาอย่างร้อนรนส่งข้อความหาพี่พิมพ์ทันที “พี่พิมพ์ไม่เจ็บค่ะ แต่น้องเจ็บ หนูเองก็รอฟังข่าวอยู่พี่พิมพ์น่าจะยุ่ง ๆ ฝั่งนั้นค่ะ” “โอเค ๆ รอกลับมาแล้วกัน” “ค่ะพี่” ระหว่างที่รอพี่พิมพ์กลับมาฉันก็ทำหน้าที่รับออเดอร์ของลูกค้าไปเรื่อย ๆ จวบจนพี่สาวกลับมาถึงได้รู้อาการของน้องลม และพี่พิมพ์ก็มาขอให้น้องพักอยู่กับเราไปก่อนเพราะน้องบาดเจ็บรวมถึงหอพักน้องมันดูไม่ค่อยปลอดภัยกลัวว่าคนพวกนั้นจะตามไปทำร้ายน้องอีก ฉันเองก็ไม่มีปัญหาจึงตอบตกลงไปอย่างน้อยอยู่ที่นี่พี่พิมพ์ก็จะได้ดูแลน้องได้สะดวกยิ่งขึ้นนั่นแหละ และมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นอีกมากมายเมื่อพ่อบังเอิญมาเจอน้องลมก็ออกอาการถูกใจอยู่ไม่น้อยเพราะน้องดูมีอะไรมากกว่าเด็กคนหนึ่งมี ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคืออะไร แต่วันนั้นพ่อมาด้อม ๆ มอง ๆ ที่บ้านแล้วฉันออกไปเห็นพอดีเลยได้คุยกัน “มาทำอะไรคะ?” ฉันถามคนนอกรั้ว “พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย” พ่อเอ่ยบอกพร้อมกับทำหน้ารู้สึกเสียใจ “ช่วงนี้พี่พิมพ์เครียด อย่าเพิ่งพูดอะไรให้พี่พิมพ์คิดมากเลยนะคะ” ฉันไม่รู้ว่าพ่อตั้งใจจะคุยอะไรแต่ฉันน่ะ ไม่อยากให้พี่สาวเครียดไปมากกว่านี้แล้ว “พ่ออยากขอโทษแล้วก็ขอโอกาสจากลูก ๆ” “ไม่ใช่จะบังคับให้แต่งงานอีกหรือยังไงคะ?” ฉันถามกลับอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก กลัวว่าพ่อจะมาบังคับเราสองคนพี่น้องเหมือนที่แม่ชอบทำ “ไม่ใช่ เรื่องนั้นพ่อไม่บังคับแล้ว พ่อเองก็คุยกับแม่ของลูก ๆ แล้วว่าห้ามมาบังคับ” “หนูจะเชื่อพ่อ แต่ถ้าทำอะไรให้พี่พิมพ์เสียใจหรือไม่สบายใจ หนูจะไม่คุยกับพ่อเหมือนที่ไม่คุยกับแม่” ฉันย้ำกับคนตรงหน้า เพราะกลัวว่าท่านจะบังคับและพูดไม่ดีกับเราทั้งสองคน “พ่อจะไม่ทำแบบนั้น” พ่อยืนยัน ฉันถึงได้ยอมเปิดประตูรั้วบ้านแล้วให้พ่อเดินเข้ามา เมื่อเราได้นั่งคุยและนั่งปรับความเข้าใจด้วยกันก็เหมือนสถานการณ์ของเราทั้งสามคนจะดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนกลับพ่อมีแอบถามว่าทำไมน้องบาดเจ็บแบบนั้น ฉันจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พ่อฟังอย่างหงุดหงิดและใส่อารมณ์ไปเต็มเปี่ยม ตาแก่นั่นพยักหน้าแล้วทำหน้านิ่งก่อนจะกลับออกไป แต่หน้านิ่ง ๆ แววตาดุ ๆ แบบนั้น มักจะถูกใช้มองคนที่ทำให้ท่านโกรธ อย่างเช่นแม่ของฉันที่มักจะได้รับสายตาแบบนั้นของพ่อ ฉันและพี่พิมพ์ไม่เคยได้รับสายตาแบบนั้นจากพ่อเลยสักครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับความรักหรือความอบอุ่นจากพ่อเลยเช่นเดียวกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD