5.เข้าใจ

1133 Words
ความเดิม - "ค่ะขอบคุณค่ะนายใหญ่" แก้วตายกมือไหว้บุคคลทั้งสองแล้วออกมานอกห้องซึ่งมีแม่บ้านรออยู่ก่อนแล้วเพื่อนำไปห้องพัก ……………………………………….. @วันแต่งงานเพื่อนรัก พิทยาพาร์ท ผมยุ่งอยู่กับการเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแถมยังเหนื่อยสายตัวแทบขาด เขาได้รับมอบหมายให้ใส่ชุดไทยโจงกระเบนนุ่งยากใส่ยากจะลุกจะนั่งก็กลัวยับแม้จะเป็นแบบสำเร็จรูปก็เถอะ ส่วนเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ใส่ชุดไทยเข้าชุดกันเจ้าสาวสวยมากอยู่ในชุดไทยบรมพิมานสีขาวเงินส่วนเพื่อนรักของเขาอยู่ในชุดเสื้อราชปะแตนโจงกระเบนสีโทนเดียวกันกับเจ้าสาว พิธีการผ่านไปอย่างราบรื่นแต่สิ่งที่ผมผิดสังเกตคือสีหน้าพ่อเจ้าสาวและพ่อเจ้าบ่าวนี่ซิคล้ายมีเรื่องให้ต้องครุ่นคิด หน้าเข้มเชียว หลังจากพิธีการช่วงเช้าก็เป็นงานเลี้ยงช่วงเย็นเฉพาะญาติ ๆ และเพื่อนสนิท ผมก็ต้องอยู่เป็นหนึ่งในนั้นด้วยซึ่งการมาครั้งนี้ผมตั้งฝากฝังให้พี่ภัทราและหลานชาย พี่สาวและหลานชายของผมมาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่เพราะกลัวว่าจะมีอะไรฉุกเฉินระหว่างที่ผมไม่อยู่ ส่วนงานแต่งงานของเพื่อนรักของผมก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีพรุ่งนี้ก็เป็นไทกลับบ้านได้อย่างสบายใจ @เช้าวันรุ่งขึ้น พิทยาตื่นในเวลาเจ็ดโมงเช้าเศษ ๆ เพราะปาร์ตี้เมื่อคืนก็เกือบเที่ยงคืนหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จผมก็เตรียมตัวจะกลับแต่ต้องไปลาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก่อน @ห้องนั่งเล่น@ฟาร์มดวงเดือน "อ้าวตื่นแล้วเร๊อะนายพิทยา ตื่นเช้ากว่าที่คิดนะ" นั่นคือคำทักทายจากป๊าเขตแดนบิดาของเพื่อนสนิทของผมหละ "ครับทิ้งคนแก่ไว้กับคนขี้บ่นหนึ่งวันกะอีกหนึ่งคืนต้องกลับไปดูเสียหน่อยครับ หึหึ" พิทยาพูดกลั้วหัวเราะ "อะนี่ป๊าให้ค่าน้ำมัน ค่าเหนื่อย เห็นบ่าวไพร่มันบ่นกันว่าสงสารคุณพิทยากันใหญ่คงทั้งเหนื่อยทั้งร้อนน่าดูเลย" เขตแดนพูดพร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลให้เพื่อนลูกชาย "ขอบคุณครับป๊า ถ้าเป็นงานผมนะครับ จะแต่งที่สระว่ายน้ำ มีน้ำตกจำลองใส่เสื้อบางเบาชนิดเปียกแล้วแห้งเร็ว ๆ เหมือนเล่นน้ำสงกรานต์ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยครับ" "พูดเป็นเล่นไป เอาเข้าจริงกลัวจะเต็มยศกว่านี้ซิไม่ว่า มิต้องรอดซุ้มกระบี่กันเลยรึ" เขตแดนแกล้งเย้า "คงอีกนานครับป๊า ตอนนี้ก็ทำงานไปก่อน" "ยังไม่เจอ?" "คงงั้นครับป๊า" "เอ้า นายเดียวมาพอดีเลย มะ มานั่งนี่มะ จะได้คุยกับนายพิทเค้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไป" เขตแดนหันไปเห็นพ่อตาของลูกชายมาพอดีจึงเรียกมานั่งด้วยกัน "นี่นัดกันไว้เหรอครับ" พิทยาถามขึ้นอย่างสงสัย "คืออาอยากให้พิทยาช่วยเรื่องตามหาลูกเมียของนายปราบเพื่อนรักของอาหน่อยน่ะ" พรมแดนบอกเจตนารมณ์ "ได้ครับ ผมขอรายละเอียดหน่อยนะครับ ส่งผ่านป๊าหรือนายดามก็ได้ ว่าแต่นายดามรู้รึยังครับ?" "ยัง ป๊ายังไม่ได้บอก แต่เค้าไปอยู่ทางโน้นน่าจะรู้อะไรบ้างแหละ" เขตแดนพูดอย่างพอจะคาดคะเนได้ "เอ๊ะ ยังไงครับ ป๊าพูดอย่างกับว่ารู้แล้วว่าเป็นใครอย่างนั้นแหละครับ" "อืมมม...ก็ใช่" "อ้าว..แล้วจะให้ผมตามทำไมละครับ ผมไม่เข้าใจ" "ก็เมียเค้าพาลูกหนีไปอยู่กับพี่สาวที่ภูเก็ต แล้วพี่สาวที่ว่าก็คือแก้วตาเลขาหน้าห้องของเจ้าดามนะซิ" เขตแดนอธิบาย "และนี่คือรูปถ่ายของน้องปริมลูกสาวของเพื่อนรักอา นี่คือรูปภรรยาของเค้าซึ่งตอนนี้อาไม่รู้ว่าเค้าเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปกับใครรึยัง" พรมแดนอธิบายต่อ พิทยารู้สึกสะกิดใจในชื่อที่พ่อตาเพื่อนรักบอกมาได้แต่ภาวนาให้อย่าเป็นคนเดียวกันเลยเพราะอะไรเขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เขาค่อย ๆ หยิบซองสีน้ำตาลมาเปิดดูรูปถ่ายแล้วต้องตกใจสุดฤทธิ์ถึงกับอิ้งไปสามวิ "ไง..ถึงกับอึ้งเลยเหรอ" เขตแดนเอ่ยถามเพื่อนรักลูกชายอย่างรู้ทัน "เจอคนรู้จักน่ะครับ ไม่ซิเป็นหลานสาวที่คุณพ่อท่านปลื้มโปรดมาเกือบสองปีเห็นจะได้ครับ" พิทยาเอ่ยพร้อมกับยกคิ้วสูงเพราะไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ "ยังไง เล่าให้ฟังหน่อยซิ ปกติเฮียพัฒนาแกไม่ติดใจใครง่าย ๆ นิ่" เขตแดนจี้ต่อ "เรียกว่าหลงกันทั้งคุณพ่อคุณแม่เลยครับ แค่ยัยเด็กนั่นนั่งกินขนมถุงตอนเช้าก็ตามดู ห่อข้าวห่อน้ำไปให้กินทุกนัดที่ไปหาหมอ บางทีหมอไม่ได้นัดผมไม่ว่างก็ให้คนรถพาไป ส่วนคนรับก็บอกไม่ต้องเอามาแต่ไม่กล้าบอกคนแก่ บอกผ่านผมนิ่ ผมละเบื่อ แล้วยังสั่งทำกล่องอาหารห้าหมู่น่ารักสวยเก๋เพื่อใส่อาหารไปให้หลานสาวนอกไส้อีก ผมนี่เป็นคนหิ้วไปให้ แต่ตอนยื่นน่ะเค้ารีบแย่งกล่องจากมือผมไปให้หลานสาวเค้าเองกับมือ พอกลับบ้านไปคุณแม่ก็ถามว่าหลานสาวกินข้าวหมดมั๊ย บอกว่าอร่อยรึเปล่า เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละครับ" พิทยาอธิบายเสียยืดยาวเผลอใส่อารมณ์และล้อเลียนท่าทางของบิดาเสียด้วยเลย เรียกเสียงหัวเราะขำจากคู่สนทนาและผู้ที่ฟังอยู่ไปตาม ๆ กัน "อ้อ....ที่แกทำเสียงหงุดหงิดใส่ฉั๊นนี่ก็หลานสาวนอกไส้ของท่านผู้พิพากษาเองเหรอว๊ะ ไอ้พิท-บูล" เป็นแดนไตรที่พูดขึ้นขณะกำลังเดินประคองภรรยาป้ายแดงลงบันไดมาสมทบ "อย่ามารู้มากน่า" พิทยาแหวใส่เพื่อนนี่เกรงใจป๊ามันกับพ่อตามันหรอก "ป๊าว่าไงละครับ เอาไงดี" แดนไตรหันไปถามความเห็นผู้เป็นบิดา "รู้เหมือนกันเหรอเรา" เขตแดนถามลูกชายบ้าง "รู้ซิคร้าบ นี่พี่สาวเค้าก็รอรับขวัญน้องสาวเค้าอยู่" แดนไตรอธิบายต่อ "ดี จะได้ไม่ต้องเล่า เอาเป็นว่าสรุปเลยนะ แก้วตาหลุดปากมาว่าหนูปริมเรียนแพทย์อยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่บอกว่าเป็น มอ อะไร ซึ่งพิทยาคงรู้แล้ว แต่ส่วนที่พิทยาต้องตามคือที่พัก คอนโดที่กรุงเทพฯ ที่ดวงใจกับน้องปริมพักอยู่ต่างหาก" เขตแดนสรุป "เข้าใจแล้วครับ งานนี้คงต้องพึ่งบารมีท่านผู้พิพากษาเค้าละครับ" พิทยาเอ่ยขึ้นมุมปากยกยิ้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD