ความเดิม - "ค่ะขอบคุณค่ะนายใหญ่" แก้วตายกมือไหว้บุคคลทั้งสองแล้วออกมานอกห้องซึ่งมีแม่บ้านรออยู่ก่อนแล้วเพื่อนำไปห้องพัก
………………………………………..
@วันแต่งงานเพื่อนรัก
พิทยาพาร์ท
ผมยุ่งอยู่กับการเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแถมยังเหนื่อยสายตัวแทบขาด เขาได้รับมอบหมายให้ใส่ชุดไทยโจงกระเบนนุ่งยากใส่ยากจะลุกจะนั่งก็กลัวยับแม้จะเป็นแบบสำเร็จรูปก็เถอะ
ส่วนเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ใส่ชุดไทยเข้าชุดกันเจ้าสาวสวยมากอยู่ในชุดไทยบรมพิมานสีขาวเงินส่วนเพื่อนรักของเขาอยู่ในชุดเสื้อราชปะแตนโจงกระเบนสีโทนเดียวกันกับเจ้าสาว พิธีการผ่านไปอย่างราบรื่นแต่สิ่งที่ผมผิดสังเกตคือสีหน้าพ่อเจ้าสาวและพ่อเจ้าบ่าวนี่ซิคล้ายมีเรื่องให้ต้องครุ่นคิด หน้าเข้มเชียว
หลังจากพิธีการช่วงเช้าก็เป็นงานเลี้ยงช่วงเย็นเฉพาะญาติ ๆ และเพื่อนสนิท ผมก็ต้องอยู่เป็นหนึ่งในนั้นด้วยซึ่งการมาครั้งนี้ผมตั้งฝากฝังให้พี่ภัทราและหลานชาย พี่สาวและหลานชายของผมมาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่เพราะกลัวว่าจะมีอะไรฉุกเฉินระหว่างที่ผมไม่อยู่ ส่วนงานแต่งงานของเพื่อนรักของผมก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีพรุ่งนี้ก็เป็นไทกลับบ้านได้อย่างสบายใจ
@เช้าวันรุ่งขึ้น
พิทยาตื่นในเวลาเจ็ดโมงเช้าเศษ ๆ เพราะปาร์ตี้เมื่อคืนก็เกือบเที่ยงคืนหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จผมก็เตรียมตัวจะกลับแต่ต้องไปลาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก่อน
@ห้องนั่งเล่น@ฟาร์มดวงเดือน
"อ้าวตื่นแล้วเร๊อะนายพิทยา ตื่นเช้ากว่าที่คิดนะ" นั่นคือคำทักทายจากป๊าเขตแดนบิดาของเพื่อนสนิทของผมหละ
"ครับทิ้งคนแก่ไว้กับคนขี้บ่นหนึ่งวันกะอีกหนึ่งคืนต้องกลับไปดูเสียหน่อยครับ หึหึ" พิทยาพูดกลั้วหัวเราะ
"อะนี่ป๊าให้ค่าน้ำมัน ค่าเหนื่อย เห็นบ่าวไพร่มันบ่นกันว่าสงสารคุณพิทยากันใหญ่คงทั้งเหนื่อยทั้งร้อนน่าดูเลย" เขตแดนพูดพร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลให้เพื่อนลูกชาย
"ขอบคุณครับป๊า ถ้าเป็นงานผมนะครับ จะแต่งที่สระว่ายน้ำ มีน้ำตกจำลองใส่เสื้อบางเบาชนิดเปียกแล้วแห้งเร็ว ๆ เหมือนเล่นน้ำสงกรานต์ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยครับ"
"พูดเป็นเล่นไป เอาเข้าจริงกลัวจะเต็มยศกว่านี้ซิไม่ว่า มิต้องรอดซุ้มกระบี่กันเลยรึ" เขตแดนแกล้งเย้า
"คงอีกนานครับป๊า ตอนนี้ก็ทำงานไปก่อน"
"ยังไม่เจอ?"
"คงงั้นครับป๊า"
"เอ้า นายเดียวมาพอดีเลย มะ มานั่งนี่มะ จะได้คุยกับนายพิทเค้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไป" เขตแดนหันไปเห็นพ่อตาของลูกชายมาพอดีจึงเรียกมานั่งด้วยกัน
"นี่นัดกันไว้เหรอครับ" พิทยาถามขึ้นอย่างสงสัย
"คืออาอยากให้พิทยาช่วยเรื่องตามหาลูกเมียของนายปราบเพื่อนรักของอาหน่อยน่ะ" พรมแดนบอกเจตนารมณ์
"ได้ครับ ผมขอรายละเอียดหน่อยนะครับ ส่งผ่านป๊าหรือนายดามก็ได้ ว่าแต่นายดามรู้รึยังครับ?"
"ยัง ป๊ายังไม่ได้บอก แต่เค้าไปอยู่ทางโน้นน่าจะรู้อะไรบ้างแหละ" เขตแดนพูดอย่างพอจะคาดคะเนได้
"เอ๊ะ ยังไงครับ ป๊าพูดอย่างกับว่ารู้แล้วว่าเป็นใครอย่างนั้นแหละครับ"
"อืมมม...ก็ใช่"
"อ้าว..แล้วจะให้ผมตามทำไมละครับ ผมไม่เข้าใจ"
"ก็เมียเค้าพาลูกหนีไปอยู่กับพี่สาวที่ภูเก็ต แล้วพี่สาวที่ว่าก็คือแก้วตาเลขาหน้าห้องของเจ้าดามนะซิ" เขตแดนอธิบาย
"และนี่คือรูปถ่ายของน้องปริมลูกสาวของเพื่อนรักอา นี่คือรูปภรรยาของเค้าซึ่งตอนนี้อาไม่รู้ว่าเค้าเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปกับใครรึยัง" พรมแดนอธิบายต่อ พิทยารู้สึกสะกิดใจในชื่อที่พ่อตาเพื่อนรักบอกมาได้แต่ภาวนาให้อย่าเป็นคนเดียวกันเลยเพราะอะไรเขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เขาค่อย ๆ หยิบซองสีน้ำตาลมาเปิดดูรูปถ่ายแล้วต้องตกใจสุดฤทธิ์ถึงกับอิ้งไปสามวิ
"ไง..ถึงกับอึ้งเลยเหรอ" เขตแดนเอ่ยถามเพื่อนรักลูกชายอย่างรู้ทัน
"เจอคนรู้จักน่ะครับ ไม่ซิเป็นหลานสาวที่คุณพ่อท่านปลื้มโปรดมาเกือบสองปีเห็นจะได้ครับ" พิทยาเอ่ยพร้อมกับยกคิ้วสูงเพราะไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้
"ยังไง เล่าให้ฟังหน่อยซิ ปกติเฮียพัฒนาแกไม่ติดใจใครง่าย ๆ นิ่" เขตแดนจี้ต่อ
"เรียกว่าหลงกันทั้งคุณพ่อคุณแม่เลยครับ แค่ยัยเด็กนั่นนั่งกินขนมถุงตอนเช้าก็ตามดู ห่อข้าวห่อน้ำไปให้กินทุกนัดที่ไปหาหมอ บางทีหมอไม่ได้นัดผมไม่ว่างก็ให้คนรถพาไป ส่วนคนรับก็บอกไม่ต้องเอามาแต่ไม่กล้าบอกคนแก่ บอกผ่านผมนิ่ ผมละเบื่อ แล้วยังสั่งทำกล่องอาหารห้าหมู่น่ารักสวยเก๋เพื่อใส่อาหารไปให้หลานสาวนอกไส้อีก ผมนี่เป็นคนหิ้วไปให้ แต่ตอนยื่นน่ะเค้ารีบแย่งกล่องจากมือผมไปให้หลานสาวเค้าเองกับมือ พอกลับบ้านไปคุณแม่ก็ถามว่าหลานสาวกินข้าวหมดมั๊ย บอกว่าอร่อยรึเปล่า เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละครับ" พิทยาอธิบายเสียยืดยาวเผลอใส่อารมณ์และล้อเลียนท่าทางของบิดาเสียด้วยเลย เรียกเสียงหัวเราะขำจากคู่สนทนาและผู้ที่ฟังอยู่ไปตาม ๆ กัน
"อ้อ....ที่แกทำเสียงหงุดหงิดใส่ฉั๊นนี่ก็หลานสาวนอกไส้ของท่านผู้พิพากษาเองเหรอว๊ะ ไอ้พิท-บูล" เป็นแดนไตรที่พูดขึ้นขณะกำลังเดินประคองภรรยาป้ายแดงลงบันไดมาสมทบ
"อย่ามารู้มากน่า" พิทยาแหวใส่เพื่อนนี่เกรงใจป๊ามันกับพ่อตามันหรอก
"ป๊าว่าไงละครับ เอาไงดี" แดนไตรหันไปถามความเห็นผู้เป็นบิดา
"รู้เหมือนกันเหรอเรา" เขตแดนถามลูกชายบ้าง
"รู้ซิคร้าบ นี่พี่สาวเค้าก็รอรับขวัญน้องสาวเค้าอยู่" แดนไตรอธิบายต่อ
"ดี จะได้ไม่ต้องเล่า เอาเป็นว่าสรุปเลยนะ แก้วตาหลุดปากมาว่าหนูปริมเรียนแพทย์อยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่บอกว่าเป็น มอ อะไร ซึ่งพิทยาคงรู้แล้ว แต่ส่วนที่พิทยาต้องตามคือที่พัก คอนโดที่กรุงเทพฯ ที่ดวงใจกับน้องปริมพักอยู่ต่างหาก" เขตแดนสรุป
"เข้าใจแล้วครับ งานนี้คงต้องพึ่งบารมีท่านผู้พิพากษาเค้าละครับ" พิทยาเอ่ยขึ้นมุมปากยกยิ้ม