@โรงพยาบาลS
พิทยามารับอาหารหลักห้าหมูที่บ้านรังสรรโดยคุณยายพิชญากับคุณตาพัฒนาและรับคุณตามาหาหลานสาวคนสวยด้วยกันเมื่อมาถึงเขาจึงส่งข้อความหาคนของใจว่ามีอาหารมาส่งและคุณตาก็มาด้วยรออยู่ที่เดิม
สักพักสถานะข้อความของคุณหมอสาวก็เป็นอ่านแล้ว และตอบกลับว่ากำลังจะมาตามจุดที่นัดพบ
อีกด้านเสียงคนที่อ่านข้อความก็ดังขึ้น
"สวัสดีค่ะคุณตา สวัสดีค่ะพี่พิท หายดีแล้วหรือคะพี่พิท"
"หวัดดีลูก/ครับ..หายดีแล้วครับ" พัฒนาและพิทยาตอบคุณหมอสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ไม่น่าต้องลำบากเลย คราวหน้าคราวหลังไม่ต้องแล้วนะคะหนูเป็นห่วงไม่อยากให้ขับรถมาเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณยายกับพี่ภัทราจะรู้สึกยังไงบ้างคะ หนูก็รู้สึกผิดไปด้วย" ปารดีพูดอย่างตรงไปตรงมาจากใจจริง
"อืม..ก็มีเหตผลนะ..ตาก็ลืมข้อนี้ไปเลย..เอางี้มั๊ย..คุณตากับคุณยายจะทำกับข้าวแล้วใช้บริการออนไลน์ให้มาส่งดีมั๊ยลุก" พัฒนาเสนอทางเลือกและอยากจะดูปฏิกิริยาของลูกชายตัวดีอีกด้วย
"เอ่อ ก็แล้วแต่หนูสบายใจเลย แต่ถ้าวันไหนพี่สะดวกจะมาส่งเองมาพี่จะไลน์หรือโทรบอกหนูนะคะ" พิทยาพูดออกไปตามเสียงของหัวใจ
แต่ยังอยู่ในท่าทีที่ดีงาม ซึ่งพัฒนาก็รู้สึกพอใจกับความคิดเห็นของลูกชายในระดับหนึ่ง
"เอ่อ ก็ได้ค่ะ....แต่ความจริงปริมก็กินนิดเดียวเองหากินอะไรง่าย ๆ แถวนี้ก็ได้นะคะ ไม่อยากให้สิ้นเปลืองเลย" ปารดียังยืนยันเจตนารมณ์
"กินแต่บะหมี่แล้วก็ขนมขบเคี้ยวน่ะเหรอ ไตจะพังเอา อย่าคิดว่าไม่รู้นะ แอบสืบมาเหมือนกัน เป็นถึงคุณหมอไม่รู้รึไงแล้วจะสอนคนไข้ได้ยังไง" พิทยาประท้วงบ้าง ทำเอาพัฒนาถึงกับยกยิ้มมุมปาก แต่อีกคนที่โดนดุทำหน้าม่อยก้มหน้างุดหลบตาเหมือนเด็กทำความผิด
"ก็ไม่ได้กินบ่อยหรอกค่ะ แฮร่..คุณตากับพี่พิทกินด้วยกันนะคะ หนูกินไม่หมดหรอก คุณตาไม่มียาก่อนอาหารมื้อเที่ยงนี่คะ มีแต่ยาหลังอาหาร ก็กินอาหารได้เลย กินเสร็จก็จะได้กลับบ้านไปกินยาหลังอาหารแล้วก็พักผ่อน เน๊าะ ฮิ่ฮิ่" ปารดีว่าพร้อมกับหยิบนั่นหยิบนี่จากตะกร้ามาบริการ สองหนุ่มต่างวัยซ๊ะเลย อีกคนจะได้เลิกบ่นเธอซ๊ะ ส่วนพัฒนาได้แต่นึกขำในใจในความเอาตัวรอดของสาวเจ้า ได้แต่ยิ้มอ่อนเออออห่อหมกตามเธอไป
หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จปารดีถูกป้า ๆ พยาบาลเรียกตัวเพื่อไปรับหน้าคนไข้ประจำจึงขอตัวกลับไปที่ห้องตรวจก่อน ทั้งที่ยังไม่ได้เวลาบ่ายเลยด้วยซ้ำ และคนหนุ่มก็รีบพาคนแก่กลับบ้านเพื่อกินยาหลังอาหารตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด
@บนรถ
"แกคิดยังไงกับคุณหมอหลานสาวของฉั๊นกันแน่ แกช่วยบอกฉั๊นให้ปลงใจหน่อยซิ๊" พัฒนาเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบมานาน
"รักครับ" พิทยาตอบบิดาอย่างมั่นใจที่สุดในชีวิต
"อืม..ดี..งั้นก็ทำตามเสียงหัวใจของแกเถอะ..พ่อเอาใจช่วย..ยังมีอะไรที่แกต้องเจออีกเยอะ..ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน"
"พ่อพูดแปลก ๆ เหมือนกับไปรู้อะไรมาอย่างงั้นแหละ"
"อืม...ก็ว่าไปตามเนื้อผ้า..ถ้าคู่กันจริงก็คงฝ่าฟันไปด้วยกันจนได้นะแหละ" พัฒนาพูดกลบเกลื่อนไปซึ่งเขาได้ไปสืบค้นประวัติของครอบครัวของหลานสาวนอกไส้มาบ้างแล้วถึงกับจุกอกในความอับโชคของคุณหมอสาวเกี่ยวกับเรื่องพ่อ ถึงอย่างนั้นเขาก็มิได้ตั้งข้อรังเกียจเด็กสาวคนนี้แต่อย่างใด
หลังจากส่งคนแก่ถึงบ้านและดูแลให้กินยาแล้วให้อาบน้ำสระผมเนื่องจากไปโรงพยาบาลมาซึ่งเป็นแหล่งของเชื้อโรคอยู่เหมือนกันเขามักจะบังคับให้บิดามารดาอาบน้ำสระผมก่อนทุกครั้งแล้วค่อยพักผ่อนนอนหลับ จนใคร ๆ พากันแซวว่าเป็นพ่อกรมอนามัยไปแล้ว
หลังจากดูแลคนแก่ที่บ้านเสร็จพิทยาเข้าไปเคลียร์งานอีกเล็กน้อยแล้วจึงกลับไปรอรับสาวเจ้าที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะแอบดูตารางกันไว้แล้วว่าวันนี้ไม่มีเวร
พิทยาส่งข้อความ
พิทยา: เย็นนี้ไม่มีเวรพี่มารอรับกลับบ้านนะครับ
พิทยา: ไปทำกับข้าวกินกับแม่ดวงใจกัน
พิทยาส่งข้อความไปแต่คนตัวเล็กยังไม่อ่านอาจจะกำลังตรวจคนไข้ก็เป็นได้ เขาได้แต่รอคอย เปิดแอพพลิเคชั่นนั้นบ่อย ๆ เผื่อว่าคนตัวเล็กจะอ่านมัน
อีกด้าน
"หมอปริม.....เย็นนี้ว่างมั๊ยคะ ช่วยอยู่เวรแทนพี่ได้มั๊ยคะ พอดีลูกพี่ไม่สบายนะค่ะ" คุณหมอรุ่นพี่เอ่ยถามด้วยความหวัง ทำเอาอีกคนไม่กล้าที่จะปฏิเสธ
"เอ่อ...ได้ค่ะ วันนี้ปริมว่างค่ะ" ปารดีตอบออกไปอย่างเสียมิได้
"ขอบคุณมากเลยค่ะ งั้นพี่โอนเลยนะคะ ขอพร้อมเพย์เลยค่ะ"
"เอางั้นเหรอคะ ค่ะ" ปารดีอึกอักเพราะเพิ่งอ่านข้อความของคนพี่หลังจากตัวเองตอบตกลงรับเวรคุณหมอรุ่นพี่ไปแล้ว
หลังจากดีลกับคุณหมอรุ่นพี่เสร็จปารดีรีบต่อสายหาคนพี่ทันที
ปารดีโทรออก
พิทยา: ครับ เสร็จแล้วใช่มั๊ยครับ พี่รอเราอยู่ที่เดิมนะครับ
ปารดี: เอ่อ พี้พิทคะ คือพอดีปริมต้องเข้าเวรแทนพี่เค้านะค่ะ ลูกเค้าไม่สบาย
พิทยา: เหรอครับ แล้วเลิกดึกมั๊ยครับให้พี่มารับมั๊ย
ปารดี: ก็ดึกน่ะค่ะ แต่มีห้องพักแพทย์อยู่ ปริมจะนอนนี่เลย เดี๋ยวกลับไปเอาเสื้อผ้ามา
พิทยา: ปะงั้นพี่ไปส่งกลับไปเอาเสื้อผ้า
ปารดี: ค่ะ ขอบคุณค่ะ
สักพักคนตัวเล็กก็ปรากฎแกสายตาของเขา วันนี้คนตัวเล็กใส่เสื้อคอจีนผ้าพริ้วสีออฟไวท์ กระโปรงผ้าพริ้วสีฟ้าสดใส เพราะเธอถอดเสื้อกาวน์เก็บไว้ที่ตู้ล็อคเกอร์แล้ว
"มาแล้วค่ะ"
"ปะ" คนตัวโตรีบมาจับจูงมือคนตัวเล็กและนำไปยังที่จอดรถในทันที