ความเดิม- "ที่ไหน…..หลานพ่อออกจะน่ารักเรียบร้อย ไอ้เรื่องเสียงน่ะมันเป็นมาตั้งแต่เกิดแล้วมั๊ย อย่าเอามารวมกัน ไม่พอใจเค้าที่เค้าดันเรียกแกว่าคุณน้าละซิ" ท่านพัฒนาประท้วงคอเป็นเอ็น
………………………………………
"จริงเหรอพ่อ..คิ๊กคิ๊กคิ๊ก นี่..ยิ่งพูดยิ่งอยากเห็น อยากเห็นคนที่ทำให้น้ำแข็งละลายได้ อยากมากเลย" คุณนายพิชญาออกความเห็น
"เอากันเข้าไป ผมไม่ไปด้วยนะ ก็เค้าบอกอยู่ว่าไม่ต้องเอาไปให้แล้วก็ยังจะไป อยากไปก็ให้คนรถพาไปกันเองละกัน ไม่รู้ถูกอกถูกใจอะไรนักหนา" ชายหนุ่มบนพร้อมกับเดินจากไป
"พ่อ พ่อคิดว่าไงล่ะ?"
"เจอแล้วมั๊ง"
"จริงเหรอ เด็กมากเลยนะ"
"คนของเรามันแก่กว่าเค้าเองนิ่ ทางโน้นน่ะยี่สิบจะยี่สิบเอ็ดปีแล้ว
"ไหนว่าหลาน"
"เอ้า ถ้าได้มาเป็นลูกแล้วดีมั๊ยล่ะแม่ ดีกรีคุณหมอด้วยน๊า"
"เออ..ดี..ดี...พ่อ ยุเลยซิ"
"ยุไม่ได้ ไอ้นี่มันต้องตรงกันข้าม"
"หืม...อืม...พ่อพูดก็มีเหตผลนะ"
______________________
ตัดมาที่พิทยาหลังจากปลีกตัวออกมาจากร้อยแปดคำถามของมารดาได้จึงมาหาที่สงบนั่งดูงานไปเรื่อย ๆ สักพัก
สายเรียกเข้าจากแดนไตร
พิทยา: ว่าไงเพื่อน
แดนไตร: เสียงเหมือนหมาหงอยเลยว่ะ
พิทยา: อย่าหาเดาไปทั่ว มีไรว่ามา
แดนไตร: กุจะแต่งอยากให้มึงเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว
พิทยา: เมื่อไหร่ว๊ะ กุจะได้เคลียร์ตัวเอง
แดนไตร: อีกสามเดือนข้างหน้าเดี๋ยวส่งการ์ดให้ทางไลน์เลยนะทำตัวให้ว่างล่ะ
พิทยา: เออน่ะ ไม่ว่างก็ต้องว่าง มั๊ยว๊ะ น้องสาวคนเก่งกุจะแต่งทั้งทีแต่ดั๊นมาได้กับมึงนี่แหละ กรรม
แดนไตร: กรรมที่ไหน บุญนำพาต่างหาก
พิทยา: เออ บุญก็บุญ แค่นี้ใช่มั๊ยจะได้วาง
แดนไตร: คร้าบ หงุดหงิดอะไรเนี่ย หรือมีใครแหย่มึง เดี๋ยวกุจัดการให้
พิทยา: ช่างเหอะ กุจะวางล๊ะ
แดนไตร: เออ เออ ติ๊ด พิทยากดวางสาย
ด้านแดนไตร
หลังจากเพื่อนรักวางสายไปเค้ารู้สึกแปลก ๆ กับปฏิกิริยาของเพื่อนรัก
??…ใครทำอะไรมึงว๊ะ..ไอ้พิท..เหมือนน้อยใจ..เหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น..อะไรของมึง..?? แดนไตรบ่นพึมพำคนเดียว
"บ่นอะไรคะเฮีย คิ้วขมวดเป็นปมแล้วนั่น" เป็นปลายรุ้งที่เดินเข้ามาพร้อมกับชุดน้ำชาและคุ๊กกี้ซึ่งชายหนุ่มก็รีบรับมาวางที่โต๊ะใกล้ ๆ แล้วรีบเอื้อมมือไปคว้าเอวคนตัวเล็กจนเสียหลักล้มเข้ามาหาเขา ชายหนุ่มใช้จังหวะนั้นรวบเอวคนตัวเล็กไว้แล้วอุ้มขึ้นนั่งบนหน้าขาตัวเองอย่างง่ายดาย
"โทรหาไอ้พิทมัน ให้มันเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ฟังน้ำเสียงมันหงุดหงิด ๆ ยังไงชอบกล"
"หงุดหงิดเหมือนตอนเฮียเจอปลายช่วงแรก ๆ แบบนั้นมั๊ยคะ?"
"อื้อ...คล้าย ๆ นะ" แดนไตรเลิกคิ้วสูงพร้อมกับจิบชาแล้วกัดคุ๊กกี้เพียงครึ่งส่วนอีกครึ่งส่งเข้าปากคนตัวเล็ก
"เจอแล้วแต่ไม่รู้ตัวรึเปล่าคะ"
"หือ...มีเหตผล..เป็นไปได้..เก่งนะเนี่ยเมียใครหว่า"
"หึหึหึ เมียเฮียดามค่ะ"
แดนไตรกอดคนตัวเล็กอย่างแนบแน่นแล้วจุ๊ฟปากคนตัวเล็กซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ โดยไม่มีการลุกล้ำเข้าไปข้างในเพราะหลังจากเขาและเธอเป็นของกันและกันเพียงครั้งเดียวชายหนุ่มก็ไม่ได้ล่วงเกินเธออีกเลยเพื่อเก็บไว้รอวันเข้าหอเลยทีเดียวและลุ้นเบบี๋ไปพลาง ๆ
"โอ๊ย กุตาย รักจะบ้าตายอยู่แล้ว เข้าหอเดี๋ยวนี้เลยเถอะ"
"ไม่ได้ ลุ้นเบ่บี๋ก่อน เผื่อน้องมาเดี๋ยวหลุด"
"....ทำไมมันยากจังหืม...จุ๊ฟ.." คนตัวโตได้แต่จูบไปบ่นไปอย่างขัดใจ
_____________________
สามเดือนผ่านไป
ปารดีและมารดาเดินทางกลับไปเยี่ยมป้าที่ภูเก็ตในวันหยุดยาว
@ภูเก็ต@บ้านแก้วตา
"ดวงใจเอ๊ย ดูแลลูกดีดีนะมาได้ครึ่งทางล๊ะ อย่าให้เป๋เด็ดขาดเลยนะอีกไม่กี่เดือนก็ขึ้นปีสี่ล๊ะ"
"ค่ะพี่แก้ว หนูจะดูแลลูกอย่างดีเลยค่ะ จะไม่ให้เลือดไม่ดีมันมาทำให้ลูกสาวคนเดียวของหนูมัวหมองได้หรอกค่ะ"
"อภัย ปล่อยวาง อย่าผูกพยาบาท เธอก็เหมือนกันต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกนะ"
"ค่ะพี่แก้ว ขอบคุณพี่แก้วนะคะ ถ้าไม่มีพี่หนูคงลำบาก พี่เป็นทั้งพี่และแม่ของหนูเลย" ดวงใจพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาและสั่นในตอนปลายคล้ายกำลังสะกดอารมณ์บางอย่าง
"อือ พี่ก็รักเธอ รักหลานนะ หวังฝากผีฝากไข้ พี่ชัยพี่เขยแกก็แก่ตัวขึ้นทุกวันไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนใครดี" แก้วตาพูดกลั้วหัวเราะเพราะไม่อยากให้น้องสาวคนเดียวอยู่กับอารมณ์ซึมเศร้าเพราะเธอเคยผ่านมันมาแล้วตั้งแต่สูญเสียลูกชายด้วยโรคไข้เลือดออก
"อย่าเศร้าซิ หนูกับลูกไม่ทิ้งพี่กับพี่ชัยแน่นอน พี่ชัยก็เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของหนูนะ" กลายเป็นคนน้องที่ปลอบคนพี่เสียเอง
"เออ อาทิตย์หน้าพี่ต้องไปงานแต่งงานเจ้านายนะ นายใหญ่ขอมาให้ไปช่วยน่ะ ไม่ไปไม่ได้ซ๊ะด้วย ดีนะที่เป็นวันหยุด"
"เหรอ ที่ไหนล่ะพี่"
"ฟาร์มดวงเดือนสระบุรีโน่น แต่แต่งเสร็จก็มาอยู่ภูเก็ตกัน เห็นว่างั้น"
"อ้าวแล้วพี่ไปไงล่ะ พี่ชัยไปด้วยมั๊ย?"
"คนของนายใหญ่จะเอารถมารับไปสนามบิน แล้วก็มีคนรับจากสนามบินไปที่ฟาร์มน่ะ พี่ไปคนเดียว พี่ชัยเค้าไม่ไปด้วยหรอกรายนั้นเค้าติดอู่กระดิกได้ที่ไหน" (สามีของเธอเปิดอู่ซ่อมรถยนต์กิจการดีทีเดียวเพราะราคากันเอง) แก้วตาได้แต่ปลงในใจว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เมื่อเค้าอยากรู้ ก็ให้เค้ารู้กันไป เรามีแต่ความจริงใจซ๊ะอย่าง ไม่ได้อาฆาตมาดร้ายอะไรใครสักหน่อย