หลังจากที่อิงนรีทำเรื่องหกล้มหกลุก ทั้งสามสาวจึงต้องพากันกลับบ้าน มาถึงแม่เลี้ยงสายบัวก็ต้องลำบากหาหยูกยามาทาให้ เพราะกลัวว่าที่ลูกสะใภ้จะเป็นอะไรมาก
"ยายอิง!!! แกบอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าไอ้ที่แกหกล้มหกลุกเนี่ย แกไม่ได้ไปอ่อยตาเหนือจนเกินเบอร์ใช่ไหม" จังหวะที่ได้อยู่กันสองคนป้าหลาน คุณนายอรุณวลีรีบหันไปกัดฟันถามหลานสาวด้วยความโมโห เธอเก็บกลั้นอารมณ์มาตั้งแต่ตอนเห็นเหนือภูผาประคองแม่อิงนรีตัวดีเดินมาจากในไร่แล้ว เธอไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอนว่านี่เป็นอุบัติเหตุ คนอย่างอรุณวลีไม่มีทางมองมุกตื้นๆ ของหลานสาวตัวเองไม่ออก
"อิงเจ็บขนาดนี้ คุณป้ายังคิดว่าอิงแกล้งอีกเหรอ" แต่มีหรือคนอย่างอิงนรีจะยอมรับ เธอทำเป็นตีหน้าซื่อตาใส ไม่รู้ไม่ชี้ คนถามสูดลมหายใจเข้าเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ถ้าอยู่กันสองคนที่บ้านละก็ แม่อิงนรีได้ถูกหยิกจนเขียวแน่
"ก็แกน่ะ..."
"มาแล้วจ้าหนูอิง" เสียงของแม่เลี้ยงสายบัวทำให้นิ้วอวบของคุณนายอรุณวลีที่ชี้บนหน้าของหลานสาวพลันต้องยกลงอย่างรวดเร็ว
"นี่ยาหม่องอย่างดีจากเมียนมาร์ป้าได้มาสมัยไปทำบุญ เอาไปสิวลี เอาไปทาให้หลานหน่อย" แม่เลี้ยงสายบัวว่าพลางยื่นกระปุกยาหม่องให้กับเพื่อนสนิท
"เฮ้อ...ตาเหนือนี่ก็จริงๆ เลย ทำไมปล่อยให้น้องหกล้มจนขาเจ็บแบบนี้ได้นะ"
"อย่าไปโทษพ่อเหนือเลย ยายอิงต่างหาก เดินยังไงให้ล้ม ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะสายบัวที่จะต้องคอยให้พ่อเหนือเขาจับตาดูตลอด"
"อิงขอโทษจริงๆ ค่ะ เป็นความผิดอิงเองที่ขอคุณเหนือไปเดินถ่ายรูปเล่น แล้วไม่ทันดูทางก็เลยล้มแบบนี้น่ะค่ะ"
"พูดแบบนี้์? ไม่ได้อยู่กับตาเหนือตลอดหรอกเหรอ?" แผนการที่จะหลอกถามเรื่องน้ำเมยของอิงนรีสำเร็จ เธอแกล้งปูทางเพื่อจะตัดเข้าเรื่องแล้วหลอกถามข้อมูลจากสายบัว อิงนรีแกล้งปั้นหน้าเหนียมอาย พลางก้มหน้าลงก่อนจะบีบเสียงเล่นบทคนมีมารยาท
"คือว่า...อิงเห็นคุณเหนือเจอเพื่อน แล้วพอดีว่าเขาคุยกันอยู่ อิงไม่อยากจะเสียมารยาทค่ะ ก็เลยแยกออกมา"
"เพื่อน? อ๋อ ผู้หญิงขาวๆ ที่ไร่อยู่ข้างไร่ตาเหนือใช่ไหม?" แม่เลี้ยงสายบัวรู้ทันทีว่าอิงนรีหมายถึงใคร คนถูกถามพยักหน้ารับพร้อมกับรอฟังว่าจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจากที่เธอแอบฟังมาอีกบ้าง
"คนนั้นน่ะชื่อเมย เป็นลูกสาวของผู้มีอิทธิพลละแวกนี้ แต่ก่อนไร่ที่ตาเหนือทำอยู่ก็เป็นที่ของเขา เพราะว่าป้าโดนโกงไปสมัยที่ลุงเขาเสียใหม่ๆ กว่าจะได้คืนก็รอจนตาเหนือโตเรียนจบ นี่ก็เพิ่งจะไม่กี่ปีเอง ตัวป้าน่ะไม่ค่อยจะอยากคุยกับทางนั้นสักเท่าไหร่หรอก พ่อของแม่เมยเองก็ไม่ชอบตาเหนือ จะเรียกว่าเกลียดเข้าไส้เลยก็ได้ เพราะที่ดินที่ได้คืนมาไม่ใช่แค่ไร่สองไร่ แต่รวมๆ แล้วน่าจะถึงร้อย แต่แม่เมยเนี่ยก็เป็นเพื่อนที่เรียนโรงเรียนเดียวกับตาเหนือ เขาก็เลยยังพูดคุยกันอยู่บ้าง ส่วนป้าน่ะไม่ขอยุ่งด้วยหรอก ไม่ค่อยจะชอบใจคนขี้โกง" อิงนรีพยักหน้ารับ 'อย่างนี้สินะ คุณป้าถึงไม่ได้จับคู่ยายเมยกับคุณเหนือ ผู้ใหญ่ไม่ชอบกันแบบนี้ โอกาสจะโดนแย่งก็เท่ากับว่าไม่มีแล้วสินะ' อิงนรีเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่ตั้งใจจนทำให้แม่เลี้ยงสายบัวต้องขมวดคิ้วสงสัย
"ยิ้มอะไรเหรอจ๊ะ"
"อะ..อ๋อ...อิง อิงไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยยิ้มน่ะค่ะ"
"อ๋อ...หนูอิงไม่ต้องไปสนใจหรอกนะลูก สองคนนั้นน่ะไม่มีอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนหรอก เพราะถ้าตาเหนือชอบแม่เมยก็คงคบกันไปนานแล้ว สองคนนี้น่ะรู้จักกันมานาน" อิงนรีพยักหน้ารับ 'คุณเหนือน่ะไม่คิดอะไรหรอก แต่ยายเมยนี่น่าจะไม่ใช่ ถึงจะไม่มีอะไรแต่ระวังเอาไว้ก็ดี' อิงนรีคิดในใจ หลังจากที่ได้ทำแผลที่ไม่มีแผลกันจนเรียบร้อยแล้ว อิงนรีก็ขอตัวขึ้นมาพักบนห้อง ส่วนสองสาวใหญ่ก็ลงไปนั่งจิบชาคุยกันในสวน
-แช็ตกลุ่ม 99+ ข้อความ-
"มีอะไรคุยกันเยอะแยะนักหนานะ" อิงนรีบ่นพึมพำก่อนจะเปิดอ่านข้อความ ยิ่งย้อนขึ้นไปตาของอิงนรีก็ยิ่งเบิกกว้าง หยาดฟ้าประสบอุบัติเหตุจนต้องนอนโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ไปฉลองกันล่าสุด
หยาดฟ้า : อีหมอสิบทิศมันก็ตามมาราวีฉันไม่จบไม่สิ้น มาเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน บางวันเวรดึกก็มาทั้งคืนอย่างกับคนไม่มีงานมีการทำ กู้ภัยนะกู้ภัย ทำไมต้องพาฉันมาส่งที่โรงพยาบาลนี้ด้วยก็ไม่รู้
แก้ว : ก็แกดันไปรถคว่ำแถวนั้น เขาก็ต้องพาแกส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดสิ
อิงนรี : ทำไมแกไปแถวนั้น บ้านแกไม่ได้กลับทางนั้นสักหน่อย?
หยาดฟ้า : หายหัวไปไหนตั้งนาน ถ้าฉันตายนี่แกคงรู้จนวันเผาโน่นมั้ง
อิงนรี : ยุ่งๆ
แก้ว : แล้วสรุปเป็นไง
อิงนรี : ฉันเหรอ? สรุปก็แต่ง ได้วันแล้วจะโทรบอก เห็นป้าบอกว่าจะจัดเล็กๆ งานครอบครัวคนรู้จัก สงสัยกลัวจะเป็นข่าวดังแล้วทางนี้รู้เรื่องฉาวๆ ของฉัน
หยาดฟ้า : ข่าวใส่สีตีไข่น่ะเหรอ ว่าแต่ทำไมแกยอมแต่งง่ายจังวะ?
อิงนรี : อยากรู้ก็มาสิ
หยาดฟ้า : รอขาฉันเข้าที่แล้วค่อยแต่งสิ
อิงนรี : ขาหักเลยเหรอ?
หยาดฟ้า : อืม
อิงนรี : ไม่รู้ละ ยังไงแกสองคนก็ต้องมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ฉัน นอกจากพวกแกแล้วฉันไม่มีใครแล้วนะ
แก้ว/หยาดฟ้า : จ้าาา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงพลันมุ่นคิ้วด้วยความไม่พอใจ เธอเพิ่งจะหนีขึ้นมาบนห้องได้เพียงไม่กี่นาทีก็ถูกตามตัวอีกแล้ว
"คะ?"
"นายน้อยมาหาจ้าว" เพียงได้ยินว่าผู้ชายมาหา อิงนรีก็พลันลุกยืนขึ้นทันที แต่เพียงครู่หนึ่งเธอก็คิดได้ว่าตัวเองกำลังแกล้งขาเจ็บอยู่ เลยต้องเดินให้ช้าลงเพื่อไปหาเหนือภูผาที่นั่งรออยู่ชั้นล่าง
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" เสียงของอิงนรีทำให้คนที่กำลังนั่งรอสะดุ้งเล็กน้อย เขายังเสียอาการเรื่องที่จัดการกับอารมณ์ของตัวเองในไร่อยู่
"อ๋อพอดีผมรู้สึกว่ายังไม่ได้ดูคุณอิงเลยว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า กลัวจะเสียมารยาท เพราะผมเองก็ผิดที่ไม่ได้ดูแลคุณอิงให้ดี จนคุณอิงต้องเจ็บตัวแบบนี้"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อิงไม่เป็นอะไรมากหรอก"
"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ ผมแค่อยากมาดูให้แน่ใจ แล้วก็อยากมาขอโทษคุณอิงด้วย"
"ถ้าอยากจะขอโทษจริงๆ พรุ่งนี้พาอิงเที่ยวหน่อยได้ไหมคะ?" คนขออยากจะวัดใจคนบ้างานตรงหน้า ว่าระหว่างความรู้สึกผิดที่มีต่อเธอกับความบ้างานอะไรมันมากกว่ากัน เหนือภูผานั่งนิ่งเพราะยังอึ้งกับคำขอของอีกฝ่ายอยู่ คนอย่างเขาเข้าไร่บ่อยกว่าเข้าเมืองเสียอีก จะให้ทิ้งงานไปเที่ยวมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย