บทที่ 3
สัมผัสชวนวูบไหว ใจเต้นแรง
มื้ออาหารจบลงด้วยดี โดยไม่มีศึกเหนือเสือใต้เกิดขึ้นกลางวงกับข้าวอีก ผู้หลักผู้ใหญ่ขอตัวไปดวลหมากรุกกันให้ห้องทำงานประมุขของบ้าน อิงดาวคุยกันถูกคอกับคุณนายอรชุมาตามประสาเรื่องของผู้หญิงที่ห้องรับแขก ส่วนสองพี่น้องนั้นเธอไม่รู้ว่าเขาหายตัวไปทำอะไรที่มุมไหนของบ้าน
แต่มีสิ่งหนึ่งที่หายไปตั้งแต่เธอเดินทางมาถึงที่นี่ก็คือยังไม่เจอกับเจ้าตัวป่วนประจำบ้าน หรือถูกกักบริเวณให้อยู่ในส่วนของเจ้าตัวก็ไม่แน่ใจ
“ตั้งแต่อิงมายังไม่เห็นเจ้าตัวป่วนเลยค่ะ หรือว่าถูกกักบริเวณอีกเหรอคะ”
สอดส่องสายตามองหาเจ้าซามอยด์สีขาวร่างยักษ์ที่มักจะกระโดดโลดเต้นเข้าหาเธอทุกครั้งที่มาเยี่ยมคนในบ้านหลังนี้ แต่ความซนของเจ้าโอโม่ที่มีอานุภาพการทำลายล้างขั้นสูงนั้นก็ทำให้คุณป้าอรชุมาไม่ค่อยจะชอบใจหมาดื้อเท่าไรนัก ถึงขั้นสั่งกักขังบริเวณทำโทษกันอยู่บ่อย ๆ
“ป้าสั่งให้เด็กพาไปเล่นในสวนน่ะ จะได้ไม่มาป่วนตอนช่วงเราทานข้าวกัน”
ความไม่ถูกใจกันสักเท่าไหร่ ทำผิดทีไรดุหมาแล้วหมาไม่ยอมฟัง จะดุเจ้าของหมาอย่างพี่อิฐก็คงบ่นกันได้ไม่เต็มปากนัก ยามอิษวัตไม่อยู่ก็มีพี่เลี้ยงคอยดูแลเจ้าโอโม่ไม่ให้เข้ามาวุ่นวายภายในบ้านหลังใหญ่ให้ป่วนใจนัก
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง
พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงเห่าดังก้องกังวานก็ดังลอยเข้ามาในห้องนั่งเล่น มองผ่านกระจกใสออกไปนอกห้องเห็นเจ้าขนฟูสีขาวตัวใหญ่กำลังวิ่งวนร่างสูงของอิษวัตพร้อมเห่าประท้วงเหมือนต้องการอะไรบางอย่างจากเจ้าของ
“นู่นไงลูกเจ้าของเขาไปพาออกมาละ”
หากจะเชื่อฟังอยู่บ้างคงจะมีเพียงแค่เวลาเจ้าของสั่งการเท่านั้น ตอนนี้เห็นกำลังนั่งนิ่ง ๆ ฟังเจ้าของสั่งให้ทำ มองเลยไปเห็นอะไรบางอย่างในมือของอิษวัตก่อนที่เขาจะขว้างมันออกไปห่างจากริมสระว่ายน้ำที่เขากับอรรถพรนั่งอยู่ไกลพอสมควร
เจ้าร่างยักษ์วิ่งถลาไปตามคำสั่งกลับไปกลับมาอย่างคล่องแคล่ว นั่งมองเพลิน ๆ หัวเราะขำบ้างยามที่หมาดื้อลื่นไถลจนเกือบจะร่วงลงไปในสระว่ายน้ำ คุณป้าอรชุมาคงจะมองท่าทีของเธอออกว่าอยากจะไปทักทายโอโม่เต็มทีจึงได้เอ่ยปากแยกตัวขึ้นไปเอนกายพักผ่อนในห้องส่วนตัวของท่าน
อิงดาวเดินออกมาริมสระว่ายน้ำตรงจุดที่สองพี่น้องนั้นนั่งมองเจ้าหมาซนวิ่งวนกลับไปกลับมา อิษวัตเหลือบมองมาที่เธอเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหันไปสนใจเจ้าโอโม่ต่อ เธอเลือกที่จะเดินเข้าไปยืนข้าง ๆ อรรถพรแทน ฝั่งนั้นนอนเอนกายสบายอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบริมขอบสระว่ายน้ำ
“ดูท่าทางสนุกสนาน ชอบใจใหญ่เลยนะคะเนี่ย”
ยังไม่ทันจะนั่งลงที่ว่างข้าง ๆ อรรถพรเจ้าตัวป่วนที่วิ่งคึกคะนองกลับมาจากเก็บลูกบอลก็โผเข้าหาเธอแทนที่จะนำลูกบอลเอาไปให้เจ้าของ
“โอโม่”
เสียงเข้มดุของอิษวัต ฉไนเลยจะมีอานุภาพต้านทานความคิดถึงเพื่อนเล่นตัวเล็กของเจ้าโอโม่ได้ ซามอยด์ร่างยักษ์ปล่อยลูกบอลให้กับอิษวัตแล้วไม่รีรอกระโดดเข้าใส่อิงดาวในทันที
“โอ๊ะ! โอโม่เบา ๆ”
เชื่อว่าเบาแต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กว่าร่างเล็ก สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น อิงดาวพยายามรับร่างของหมาร่างยักษ์ที่ดีใจได้เจอหน้าเธอในรอบหลายเดือน แต่แรงเธอหรือจะสู้แรงเจ้าหมาดื้อได้ แรงกระแทกเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ร่างเล็กเสียหลักหงายหลังตึง กว่าที่อรรถพรผู้อยู่ใกล้มากที่สุดจะคว้าตัวเธอได้ อิงดาวก็ร่วงลงไปในน้ำพร้อมกับเจ้าโอโม่เป็นที่เรียบร้อย
ตูม! ตูม!
“เฮ้ย!”
อรรถพรอุทานด้วยความตกใจ ทั้งคนทั้งหมาร่วงลงไปลอยคออยู่ในน้ำด้วยกัน แต่ที่มากกว่านั้นแทนที่เจ้าโอโม่จะถอยห่างจากอิงดาว เข้าใจว่าคนร่างเล็กว่ายน้ำไปมาเล่นเป็นเพื่อนหรือยังไงถึงได้ว่ายตามไปปล้ำน้องสาวเขาไม่ยอมผละห่าง
เห็นท่าไม่ดีเมื่อเห็นน้องถูกเจ้าร่างยักษ์เกาะจนเจ้าตัวกดจมลงไปในน้ำผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตั้งท่าจะลงไปดึงรั้งเจ้าโอโม่ให้แยกจากแต่ก็ยังช้ากว่าใครบางคนที่พุ่งตัวลงสระไปก่อนเขาเรียบร้อย
“โอโม่มานี่”
อิษวัตว่ายเข้าไปประชิดตัวทั้งคนทั้งสุนัขที่ยังปล้ำกันอยู่ขอบสระอย่างรวดเร็วดึงรั้งจอมซนที่ไม่ยอมเชื่อฟัง ช่วยดันให้ขึ้นไปบนฝั่งพร้อมกับออกคำสั่งน้องชายที่ยืนคอยอยู่ขอบสระ
“อรรถเอาโอโม่ไปเก็บก่อน"
คำว่าเก็บนั่นคือการพากลับไปอยู่กับพี่เลี้ยงให้พี่เลี้ยงช่วยอาบน้ำทำความสะอาดให้ ดีที่ว่าสาวใช้คนนึงเดินเอาอาหารว่างเข้ามาเสิร์ฟพอดี
“พี่พิมพ์มาพอดี”
อรรถพรโบ้ยต่อให้แต่อิษวัตกลับยืนยันคำสั่งเดิมให้น้องชายเป็นคนพาเจ้าร่างยักษ์จอมดื้อออกไป
“อรรถพาไป พี่พิมพ์อยู่นี่ก่อน”
มองไปยังสาวน้อยตัวเปียกปอนที่มองเห็นอะไรบางอย่างเด่นชัดลอยตัวอยู่เบื้องหลังพี่ชายแต่พอเหลือบมองสายตาเคร่งขรึมของคนพี่แล้วอรรถพรจึงยอมดึงรั้งเจ้าตัวป่วนเมืองให้ออกไปจากบริเวณอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่พี่พิมพ์ซึ่งยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ขอบสระด้วยไม่รู้จะช่วยยังไง พอได้ยินคำสั่งของเจ้านายให้ไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ สาวใช้รีบวิ่งเร็วไวไปจัดหามาตามคำสั่งทันที
พออยู่กันตามลำพังสองต่อสอง อิษวัตหันกลับมาสนใจเธอที่ลอยคออยู่ในน้ำด้วยกันกับเขา สายตาคมที่จดจ้องมองมาที่ใบหน้าเธอนิ่ง ๆ ในขณะที่เธอเองก็ไม่สามารถละสายตาไปจากร่างสูงใหญ่ที่เต็มตึงไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นไร้ไขมันตั้งแต่ช่วงอกไล่ลงไปเรื่อย ๆ จนถึงกล้ามเนื้อช่วงท้องที่จมอยู่ใต้น้ำ แม้มองผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกชื้นยังรู้สึกวูบ ๆ วาบ ๆ ไปทั่วร่างกาย ลมหายใจพาลสะดุดกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นแสนเข็ญ เบี่ยงตัวหนีอาการร้อนรุ่มเพื่อขึ้นฝั่ง แต่กลับถูกอีกฝ่ายคว้าตัวเธอเข้าไปประชิดร่าง
“พี่อิฐจะทำอะไรคะ”
อิงดาวเอ่ยพร้อมสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ อีกฝ่ายตวัดรัดร่างเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเร็วไว พร้อมกระซิบถามเธอใกล้ ๆ ความตั้งใจที่จะผลักไสอ้อมกอดแข็งแกร่งนั่นออกห่างกลับไม่เป็นไปตามที่ใจคิด
“จะไปไหน”
“อิงจะว่ายน้ำขึ้นฝั่ง โอ๊ะ!”
บอกเขาได้แค่นั้นแล้วเป็นต้องอุทานด้วยความตกใจอีกหนเมื่ออิษวัตช้อนร่างบางของเธอให้ลอยขึ้นเหนือน้ำ แล้ววางเธอลงบนขอบสระด้านบนจากนั้นเขากระโดดตามขึ้นมานั่งลงใกล้ ๆ
ทั้งสองสบตากันแน่นิ่งก่อนที่เธอจะยันตัวลุกขึ้นเดินเลี่ยงจากเขาไปอีก มือหน้ากลับประคองใบหน้าที่เปียกชื้นของเธอตรึงให้หันไปมองหน้าเขา อิษวัตเคลื่อนใบหน้าคมเข้าหาเธอช้า ๆ ในขณะที่ดวงตาเธอเบิกกว้างขึ้นตื่นตะลึงว่าเขากำลังจะทำอะไร ปลายนิ้วแกร่งแตะไล้ลงไปตามผิวเนื้อเปียกลื่น ขนาดว่าน้ำที่เย็นฉ่ำเปียกแฉะไปทั่วร่างยังมิอาจต่อต้านความร้อนระอุที่ส่งผ่านมาตามข้อนิ้วซึ่งเขาลากลงไปหยุดตรงข้างสาบเสื้อนักศึกษาที่ยามนี้เธอเพิ่งจะรู้ว่ามันไม่สามารถอำพรางบิกีนีสีแดงเพลิงที่เธอสวมใส่ได้เลยสักนิด ทรงอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะแรงเร็วมากยิ่งขึ้น ก่อนที่เธอจะเป็นจะตายเพราะอยู่ใกล้ซาตานร้าย อิษวัตเอ่ยกับเธอด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ตรงนี้เป็นรอยแดง”
คงเป็นช่วงที่เจ้าโอโม่ตะกุยตะกายเกาะตัวเธอ ก้มหน้าลงมองตามตำแหน่งที่เขาลูบไล้ไปมาเบา ๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดข้างแก้ม
“เจ็บหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ นิดเดียวเอง”
อันที่จริงก็ไม่นิดเพียงแต่อาการเจ็บแสบรอยเล็บข่วนของเจ้าโอโม่นั้นไม่ได้มีอิทธิพลเท่ากับเรือนร่างที่มีเสน่ห์ทุกยามของผู้ชายที่รูปร่างเพอร์เฟคคนนี้ อิงดาวกระถดตัวถอยห่างจากปลายนิ้วร้อนของเขาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่สาวใช้วิ่งแจ้นเอาชุดคลุมมาห่มร่างให้แล้วพาเธอเข้าบ้านไปเพื่อไปจัดการสลัดชุดนักศึกษาเปียกชื้นออกจากกาย ก่อนจะจากไปร่างบางหันกลับไปมองคนที่ช่วยเธออยู่ริมสระเพียงเล็กน้อย อิษวัตยังคงยืนตระหง่านทอดสายตามองมาที่เธอไม่วางตา แววตาอันดำมืดนั้นเธอไม่รู้ว่าภายในใจเขากำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่คิดถึงข้อนิ้วแกร่งที่ลูบไล้ผิวเนื้ออ่อนตรงช่วงลำคอกายสาวกลับสั่นสะท้านขึ้นมาโดยอัตโนมัติจนต้องกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นก้าวขาไว ๆ เดินออกไปให้พ้นจากความรู้สึกชวนใจเต้นแรง
##ยังไม่จบตอน##
บอกน้องชายเอาเจ้าโอโม่ไปเก็บแล้วหนึ่ง
ตอนนี้อยู่กันสองต่อสอง อิพี่จะทำอะไรน้อนนนนน
สปอยล์ที่ปาไปมาตอนหน้านะคะ
ปาหัวใจมารัว ๆ ให้พี่แกตบะแตกไว ๆ นะคะ เราจะได้เห็นคนคลั่งรักว่าคลั่งมากขนาดไหน
คอมเมนท์มาเป็นกำลังใจกันด้วยน้าาา