บทที่ 1 ท่านประธานซาตาน

1893 Words
บทที่ 1 ท่านประธานซาตาน ร่างบางในชุดนักศึกษาดึงดูดสายตาให้พนักงานในบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายน้ำหอมแบรนด์ดังจากฝรั่งเศสจดจ้องมองตามจนสุดสายตา ร่างบางงามระหง ความสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร หน้าตาสะสวยใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมหวาน ขนตาหนายาวเป็นแพรงามงอน จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่ม ผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียดขับให้อิงดาวดูเด่นเป็นสง่ามีออร่ามากยิ่งขึ้น เลขาหน้าห้องของอิษวัตรีบกุลีกุจอต้อนรับเธอด้วยมิตรไมตรี ทุกคนต่างรู้ดีว่าในตอนนี้เธอเป็นเพียงแค่บุตรีของอดีตผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเท่านั้น ไม่ได้มีอภิสิทธิ์ใด ๆ ก้าวล่วงเข้าไปพบท่านประธานได้ตามอำเภอใจ “รอสักครู่นะคะ ท่านประธานมีแขกกำลังคุยงานกันอยู่ค่ะ” “ค่ะ” “เชิญคุณอิง ในห้องรับรองดีกว่าค่ะ” เลขาผู้รู้งานของอิษวัตอ่อนน้อมถ่อมตนเมื่อรู้สถานะของเธอดี หากแต่เธอไม่ได้ต้องการให้ใคร ๆ มองว่าใช้เส้นสายของบิดามาฝึกงานแล้วได้รับอภิสิทธิ์เทียบเท่าระดับผู้บริหารเพราะความจริงแล้วนับจากนี้ไป สถานะเธอคงไม่ต่างจากพนักงานที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนโดยมีความหวังว่าสักวันสิ่งที่หายไปจะกลับคืนมาเป็นของครอบครัวเธอเหมือนดังเดิม “ขอบคุณค่ะ คุณสุดาเรียกอิงเฉย ๆ ไม่ต้องมีคุณนำหน้าจะดีกว่านะคะ ตอนนี้อิงเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานของบริษัทค่ะ" "เอ่อ...ค่ะ" นั่งรอเขาที่ห้องรองรับแขกใกล้ ๆ ห้องท่านประธานแล้วเลขาคนเก่งจึงถอยห่างออกไปอย่างรู้งาน พออยู่คนเดียวเพียงลำพัง อาการประหม่าจึงเกิดขึ้นมาเล็กน้อย ที่ผ่านมาเธอได้รับรู้ข่าวคราวของอิษวัตบ้างผ่านการบอกเล่าของอรรถพรน้องชายเขา ครอบครัวเธอกับครอบครัวอิษวัตสนิทสนมกันมาตั้งแต่เธอจำความได้ เข้านอกออกในบ้านนั้นได้ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา เธอรู้ดีว่าพี่อิฐของเธอนั้นเป็นคนที่เข้าถึงได้ค่อนข้างยาก มีโลกส่วนตัวสูงลิบลิ่ว แต่ทุกครั้งที่บิดามารดาพาไปที่บ้านเขา ฉายาสาวน้อยจอมซนของพี่ ๆ ก็สามารถปั่นป่วนคนนิ่งเงียบอย่างเขาให้ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ร่วมวงเล่นและทำกิจกรรมกับเธอและพี่อัทธจนได้ เธอรู้ดีว่าจะต้องอ้อนพี่อิฐวิธีไหน เขาถึงจะสยบต่อเธอได้อย่างง่ายดาย และนั่นแหละเป็นที่มาของคำว่ามั่นหน้า ถึงได้พกเอาความกล้าหาญชาญชัยเข้าไปบอกอิษวัตว่าเธอรักเขา ย้อนกลับไปคิดถึงวันนั้นก็ได้แต่นึกโมโหตนเองที่คิดทำอะไรตามอารมณ์โดยไม่พิจารณาไตร่ตรองให้ละเอียดถี่ถ้วน เด็กหนอเด็ก เหตุการณ์วันนั้นอิษวัตคงลืมเลือนไปแล้วกระมัง คงไม่เก็บเรื่องไร้สาระแบบนั้นมาคิดให้รกสมอง ดวงตาคู่งามทอดมองไปรอบบริเวณห้องพร้อมคิดวิเคราะห์สไตล์การตกแต่งภายในห้องที่เธอนั่งรอเขา ไม่จำเป็นต้องเดาก็รู้ว่าอิษวัตเป็นคนเนรมิตห้องนี้ให้คุมโทนสีดำตามบุคลิกเขา เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วแม้กระทั่งห้องรับรองแขก ยังไม่ทันจะได้นินทาต่อในใจ ร่างสูงโดดเด่นเป็นสง่าของคนที่เธอรอคอยก็เดินเคียงคู่ออกมาจากห้องเขาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีข่าวซุบซิบในวงการนางแบบว่าเธอคือ ว่าที่เจ้าของหัวใจท่านประธานอิษวัต จดจ้องมองท่าทีของคนทั้งคู่ผ่านม่านมู่ลี่ออกไปด้านนอก ริมฝีปากอิ่มเบะคว่ำลงทันใดด้วยรู้สึกหมั่นไส้ ทำได้เพียงแค่พึมพำประชดประชันกับตนเองเบา ๆ “แขกคนสำคัญสินะ ถึงได้คุยงานกันจนเลยเวลานัดกับเราแบบนี้” จะทำไงได้ เธอคงไม่มีอำนาจพอจะไปสั่งการให้เขาอนุญาตให้เธอเข้าพบในทันทีทั้ง ๆ ที่บิดาเธอแจ้งว่าให้มาพบเขาที่นี่ตรงเวลาห้ามสาย เบือนหน้าหนีภาพชวนรู้สึกจี๊ดหัวใจหันกลับมาสนใจโทรศัพท์มือถือในมือรอคอยให้เขาร่ำลากันจนเสร็จ กระทั่งได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก คิดว่าคงจะเป็นเลขาของเขาที่เข้ามาตาม แต่ทว่าเสียงฝีเท้าพร้อมความเงียบไร้การเชิญชวนนั่น ทำให้ต้องละสายตาจากโทรศัพท์มือถือขึ้นมองคนร่างสูงในชุดสูทสีดำกำลังก้าวเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเธอ อิงดาวมองท่านประธานบริษัทด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่แพ้กันเพียงชั่วครู่ ยกมือขึ้นพนมไหว้ทักทายเขาตามมารยาทเสียก่อนที่จะถูกเสียงเข้มดุหาว่าไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่อีก “สวัสดีค่ะท่านประธาน นักศึกษาฝึกงานมารายงานตัวค่ะ” อิษวัตยืนนิ่งมือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง แววตาที่ดุดันเพียงครู่แปรเปลี่ยนเป็นวูบไหวเล็กน้อยพร้อมกับคิ้วดกดำขมวดมุ่นเข้าหากันนิด ๆ ก่อนจะพาตัวทรุดลงที่ว่างของโซฟาตัวเดียวกันกับที่เธอนั่งห่างกันเพียงแค่คืบ แค่ได้ชิดใกล้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็มีอิทธิพลต่อเธอเสียเหลือเกิน อิษวัตไม่ต่างไปจากเมื่อ 4 ปีก่อนเลยสักนิด เพียงแค่เพิ่มความภูมิฐานตามแบบฉบับของนักบริหารขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ราชาแห่งความหอม ปลุกเสน่ห์ในเรือนกายอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลให้ชวนหลงใหล ล่าสุดบริษัทแม่ในประเทศฝรั่งเศสประสบความสำเร็จในเรื่องของการคิดค้นน้ำหอมฟีโรโมนซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละรายโดยนำหลักจิตวิทยามาใช้ในการช่วยดึงตัวตนของผู้ที่ต้องการค้นหากลิ่นหอมเฉพาะเรือนกายให้คนที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดถึงขั้น ติดกลิ่น เป็นการคิดค้นที่น่าทึ่งซึ่งแน่นอนว่าผู้คิดโปรเจ็คคงจะไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากผู้บริหารคนเก่งที่นั่งอยู่กับเธอในตอนนี้ ถึงไม่อยากชื่นชม แต่เธอก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเธอกำลังใจเต้นแรง ตื่นเต้นที่ได้กลับมาเจอกันกับเขาอีกครั้ง กลิ่นหอมจากเรือนกายของบุรุษเพศที่เธอเคยชื่นชม ยังเป็นกลิ่นที่ดึงให้เธอหลงใหลจนอดไม่ได้เผลอสูดดมทุกครั้งที่อยู่ชิดใกล้ ผ่านมานานหลายปี ก็ยังคงยอมรับโดยดุษฏีว่าเธอติดกลิ่นนี้จนเคลิบเคลิ้ม แต่อิษวัตเคยบอกกับบิดาเธอว่าเขาชอบกลิ่น Sexy Rose15 แต่ก็ไม่ยักรู้ว่าต้นแบบของน้ำหอมฟีโรโมนกลิ่นนั้นมาจากไหน แต่พอนึกได้ว่าคงจะมาจากสาว ๆ หรือไม่คงเป็นนางแบบสุดเซ็กซี่คนนั้นก็เป็นได้ ใบหน้าสวยก็ปรับเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงขึ้นมานิด ๆ “ไม่เจอกันหลายปี สบายดีนะอิงดาว” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยทักทายเรียกสติให้อิงดาวมองคนข้างกายที่พิงหลังไปกับพนักโซฟาพร้อมยกเรียวขาขึ้นไขว่ห้างด้วยประกายตาค้นคว้า ช่างเป็นคำทักทายที่ดูเหินห่างราวกับว่าไม่เคยคุ้นเคยกันมาเลยเมื่อตอนเด็ก อิงดาวเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนจะมองสบตาเขาอย่างไม่กลัวเกรงพลังอำนาจที่แผ่กระจายออกมาจากเรือนกายสูงใหญ่ ยืดตัวตรงใบหน้าเชิดรั้นวางท่าทางดุจดั่งนางพญาท้าทายความน่าเกรงขาม “สบายดีค่ะ แล้วท่านประธานล่ะคะ” เธอได้ยินเสียงคนข้าง ๆ ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนที่เขาจะออกคำสั่งกับเธออีกตามเคย “เรียกพี่เหมือนเดิม ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากขนาดนั้น” ตวัดสายตาค้อนคนบ้าอำนาจทันควัน ทีเขายังทักทายเธอเสียห่างเหินก่อนแล้วจะให้เธอทำตัวสนิทชิดเชื้อกับเขาให้ถูกมองว่าไม่รู้จักกาลเทศะทำไม “อิงไม่อยากถูกตำหนินี่คะว่าเป็นเด็กไม่รู้จักกาลเทศะ” คำพูดของเขาในอดีตหวนกลับมาอีกครั้งจนเผลอพูดความรู้สึกกึ่งประชดประชันออกไป อิษวัตเพียงแค่ตอบกลับมาสั้น ๆ “ก็ดี ที่คิดแบบนั้น” นั่นปะไร อิษวัตผู้แสนเย็นชา พูดจาไม่เคยถนอมน้ำใจผู้ใดก็ยังคงไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด คร้านจะงัดข้อเพื่อเอาชนะเขา ขอเอาความนิ่งสยบพลังอำนาจโฟกัสเรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบเสียดีกว่า “แล้วอิงต้องทำอะไรบ้างคะในตำแหน่งนักศึกษาฝึกงานของที่นี่” “แล้วอิงเตรียมตัวเตรียมใจมามากน้อยแค่ไหนกับตำแหน่งผู้ช่วยพี่” อิงดาวนิ่วหน้ากับคำย้อนถาม เหลือบมองใบหน้าคมคร้ามยังคงนิ่งเรียบไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ “ทำไมต้องเตรียมใจด้วยล่ะคะ” เขาใช้คำว่าเตรียมตัวเตรียมใจ หากแต่เธอมั่นใจว่าคงไม่มีเรื่องไหนที่สามารถทำลายหัวใจเด็ดเดี่ยวของเธอได้เท่ากับเรื่องที่ถูกเขาปฏิเสธแล้วไล่ออกจากห้องมาอย่างไร้เยื่อใยเหมือนกับในวันนั้น “ไม่มีอะไรที่จะได้กลับมาง่าย ๆ หรอก ถ้าไม่มีความพยายาม” มันคือสัจธรรมที่จริงแท้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม แม้กระทั่งว่าพยายามแล้วพยายามอ**บางครั้งมันยังไม่เพียงพอเสียด้วยซ้ำ “อิงก็ไม่ได้คิดว่ามันง่าย แต่อิงจะบอกพี่อิฐเอาไว้ว่าถ้าอิงได้เดินหน้าแล้วอิงก็จะไม่ยอมถอยง่าย ๆ หรอกนะคะ” ยกเว้นเรื่องเดียวก็คือเรื่องการตามตื๊อขอความรักจากผู้ชายเย็นชาอย่างเขานี่แหละ “หึ” เสียงหัวเราะในลำคอ ผสานกับนัยน์ตาคมกริบที่จ้องตอบเธอนั้น ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเขาชัดเจนมากขึ้น ท่านประธานหนุ่มผู้ซึ่งใคร ๆ ต่างขนานนามว่าหล่อเหลางานดีราวกับเทพบุตร แท้ที่จริงก็ยิ่งกว่าซาตานผู้เย็นชาดี ๆ นี่เอง “งานที่ต้องทำคุณสุดาจะเป็นคนอธิบายให้ฟังว่าต้องทำอะไรบ้าง ส่วน….” เขาเว้นช่วงจังหวะเล็กน้อย มองมาที่เธอผู้ซึ่งจ้องเขาตาปริบ ๆ ตั้งใจฟัง “ส่วนเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยของน้ำหอมฟีโรโมนแต่ละกลิ่น พี่จะเป็นคนสอนเอง” เชื่อว่าหากไม่ใช่เพราะว่าเกรงใจคุณพ่อของเธอ ก็คงจะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เธอได้ศึกษางานใกล้ชิดแบบนี้เป็นแน่ “เป็นเกียรติมากค่ะ ที่จะได้เรียนรู้งานจากผู้มีประสบการณ์ชั้นครูอย่างพี่อิฐ” ดวงตากลมโตจ้องตอบใบหน้าคมคายด้วยประกายตาวาววับราวกับว่านับจากนี้เป็นต้นไปเธอจะได้เผชิญกับเรื่องท้าทายในชีวิต “ดี” เขาเค้นเสียงเข้มออกมาเพียงสั้น ๆ แต่สายตาคมกริบของเขานั้นอิงดาวบอกตนเองไม่ถูกเช่นกันว่าทำไมถึงเหนี่ยวนำให้ขนในกายลุกชันขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ คงไม่ใช่ตั้งใจจะจับเธอขึ้นเขียงหั่นเป็นชิ้น ๆ หรอกใช่ไหม แต่ยังไงก็ตาม เธอไม่ใช่หมู หากคิดว่ากลับมาเจอกันคราวนี้จะจับเธอขึ้นเขียงได้ง่าย ๆ ก็ลองดู ##จบตอน##
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD