ศีลเสมอกัน

1453 Words
"เออ กูนี่แหละไอ้ฮั่น แล้วมึงเป็นใครอีเปรต หน้ากูมันไปเหมือนโคตรพ่อโคตรแม่มึงรึไงอีควายถึงได้เอาแต่ยืนจ้องหน้ากูอยู่นั่น" หน้าตากับสันดานนี่คนละเรื่องกันเลยจริงๆแต่มาถึงขนาดนี้แล้วมีหรือที่คนอย่างเจ้าเอยนั้นจะกลัว บอกเลยว่าถ้าให้กลัวหมอนี่ ให้ฉันกลัวไส้เดือนกิ้งกือซะยังจะดีกว่า "กูอีเอย ลูกไอ้เดชที่มึงยึดค่ายกับวัวมาเมื่อวันก่อน" ฉันยืนกำหมัดและจิกเล็บลงไปฝ่ามืออย่างแรงเพื่อระบายความโกรธที่มันค่อยๆเข้ามาแทรกซึมเข้ามาแทนความคิดที่จะคว้าผู้ชายคนนี้มาทำพันธ์ "อ๋อ" จ้าวฮั่นลากเสียงยาวยียวนหญิงสาว "ใครให้พ่อมึงโง่ละ ตายๆไปซะก็ดีแล้ว จริงไหมพวกมึง ฮ่าๆ" "ฮ่าฮ่า" บรรดาลูกกระจ๊อกนับสิบที่ยืนขนาบอยู่ด้านหลังชายหนุ่มต่างพากันหัวเราะเสียงดังตามผู้เป็นนายของตัวเอง ปั๊ก! ปึ๊ก! "เฮ้ย!" ลูกกระจ๊อกทั้งหลายแทบจะหยุดหัวเราะและชักปืนออกมาปกป้องผู้เป็นนายแทบไม่ทัน เมื่อจู่ๆ หญิงสาวปริศนาที่พึ่งเข้ามาในบ่อนได้เตะเจาะยางจนร่างยักษ์ของนายมันล้มหงายลงอย่างไม่เป็นท่า ซ้ำร้ายกว่านั้นเจ้าหล่อนยังควักปืนดำเมื่อมออกมาตบขมับหนานั้นจนส่งผลให้เลือดสีแดงฉานไหลลงมาอาบเต็มใบหน้าอันหล่อเหลาของนายพวกมันในทันที "พวกมึงก็ลองเข้ามาสิวะ กูจะได้ยิงมันสมองนายพวกมึงจนไหลออกมากองแน่นอน" ฉันขึ้นคร่อมร่างใหญ่และล็อกแขนใหญ่ยักษ์นั้นเอาไว้ด้วยลำสองลำแข้งของตัวเอง "แม่งอีเด็กเปรต มึงเป็นใครกันแน่วะ!" 'ชยพัทธ์ ศิวาพร หรือจ้าวฮั่น' ตวาดลั่นด้วยความโมโหตัวเองที่ควบคุมลูกน้องนับพันให้อยู่ภายใต้อาณัติของตัวเองได้แต่เสือกมาพลาดท่าให้ผู้หญิงที่สูงเพียง160กว่าๆ อย่างเจ้าเอยเอาซะง่ายๆ "กูบอกว่ากูเป็นลูกไอ้เดช สมองมึงมีปัญหาหรือว่าหูมึงมันหนวกกันแน่วะไอ้ควาย!" กึก! ฉันกัดฟันตัวเองดังกรอดและกดปืนดำเมื่อมลงไปบนขมับหนานั้นอย่างแรงด้วยความโมโหที่มันกำลังพลุ่งพล่านอยู่ในเลือดอย่างได้ที่ บางทีหมอนี่อาจจะคิดว่าฉันเป็นแค่ยัยเด็กผู้หญิงอ้อนแอ้นคนหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันจะขอบอกไว้เลยว่ามันกำลังคิดผิดไปอย่างมหันต์ "มึงต้องการอะไร!" สุดท้ายร่างใหญ่ก็ยอมศิโรราบให้กับคนตัวเล็กแต่โดยดี เพราะในตอนนี้เขากำลังปวดหนึบอย่างบอกไม่ถูกตรงขมับที่กำลังโดนหญิงสาวจี้ปืนกระบอกสีดำเมื่อมลงมา พลั่ก! ปั๊ก! "ฆ่ามึงมั้งไอ้ควาย" ฉันออกแรงดันอกไอ้หน้าเปรตนั้นจนมันหงายตึงไปกับพื้นสนามบ่อนอีกครั้ง ก่อนจะได้ทีเตะเข้าตรงปากที่เหม็นเน่ายิ่งกว่าคลองแสนแสบของมันไปอีกหนึ่งครั้ง "ไล่ลูกน้องมึงออกไป กูมีเรื่องที่ต้องการจะเจรจากับมึงแค่สองคน" สิ้นคำสั่งของฉัน เขายอมก็หันไปพยักเพยิดหน้าเบาๆ ให้ลูกน้องหลายร้อยคนถอยห่างออกไปจากรัศมีนี้แต่โดยดี "วางปืนมึงลงเถอะ กูก็มีปืนแต่กูไม่อยากรังแกหมากระเป๋าตัวเล็กๆอย่างมึง" จ้าวฮั่นแกล้งหัวเราะ ยอมรับว่าในตอนนี้เขายอมศิโรราบให้กับผู้มาเยือนแล้วจริงๆ เพียงแค่ยังอยากวางมาดไม่ให้เสียหน้าให้ลูกน้องมันหัวเราะเอาก็เท่านั้น เขาพึ่งจะมาคิดได้ว่าบางทีเขาอาจจะประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไปจริงๆนั่นแหละ เพราะถ้าหากดูจากท่าทางการต่อสู้ของเธอแล้วนั้นก็ถือว่าเก่งกาจพอตัวอยู่ เพราะเธอสามารถล้มร่างยักษ์ของเขาจนลงไปนอนกองอย่างหมดสภาพได้อย่างสบายๆ เขาคงต้องออกปากสั่งไม่ให้ลูกน้องเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่น้องฝาแฝดอีก2คนอย่างจ้าวฮายและจ้าวฮาน ไม่อย่างนั้นพวกมันจะต้องหัวเราะเขาจนขี้แตกขี้แตนเป็นแน่แท้ แค่คิดก็อายไอ้เหี้ยสองคนนั้นจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ตรงไหนแล้วไอ้ฮั่นเอ๊ย! "เรอะ" ฉันแสยะยิ้มอย่างไม่นึกกลัว "ดวลปืนกับกูดูไหมละ จะได้รู้ว่ากูมันขี้หมูขี้หมาอย่างที่มึงคิดเอาไปเองจริงๆหรือเปล่า "ว่าธุระของมึงมาเถอะ" จ้าวฮั่นพูดปัดๆอย่างไม่ใคร่ใส่ใจนัก เพราะถ้าหากยัยหมากระเป๋าตัวนี้มันบังเอิญเป็นทายาทมือปืนเหมือนกับดุจสิตาน้าสะใภ้ของเขาแล้วนั้น น่ากลัวว่าคนที่แย่จะกลายเป็นเขาเอาเสียเอง "นั่นใช่ไหม จ้าวแดงกวนอูที่สามารถเอาชนะจ้าวนิลวาโปไปได้เมื่อหลายวันก่อน" จะบอกให้ว่าฉันไม่ได้ไปสืบข้อมูลอะไรมาหรอก แต่ที่แน่ใจได้ว่าเจ้าตัวนี้จะต้องเป็นจ้าวแดงกวนอูนั้นก็เพราะดูจากลักษณะแล้วเจ้านี่เป็นถึงโคสุภราชหรือพญาแห่งโคเลยทีเดียวละ ชักจะไม่แน่ใจขึ้นมาแล้วสิว่าเจ้าเพลิงของฉันจะสู้กับเจ้าตัวนี้ได้ไหวหรือเปล่า "เออ ทำไม" จ้าวฮั่นควักบุหรี่อินฮานซึ่งเป็นบุหรี่จากบริษัทน้องชายฝาแฝดคนเล็กของเขาเองออกมาดูด ก่อนจะพ่นควันโขมงสีเทาไปยังสาวเจ้าอย่างจงใจกลั่นแกล้งเพราะเชื่อเป็นที่สุดว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อยจะต้องเกลียดกลิ่นของเจ้าสิ่งนี้อย่างแน่นอน ฟู่ ฉันคว้าบุหรี่ที่สองนิ้วหนากำลังคีบอยู่ขึ้นมาดูดเองก่อนจะอัดควันโขมงสีเทากลับไปยังใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายปากร้ายคนตรงหน้าบ้าง เพี๊ยะ! "เจ็บนะยะตีมาได้!" ฉันถลึงตาใส่ไอ้ยักษ์ปักหลั่นตรงหน้าอย่างหงุดหงิด ที่จู่ๆ ก็บ้าจี้มาตีมือฉันจนบุหรี่ที่คีบอยู่ในมือข้างขวาพลัดตกลงไป "สรุปมึงมีธุระอะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับกวนอูของกูไม่ทราบ" เขาถามย้ำอีกครั้งอย่างเริ่มที่จะหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด "กูขอท้าชนจ้าวแดงกวนอู กับไอ้เพลิงของกู" นึกว่าตัวเองน่ากลัวมากมั้ง ไอ้บ้าแมลงวันหัวเชียว! "ไอ้เพลิง" เขาเลิกคิ้วให้ฉันเชิงคำถาม "นี่มึงอย่าบอกนะว่าเป็นไอ้วัวตัวอัปมงคลที่กูเขี่ยทิ้งเอาไว้ให้มึง" "มาทางไหนกลับไปทางนั้นเถอะ แค่นี้ชีวิตมึงยังฉิบหายไม่พออีกรึยังไงกันวะอีโง่!" จ้าวฮั่นตวาดลั่นอย่างลืมตัวเพราะความโมโหที่พ่อลูกคู่นี้ชอบทำอะไรโง่ๆ ให้ชีวิตของตัวเองฉิบหายวายป่วงอยู่ตลอด "ครั้งเดียว" ฉันย้ำอย่างไม่นึกสนใจว่าเขาจะมองฉันเป็นคนแบบไหน "แค่ครั้งเดียว" "ไร้สาระฉิบหาย" เขาโบกมือเบาๆ เพื่อไล่ฉัน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะไม่เห็นที่ฉันยังอยากเอาชีวิตตัวเองมาพัวพันกับสิ่งที่ทำให้ชีวิตของตัวเองพังพินาศหรือว่าอะไร ฉันรู้เพียงแค่ว่าฉันต้องหอบชัยชนะกลับไปให้จงได้! "กูขอล้างตาให้จ้าววาโป เพื่อให้ชัยชนะของเพลิงในครั้งนี้เป็นเกียรติให้แก่การตายในหน้าที่ของจ้าววาโปมัน" แม้จะรู้ดีว่าเขาไม่ได้ผิดที่ยึดค่ายและบ่อนของพ่อมา แต่ด้วยทิฐิที่มันมารวมกับความเสียใจจนกลั่นออกมาเป็นความชังนั้นทำให้ฉันไม่สามารถที่จะเลิกเจ้าคิดเจ้าแค้นต่อเขาได้ "แล้วถ้าไอ้เพลิงมันตายขึ้นมาอีก ที่มึงจะทำยังไงต่อ" จ้าวฮั่นว่าอย่างเบื่อหน่าบ ด้วยว่าอันที่จริงการตายของจ้าวนิลว่าโปอะไรนั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาแม้แต่นิดเดียว แต่เอานะเถอะช่างเถอะอธิบายไปใย เพราะดูจากอารมณ์ของเจ้าเอยในตอนนี้ก็คงไม่ได้ช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นมาหรอก "กูแค่อยากได้ค่ายกับวัวของพ่อทั้งหมดคืน หากเพลิงชนะกูขอแค่นั้น" ฉันยืนยันในอุดมการณ์ของตัวเองอย่างหนักแน่น ขออภัยในคำหยาบ แต่อย่าด่ากันเลยน้าเพราะติดคำเตือนไว้ตรงหน้าเรื่องแล้วววววว ป.ล.อยากให้คิดว่าเพื่ออรรถรสจ้ะ ขอบคุณค่า

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD