Ur & Care
2
ผมรีบหยิบคีย์การ์ดห้องแคร์ไปเปิดห้องทันทีก่อนจะเปิดประตูเข้าไปก็เห็นแคร์กำลังยืนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าตกใจแล้ววิ่งมากอดคอผมแน่นทันที
“อะไรแคร์ เกิดอะไรขึ้นบอกพี่สิ!!”
“ฮือๆ ที่เตียงพี่ยู...” แคร์ซบหน้าลงกับอกผมก่อนจะชี้นิ้วไปที่เตียงนอน ผมค่อยๆ เดินไปที่เตียงของแคร์ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่น่า
“ไม่เห็นมีอะไรเลย?”
“มันอยู่ในผ้าห่ม พี่ยูเปิดดูสิ!!” ผมมองแคร์ที่ยืนด้านหลังผมแล้วเกาะแขนผมแน่นทันที อยู่ใต้ผ้าห่ม? มันคืออะไรว่ะไม่เห็นจะมีอะไรเลยนะเนี้ย ผมถอนหายใจออกมาแล้วถลกผ้าห่มขึ้นทันที
“กรี๊ดดดด!! พี่ยู เอาออกไปๆ นะ แคร์เกลียดมัน...”
“แคร์ จิ้ง... จก?” แคร์กรี๊ดลั่นแล้ววิ่งออกไปนอกห้องทันที ผมเลยเดินไปจับจิ้งจกที่เตียงของแคร์แล้วปล่อยมันไปที่ระเบียงด้านนอก ก่อนจะเดินออกมามองแคร์ที่กำลังกอดตัวเองอยู่
“พี่จับมันออกไปแล้ว ไปนอนนะครับ”
“ไม่เอา แคร์ไม่นอนแล้ว!!”
“แคร์ ไม่เอาสิครับ... แคร์ง่วงนะพี่รู้”
“ใช่แคร์ง่วง แต่แคร์จะไม่ยอมเข้าไปนอนเตียงเดียวกับอีจิ้งจกบ้านั้นแน่ ไม่เอาๆ!!” ผมมองแคร์ที่ดิ้นไปมาอย่างกับเด็กก่อนจะลูบแขนตัวเองไปมาอย่างขยะแขยง
“แต่พี่เอามันออกไปแล้วนะครับ...”
“ไม่รู้ล่ะ มันจะออกไปแล้วหรือจะยังไงก็ช่าง แคร์จะไม่นอนบนเตียงนั่นจนกว่าจะมีผ้าปูเตียงมาเปลี่ยนใหม่!!”
“แคร์...”
“แคร์จะนอนที่โซฟา ปวดหลังก็ยอม” ว่าแล้วแคร์ก็นอนลงที่โซฟาทันทีจนผมได้แต่กุมขมับกับคนตัวเล็กที่ทำหน้าบูดๆ เฮ้อ... เอาไงดีเนี้ย ขืนให้นอนบนโซฟาแบบนี้มีหวังตกมาจะไม่โวยวายอีกเหรอ?
“งั้นแคร์ไปนอนที่ห้องพี่ก่อน พรุ่งนี้พี่จะไปซื้อผ้าปูมาเปลี่ยนให้...”
“เอ๋? จริงนะพี่ยู”
“ครับ แคร์เอาชุดนอนไปด้วยนะ... ตื่นแล้วก็อาบน้ำก่อนแล้วค่อยนอน” ผมมองแคร์ที่ยิ้มออกมาก่อนจะวิ่งเข้าห้องไปหยิบชุดนอนและอุปกรณ์ครีม เครื่องสำอาง บลาๆ อีกเยอะแยะ ร่างเล็กวิ่งเข้ามาในห้องนอนของผมแล้วกระโดดขึ้นเตียงผมทันทีอย่างสดใส
“ฮ้า แค่นี้ก็นอนหลับสบายแล้ว...”
“ไปอาบน้ำก่อนนะแคร์”
“ค่า พี่ยู” แคร์เดินยิ้มสวนผมเข้าห้องน้ำไปทันทีจนผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา แคร์เป็นเด็กที่เอาแต่ใจมากจริงๆ นะ ผมถึงได้กังวลไงว่าคุณครอปคิดถูกหรือเปล่าที่ให้ผมดูแลแคร์ แต่ถ้าไม่ให้ผมดูแลป่านนี้ก็คงจะทะเลาะกับเชค ฆ่ากันตายพอดี ผมหยิบหมอนและผ้าห่มออกมาที่โซฟานอกห้องนอน ก่อนจะนอนลงเพื่อรอแคร์อาบน้ำเพราะผมเองก็ต้องอาบน้ำเหมือนกัน ครึ่งชั่วโมงผ่านไปทำให้ผมมองนาฬิกาก็ต้องงุนงงทันทีว่าทำไมแคร์ถึงได้เข้าห้องน้ำนานจัง ผมลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนไปแล้วเคาะประตูห้องน้ำ
“แคร์ครับ... เสร็จยัง”
“พี่ยู มีอะไรเหรอ?”
“เปล่าครับ พี่ว่าแคร์อาบน้ำนานไปก็เลย...”
แกร๊ก!!
“ก็เลยอะไรพี่ยู?” ผมมองประตูห้องน้ำที่ถูกเปิดออกมามองแคร์ที่รวบผมสีดำขึ้นไป ก่อนจะมองชุดนอนซีทรูสีแดงสดพร้อมกับทรวงอกที่ทะลักออกมาจากชุดนอนหวาบหวิวจนผมอึ้ง หันหลังหนีร่างเล็กทันทีอย่างใจเต้นรัว
“อะ เออ... ชุดมันโป๊นะแคร์พี่ว่า?”
“โป๊อีกล่ะ พี่ยูนี่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยนะเนี้ย ก็ชุดนอนแคร์เป็นแบบนี้ พี่ยูจะให้แคร์ใส่อะไรล่ะ?!!” แคร์ทำหน้าบูดๆ ที่ผมว่าเธอก่อนจะมองลงไปที่ชุดนอนของตัวเอง มันเป็นชุดซีทรูสายเดี่ยวสีแดง ชุดเซ็กซี่จนผมเนี้ยล่ะที่ตกใจจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วเนี้ย
“ก็... เอองั้นเอาเสื้อพี่ไปสวมทับ”
“ไม่เอาแคร์ร้อน พี่ยูนี่พูดมากจัง!!” ผมมองแคร์ที่เดินสวนผมไปนั่งบนเตียงทันทีพร้อมกับหยิบครีมมาทาไปตามขานวลผ่องที่ผมเห็นจำต้องหันหน้าหนีอีกครั้ง ผมเดินไปหยิบเสื้อกล้ามสีขาวของตัวเองออกมาพร้อมกับกางเกงห้าส่วนสีครีม เดินเข้าห้องน้ำไปทันที ก่อนจะหงุดหงิดที่แคร์ยังคงติดนิสัยที่อยู่เมืองนอกมาใช้ที่นี่ ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำเห็นร่างเล็กกำลังทาครีมไปที่หัวไหล่ตัวเองอย่างยิ้มๆ
“พี่ยูเสร็จแล้วเหรอ?”
“ครับ ถ้าไงฝันดีนะ... พี่จะไปนอนแล้ว”
“เดี๋ยวสิ แล้วพี่ยูไปนอนไหน?” แคร์วิ่งมากอดแขนผมพร้อมกับใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอาง ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองใบหน้าของเด็กสาวที่ใสและดูเป็นธรรมชาติที่ไม่แต่งหน้าจัดๆ แบบนั้น
“พี่ยู... เฮ้? พี่ยู!!”
“อ่ะ เออ พี่จะไปนอนที่โซฟานอกห้อง แคร์ก็นอนได้แล้ววันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน?”
“แต่พี่ยูจะไปนอนนอกห้อง แล้วแคร์จะไม่ทำพี่ลำบากเหรอ?” ผมมองแคร์ที่ทำหน้าไม่สบายใจก่อนจะดึงแขนผมให้นั่งลงบนเตียงพร้อมกับคล้องแขนโอบกอดคอผมแน่น
“นอนด้วยกันนะ... แคร์ไม่ถือหรอก”
“ไม่ได้นะแคร์ พี่เป็นผู้ชายเราเป็นผู้หญิงจะมานอนด้วยกันไม่ได้”
“แต่พี่ยูเป็นพี่ชายแคร์นะ อีกอย่างตอนที่แคร์เรียนอยู่ไฮสกูลที่อังกฤษ ก็พาเพื่อนมานอนที่คอนโดบ่อยๆ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนะ พี่ยูไม่ต้องกังวลหรอกเนาะๆ” แคร์ยิ้มให้ผมก่อนจะขยับตัวไปนอนอีกฝั่งทันทีจนผมได้แต่ถอนหายใจออกมากับสิ่งที่ตัวเองต้องเจอต่อจากนี้
“แคร์ ฟังพี่นะ...”
“อือฮึ มีอะไรว่ามาเลยพี่ยู?”
“แคร์เป็นผู้หญิง ควรจะให้เกียรติตัวเอง อย่าไปชวนผู้ชายที่ไหนมานอนด้วยเข้าใจไหม?”
“แต่เพื่อนแคร์ทั้งนั้นเลยนะ ผู้หญิงก็มี...”
“พี่รู้ แต่แคร์อย่าทำแบบนั้น เพราะว่ามันไม่ดี ถึงพี่จะเป็นพี่ชายของแคร์ แต่เราสองคนก็แค่คนที่รู้จักกันในสมัยที่แคร์ยังอายุแค่สิบขวบ แต่ตอนนี้แคร์โตเป็นสาวแล้วสิบแปดแล้ว ทำอะไรควรคิดให้ดี เข้าใจไหม?”
“แต่แคร์ก็ไม่ได้มีอะไรกับเพื่อนพวกนั้นนะ” ผมมองแคร์ที่ทำหน้าบูดๆ จนผมที่ได้ฟังถึงกับกุมขมับทันที ทำไมถึงได้เข้าใจอะไรยากแบบนี้นะ เด็กนอกเนี้ย... ผมขยับตัวเองนั่งขัดสมาธิมองแคร์ที่เท้าคางมองผมอย่างตั้งใจ
“พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น อีกอย่างแคร์ระวังตัวแบบนั้นก็ดี... แต่อย่าชวนใครมานอนด้วยกันแบบนี้ แม้กระทั่งพี่ก็ตามที”
“ทำไมล่ะ? ก็พี่ยูเป็นพี่ชายของแคร์...”
“พี่บอกแล้วไงว่าพี่ไม่ใช่พี่ที่อยู่ในสายเลือดเหมือนคุณครอปกับเชค เพราะงั้นพี่จะสอนให้แคร์จำไว้ว่าอย่าไว้ใจใครแม้แต่พี่ เข้าใจไหม?”
“แต่แคร์ไว้ใจพี่ยู...”
“...”
“ก็แคร์ชอบพี่ยูนี่น่า พี่ยูอ่ะดีกับแคร์มาก... มากกว่าเฮียครอปกับเฮียเชคอีก” ผมมองร่างเล็กที่ก้มหน้าลงจนผมเอื้อมมือไปลูบผมของแคร์เบาๆ จนร่างเล็กเงยหน้ามองผม
“ไม่มีใครดีไปกว่าครอบครัวตัวเองหรอกนะครับแคร์”
“...”
“คุณครอปรักแคร์มากนะ ไม่งั้นจะให้พี่มาดูแลแคร์เหรอ... ถ้าคุณครอปไม่ห่วงแคร์ป่านนี้คงปล่อยแคร์ไปอยู่กับเชค และป่านนี้ก็คงจะทะเลาะกัน ฆ่ากันตายแล้วก็ได้นะ” แคร์มองหน้าผมแล้วพยักหน้ารับก่อนจะขยับตัวไปนอนทันที มองผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ขอบคุณนะพี่ยู แคร์จะเชื่อพี่ยู...” ผมพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไปนอนลงที่โซฟาทันที เอาเป็นว่าอย่างน้อยแคร์ยังฟังผมบ้างนะไม่ใช่ไม่ฟังเลย
รุ่งเช้าผมก็ต้องพาแคร์มาซื้อผ้าปูที่นอนที่ห้างและแน่นอน กว่าคนตัวเล็กจะเลือกสีและลายได้ก็เกือบจะครึ่งวัน แถมยังนัดกับแซนที่ผมไปส่งเมื่อวาน ตอนนี้ผมก็มาถึงบ้านของเพื่อนแคร์ที่หลังใหญ่มาก ผมกับแคร์เดินตามแม่บ้านของแซนมาที่ริมสระน้ำ
“พี่ยูว่าผ้าปูที่นอนแคร์น่ารักไหม?”
“ครับ น่ารักมาก” ใบหน้าสวยคมยิ้มออกมา ใบหน้าที่ตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนจัดแต่ก็คงความสวยงามไว้แต่ผมชอบผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้าและเป็นธรรมชาติมากกว่านะ อย่างเช่นน้ำที่ไม่เคยแต่งหน้าแต่เธอก็ดูสวยและน่ารักในสายตาของผมตลอดเวลา
“แคร์ มาแล้วเหรอ? หวัดดีค่ะพี่ยูสุดหล่อ” เสียงใสๆ ของแซนดังขึ้นทำให้ผมถึงกับไปไม่ถูกที่เจอคำพูดแบบนี้ แคร์และแซนนั่งคุยกัน นั่นเลยทำให้ผมเลือกที่จะลุกไปนั่งที่ศาลาอีกฝั่งที่เห็นทั้งสองคนกำลังคุยกันอย่างออกรส ผมหยิบแว่นสายตาออกมาสวมแล้วอ่านหนังสือพิมพ์อย่างนิ่งๆ ทันที
“แคร์... มานี้เบื่อไหม?”
“ถามทำไมแซน แกก็รู้ว่าที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะอยากหนีแม่มาอยู่กับเฮียครอปนะ”
“เออฉันรู้ แต่แกอยากทำอะไรสนุกๆ แก้เบื่อป่ะ”
“ทำ? ทำอะไร ที่นี่มีอะไรให้ทำงั้นเหรอ?” ผมหันไปมองสองสาวที่ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่พร้อมกับสายตาของแคร์และเพื่อนของแคร์ที่มองผมอยู่อย่างยิ้มๆ ก่อนที่ผมจะหันมาสนใจหนังสือในมือต่อพร้อมกับกระชับแว่นสายตาที่สวมใส่อยู่
“นู้นไง สิ่งที่แกต้องทำ...”
“พี่ยูเหรอ? แกจะให้ฉันทำอะไรพี่ยู?” แซนกระซิบไปที่หูของแคร์จนร่างเล็กถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ มองหน้าเพื่อนตัวเองอย่างชั่งใจทันที
“แกจะบ้าเหรอ!!”
“ทำไม อย่าบอกนะว่าแคร์ที่ฮอตที่สุดในไฮสกูลกำลังไม่กล้า...”
“...”
“อะไรกัน แค่เดินไปนั่งตักพี่ยูและหอมแก้มเขาให้ฉันดูเนี้ย... ทำไมไม่ได้เหรอ?” แคร์มองเพื่อนตัวเองแล้วหันไปมองยูอาที่ตอนนี้ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับสิ่งที่สองสาวกำลังจะทำ
“ไม่ใช่ทำไม่ได้ แค่... สัญญากับพี่ยูไว้แล้วว่าจะไม่ทำแบบนั้น”
“อะไรกันแคร์ นี่แกอยู่กับพี่ยูแค่วันเดียวถึงกับเป็นแมวเชื่องๆ เลยหรือเนี้ย... แคร์แมวป่าหายไปไหนเนี้ย เพื่อนฉันเปล่าว่ะ?” ร่างเล็กมองเพื่อนตัวเองที่ทำหน้าไม่เชื่อว่าแคร์จะเปลี่ยนไปขนาดนี้แล้วหันไปมองร่างสูงที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
ผมที่นั่งอยู่เงยหน้ามองร่างเล็กของแคร์ที่เดินมาหยุดตรงหน้าผมตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ร่างเล็กดึงหนังสือพิมพ์ออกจากมือผมแล้วนั่งลงที่ตักผมทันทีอย่างยิ้มๆ
“แคร์ ทำอะไรครับ?”
“ก็นั่งตักพี่ยูไง... จุ๊บ!!”
“แคร์!!” ร่างเล็กมองหน้าผมอย่างไม่สนใจกับสีหน้าและน้ำเสียงของผมตอนนี้ ผมผลักแคร์ให้ลุกขึ้นแล้วเดินสวนร่างเล็กไปทันทีจนแคร์งง
“พี่ยู พี่ยู...”
“พี่กลับก่อนนะแซน” ผมบอกเพื่อนของแคร์แล้วเดินออกจากบ้านทันทีโดยมีเสียงของร่างเล็กที่วิ่งตามผมมาติดๆ ผมหันไปมองแคร์ที่กอดแขนผมแน่น
“พี่ยูโกรธแคร์เหรอ?”
“...”
“ก็แคร์...”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ขึ้นรถพี่จะพาไปส่งที่คอนโด”
“แล้วพี่ยูจะไปไหน? แคร์ไปด้วยนะ” ผมไม่สนเดินขึ้นรถมาทันทีพร้อมกับขับรถออกไปทันทีอย่างหงุดหงิดกับสิ่งที่แคร์ทำ พูดไปเหมือนพูดหูซ้ายทะลุหูขวาจริงๆ ร่างเล็กเงียบและผมเองก็เงียบเพราะไม่อยากจะพูดอะไรมากจริงๆ กับพฤติกรรมของแคร์ รถของผมมาจอดที่หน้าคอนโดแต่แคร์ก็เลือกที่จะไม่ลงจนผมหันไปมอง
“แคร์ พี่มีธุระ...”
“พี่ยูโกรธแคร์เหรอ?”
“ใช่”
“!!!”
“แคร์ทำตัวไม่น่ารักอีกแล้ว แคร์ไม่ฟังที่พี่บอก... พี่บอกอะไรแคร์ไม่เชื่อฟังพี่เลย แล้วแบบนี้จะไม่ให้พี่โกรธเหรอ?”
“พี่ยู ก็แคร์...” ร่างเล็กขยับตัวมาซบกับแขนผมแล้วเอาหน้าถูไปมาจนผมก้มมองใบหน้าสวยที่ทำหน้าไม่ดี ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนผมได้แต่มองอยู่แบบนั้น
“ขอโทษนะ”
“...”
“นะๆ พี่ยู ก็แคร์อยากกอด อยากหอมพี่ยูอ่ะ ตัวเองอยากน่ารักเองทำไมล่ะ?”
“หือ? ว่าไงนะ”
“ใช่ ก็ตัวพี่ยูอยากทำตัวน่ารักเองทำไมล่ะ แคร์เห็นก็อยากกอด อยากหอม... รู้เปล่าเวลาที่แคร์อยู่ที่ไฮสกูล เวลาเจอคนที่ชอบนะแคร์ก็จะทำแบบนี้ไง จุ๊บ!!” ผมแทบจะตั้งตัวไม่ทันทีที่แคร์จู่โจมหอมแก้มผมทันทีจนผมได้แต่ตกใจ แต่กลับเป็นแคร์ที่ยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างกับเด็กๆ
“แคร์ อย่าให้พี่ต้องลงโทษเรานะ”
“ลงโทษ? ลงโทษอะไรแคร์ล่ะฮึพี่ยู อ่ะ!!” มือหนาของผมยกขึ้นเขกไปที่หน้าผากของแคร์เบาๆ จนคนตัวเล็กลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ
“พี่ยู ทำอะไรแคร์เจ็บนะ!!”
“นี่ล่ะ ถ้าไม่ฟังพี่นะพี่จะเขกหน้าผากเราให้แดง ให้เจ็บไปเลย”
“ชิคิดว่าแคร์สนเหรอ แบร่... ไม่สนหรอก เขกมาดิๆ 5555” ผมกับแคร์ยื้อยึดมือกันไปมาก่อนที่ผมจะกระชากแขนเล็กมาอย่างแรง ส่งผลให้แคร์โน้มตัวมาหาผมจนใบหน้าเราสองคนชนกัน จมูกเฉียดกันไปมาจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของแคร์ที่มีกลิ่นของอมยิ้มรสบลูเบอร์รี่ที่แคร์กินวันนี้ ภายในรถเงียบทันที... ไม่รู้สึกแม้แต่เสียงเครื่องยนต์หรือเสียงของแอร์ แต่มีแค่สายตาสองดวงที่ประสานกันไปมาอยู่แบบนั้น และเป็นผมที่ผละใบหน้าออกมาทันที
“มองแคร์แบบนี้... ชอบแคร์เหรอ?”
“จะบ้าเหรอไง เราอ่ะเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่... พี่ไม่มีทางคิดอะไรแบบนั้นกับเราหรอกนะ”
“จริงอ่ะ” แคร์ทำหน้าเจ้าเล่ห์จนผมได้แต่ผลักหัวคนตัวเล็กเบาๆ จนแคร์ทำปากจู๋ใส่ผม แคร์เป็นเด็กน่ารักมากนะ เป็นเด็กดีถ้าอยู่กับคุณครอป แต่ทำไมมาอยู่กับผมถึงได้กลายเป็นเด็กที่แก่แดดแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน
“พี่ยูจะไปไหน แคร์ไปด้วย”
“แต่พี่ต้องเข้าไปมาเชคนะ คุณครอปให้เอาของไปให้”
“ไปก็ไปสิ แคร์มีพี่ยูอยู่ ไม่กลัวว่าเฮียเชคจะแกล้งหรอก!!” ผมมองแคร์ที่กอดอกหยิบอมยิ้มให้กระเป๋ามาแกะ แล้วหันมายื่นให้ผมทันที
“กินสิพี่ยู...”
“ไม่เอา พี่ไม่ชอบ”
“ชิอร่อยจะตาย ทำไมคนที่โตแล้วถึงไม่ชอบอมยิ้มกันนะ แคร์ไม่เข้าใจเลย ทั้งเฮียครอป เฮียเชคและก็พี่ยู!!” แคร์ดูดกินอมยิ้มทันทีอย่างหงุดหงิดที่ผมไม่กิน ก็เพราะผมไม่ชอบไง... รถของผมมาจอดอีกครั้งที่ผับของคุณครอปก่อนจะเดินเข้าไปในผับที่ตอนนี้กำลังเปิดให้บริการ ก่อนจะมองหาบุคคลที่คนข้างๆ ผมไม่อยากมาเจอ ร่างสูงผมสีดำน้ำตาลซอยละต้นคอ ใบหน้าหล่อกวนประสาทเดินออกมาจากห้องทำงานแล้วหันมาเห็นผม
“อ้าวพี่ยู...?? เฮ้ย มาได้ไงว่ะเนี้ย ยัยแก่แดด”
“เฮียเชค!!”
“แล้วไง ไปสร้างความรำคาญให้พี่ยูเขาหรือเปล่า? นี่พี่ยู ถ้ายัยแคร์วุ่นวายมากนะ โยนมาให้ผมจัดการเองนะ”
“นี่เฮียเชค แคร์ไม่ใช่ฟุตบอลนะ!!” ผมมองแคร์ที่ทุบแขนเชคทันที แต่ร่างหนาของลูกพี่ลูกน้องแคร์กลับขำและสนุกที่ได้แกล้งน้องสาวตัวเอง เห็นไหมล่ะ? คุณครอปคิดถูกแล้วที่ให้แคร์มาอยู่กับผม
“ไม่เป็นไรเชค พี่ดูแลแคร์ได้... นี่ของที่คุณครอปฝากไว้ เมื่อวานพี่จะเอามาให้แล้วลืม ต้องไปรับแคร์”
“อ่ะครับ ขอบคุณนะพี่ ระวังยัยตัวร้ายไว้ให้ดีนะพี่... แก่แดดแก่ลม!!”
“เฮียเชค อยากตายใช่ม่ะ?”
“บ้า!! ใครอยากตาย เฮียยังไม่มีเมีย ยังไม่ตายหรอกน่า ตัวเองเถอะ... ทำตัวแบบนี้ไม่มีใครเขารักหรอก แบร่!!”
“เฮียเชค!! ไอ้เฮียบ้า แคร์เกลียดเฮีย...”
“แคร์ พอครับ เชคงั้นพี่กลับก่อนนะ” แคร์ที่จะกระโจนไปต่อยเชคก็โดนผมลากออกมาทันทีก่อนจะหันไปมองเชคที่ยกมือบ๊ายบายและทำหน้ากวนๆ จนแคร์ดิ้นไปมาจนผมจะเอาร่างเล็กแทบไม่อยู่ เมื่อมาถึงรถแคร์ก็เงียบไปทันทีจนผมงง
“แคร์...”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเลยขับรถไปเรื่อยๆ แคร์ก็ยังคงเงียบอยู่แบบนั้น กระทั่งผมมาจอดรถที่ริมเขื่อนแห่งหนึ่งที่เห็นวิวภูเขาและน้ำ สายลมเย็นๆ
“ลงมาสิแคร์ สวยนะ” แคร์มองผมแล้วพยักหน้าลงมาจากรถก่อนจะนั่งที่ฝากระโปรงโดยมีผมนั่งอยู่ข้างๆ ใบหน้าสวยคมนิ่งไปจนผมเอื้อมมือไปจับแก้มนวล ทำให้แคร์หันมามองผมด้วยสายตาเศร้าๆ
“ไม่มีใครรักแคร์หรอก เพราะแคร์เป็นแบบนี้...”
“แคร์...”
“คงจะจริงอย่างที่เฮียเชคพูด แคร์เป็นเด็กแรง ไม่สนใจใคร เอาแต่ใจ... ถึงไม่มีใครรักแคร์สักคน” ผมมองแคร์ที่ก้มหน้าลงก่อนจะโอบไหล่บางให้ใบหน้าสวยซบลงกับไหล่ของผม มองออกไปที่ภูเขาและน้ำที่ตั้งอยู่ตรงหน้า
“อย่าพูดแบบนั้นสิ พี่บอกแล้วไงว่าคุณครอป คุณแม่ของแคร์และเชคนะรักแคร์มากนะ... อย่าพูดแบบนี้สิ แคร์เป็นแบบนี้ก็เพราะแคร์เป็นตัวของตัวเอง แต่ต้องอยู่ในกรอบที่มันพอดี เข้าใจที่พี่พูดไหม?”
“อือ...”
“แคร์มีพี่เสมอนะ พี่ชายคนนี้อยู่ข้างแคร์เสมอ... เชื่อพี่นะครับเด็กดี” แคร์ค่อยๆ เงยหน้ามองสบตากับผมก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าใกล้ผมแล้วกดริมฝีปากลงริมฝีปากผมทันทีจนผมสะดุ้งผละจูบออก
“แคร์...”
“นี่ไง สิ่งที่พี่พูดกับสิ่งที่พี่ทำมันไม่ตรงกัน... ใครๆ ก็พากันเกลียดแคร์กันทั้งนั้น”
“...”
“รวมถึงพี่ด้วยพี่ยู... พี่เกลียดแคร์ที่ทำแบบนี้ แคร์เป็นแบบนี้ เพราะแคร์อยู่ในกรอบมาตลอด ในเมื่อทุกคนไม่รักแคร์... แคร์ก็จะไม่รักทุกคนเหมือนกัน!!”
“แคร์ แต่เมื่อกี้ที่แคร์ทำมันไม่เหมาะสมนะ... พี่เป็นพี่”
“ถ้างั้นกับคนอื่น แคร์ก็ทำได้นะสิ... จากนี้ไปพี่ไม่ต้องมายุ่งกับแคร์ด้วย แคร์จะทำอะไรก็เรื่องของแคร์!!”
“แคร์ แคร์!!” ผมมองร่างเล็กที่เดินเข้าไปนั่งในรถก่อนจะยกมือแตะริมฝีปากของตัวเองทันที บ้าจริง? แคร์... เธอทำไมถึงเป็นเด็กแบบนี้นะ พี่ล่ะปวดหัวจริงๆ