เมื่อจบทริปดำน้ำตื้นแล้วกลับถึงห้องพัก คนตัวโตที่แสนเอาแต่ใจ ก็บีบบังคับให้เธออาบน้ำพร้อมกับเขาอีกหน และก็ฉวยโอกาสทำอะไรๆเธอต่อจากที่กลางทะเลนั้นจนเธอหมดแรงแข้งขาสั่น เขาจึงได้ปล่อยให้เธอไปนอนงีบพักเอาแรงในห้องโดยที่เขาเองก็เหนื่อยล้าเหมือนกันจึงหลับตามเธอไปแบบติดๆ
ทั้งคู่ตื่นขึ้นมาในเวลาที่จวนเจียนจะถึงมื้อเย็นแล้ว เขาจึงพาเธอไปอาบน้ำพร้อมกันอีกรอบ แต่คราวนี้ไม่ได้ล่วงเกินอะไรเธอมากไปกว่าการลูบๆ คลำๆ เพราะต้องรีบออกไปที่ร้านอาหารชื่อดังที่เขาได้โทรไปจองโต๊ะที่บรรยากาศดีริมทะเลเอาไว้แล้ว
หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวยาวกรอมเท้า เปิดไหล่ทั้งสองข้างมีระบายลูกไม้โปร่งบางน่ารักหลายชั้น ใบหน้าที่แต่งอ่อนๆ โชว์ผิวใสเหมือนเคย ผมสวยสีน้ำตาลอ่อนดัดปลายลอนใหญ่มีวอลุ่มปล่อยสยาย โดยที่มีกิ๊บดอกลีลาวดีสีขาวดอกเล็กติดอยู่ที่ตีนผมเหนือใบหูข้างหนึ่ง ยิ่งทำให้วันนี้เธอสวยหวานกว่าทุกวัน
“วันนี้ยาหยีสวยจัง”
ดวงตาวิบวับจับจ้องมาที่เธอไม่วางตา จนหญิงสาวประหม่าอายลนลานคว้าเล่มเมนูมาเปิดแก้เขิน
หนุ่มหล่ออมยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ เมียสาวของเขาขี้อายเสมอ และเขาก็ชอบมากที่จะทำให้เธอเขินอายแบบนี้
วันนี้ทั้งสองสั่งอาหารมาน้อยกว่าเมื่อวาน เพราะเมียสาวของเขาเรียนรู้ที่จะยอมสั่งอาหารที่ตัวเองชอบกินแล้ว เพราะเข็ดกับการที่เขาสั่งอาหารมาเยอะแยะ เมื่อเธอไม่ยอมสั่งแบบเมื่อวาน
“วันนี้ดื่มไวน์กันนะครับ”
“ได้ค่ะ แต่ยาหยีดื่มไม่เก่งนะคะ”
“เอาเท่าที่ไหวครับ นิดหน่อยแค่พอกรึ่มๆ ก็สนุกดี”
“อะไรนะคะ”
เธอว่าเธอหูฝาดหรือฟังไม่ชัด สนุกดีมันเกี่ยวอะไรกับการดื่มไวน์
ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่กลับอมยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ ทั้งคู่ก็ลงมือจัดการอาหารตรงหน้าอย่างหิวโหย สามีรูปหล่อคอยตักอาหารใส่จานให้เธอหลายครั้ง จนเธอแทบกินไม่ไหว
“ทานกุ้งนี่สิครับ อร่อยนะ”
“มันเยอะไปแล้วค่ะพี่ปรินซ์ ยาหยีจะทานไม่หมดแล้วนะคะ”
คนสวยตัวบางโอดครวญ ไหนบอกให้เธอค่อยเป็นค่อยไปในการเพิ่มน้ำหนักไง แล้วทำไมมาตักใส่จานให้จนจะล้นแบบนี้
“ทานกับเยอะๆ ข้าวน้อยๆ ก็ได้ครับ อันนี้ก็อร่อย พี่ตักให้”
พูดไม่ทันขาดคำ ปลาหมึกผัดไข่เค็มชิ้นใหญ่ก็เข้ามาอยู่ในจานของเธออีกแล้ว
ไม่ไกลออกไป มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาที่สามีภรรยาหนุ่มหล่อสาวสวยด้วยความริษยา ท่าทางที่ชายหนุ่มปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนั้น ทำให้รู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องพิเศษจริงๆ เพราะตลอดเวลาอยู่กันมานาน เขาไม่เคยทำแบบนี้ให้เธอเลย ก็แหงล่ะ ถ้าไม่พิเศษเขาจะยกเลิกการผูกปิ่นโตกับเธอหรือ ทั้งๆ ที่คนกินไม่อิ่มไม่พออย่างเขา จะแอบๆ เลี้ยงสาวๆ เอาไว้ปรนเปรอความใคร่ได้อีกเป็นสิบ แต่เขาก็เลือกตัดขาดจากผู้หญิงในชีวิตทุกคน เพื่อเธอคนนั้น คนที่แม่หามาให้เป็นภรรยาเขา
“แกมองอะไรนังแยม ฉันเห็นจ้องนานแล้วนะ”
เพื่อนสาวที่แต่งกายเปรี้ยวจี๊ดเหมือนกันหันมองไปในทิศที่เพื่อนสาวจับจ้องไม่วางตา
“อุ๊ย นั่นผัวหล่อนนี่ มากับใคร เด็กใหม่หรอ แกอย่ายอมนะ ทำแบบนี้ได้ยังไง”
“นั่นเมียเขา เขายกเลิกผูกปิ่นโตกับฉันไปแล้ว ตอนนี้ก็แต่งงานไปแล้วด้วย เพิ่งไม่กี่วันนี้เอง”
ดวงตาสวยวาววับด้วยความริษยา ผสมกับความเจ็บแค้นนิดหน่อย ที่เขามาเทเธอทิ้งง่ายๆ ทั้งๆที่ตลอดเวลา เธอปรนเปรอสวาทเขาเต็มที่ ตามใจและดูแลเขาทุกอย่าง ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยมาหาเธอเลยก็ตาม แต่ทุกครั้งที่เขามา ก็จะอิ่มเอมจนจุกกลับไปเสมอ เธอมั่นใจ
“แต่งงาน แล้วทำไมต้องเทแกด้วย แอบๆ เลี้ยงก็ได้นี่ สงสัยจะรักผู้หญิงคนนั้นมากนะ หล่อนเป็นใคร ทำไมมาวินได้ผู้ชายแบบคุณปรินซ์ไปครอบครอง”
“เป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ ผู้ใหญ่อยากให้แต่ง”
“ไม่น่าจะใช่มั้ง แกดูสิ คุณปรินซ์เอาอกเอาใจเสียขนาดนั้น แทบจะตักป้อนอยู่ละ ไม่น่าจะใช่แค่คนที่ผู้ใหญ่จับคลุมถุงชนนะ ไหนจะแววตาหวานเยิ้มนั่นอีก ดูหลงใหลผู้หญิงคนนั้นน่าดู มิน่า ถึงเขี่ยแกซะกระเด็น”
“อืม คิดเหมือนกัน หึ ไม่น่าเชื่อ คนอย่างคุณปรินซ์ก็หลงใหลได้ปลื้มใครเป็น ฉันคิดว่าจะไม่มีความรู้สึกอะไร นอกจากหื่นเสียอีก”
“หล่อนก็พูดไปนังแยม”
“เดี๋ยวฉันมานะ ขอไปทักทายคนเคยขย่มสักหน่อย”
“จะดีหรอวะ เมียเขานั่งหัวโด่ เกิดเขาทะเลาะกันมันบาปนะโว้ย คนเพิ่งแต่งงาน”
“หึ ทีเขาเขี่ยฉันทิ้ง เขายังไม่เห็นสนใจความรู้สึกฉันเลย”
“เออ ตามใจ รีบไปรีบมา อย่าให้หนักมือนัก”
“อืม”
ร่างอวบอิ่มในชุดสายเดี่ยวรัดรูปสั้นจู๋ เดินนวยนาดบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้ว เข้ามาใกล้กับโต๊ะที่ชายหนุ่มและภรรยาสาวแสนหวานนั่งอยู่ ก่อนมาหยุดยืนข้างเก้าอี้เขาแล้วโน้มหน้าลงไปมอบจูบหนักๆ ที่แก้มของเขาอย่างถือสิทธิ์ ทิ้งรอยลิปสติกสีแดงสดไว้ชัดเจน
“สวัสดีค่ะ คุณปรินซ์ แยมคิดถึงจังเลยค่ะ ไม่นึกว่าจะบังเอิญมาเจอกันที่นี่นะคะ”
“แยม..”
ชายหนุ่มผงะหนี ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ที่แม่สาวเคยเลี้ยงดูปูเสื่อกันมาทำแบบนี้ ทั้งๆ ที่เขายกเลิกสัญญาและจ่ายค่าชดเชยไปแล้ว ทำไมถึงตั้งใจเข้ามาหาเขาแบบนี้อีก
ดวงตาคมกริบเหลือบมองไปที่ภรรยาคนสวยของตัวเองทันที ประเมินท่าทีว่าเธอมีอาการอย่างไร ก็พบกับใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ นั่งมองเขากับผู้หญิงที่ตอนนี้ลงนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ และกอดแขนเขาแน่นแล้ว
“ปล่อย แยม คุณต้องการอะไร”
ชายหนุ่มดึงรั้งแขนของตัวเองออกมาจากมือปลาหมึกของหญิงสาวที่นั่งข้างๆ จนสำเร็จ
“แยมก็แค่มาทักทายคุณค่ะ แยมคิดถึงคุณนี่คะ คุณเคยเลี้ยงดูแยมมาตั้งนาน อยู่ๆ ก็มาบอกเลิกกันไปเฉยๆ แยมก็เสียใจเป็นนะ คนเคยนอนด้วยกันบ่อยๆ ตัดกันไม่ขาดง่ายๆ หรอกค่ะ จริงไหมคะ คุณ..”
หญิงสาวใจกล้าหันมาถามภรรยาสาวของเขาที่ยังคงนั่งนิ่งเฉยใบหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม
“คุณปรินซ์ไม่คิดจะแนะนำเด็กใหม่ของคุณให้แยมรู้จักหรอคะ ไหนบอกจะแต่งงานไง ทำไมถึงควงเด็กใหม่มาเที่ยวที่นี่ นี่ผูกปิ่นโตใหม่อีกแล้วหรอคะ แยมว่าแล้วเชียว ว่าคนที่ขี้เบื่ออย่างคุณ คงทนกินของเก่าๆ จืดชืดซ้ำซากจำเจได้ไม่นาน”
หญิงสาวเปรี้ยวจี๊ดปรายตามามองยังผู้หญิงสาวสวยตรงหน้า ก่อนแค่นยิ้มเยาะเธอ เอาจริงๆ เธอก็สวยมากอยู่หรอก แต่ก็สวยแบบหวานๆ ไม่ได้ดูเซ็กซี่เร้าอารมณ์แบบที่เขาชอบ แบบนี้มีหรือจะดึงดูดชายหนุ่มที่มีความต้องการเรื่องอย่างว่าสูงแบบเขาได้นาน ไม่มีทางเลย
“นั่นเมียผม ไม่ใช่เด็กใหม่อะไรทั้งนั้น ผมว่าคุณอย่ามาไร้สาระแถวนี้จะดีกว่า”
“อุ๊ยตาย นี่หรือคะ ภรรยาที่คุณบอกว่าแม่บังคับให้แต่งงานด้วย ขอโทษจริงๆ นะคะ แยมไม่รู้ ไม่คิดว่าเธอจะดูเด็กขนาดนี้ นึกว่าคุณเลี้ยงนักศึกษาเสียอีก”
ปากเจรจาพาทีแบบรู้สึกผิด แต่ดวงตาวาววับเย้ยหยันส่งไปให้หญิงสาวที่เป็นภรรยาเขาอีกครั้ง และหล่อนคนนั้นก็มองตาเธออยู่ แต่กลับไม่แสดงท่าทางหึงหวงไม่พอใจอะไรออกมาเลย กลับกลายเป็นปรินทร์เสียอีก ที่ร้อนตัวอยู่ไม่สุข เอ่ยขัดคำพูดของเธอและขับไล่เธออีกหน
“แยม คุณกลับไปซะ ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน”
“อะไรคะคุณปรินซ์ แยมแค่มาทักทายเอง ทำไมคุณถึงใจร้ายขนาดนี้ อ๋อ เพราะต่อหน้าภรรยาคุณสินะ ถึงต้องขับไล่แยมแบบนี้ ถ้าคุณมาคนเดียว เหตุการณ์มันไม่เป็นแบบนี้หรอก มันคงไปจบลงที่เตียงเหมือนเคยๆ แน่”
เท่านี้ก็รู้แล้ว ว่าวัตถุประสงค์ของผู้หญิงเปรี้ยวจี๊ดคนนี้คืออะไร ต้องการเข้ามาทำให้สามีภรรยาเขาแตกคอ หึงหวงและทะเลาะกันสินะ เท่าที่ฟัง ผู้หญิงคนนี้คงโดนเขาเขี่ยทิ้งเพราะต้องมาแต่งงาน ก็คงโกรธแค้นมาตามเอาคืนเป็นเรื่องธรรมดา
ทั้งๆ ที่ใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำรัวด้วยความโกรธและไม่พอใจ แต่คนอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะไปหึงหวงโกรธเคืองเขา เขาจะทำอะไรก็คงไม่มีใครไปตามห้ามได้ และอีกอย่าง สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมามันก็เรื่องจริงทั้งนั้น เขากับเธอคนนั้นเคยนอนด้วยกัน ถึงขนาดเลี้ยงดูปูเสื่อกันมานาน และเขาก็โดนแม่บังคับให้แต่งงานกับเธอจริงๆ ผัวเมียที่ไม่ได้รักกัน เมียอย่างเธอจะเอาสิทธิ์อะไรไปแสดงความไม่พอใจออกมา สู้เก็บความรู้สึกนี้ไว้เงียบๆ คนเดียวจะดีกว่า เพราะต่อไปในอนาคต ก็ไม่รู้ต้องเจอกับผู้หญิงแบบนี้อีกกี่คน หรือไม่แน่ เขาอาจเบื่อเธอจนไปเลี้ยงดูคนใหม่แบบที่ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาก็ได้
“กลับไปได้แล้วแยม”
เสียงทุ้มกดต่ำ ระงับอารมณ์โมโหเต็มที่ ไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่เคยปรนเปรอได้ถึงใจ จะมาแว้งกัดกันได้เจ็บแสบขนาดนี้
“แยมไปก็ได้ค่ะ ไปก่อนนะคะ ภรรยาคุณปรินซ์ ขอให้มีความสุขกับการแต่งงานที่ปราศจากความรักนะคะ”
พูดจบก็สะบัดก้นงอนๆ ของเธอเดินกลับโต๊ะไปทันทีโดยไม่หันกลับมามองสิ่งที่เธอทิ้งระเบิดไว้อีกกเลย
“ยาหยี อย่าไปฟังนะครับ เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบนั้น คือ..”
ชายหนุ่มละล่ำละลักจะอธิบายให้เมียสาวเข้าใจ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เธอก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ปรินซ์ ยาหยีไม่ได้คิดอะไร”
“ทำไม..”
“ต้องคิดอะไรด้วยหรือคะ ที่ผู้หญิงคนนั้นพูดมาก็เรื่องจริงทั้งนั้น”
“แล้วเรื่องที่พี่กับแยม เคย..”
“เคยผูกปิ่นโตเธอนะหรือคะ เรื่องจริงหรือเปล่าคะ”
เธอเอียงคอมอบสบตาคมของเขาตาแป๋ว เหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร
“จริงครับ แต่พี่ก็บอกเลิกพวกเธอไปหมดแล้ว พอรู้ว่าต้องแต่งงานกับยาหยี”
พวกเธอหรือ หลายคนสินะ
“ยาหยีต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ปรินซ์ ที่อุตส่าห์ยอมเสียสละเลิกกับสาวๆของพี่เพื่อยาหยี เอาเป็นว่าพี่อย่าคิดมากเลยค่ะ ยาหยีไม่ได้รู้สึกอะไร สบายมากค่ะ”
เธอส่งยิ้มให้เขาเหมือนทุกทีที่เคยยิ้มให้ ไม่ได้มีแววน้อยใจหรือประชดประชันใดๆ ในน้ำเสียงหรือสายตาคู่นั้นเลยจนเขารู้สึกแน่นในอก ผู้หญิงที่เคยนอนกับเขา มาแสดงตัวและพูดจาเหยียดหยามเธอถึงที่ เธอยังไม่รู้สึกหึงหวง ไม่พอใจ หรือโกรธเคืองเขาสักนิด นี่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลยจริงๆหรือ แค่เพียงนิดก็ไม่มีสินะ เขามันคงหวังมากเกินไป ที่เมียเด็กของเขาที่ไม่เคยผ่านมือใคร พอได้ตกเป็นของเขาแล้วเธอจะรู้สึกรักใคร่หวงแหนเขา ที่ไหนได้ กลับเป็นเขาที่รู้สึกแบบนั้นกับเธอแค่ฝ่ายเดียว ฝ่ายเดียวจริงๆ
“พี่มันไม่มีความหมายกับยาหยีเลยใช่ไหม ถึงทนดูผู้หญิงคนเก่ามาวุ่นวายกับพี่ได้หน้าตาเฉย”
ชายหนุ่มลุกพรวดพราดออกไปจ่ายเงิน แล้วเดินกลับห้องพักไปโดยไม่รอเธอเลย ปล่อยให้เธอเดินเร็วๆ ตามเขาแทบไม่ทัน
เมื่อถึงห้อง เขาก็วางของปึงปังหน้าตาบึ้งตึง ถอดเสื้อผ้าแล้วคว้าขวดไวน์ในตู้เย็น เดินโทงๆ ลงไปนอนแช่ในอ่างจากุชชีทันทีโดยไม่เรียกเธอสักคำ
ถ้าเป็นปกติเขาคงบังคับให้เธอลงไปแช่ในอ่างด้วย และมือปลาหมึกนั่นก็จะวุ่นวายกับร่างกายเธอไม่หยุด ตามด้วยโดนรังแกจากร่างใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่าจนหมดแรง
แต่ตั้งแต่เจอผู้หญิงคนนั้น คนที่มาทวงสิทธิ์ของคนมาก่อน เขาก็ดูเปลี่ยนไป ใบหน้าบึ้งตึง ไม่พูดไม่จา ไม่สนใจเธออย่างเคย หรือเพราะการได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นจะทำให้เขาได้เปรียบเทียบ ว่าเธอที่เป็นเมียของเขา มันเร่าร้อนและตอบสนองปรนเปรอเขาไม่ได้ถึงใจเท่าผู้หญิงคนนั้น ถึงทำท่าทีเหมือนโกรธเคืองเธอที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องทิ้งชีวิตอิสระแล้วมาแต่งงานด้วย