“โอ ที่รัก” ชายหนุ่มจับเอวเธอไว้ บังคับให้หยุด! “ตรงนั้นจะไปมันส์อะไร มานี่สิ มีอะไรที่ใหญ่กว่า เสียวกว่า สนุกกว่าตั้งเยอะ”
เขาจับตัวเธอยกจนดอกไม้งามลอยอยู่เหนือมังกรหินที่ชูชันรอคอย ถูไถปากทางนิดหนึ่งอย่างยั่วยวน สร้างความหฤหรรษ์ให้หญิงสาวไม่น้อย
“เจ็บหน่อย แต่อร่อยชัวร์ อยากลองอีกครั้งไหม?”
สุมิตราแลบลิ้นเลียปากด้วยความปรารถนาอันหวานหอม
“อยากค่ะ” เธอพยายามดันตัวเองลงยังมังกรร้าย จนเขาต้องละมือหนึ่งไปจับมันให้ตั้งเข้าไว้ “อือ อือ มันใหญ่จังค่ะคุณเดรอซซี”
เธอโน้มลงจูบเขา แลกลิ้นลามเลียอย่างวาบหวิว
“เธอแน่นต่างหาก” เขากระซิบชิดริมฝีปาก “อา ฟิตอะไรอย่างนี้!”
ความนุ่มนิ่มที่กำลังกลืนกินเขาอย่างเชื่องช้าตามแรงดันตัวลงของหญิงสาวเล่นเอาเขาแทบจะหลั่งออกมาอีกครั้ง ลูซิโอเคยหลับนอนกับสาวพรหมจรรย์แค่ครั้งเดียวตอนอายุสิบเจ็ด เขาก็เด็ก เธอก็เด็ก ตอนนั้นมันแย่มาก ทำไม่เป็นกันทั้งคู่! เขาขยาดสาวพรหมจรรย์ไปเลย และไม่เคยคิดจะคบหาหรือหลับนอนด้วยอีกเลย จนมาเจอเธอ อา... เขาไม่เคยคิดถึงความฟิตความคับแบบนี้มาก่อนเลย
มันดีชะมัด!
ดอกไม้แสนหวานตอดมังกรเขาตลอดทาง มันเต้นเร่าด้วยความ สุขสม กลืนกินอย่างระมัดระวังเพราะยังเจ็บ หากแต่ว่าดูเหมือนหญิงสาวจะเสียวมากกว่าเจ็บแล้ว เพราะเธอกดลงไปจนสุดทาง ใบหน้างามเบ้นิดๆ หากแต่สะโพกสวยยังพยายามขยับ แม้จะขยับไปมา ผิดเพี้ยนไปนิดก็ตาม
“ไม่ใช่ที่รัก” เขากระซิบ “ลองยกตัวขึ้น แล้วดันลงมาใหม่สิ”
สุมิตรางุนงง หากแต่ทำตามอย่างว่าง่าย ทุกตารางนิ้วของการเคลื่อนไหวมันสร้างรอยอารมณ์ไปตลอดทาง เธอยกตัวขึ้น ดันตัวลง เงอะงะไม่ประสาในหนแรก แต่เมื่อเริ่มจับจังหวะได้ หญิงสาวก็ลงมือ ‘กิน’ เขาอย่างเร่าร้อนดุเผ็ด! เธอกระแทกตัวขึ้นลงครั้งแล้วครั้งเล่า ร้องครางปนเสียงตุบตับของเนื้อหนังมังสา ในขณะที่ชายหนุ่มกัดฟันกรอด รอคอยจนเธอเสร็จอีกครั้ง
“อ๊าาา!!!” หญิงสาวกระแทกลงมา! แล้วซุกซบกับซอกคอเขาตัวอ่อนปวกเปียก “อา ดีจัง”
ชายหนุ่มจับตัวเธอทุ่มลงบนเตียงโดยหญิงสาวไม่ทันระวัง เธอร้องอุทานเสียงหลง
“ดีเหรอ?” เขาทวนคำ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มือขวาจับแก่นกายที่ยังแข็งตึงเอาไว้ “ฉันจะทำให้ดูว่า ‘ดีกว่านี้’ มันเป็นยังไง!”
เขาจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นพาดบ่า ก่อนสอดเสียบตัวเองเข้าไปโดยไม่สนว่าเธอจะดิ้นรนร้องห้ามและพยายามบอกว่าเจ็บ! ชายหนุ่มจับเอวเธอ ซอยถี่ไม่ยั้งจนหญิงสาวร้องกรี๊ดอย่างสุขสม มันทั้งเจ็บ ทั้งระบม แต่ก็เสียวจนใจจะขาด มือน้อยกำผ้าปูที่นอนแน่น ขณะอีกมือก็ยื่นไปแตะอกเขา จิกข่วนเอาคืนราวกับอยากให้เขารู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร
อยากให้เขารู้ว่าทั้งเจ็บทั้งเสียวมันเป็นยังไง!
“โอ้” ชายหนุ่มอุทาน “เธอตัวอ่อนเป็นบ้า”
เขาพูดเพราะลองโน้มตัวลงมาหาโดยยังไม่ปล่อยขาเธอลง และเขาโน้มลงมาจนจูบเธอได้ด้วย ชายหนุ่มแลกลิ้นกับเธอ ขณะระดมกระแทกถี่ๆ จนร่างกายแทบปริแตก ในขณะที่หญิงสาวยกสองมือขึ้นเกาะเกี่ยวร่างกายเขา เมื่อเขาเลื่อนใบหน้าลงไปซบอกอวบ เร่งจังหวะเร็วขึ้นอีก เธอก็แหงนหน้าร้องอย่างถึงใจ!
“อ๊า อ๊า เอาอีกค่ะ” เธอจิกเล็บลงไป ถึงสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ตราบที่เขายังไม่มอบเชื้อพันธุ์แห่งธรรมชาติให้ เธอก็ยังไม่พอ! “อา อา ไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊าาา”
“อา!” ชายหนุ่มกระแทก รุนแรงดุดัน คว้าสรรค์ได้พร้อมเธอ
เขาผล็อยหลับไปเมื่อไรไม่รู้... รู้ตัวอีกทีก็เมื่อสลึมสลือตื่นมาพบว่าตัวเองยังเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ภายในความมืดที่มีเพียงแสงสลัวจากด้านนอกลอดผ่านเข้ามาบางเบา ดูเหมือนเธอจะดับไฟไปแล้ว และนาฬิกาเรืองแสงที่ฝาผนังก็บอกเวลาใกล้เช้าแล้วด้วย
ชายหนุ่มควานมือไปข้างตัวหมายจะดึงร่างอุ่นนุ่มมาบรรเลงเพลงสวาทอีกสักรอบก่อนเช้าตรู่ หากแต่กลับพบเพียงความเย็นเฉียบของฟูกและอะไรบางอย่างที่ถูกวางทิ้งไว้บนฟูกนอนนุ่ม และติดมือเขามา ชายหนุ่มลืมตามอง เห็นในแสงสลัวของจันทร์เต็มดวงจากนอกหน้าต่าง
หน้ากากขนนกสีดำ...
สามเดือนต่อมา...
ห้องโยคะร้อนมีหญิงสาวนับสิบคนกำลังเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ทว่าแข็งแรง สุมิตราก้มตัวลงแตะปลายนิ้วที่พื้นในท่าพระอาทิตย์ ก่อนยกแขนขึ้นแล้วลดลงมาประนมมือกลางอก เธอทำตามครูสอนไปจนถึงท่าสะพานโค้ง แล้วลงมาคาร์ดิโอ้อีกนิดหน่อยก็นอนหงายกับพื้น ปิดเปลือกตา ฟังเสียงขับกล่อมผ่อนคลาย แล้วสมองเจ้ากรรมก็คิดไปถึงคืนนั้น
‘โอ้ เธอตัวอ่อนเป็นบ้า’
‘อา อา ไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊าาา’
‘อา!’
เปลือกตาบางขยับอย่างทรมาน แพนตี้ตัวน้อยชื้นฉ่ำจนกลัวเหลือเกินกว่าจะแฉะออกมาถึงกางเกงโยคะแนบเนื้อ หญิงสาวขยับลุกโดยไม่รอครูสั่งพัก เธอเดินไปหยิบกระเป๋า สวมเสื้อคลุมแล้วก้าวออกจากห้องเรียนโยคะทันที ร่างบางเดินฉับๆ ในห้างสรรพสินค้า ก่อนขึ้นรถไฟฟ้ากลับคอนโดมิเนียมกลางกรุงที่เธอกับมารดาหนีร้อนจากเกาะภาคใต้มาพึ่งเย็นที่นี่ตั้งแต่ก่อนไปร่วมงานแต่งงานที่อิตาลีเสียอีก
หญิงสาวแตะคีการ์ดเข้าไปในห้อง ทิ้งตัวลงนอน ก่อนลืมตาถอนหายใจเฮือก
เรื่องที่บ้านก็วุ่นวายหาทางออกไม่ได้ เรื่องหัวใจและร่างกายวาบหวามของตัวเองก็ยิ่งไปกันใหญ่
โธ่เอ๊ย
เธอไม่น่าดื่มเข้าไปจนเมาเลอะเทอะขนาดนั้นเลย!
ไม่ใช่ว่าไม่ดี... มันดีเสียจนสลัดออกจากหัวไปไม่ได้ ตอนนี้กลางกายของเธอก็อูมเป่งชื้นฉ่ำ อยากหาทางระบาย หญิงสาวเลื่อนมือเข้าไปใต้แพนตี้ ครางเบาๆ ขณะเสียดสีปลายนิ้วกับดอกไม้งาม เธอจินตนาการถึงหน้าเขา... สัมผัสของเขา...
ท่อนเอ็นแข็งขึงราวศิลาของเขา...
“อา...” หญิงสาวงอตัว เสียดเสียวดื่มด่ำกับสัมผัสและจินตนาการ แต่เมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน โทรศัพท์มือถือกลับแผดดัง
สุมิตราสะดุ้ง ดึงมือออกมาเช็ดด้วยทิชชูข้างเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา หน้าจอแสดงชื่อ ‘จ้อย’ เด็กวัดที่เธอฝากให้ดูแลหลวงตาพูน คุณตาของรสิตาแทนเธอซึ่งหนีออกจากเกาะมาหลายเดือนแล้ว หลวงตาพูนบวชอยู่ที่วัดยาน้อย เป็นวัดเดียวที่มีของเกาะยาตรา บ้านเกิดของสุมิตราเอง
“ว่าไงจ้อย”
“พี่มิ้วๆ” จ้อยโวยวายมาเป็นสำเนียงใต้ “หลวงตาไม่สบาย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลกลาง พี่มิ้วรีบมาดูหลวงตานะ อาการหนักมากเลย”
สุมิตราเบิกตาโต
หลังวางสายจากจ้อย ก็รีบติดต่อรสิตาที่อิตาลีทันที!