Chapter 5 หน้ากากขนนกสีดำ

1270 Words
“โอ ที่รัก” ชายหนุ่มจับเอวเธอไว้ บังคับให้หยุด! “ตรงนั้นจะไปมันส์อะไร มานี่สิ มีอะไรที่ใหญ่กว่า เสียวกว่า สนุกกว่าตั้งเยอะ” เขาจับตัวเธอยกจนดอกไม้งามลอยอยู่เหนือมังกรหินที่ชูชันรอคอย ถูไถปากทางนิดหนึ่งอย่างยั่วยวน สร้างความหฤหรรษ์ให้หญิงสาวไม่น้อย “เจ็บหน่อย แต่อร่อยชัวร์ อยากลองอีกครั้งไหม?” สุมิตราแลบลิ้นเลียปากด้วยความปรารถนาอันหวานหอม “อยากค่ะ” เธอพยายามดันตัวเองลงยังมังกรร้าย จนเขาต้องละมือหนึ่งไปจับมันให้ตั้งเข้าไว้ “อือ อือ มันใหญ่จังค่ะคุณเดรอซซี” เธอโน้มลงจูบเขา แลกลิ้นลามเลียอย่างวาบหวิว “เธอแน่นต่างหาก” เขากระซิบชิดริมฝีปาก “อา ฟิตอะไรอย่างนี้!” ความนุ่มนิ่มที่กำลังกลืนกินเขาอย่างเชื่องช้าตามแรงดันตัวลงของหญิงสาวเล่นเอาเขาแทบจะหลั่งออกมาอีกครั้ง ลูซิโอเคยหลับนอนกับสาวพรหมจรรย์แค่ครั้งเดียวตอนอายุสิบเจ็ด เขาก็เด็ก เธอก็เด็ก ตอนนั้นมันแย่มาก ทำไม่เป็นกันทั้งคู่! เขาขยาดสาวพรหมจรรย์ไปเลย และไม่เคยคิดจะคบหาหรือหลับนอนด้วยอีกเลย จนมาเจอเธอ อา... เขาไม่เคยคิดถึงความฟิตความคับแบบนี้มาก่อนเลย มันดีชะมัด! ดอกไม้แสนหวานตอดมังกรเขาตลอดทาง มันเต้นเร่าด้วยความ สุขสม กลืนกินอย่างระมัดระวังเพราะยังเจ็บ หากแต่ว่าดูเหมือนหญิงสาวจะเสียวมากกว่าเจ็บแล้ว เพราะเธอกดลงไปจนสุดทาง ใบหน้างามเบ้นิดๆ หากแต่สะโพกสวยยังพยายามขยับ แม้จะขยับไปมา ผิดเพี้ยนไปนิดก็ตาม “ไม่ใช่ที่รัก” เขากระซิบ “ลองยกตัวขึ้น แล้วดันลงมาใหม่สิ” สุมิตรางุนงง หากแต่ทำตามอย่างว่าง่าย ทุกตารางนิ้วของการเคลื่อนไหวมันสร้างรอยอารมณ์ไปตลอดทาง เธอยกตัวขึ้น ดันตัวลง เงอะงะไม่ประสาในหนแรก แต่เมื่อเริ่มจับจังหวะได้ หญิงสาวก็ลงมือ ‘กิน’ เขาอย่างเร่าร้อนดุเผ็ด! เธอกระแทกตัวขึ้นลงครั้งแล้วครั้งเล่า ร้องครางปนเสียงตุบตับของเนื้อหนังมังสา ในขณะที่ชายหนุ่มกัดฟันกรอด รอคอยจนเธอเสร็จอีกครั้ง “อ๊าาา!!!” หญิงสาวกระแทกลงมา! แล้วซุกซบกับซอกคอเขาตัวอ่อนปวกเปียก “อา ดีจัง” ชายหนุ่มจับตัวเธอทุ่มลงบนเตียงโดยหญิงสาวไม่ทันระวัง เธอร้องอุทานเสียงหลง “ดีเหรอ?” เขาทวนคำ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มือขวาจับแก่นกายที่ยังแข็งตึงเอาไว้ “ฉันจะทำให้ดูว่า ‘ดีกว่านี้’ มันเป็นยังไง!” เขาจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นพาดบ่า ก่อนสอดเสียบตัวเองเข้าไปโดยไม่สนว่าเธอจะดิ้นรนร้องห้ามและพยายามบอกว่าเจ็บ! ชายหนุ่มจับเอวเธอ ซอยถี่ไม่ยั้งจนหญิงสาวร้องกรี๊ดอย่างสุขสม มันทั้งเจ็บ ทั้งระบม แต่ก็เสียวจนใจจะขาด มือน้อยกำผ้าปูที่นอนแน่น ขณะอีกมือก็ยื่นไปแตะอกเขา จิกข่วนเอาคืนราวกับอยากให้เขารู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร อยากให้เขารู้ว่าทั้งเจ็บทั้งเสียวมันเป็นยังไง! “โอ้” ชายหนุ่มอุทาน “เธอตัวอ่อนเป็นบ้า” เขาพูดเพราะลองโน้มตัวลงมาหาโดยยังไม่ปล่อยขาเธอลง และเขาโน้มลงมาจนจูบเธอได้ด้วย ชายหนุ่มแลกลิ้นกับเธอ ขณะระดมกระแทกถี่ๆ จนร่างกายแทบปริแตก ในขณะที่หญิงสาวยกสองมือขึ้นเกาะเกี่ยวร่างกายเขา เมื่อเขาเลื่อนใบหน้าลงไปซบอกอวบ เร่งจังหวะเร็วขึ้นอีก เธอก็แหงนหน้าร้องอย่างถึงใจ! “อ๊า อ๊า เอาอีกค่ะ” เธอจิกเล็บลงไป ถึงสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ตราบที่เขายังไม่มอบเชื้อพันธุ์แห่งธรรมชาติให้ เธอก็ยังไม่พอ! “อา อา ไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊าาา” “อา!” ชายหนุ่มกระแทก รุนแรงดุดัน คว้าสรรค์ได้พร้อมเธอ เขาผล็อยหลับไปเมื่อไรไม่รู้... รู้ตัวอีกทีก็เมื่อสลึมสลือตื่นมาพบว่าตัวเองยังเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ภายในความมืดที่มีเพียงแสงสลัวจากด้านนอกลอดผ่านเข้ามาบางเบา ดูเหมือนเธอจะดับไฟไปแล้ว และนาฬิกาเรืองแสงที่ฝาผนังก็บอกเวลาใกล้เช้าแล้วด้วย ชายหนุ่มควานมือไปข้างตัวหมายจะดึงร่างอุ่นนุ่มมาบรรเลงเพลงสวาทอีกสักรอบก่อนเช้าตรู่ หากแต่กลับพบเพียงความเย็นเฉียบของฟูกและอะไรบางอย่างที่ถูกวางทิ้งไว้บนฟูกนอนนุ่ม และติดมือเขามา ชายหนุ่มลืมตามอง เห็นในแสงสลัวของจันทร์เต็มดวงจากนอกหน้าต่าง หน้ากากขนนกสีดำ... สามเดือนต่อมา... ห้องโยคะร้อนมีหญิงสาวนับสิบคนกำลังเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ทว่าแข็งแรง สุมิตราก้มตัวลงแตะปลายนิ้วที่พื้นในท่าพระอาทิตย์ ก่อนยกแขนขึ้นแล้วลดลงมาประนมมือกลางอก เธอทำตามครูสอนไปจนถึงท่าสะพานโค้ง แล้วลงมาคาร์ดิโอ้อีกนิดหน่อยก็นอนหงายกับพื้น ปิดเปลือกตา ฟังเสียงขับกล่อมผ่อนคลาย แล้วสมองเจ้ากรรมก็คิดไปถึงคืนนั้น ‘โอ้ เธอตัวอ่อนเป็นบ้า’ ‘อา อา ไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊าาา’ ‘อา!’ เปลือกตาบางขยับอย่างทรมาน แพนตี้ตัวน้อยชื้นฉ่ำจนกลัวเหลือเกินกว่าจะแฉะออกมาถึงกางเกงโยคะแนบเนื้อ หญิงสาวขยับลุกโดยไม่รอครูสั่งพัก เธอเดินไปหยิบกระเป๋า สวมเสื้อคลุมแล้วก้าวออกจากห้องเรียนโยคะทันที ร่างบางเดินฉับๆ ในห้างสรรพสินค้า ก่อนขึ้นรถไฟฟ้ากลับคอนโดมิเนียมกลางกรุงที่เธอกับมารดาหนีร้อนจากเกาะภาคใต้มาพึ่งเย็นที่นี่ตั้งแต่ก่อนไปร่วมงานแต่งงานที่อิตาลีเสียอีก หญิงสาวแตะคีการ์ดเข้าไปในห้อง ทิ้งตัวลงนอน ก่อนลืมตาถอนหายใจเฮือก เรื่องที่บ้านก็วุ่นวายหาทางออกไม่ได้ เรื่องหัวใจและร่างกายวาบหวามของตัวเองก็ยิ่งไปกันใหญ่ โธ่เอ๊ย เธอไม่น่าดื่มเข้าไปจนเมาเลอะเทอะขนาดนั้นเลย! ไม่ใช่ว่าไม่ดี... มันดีเสียจนสลัดออกจากหัวไปไม่ได้ ตอนนี้กลางกายของเธอก็อูมเป่งชื้นฉ่ำ อยากหาทางระบาย หญิงสาวเลื่อนมือเข้าไปใต้แพนตี้ ครางเบาๆ ขณะเสียดสีปลายนิ้วกับดอกไม้งาม เธอจินตนาการถึงหน้าเขา... สัมผัสของเขา... ท่อนเอ็นแข็งขึงราวศิลาของเขา... “อา...” หญิงสาวงอตัว เสียดเสียวดื่มด่ำกับสัมผัสและจินตนาการ แต่เมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน โทรศัพท์มือถือกลับแผดดัง สุมิตราสะดุ้ง ดึงมือออกมาเช็ดด้วยทิชชูข้างเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา หน้าจอแสดงชื่อ ‘จ้อย’ เด็กวัดที่เธอฝากให้ดูแลหลวงตาพูน คุณตาของรสิตาแทนเธอซึ่งหนีออกจากเกาะมาหลายเดือนแล้ว หลวงตาพูนบวชอยู่ที่วัดยาน้อย เป็นวัดเดียวที่มีของเกาะยาตรา บ้านเกิดของสุมิตราเอง “ว่าไงจ้อย” “พี่มิ้วๆ” จ้อยโวยวายมาเป็นสำเนียงใต้ “หลวงตาไม่สบาย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลกลาง พี่มิ้วรีบมาดูหลวงตานะ อาการหนักมากเลย” สุมิตราเบิกตาโต หลังวางสายจากจ้อย ก็รีบติดต่อรสิตาที่อิตาลีทันที!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD