ตอนที่ 3. เมียที่ไม่ต้องการ (3)

1505 Words
“คุณคะ ออกไปก่อนนะคะ” เสียงของนางนิ่มทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ความคิด กลับมามองหาทางออกให้ตัวเองอีกครั้ง “ป้าคะ ฉันไม่มีที่ไป ฉันขอทำงานที่นี่สักคนได้ไหมคะ เงินเดือนไม่ต้องให้ก็ได้ ขอแค่ที่อยู่กับอาหารสามมื้อก็พอ” คำขอของหญิงสาวทำเอานางนิ่มยกคิ้วสูงด้วยความตกใจ พอๆ กับความแปลกใจ “จะดีหรือคะ ป้าต้องไปเรียนคุณจิณณ์ก่อน” “หนูมาที่นี่เพื่อมาสมัครงานค่ะ แม่หนูรู้จักกับลุงเพิ่มเลยฝากหนูมา หนูเลยอ้างว่ามาจากบ้านเจ้าสัว เผื่อจะได้มีเส้นสายกับเขาบ้าง แหะๆ” หญิงสาวยิ้มประจบคนแก่ เมื่อคิดจะอยู่ที่นี่ก็ต้องแต่งเรื่องสักนิด เมื่อเขาไม่ต้อนรับก็ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมสักหน่อย “อ้าว... ป้าก็เข้าใจผิด คิดว่าท่านเจ้าสัวส่งผู้หญิงมาให้คุณจิณณ์ มาสมัครงานก็ไม่บอก ว่าแล้วทำไมถึง...” นางนิ่มมองสภาพของหญิงสาวแล้วส่ายหัวพร้อมกับยิ้มออกมาได้ คนก่อนๆ ที่ส่งมาหน้าตาสะสวยสวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัว ผู้หญิงคนนี้หน้าตาจิ้มลิ้มดีอยู่หรอก เสียแต่แต่งตัวเหมือนคนตัดอ้อย นางเข้าใจผิดไปเองว่าท่านเจ้าสัวส่งผู้หญิงมาให้หลานชาย สภาพแบบนี้ท่านจะส่งมาให้หลานท่านได้อย่างไร “ท่านเจ้าสัวส่งผู้หญิงมาให้หลานชายท่านด้วยเหรอคะ หนูไม่ใช่นะคะ หนูไม่ได้ขายตัว หนูขายแรงแลกเงินเท่านั้น หนูยึดมั่นในศักดิ์ศรีอยู่เหนือเงินตราค่ะ” หญิงสาวกำหมัดชูขึ้นประกาศก้อง ทำเอาคนแก่หัวเราะชอบใจ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า เชื่อแล้วๆ เดี๋ยวป้าไปบอกคุณจิณณ์ก่อนนะ” นางนิ่มรีบเดินขึ้นไปชั้นบน ตรงไปยังห้องทำงานของผู้เป็นนาย เคาะประตูเรียกเมื่อได้รับอนุญาตก็เปิดเข้าไป “ไล่ไปแล้วใช่ไหม” จิณณ์เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร เอ่ยถาม “ยังค่ะ คือว่า...” “ป้าขัดคำสั่งฉันเรอะ” ยังไม่ทันพูดจบผู้เป็นนายจ้างก็พูดขัดขึ้น สีหน้ามีรอยโทสะขึ้นมา นางนิ่มตัวสั่นรีบพูดว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือว่า อิฉันเข้าใจผิดค่ะ ผู้หญิงคนนั้นมาสมัครงานค่ะ ไม่ได้ถูกเจ้าสัวส่งมา” “มาสมัครงาน แล้วป้าบอกว่านายเพิ่มมาส่งไม่ใช่เหรอ” “เขาขอติดรถนายเพิ่มมาค่ะ พอดีรู้จักกัน นายเพิ่มก็มาส่งแล้วกลับไปเลย ป้าก็เข้าใจผิดว่าท่านเจ้าสัวส่งมา” นางนิ่มอธิบายให้เจ้านายเข้าใจ พลางถอนหายใจแรงเมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นนายคลายลง “แน่ใจนะ ไม่ใช่ลูกไม้” จิณณ์ยังระแวง “แน่ใจล้านเปอร์เซ็นเลยค่ะ ผู้หญิงคนนั้นแต่งตัวซอมซ่อหน้าตาก็บ้านๆ ไม่ได้สวยแบบผู้หญิงคนก่อนๆ ที่ท่านเจ้าสัวส่งมาสักนิด คุณจิณณ์จะให้ป้าเรียกมาให้ดูไหมคะ” “ไม่ต้อง ถ้ามาสมัครงานก็หางานให้ทำ ให้ป้านิ่มดูแลไปแล้วกัน อย่าให้มาวุ่นวายกับฉันก็พอ” จิณณ์โบกมือไล่ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ โดยไม่รู้ว่าเขาพลาดเสียแล้ว ที่ยอมรับผู้หญิงคนนี้เข้ามา... /// เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้เป็นนายแล้ว นางนิ่มก็มาหาหญิงสาวที่รออยู่พร้อมกับข่าวดี “เป็นยังไงบ้างคะป้า เจ้านายป้าเขายอมไหมคะ” หญิงสาวผุดลุกจากเก้าอี้เมื่อเห็นนางนิ่มเดินเข้ามา แววตามีความคาดหวัง “คุณจิณณ์ท่านไม่ว่าอะไร ที่นี่กำลังขาดคนงานพอดี ตามป้ามาเดี๋ยวจะบอกว่าให้ทำอะไรบ้างนะ” นางนิ่มพยักหน้าให้หญิงสาวเดินตามนางมา อีกฝ่ายรีบคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองเดินตามอย่างดีใจ คนแก่กว่าเดินนำมายังครัว เปิดประตูเพื่อผ่านไปยังเรือนหลังเล็กด้านหลัง “ที่นี่คือที่พักของคนงานในบ้าน ตอนนี้มีป้าอยู่คนเดียว หนูพักห้องนี้นะ เอาข้าวของไปเก็บสิ” นางนิ่มเปิดประตูห้องหนึ่งให้หญิงสาว ภายในห้องมีเตียงเล็กๆ ตู้เสื้อผ้า และมีห้องน้ำในตัว ถือว่าเป็นห้องพักที่สะดวกสบายไม่น้อย “แล้วคนงานคนอื่นๆ ล่ะคะ พักกันที่ไหน” หญิงสาวเอากระเป๋าวางลงข้างเตียงมองไปรอบๆ อย่างสำรวจ พลางชวนคุย “คนงานในไร่มีที่พักในไร่ ส่วนพวกเราทำงานบ้านก็พักที่นี่แหละ เพราะต้องดูแลเจ้านายด้วย เมื่อก่อนก็มีนางน้อยมาช่วยป้าทำงาน แต่มันมีผัวก็เลยย้ายไปอยู่กับผัวที่บ้านพักในไร่นู่น” “แล้วงานในไร่เงินดีกว่าทำงานบ้านไหมคะป้า” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างสนใจ “ก็ดีกว่าหน่อยหนึ่งน่ะ ส่วนมากคนงานผู้หญิงในไร่ ก็พวกเมียคนงานนั่นแหละ มาทำงานพักกับผัวจะได้สะดวก” คนงานในไร่นี้ส่วนมากจะมีเมียกันหมด พวกยังโสดก็เป็นลูกหลานของคนมาก่อน เจ้าของไร่จัดที่พักให้อยู่เป็นสัดส่วน แยกตามหน้าที่รับผิดชอบ ไม่วุ่นวายกัน “คุยกันตั้งนานป้ายังไม่ได้ถามชื่อหนูเลย จะได้เรียกกันถูก ป้าชื่อป้านิ่มนะ” นางนิ่มถามชื่อหญิงสาวขึ้นมา หลังจากนึกได้ว่ายังไม่รู้จักชื่อ “ฉันชื่ออิงดาวค่ะป้า เรียกว่าอิงเฉยๆ ก็ได้” อิงดาวแนะนำตัวให้อีกฝ่ายรู้จัก เธอรู้สึกผ่อนคลายลงมากหลังจากพูดคุยจนสนิทสนมกับนางนิ่ม ก่อนหน้าเธอเครียดเกร็งไปหมดเหมือนคนเตรียมตัวรับศึกใหญ่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามไม่ลงมาฟาดฟันด้วยตัวเอง เปิดโอกาสให้อิงดาวลอบเข้ามาในกองทัพเป็นไส้ศึก รอเวลาจัดการกับทัพใหญ่ของเขา “ไร่นี้ชื่อไร่ธารดาว หนูชื่ออิงดาว ชื่อคล้ายๆ กันเลยนะ ดีๆ ถือว่าดวงสมพงษ์กัน จะได้อยู่ทำงานที่นี่นานๆ” นางนิ่มเปรียบเทียบอย่างอารมณ์ดี นางดีใจที่หาคนมาช่วยงานได้สักที หลังจากนางน้อยแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่กับผัวที่บ้านพักในไร่ มาช่วยงานเฉพาะช่วงเวลากลางวัน พอตอนเย็นก็กลับไปพักกับผัว ตัวนางเองก็ขาดคนคุยด้วย “แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างจ๊ะป้า” อิงดาวสอบถามถึงงานในหน้าที่ “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ตื่นเช้ามาก็ช่วยทำความสะอาดบ้าน ช่วยป้าในครัว รดน้ำต้นไม้ ดูแลความสะอาดทั่วไป ซักรีดแค่นี้แหละ มีวันหยุดให้อาทิตย์ละหนึ่งวัน สลับกันกับป้า” เป็นงานบ้านทั่วไปที่สามารถทำได้ไม่ยาก อิงดาวตั้งใจฟัง พยักหน้ารับเมื่อนางนิ่มอธิบายจบ “ฉันจะตั้งใจทำงานค่ะป้า” “ดีมาก เก็บข้าวของให้เรียบร้อย แล้วมาช่วยป้าในครัว นี่เย็นมากแล้วป้าจะทำกับข้าวให้คุณจิณณ์”  พูดจบนางนิ่มก็ปล่อยให้อิงดาวเก็บข้าวของ ตัวนางเดินมาเตรียมทำอาหารในครัว เมื่อหญิงสาวออกมาก็เข้ามาช่วยอีกฝ่ายทำกับข้าว อาหารมื้อเย็นนั้นถูกยกมาวางไว้ที่ห้องอาหาร “รินน้ำใส่แก้ว ตักข้าวใส่จานเตรียมไว้นะ ป้าจะไปเรียกคุณจิณณ์” นางนิ่มสั่งการ ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเรียกเจ้านาย อิงดาวจัดการตามที่นางนิ่มได้บอก ตั้งตารอคอยชมโฉมหลานชายท่านเจ้าสัวว่าจะหน้าตาเป็นยังไง แต่เหมือนฟ้าแกล้งขณะที่อีกฝ่ายเดินลงมา ท้องไส้กลับปั่นป่วนขึ้นมาจำต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ สวนทางกับอีกฝ่ายที่กำลังเดินมาที่โต๊ะอาหาร เขาเห็นเพียงแผ่นหลังของหญิงสาวที่เพิ่งพ้นประตูไป “นั่นคนงานใหม่ใช่ไหม ทำไมวิ่งออกไปแบบนั้นล่ะ” จิณณ์ขมวดคิ้ว มองตามแผ่นหลังที่วิ่งหายไปในครัว “สงสัยจะปวดท้องค่ะ คุณจิณณ์จะรับอะไรเพิ่มไหมคะ” นางนิ่มเลื่อนเก้าอี้ให้เจ้านายนั่ง แล้วตักซุปใส่ถ้วยแบ่งมาวางไว้ให้ “ไม่เป็นไร ป้าไปพักเถอะ เดี๋ยวฉันกินเสร็จค่อยมาเก็บโต๊ะ” จิณณ์โบกมือให้นางนิ่มไปพัก ตัวเขานั่งรับประทานอาหารเพียงลำพัง เมื่ออิ่มก็กดกริ่งบอกให้แม่บ้านรับรู้ แล้วเดินกลับขึ้นชั้นบน อาบน้ำเปลี่ยนชุดเข้านอนเร็วกว่าปกติ ข้างนอกฝนกำลังตก อากาศเย็นสบายจนชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย เขานั่งเอนหลังกับหมอน เสียงฝนแว่วมาพาให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตของเขากับอรนิภา สายตาคมนั้นอ่อนแสงลงขณะทอดสายตามองดูภาพวาดสีน้ำมันบนผนังห้อง ภาพของเธอผู้เป็นที่รัก 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD