รุ่งเช้าคนที่หมายมาดจะแอบดูผู้ชายต้องผิดหวัง เมื่อจิณณ์ออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด นางนิ่มพาอิงดาวทำความสะอาดบ้าน โดยแบ่งให้หญิงสาวทำชั้นล่าง ตัวนางขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอนของผู้เป็นนาย หลังจากเสร็จก็มาทำอาหารรับประทานกันในครัว
“คุณจิณณ์เขาออกไปไหนแต่เช้าคะป้า”
อิงดาวเอ่ยถามขณะรับประทานอาหารด้วยกัน นางนิ่มยกแก้วน้ำขึ้นดื่มก่อนจะตอบว่า
“วันนี้ครบรอบวันตายของคุณผู้หญิง คุณจิณณ์คงไปหาคุณผู้หญิงที่สุสาน สั่งว่าค่ำๆ จะกลับ มีงานเลี้ยงต่อในเมืองด้วย”
นางนิ่มเล่าให้ฟัง พลางมองหน้าอิงดาว ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ
“คืนนี้เตรียมนอนดึกเลยนะ กว่าคุณจิณณ์จะกลับน่าจะดึกๆ มีงานเลี้ยงทีไรกลับมาเมาแอ๋ตลอด”
“คุณจิณณ์เนี่ย ดื่มจัดมากเลยหรือคะป้า”
อิงดาวซักถามอย่างสนใจ หลานชายเจ้าสัวนอกจากเจ้าอารมณ์แล้ว ยังขี้เมาอีกด้วย
“ก็ไม่ได้เมาตลอดหรอก แต่เวลากินเหล้าทีก็หนัก เมาแอ๋ไปข้าง ยังดีที่ไม่เจ้าชู้ เห็นว่ารักเมียที่ตายไปมาก ท่านเจ้าสัวหาผู้หญิงมาให้กี่คนก็ไม่สนใจ ไล่ตะเพิดออกไปทุกคน”
นางนิ่มแอบนินทาเจ้านายอย่างลืมตัว นางรู้เห็นทุกอย่างเกี่ยวกับจิณณ์นับตั้งแต่มาทำงานที่นี่ เจ้านายของนางไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหน วันๆ เอาแต่ทำงาน น้อยครั้งจะได้เห็นรอยยิ้มของจิณณ์ เพราะเจ้าตัวมักจะตีหน้าขรึมแววตานิ่งสงบราวกับคนเย็นชาไร้หัวใจ จิณณ์เป็นนายจ้างที่ดีให้เงินเดือนและดูสวัสดิการของคนงานอย่างดี ทำให้คนงานรักเจ้านายยอมทำงานแบบถวายหัว ถึงแม้เขาจะเข้มงวดและเจ้าระเบียบไปบ้าง แต่โดยรวมคือเป็นเจ้านายที่ทุกคนเคารพรัก
“คุณจิณณ์ของป้า คงจะกลายเป็นผู้ชายเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าผู้หญิงคนไหนเผลอไปตกหลุมรัก คงโชคร้ายน่าดู” อิงดาวเปรยออกมา
“ถ้าคุณจิณณ์เขารักตอบก็คงจะโชคดีที่สุด เพราะคุณจิณณ์ท่านรักใครรักจริง ภรรยาคนเก่าก็ตายไปสองปีแล้วมั้ง คุณจิณณ์ยังรักไม่ยอมลืม เอารูปมาติดไว้ในห้องนอนดูทุกคืน”
นางนิ่มทำความสะอาดห้องนอนของเจ้านายทุกวัน เห็นภาพเขียนของอรนิภาติดไว้ในห้อง นางนึกชื่นชมความรักของผู้เป็นนายกับภรรยาเสมอ คงยากที่จะมีผู้หญิงคนไหนมาแทนที่อรนิภาได้
“ภรรยาคุณจิณณ์คงจะสวยมากใช่ไหมคะป้า”
“ป้าว่าเรียกว่างามมากกว่า หน้าตาไม่ได้สวยเด่นแบบผู้หญิงสมัยนี้ แต่มองดูสบายตาสบายใจ”
นางนิ่มเอียงคอไปมาพยายามนึกภาพของอรนิภา แล้วก็ส่ายหน้าเมื่อความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา
“กินข้าวเถอะ เดี๋ยวป้าจะพาไปเที่ยวไร่ วันนี้คุณจิณณ์กลับค่ำ มีเวลาพาไปดูนั่นนี่”
อิงดาวพยักหน้ารับ รีบตักข้าวรับประทานจนอิ่ม หลังจากล้างจานแล้ว ก็ตามนางนิ่มไปยังไร่ คนแก่ขี่รถเวสป้าคู่ใจให้หญิงสาวซ้อนท้าย ฝีมือการซิ่งของขาแว้นรุ่นเดอะ ทำเอาอิงดาวต้องกอดเอวกลมๆ นั้นไว้แน่น
“โอ๊ยป้า ซิ่งแบบลืมเบรกหรือเปล่าคะ หัวใจฉันหล่นไปที่ตามตุ่มหมดแล้ว”
เมื่อลงจากรถได้ คนซ้อนก็ขาสั่นไปหมด คนขี่รถนั่นหัวเราะชอบใจ
“เป็นสาวเป็นนาง กลัวอะไรกับการซ้อนท้ายรถแค่นี้ สมัยป้าสาวๆ ป้าเคยขี่รถขึ้นดอยสุเทพมาแล้ว แค่ขี่ในไรจิ๊บๆ”
คนแก่ไม่แก่ตามอายุ หัวใจยังวัยรุ่นอยู่มาก ด้วยไม่มีลูกผัวมากวนใจ ใช้ชีวิตเต็มเหนี่ยวมาตั้งแต่ยังสาว จนตอนนี้อายุย่างเข้าเลขห้าก็ยังคึกไม่หาย
“ขากลับฉันขอขี่เองได้ไหมคะ กลัวจะหัวใจวายตายก่อน”
อิงดาวปาดเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้า สีหน้ายังหวาดเสียวไม่หาย ป้านิ่มไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนชื่อสักนิด
“มาทางนี้ ป้าจะพาไปดูไร่ให้ทั่วๆ”
นางนิ่มคว้าข้อมืออิงดาว พาเดินไปสำรวจ ไร่ธารดาวปลูกผักออแกนิก มีแปลงผักหลากหลายชนิดปลูกด้วยระบบน้ำวน ไม่ใช้ดิน มีโรงเรือนโดยเฉพาะ และยังปลูกกล้วยไม้ส่งออกด้วย ด้านหลังจิณณ์ยังเลี้ยงม้า มีคอกม้าสำหรับพ่อพันธุ์แม่พันธ์ชั้นดี อิงดาวพอเห็นม้าก็ตาโตด้วยความชอบ
“มีม้าด้วยเหรอคะป้า ฉันอยากขี่ม้า”
อิงดาวเหมือนเด็กเห็นของเล่นถูกใจ รีบวิ่งไปเกาะไม้กั้นคอก ยื่นมือให้เจ้าม้าสีดำตัวใหญ่ในคอก ลักษณะของมันดูงดงามมาก ขนดำขลับมันวาว แผงคอถูกแปรงจนขนพลิ้วยาว
“เจ้าสายฟ้าตัวนี้มันพยศมาก มีเพียงคุณจิณณ์คนเดียวที่ขี่มันได้ ออกมาห่างๆ หน่อยเดี๋ยวมันจะงับเอา”
คนดูแลม้า รีบกันหญิงสาวออกห่าง เกรงจะได้รับอันตรายจากอารมณ์ฉุนเฉียวของเจ้าม้าหนุ่ม มันไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ ถ้าไม่ระวังจะโดนงับได้
“มันพยศมากเลยหรือคะลุง แล้วตัวนู้นล่ะคะ”
อิงดาวชี้ไปยังม้าตัวสีขาวที่อยู่อีกฟากของคอก มันดูตัวเล็กกว่าและท่าทางเชื่อง
“นั่นเจ้าสายลมเป็นตัวเมีย คุณจิณณ์สั่งมาจากเมืองนอก ตัวนี้เชื่องมาก คุณจิณณ์จะให้เจ้าสายฟ้าทับ แต่เจ้าสายลมมันไม่ยอมสักที ดูเหมือนมันจะกลัวเจ้าสายฟ้า พาไปทับทีไรไม่เคยสำเร็จ”
คนดูแลม้าเล่าประวัติของเจ้าม้าขาวแสนสวยให้ฟัง อิงดาวเดินไปหายื่นมือให้เจ้าม้าขาว มันดมมือเธอและยอมให้เธอลูบแผงคอ
“น่ารักจังเลย ฉันอยากขี่มัน”
อิงดาวส่งสายตาขอร้องคนดูแล แต่อีกฝ่ายส่ายหน้า
“ม้าของเจ้านาย เราไม่มีสิทธิ์ไปขี่เล่น เกิดม้าท่านเป็นอะไรไป คงไม่มีปัญญาไปชดใช้ แค่ดูก็พอแล้วนังหนู”
“ดูแต่ตาก็พอแล้วหนูอิง ถ้าอยากขี่ ไปขี่นังแต๋วดีกว่า” นางนิ่มเอ่ยขึ้น
“นังแต๋วคือตัวอะไรคะป้า” อิงดาวนิ่วหน้าสงสัย
“ก็รถมอไซค์ป้าไงล่ะ มันชื่อนังแต๋ว ป้าอนุญาตให้เอาไปขี่เล่นได้ ถ้าน้ำมันหมดช่วยเติมน้ำมันก็พอ ฮ่าฮ่า ฮ่า”
นางนิ่มหัวเราะชอบใจกับใบหน้าเซ็งจัดของอิงดาว รู้สึกเอ็นดูหญิงสาวคนนี้ขึ้นมา
“ยังมีที่ไหนให้หนูไปดูอีกไหมคะป้า”
อิงดาวหมดอารมณ์ชมม้า เดินออกมาจากคอกม้าด้วยท่าทางเซ็งสุดขีด อยากขี่ม้าใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้ หากอยู่ที่บ้านของเธอ อิงดาวจะขี่ม้าไปทั่วไม่จำเป็นต้องเกรงใจใครแบบนี้
“เดี๋ยวป้าจะพาไปดูน้ำตกที่หลังไร่ เมื่อวานฝนตก วันนี้น้ำคงเยอะ”
นางนิ่มทำหน้าที่ไกด์จำเป็น พาอิงดาวขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังด้านหลังของไร่ จอดรถไว้ตรงทางเข้าแล้วเดินเท้าเข้าไปสิบกว่านาที ก็พบกับน้ำตกขนาดเล็ก
“เป็นไง สวยใช่ไหม เสียดายไม่ได้เอาผ้าถุงมาเปลี่ยน ไม่อย่างนั้นป้าจะชวนเล่นน้ำ”
“ไม่ต้องมีผ้าถุงก็เล่นได้”
อิงดาวนึกสนุก ลากแขนคนกว่าลงไปเล่นน้ำจนเปียกปอนทั้งคู่ กว่าจะสมใจก็หนาวสั่นจนปากเกือบเขียว ถึงได้พากันกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า รอเวลาเจ้านายกลับมาจากข้างนอก