ยอมให้ยั่วเอง [ทิชชู่++]

1714 Words
พูดเสร็จมันก็แทบจะปีนขึ้นมาบนตัวผม ขาข้างหนึ่งเกี่ยวเอว ขาอีกข้างพาดเกยอยู่ตรงโคนขา สะโพกสั่นระริกเปิดอ้าอย่างเชิญชวน ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มองท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือของไอ้ไนท์ใจเต้นโครมคราม ประเคนมาขนาดนี้แล้วจะให้เสียเปล่าได้ยังไง ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง จ่อแก่นกายที่พร้อมพรั่งทั้งขนาดและอุณหภูมิเข้ากับช่องทางเล็กแคบ ถึงจะผ่านการบุกเบิกมาแล้วด้วยสามนิ้วแต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้ราบรื่น การบุกทะลวงในช่องทางที่ผิดธรรมชาติเป็นไปอย่างลำบากแต่ก็ไม่ได้ยากเย็นเกินความสามารถ ผมดุนดันส่วนปลายเข้าไปได้สำเร็จ ไอ้ไนท์สูดลมหายใจเฮือก หน้าท้องหดเกร็ง ซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับลำคอผมอย่างอยู่ไม่สุข ส่งเสียงหวามไหวสะท้านทรวงเมื่อผมค่อยๆ ส่งสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างของมัน ทีละนิดทีละน้อยจนถึงกลางลำ ข้างในมันหดรัดแน่น บีบอัดความแข็งขึงของผมจนปวดหนึบ ความอุ่นชื้นเพียงน้อยนิดไม่ได้ช่วยอะไร ผมกระซิบบอกให้มันผ่อนคลาย มันส่งเสียงอืออาแยกแยะไม่ออกว่าทุกข์หรือสุขมากกว่ากันแต่ผมรู้สึกได้ว่ามีแววตำหนิแฝงมากับสุ้มเสียงระลอกนั้น ถ้อยคำกระท่อนกระแท่นดังเครือออกมาในที่สุด “เจ... เจล ใช้เจล... อึก ตะวันอ่า... อื้อ~” ผมได้ยินแล้วแต่ก็ทนความร้อนลวกที่แทบละลายครึ่งท่อนต่อไปไม่ไหว ครูดไถแก่นกายเข้าออกอย่างดึงดันเอาแต่ใจ ยิ่งทำยิ่งถลำแหวกโพรงเนื้อแน่นลึกมากขึ้น ถูกล่วงล้ำหลายครั้งช่องทางภายในก็ขยายสอดรับขนาดของผม ผมรั้งต้นขาทั้งสองข้างของไอ้ไนท์ขึ้นมาคาบเอว จัดท่าทางครู่หนึ่งก็ขยับช่วงล่างช้าๆ ค่อยๆ ทำให้ร่างกายของมันปรับตัวตามจังหวะ ความรู้สึกบ้าคลั่งจากส่วนเชื่อมประสานลุกลามไปทั่วทั้งร่าง ผิวกายร้อนจัดถูกเคลือบด้วยชั้นเหงื่อบางเบา ร่างของคนด้านล่างขยับไปตามการควบคุมของผม เดี๋ยวถี่กระชั้น เดี๋ยวเชื่องช้า ลมหายใจสั่นสะท้านปนเปไปกับเสียงครวญครางหวานทุ้มยิ่งได้ยินยิ่งเร้าอารมณ์ ผมกอดก่ายร่างสูงโปร่งของไอ้ไนท์อย่างเมามัน จับพลิกขึ้นพลิกลงอยู่หลายรอบ กดใส่ผนังบ้าง ดึงมาขอบเตียงบ้าง จำไม่ได้ว่าปลดปล่อยไปกี่ครั้ง กระทั่งหมดแรงผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ เสียงโทรศัพท์ดังอยู่หลายรอบ ผมขมวดคิ้วภวังค์กึ่งหลับกึ่งตื่น คิดว่ากำลังฝันได้ยินเสียงคนโทรมา แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็คร้านจะลุกขึ้นไปดูปล่อยให้มันเงียบไปเอง กระทั่งคนในอ้อมแขนไหวตัว ผมฝืนลืมตาขึ้นอย่างไม่เต็มใจ ความเป็นจริงที่ผมปิดหูปิดตาไม่ยอมมองก่อนหน้านี้เล่นงานผมทันที ทั้งที่รู้ว่าจะเผชิญกับความรู้สึกแบบไหนหลังจากทำเรื่องนั้นลงไป แต่ผมก็ยัง... ผมก็ยัง... เฮ้อ! ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าตัวเองดี ผมอยากเอามือขึ้นกุมขมับไม่ก็เอาหัวโขลกกำแพงลงโทษตัวเองเจ็บๆ สักทีสองทีแต่การเคลื่อนไหวของไอ้ไนท์ดึงความสนใจผมไปซะก่อน มันลุกนั่งมองหาที่มาของเสียง ไฟในห้องสว่างเหมือนตอนแรกที่เข้ามาแต่รู้สึกได้ว่าเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงแล้ว สายตาผมตกอยู่ที่ลาดไหล่ขาวเนียนมีรอยช้ำประปรายของไอ้ไนท์ ความรู้สึกผิดปนละอายก่อกุมใจ นอกจากไหล่แล้วบนตัวไอ้ไนท์ยังเต็มไปด้วยรอยที่ผมทำเอาไว้ ยิ่งมองยิ่งกระดากใจ ไอ้ไนท์ขยับลงจากเตียง เดินตัวเปล่าไปทางที่มาของเสียง ผมกะพริบตามองไปทางอื่นทันที ก่อนหน้าทำเรื่องไร้ยางอายไปขนาดนั้นแล้วแต่ตอนนี้กลับอายที่จะมองร่างเปลือยของมันตรงๆ ขณะที่ผมต่อสู้กับความรู้สึกซับซ้อน เสียงโทรศัพท์ก็เงียบลง เป็นไอ้ไนท์ที่ตัดสายทิ้ง มันเดินกลับมาที่เตียงพร้อมโทรศัพท์ในมือ ระหว่างทางก็ก้มลงหยิบเสื้อผ้าผมติดมาด้วย ไอ้ไนท์ยื่นเสื้อผ้ามาตรงหน้าผมที่กำลังวางสีหน้าท่าทางไม่ถูก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่แฝงความเย้ายวนอยู่หลายส่วนปรากฏขึ้นบนใบหน้า “จะกลับเลยหรือเปล่า” ไอ้ไนท์หย่อนก้นเปล่าเปลือยลงข้างเตียง เอียงคอมองผมอย่างรอคอยคำตอบ “กี่โมงแล้ว” ผมฉวยเสื้อผ้ามาจากมือของมัน ชักสีหน้าเคร่งขรึม “ตีสอง” “....” ผมนิ่งเงียบ “ค้างก็ได้นะ พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ” เสียงทุ้มหวานดังข้างหู หัวใจผมกระตุกวูบ หันมองอย่างเพิ่งรู้สึกตัว เมื่อกี้มันยังนั่งที่ริมเตียงอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงขึ้นมาอยู่บนตัวผมได้ล่ะ “มึง... มึงจะทำอะไร” น่าอนาถ เสียงผมสั่นโดยไม่รู้ตัว ผมหดคอถอยหลังชิดหัวเตียง มองตอบสายตาลึกล้ำที่จ้องมองมาของไอ้ไนท์ จิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ถึงผมจะมีความรู้สึกต่อต้านมือกลับตกอยู่ข้างลำตัวไม่ได้ผลักมันออก “ทำที่มึงอยากทำ” มันเอ่ยตอบหลังจากจ้องมองเรียวปากผมสักพักก็กดจูบลงมาขบเม้มอย่างติดอกติดใจ ผมนิ่งค้าง เลือกไม่ได้ว่าควรตอบสนองยังไง ตอนนี้สติผมค่อนข้างแจ่มชัดไม่ได้เผลอไผลพร่าเลือนอย่างก่อนหน้านี้ ทว่าพอถูกจู่โจมไม่หยุด ความคิดอยากต่อต้านก็ลอยหายไปไม่เหลือเค้า มือยกขึ้นจากที่คิดจะผลักเปลี่ยนเป็นโอบรั้งบั้นท้ายกลึงแน่นเข้าหา ตอบรับจูบที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นการล่อลวงด้วยความดุดันป่าเถื่อนเป็นเท่าตัว ท่อนล่างของไอ้ไนท์เกยทับอยู่บนเอวผมซึ่งมีผ้าห่มคลุมอยู่แต่ก็ไม่อาจปิดบังความต้องการผุดผาดด้านใต้ผืนผ้าได้ ผมลากนิ้วไปตามแผ่นหลังเปล่าเปลือยของมัน ริมฝีปากประกบจูบแลกลมหายใจกันไม่ห่าง ถึงขนาดได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกตักดังสะท้อนอยู่ในหัว “อึก... เป็นอะไรชอบกัด” ใบหน้าคมคายเบือนหนี หัวคิ้วเรียวย่น ท่ามกลางความรู้สึกเร่าร้อนมีแววหงุดหงิดแฝงอยู่ กลิ่นคาวจางๆ และรสชาติเค็มเฝื่อนอบอวลอยู่ในปาก ผมไม่สนใจท่าทางคิดเล็กคิดน้อย ตามติดริมฝีปากบวมช้ำอย่างยังไม่หนำใจ บางทีที่ผมไม่ผลักไสมันอย่างเด็ดขาดเพื่อรักษามโนธรรมในใจ คงเป็นเพราะผมรู้ดีว่าไม่สามารถใช้ความป่าเถื่อนรุนแรงนี้หาความสุขได้จากร่างกายของผู้หญิง “โอ๊ย...” ไอ้ไนท์ร้องเมื่อถูกฉกที่เดิม มันถึงขั้นเอามือขึ้นมาปิดปากผมพร้อมกับถลึงตาลูกโตใส่ราวข่มขู่ ผมจ้องตอบสายตามันอย่างไม่สะทกสะท้าน จับข้อมือมันออกจากปาก เตือนความจำมันสักหน่อย “มึงให้กูทำอย่างที่อยากทำ ลืมแล้วเหรอ” เมื่อโดนทวง ไอ้ไนท์นิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาคมกริบเผยแววเหนื่อยใจแต่ในแวบสั้นๆ ก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นชื่นชมระคนล้อเลียน รอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้น รอยกัดบนริมฝีปากยิ่งเด่นชัด เลือดซิบขึ้นมาตามรอยแยก “มึงนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ทำกูระบมไปทั้งตัว” เสียงพูดมีความออดอ้อนเจือน่าสงสารแต่กลับไม่รู้สึกว่ามันเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลย ตรงข้ามกลับเห็นชัดว่ามันสมัครใจตกเป็นรอง แต่ต่อให้เลือดลมสูบฉีดจนไม่อาจควบคุม ผมกลับไม่สามารถเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับคำพูดประชดประชันของมันได้ “มึงหาเรื่องเจ็บตัวเอง จะโทษใคร” ผมถากถางกลับไปก็ไม่อยากรังแกริมฝีปากมันอีก เลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซ้ลำคอขาวๆ ของมันแทน “อือ กูยั่วมึงเอง” คำว่ายั่วจากน้ำเสียงแหบทุ้มฟังแล้วสะท้านใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งละอายทั้งรู้สึกถูกลบหลู่ ในสถานการณ์เดียวกันถ้าคนพูดเป็นผู้หญิงผมคงไม่กระดากอายขนาดนี้ “พูดมาก” ผมสบถพร้อมกับกัดไหล่มันไปหนึ่งทีอย่างมันเขี้ยว “อือ แล้วชอบแบบไหนมากกว่า พูดหรือไม่พูด” “ไม่ชอบ” ผมตอบแทบจะไม่ต้องคิด ไอ้ไนท์หัวเราะเบาๆ กลับมาทันที ต่อล้อต่อเถียงกับผมอย่างชอบใจ “ก่อนหน้านี้กูไม่พูดมึงก็ทำเอาทำเอาจนกูพูดไม่อึก!” ผมเสือกแก่นกายผ่านโพรงเล็กแน่นเข้าไปพรวดเดียว เสียงพูดเจื้อยแจ้วขาดสะบั้น ไอ้ไนท์สั่นสะท้านไปทั้งตัว เงยหน้าสูดหายใจเฮือกฮาก ส่งเสียงซี้ดเข้าไปถึงกระดูก เค้นคำพูดจุกแน่นออกมาอย่างยากลำบาก “มึง... มึง อึก อ๊ะ อย่าเพิ่ง... อึก อ๊า... อื้อ~” ผมไม่รอให้มันเอื้อนเอ่ยก็เคลื่อนไหว สองมือกดเอวบางไม่ให้เคลื่อนหลุดจากตำแหน่ง ตอกกระทั้นท่อนเนื้อแข็งขึงขึ้นลงอย่างไม่ปรานีปราศรัย ไอ้ไนท์อ้าปากพะงาบ ได้แต่กลืนลมลงท้องแล้วสะท้อนสุ้มเสียงที่ฟังไม่ได้ศัพท์ออกมาแทน ไอ้ไนท์ซบหน้าลงบนไหล่ผมขณะที่เรือนร่างของมันกำลังสั่นสะเทือนไปทุกส่วน แขนเรียวยาวโอบกอดผมเอาไว้แน่น ผิวขาวร้อนผ่าวแผดเผาเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาจนมันวาวเหมือนกระเบื้องเคลือบ ผมผลักมันลงใต้ร่างโดยที่ยังฝังความองอาจเอาไว้ภายใน ไม่ใช่แค่ผมตอนที่กำลังพลิกตัวไอ้ไนท์ก็พลันตวัดขายาวเก้งก้างเกี่ยวเอวผมเอาไว้แน่น รักษาท่าทางแนบชิดไม่ให้หลุดออก ผมประโลมจูบตามใบหน้าลำตัวของไอ้ไนท์อย่างไม่รีบร้อน ข้างล่างกลับยิ่งบีบรัดแน่นขึ้น มันเกร็งสะโพกรบเร้าอย่างกระสับกระส่าย เสียงลมหายใจหนักหน่วงกับท่าทางตะเกียกตะกายหาความหฤหรรษ์ของไอ้ไนท์ยากที่ผมจะปฏิเสธ ขยับตามที่มันเรียกร้อง เสียงครวญครางไม่เป็นส่ำดังล้อกับเสียงเนื้อกระแทกเนื้ออย่างหยาบโลนก้องไปทั่วห้อง ลมหายใจเร่าร้อนประสานจังหวะที่ทั้งคลุ้มคลั่งและสุขสม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD