6 หมดค่า

1190 Words
สาวอวบนอนขดตัวในผ้าห่มพร้อมกับร้องไห้สะอื้น เมื่อเรื่องราวทุกอย่างมันรบกวนจนเธอนอนไม่หลับ และเขาก็เพิ่งถอดถอนตัวตนออกไปจากร่างเธอเมื่อตอนเช้ามืดนี่เอง และตอนนี้เขาก็ลุกไปอาบน้ำเพื่อจะไปทำงานโดยที่ยังไม่ได้นอนพักผ่อน ฮือๆๆๆ “ร้องไห้อยู่ได้ น่ารำคาญ เธอไม่ใช่เด็กแล้วนะพยาบาลนิด” ฟักทองเดินตัวเปลือยออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวเช็ดผมที่เปียกออกมาด้วย เขามองสาวอวบร้องไห้สะอื้นขดตัวอยู่บนเตียงแล้วก็อดส่ายหน้ารำคาญไม่ได้ เขาเดินไปหยิบไดร์เป่าผมที่โต๊ะเครื่องแป้งมาเสียบปลั๊กแล้วเป่าผมตัวเองให้แห้งทั้งๆ ที่ยังเปลือยเปล่าอยู่ ชูว์ๆๆ เสียงไดร์เป่าผมทำงานกลบเสียงร้องไห้ของพยาบาลสาว เป่าผมไม่นานผมก็เริ่มหมาดๆ ใกล้แห้งเขาก็ปิดไดร์เป่าผมและถอดปลั๊กออกเก็บไว้ที่เดิมแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัวไปทำงาน โดยไม่สนใจคนที่ยังนอนร้องไห้สะอื้นอยู่บนเตียงตัวเอง เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยพร้อมไปทำงานแล้วเขาก็เอ่ยบอกพยาบาลสาว “ฉันจะไปทำงานแล้ว ถ้าจะกลับก็ปิดไฟ ปิดแอร์ ล็อกห้องให้ฉันด้วยล่ะ” พูดจบก็เดินจากไปทันที พร้อมกับเสียงฝีเท้านั้นหายไปจากการได้ยินพร้อมเสียงประตูห้องพักปิดสนิท “หมอเลว คุณมันเลว ฉันเกลียดคุณผู้อำนวยการ อึก! ฮือๆๆ” เมื่อเหลือตัวคนเดียวก็ยิ่งร้องไห้ดังกว่าเดิม เธอใช้เวลาร้องไห้เกือบชั่วโมง ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ขอบตาบวมช้ำจากการร้องไห้ออกแล้วลุกขึ้นแต่งตัวกลับไปยังคอนโดของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลเท่าไหร่นัก ฟักทองมาทำงานและประชุมผู้บริหาร เมื่อประชุมเสร็จก็สั่งให้เลขาหน้าห้องไปซื้อไข่ลวกมาให้ ถึงแม้จะโดนนักร้องเลขาสาวเอ่ยแซว แต่เขาก็ทำเพียงแค่ยิ้มรับเท่านั้น ก็เขาอ่อนเพลีย เพราะชณินันท์ดูดพลังงานเขาทั้งคืนยันเช้า จนตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้นอน และไม่รู้ป่านนี้เธอยังนอนอยู่ในห้องอีกไหม หรือว่ากลับไปแล้วก็ไม่รู้ เมื่อเคลียร์งานเสร็จก็บ่าย ข้าวเที่ยงก็ทานในห้องทำงาน จัดการงานเสร็จเขาจึงกลับไปนอนพักที่แฟลต เพราะตอนนี้ไม่ไหวแล้ว อีกอย่างไม่มีเคสผ่าตัดด่วนอะไรด้วยวันนี้ เขาจึงรีบเดินสาวเท้าตัวเองไวๆ กลับไปยังห้องพัก พอมาถึงห้องก็ปรากฏว่าไม่มีร่างอวบๆ นอนอยู่บนเตียงแล้ว จะมีก็แต่ถุงยางอนามัยที่เขาใช้กับเธอทิ้งเกลื่อนพื้นที่มีทั้งรั่วและแตก เขาถอดทิ้งแต่ถุงยางอนามัยที่แตก ส่วนที่รั่วเขาไม่รู้ตัวเลย เพราะความมัวเมาในกามมันครอบงำ อีกอย่างเมื่อคืนเขาจัดสาวอวบไปหลายยกเหลือเกินบนเตียงนี้ “สงสัยกลับไปแล้วมั้ง” พึมพำกับตัวเองแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าออกมาแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำให้สบายตัวก่อนจะนอน เพียงเวลาไม่นานก็อาบน้ำเสร็จแล้วออกมาทิ้งตัวล้มลงนอนบนเตียง แต่ให้ตายเถอะ เขานอนไม่หลับ กลิ่นตัวของชณินันท์มันติดเตียง หมอน ผ้าห่มไปหมด และกลิ่นของเธอก็ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องเลยก็ว่าได้ตอนนี้ “ให้ตายสิพยาบาลนิด เธอใช้น้ำหอมอะไร ทำไมถึงหอมจรุงแบบนี้ ฉันอยากได้เธออีกแล้ว” ครางพร่าดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนที่มีกลิ่นกายสาวติดตรึงอยู่ พอลุกขึ้นก็ได้เห็นเลือดที่เปื้อนผ้าปูที่นอน มุมปากหนาก็หยักยิ้มลำพองใจ หล่อนเป็นของเขา “ผู้หญิงบ้า” แล้วเขาก็กระชากดึงผ้าปูเตียงและผ้าห่มออกมาโยนทิ้งกับพื้น ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องไป ตอนนี้นอนไม่หลับแล้ว และวิธีเดียวที่จะดับความปรารถนาได้ตอนนี้คือทำอะไรสักอย่าง เขาจึงเลือกขับรถออกไปข้างนอกเพื่อกลับบ้านไปหาแม่ของเขา ไปหาท่านดีกว่า เพราะไม่ได้เจอท่านมาทั้งอาทิตย์แล้ว ตั้งแต่กลับมาถึงคอนโดของตัวเอง ชณินันท์ก็กินยาแก้ปวดแล้วนอนหลับ จนตอนนี้ขยับตัวตื่นขึ้นมาในตอน 6 โมงเย็น เมื่อเพื่อนพยาบาลโทรมาหา และพอรับสายก็ได้รู้ว่าตอนนี้สายมากแล้ว แต่หล่อนไปทำงานไม่ไหวจึงบอกเพื่อนว่าตนเองป่วย ใช่...เธอป่วย “ขอบคุณนะคะพี่น้อง” หล่อนตอบกลับไปในสายพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเมื่อฝากให้อีกฝ่ายลางานให้ ก่อนจะกดวางสาย เพราะวันนี้ไปไม่ไหวจริงๆ ส่วนใบลาเธอจะไปส่งหลังจากหายป่วย มันกะทันหันจริงๆ พอวางสายจากรุ่นพี่พยาบาลที่โรงพยาบาลก็มีสายเรียกเข้ามาอีก พอเห็นว่าเป็นใคร มุมปากเล็กก็ยิ้มหวานออกมา แม้จะรู้สึกปวดเมื่อยตัวก็รีบกดรับปลายสายทันที “พี่ภีม” “หืม...นิดทำอะไรอยู่ตอนนี้ ทำงานรึเปล่าฮึ” ภีมพลเอ่ยเสียงทุ้มส่งกลับมาในสาย “ไม่ค่ะ วันนี้นิดไม่ได้อยู่เวร” หล่อนบอกแค่นี้ ถ้าบอกว่าไม่สบาย พี่ชายต้องเป็นห่วงมากแน่ “แล้วนี่กินข้าวรึยังน้องพี่” “ยังค่ะ พี่ภีมล่ะคะ” “พี่เรียบร้อยแล้ว แล้วนี่ปีใหม่ก็ไม่กลับบ้าน นิดมีวันหยุดวันไหน” “ประมาณปลายเดือนค่ะพี่ภีม นิดจองตั๋วเครื่องบินแล้ว” “งั้นพี่จะไม่ไปหานิดที่กรุงเทพนะเดือนนี้ รอนิดที่บ้านเราดีกว่า” หนุ่มใต้เอ่ยกลับมา เพราะเดือนนี้น้องสาวไม่ได้กลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ ภีมพลเข้าใจ เพราะน้องสาวคนเดียวรักในวิชาชีพพยาบาลยิ่งกว่าอะไร แม้จะบอกให้ลาออกกลับไปอยู่บ้านด้วยกัน ชณินันท์ก็ไม่ยอม เขาก็ได้แต่ยอมรับ เพราะมันคือสิ่งที่น้องสาวเขารัก “ค่ะ นิดคิดถึงพี่ภีมนะคะ” หล่อนบอกเสียงเบา เพราะตอนนี้น้ำตาของเธอกำลังเริ่มไหลอาบสองแก้ม “พี่ก็คิดถึงนิด งั้นแค่นี้แหละ ไม่กวนนิดแล้ว อย่าลืมกินข้าวล่ะ ห้ามอดข้าว ห้ามลดน้ำหนักล่ะ” เขาบอกน้องสาว “ค่ะ นิดไม่ลดน้ำหนักหรอก มันลดยาก สู้กินเพิ่มน้ำหนักดีกว่าง่ายกว่าเยอะ...คิกๆ” “พี่รักนิดนะ” “นิดก็รักพี่ภีมค่ะ” แล้วก็ยิ้มให้กับโทรศัพท์เมื่อวางสายจากพี่ชายแล้ว เธอก็ล้มตัวลงนอนร้องไห้กับหมอนใบใหญ่เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าวันนี้เธอเองร้องไห้มากี่ครั้งแล้ว รู้แต่ว่ามันจุกมันเจ็บในอกจนไม่รู้จะระบายออกมายังไงเลยได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาปลอบโยนตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD