ใช่ว่าจะเป็นเมียที่ดี nc 35+

1688 Words
“โธ่! แม่ ให้ลูกได้เที่ยวบ้างเถอะ ดีแค่ไหนแล้วที่โนไม่ไปผูกคอตาย” “ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้โน ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย” นางสั่งเสียงแข็ง และเห็นว่าลูกชายชักช้าไม่ทำตาม มือเหี่ยวย่นก็ยกขึ้น เผียะ! “แม่ตบปากลูกเพียงเพราะลูกจะหนีตายเนี่ยนะ แม่เห็นยัยเจ้าสาวนั่นดีกว่าลูกได้ยังไง” มโนยกมือกุมปากตัวเองด้วยความน้อยใจผู้เป็นแม่ “สำหรับแม่ โนคือที่สุดของชีวิต แต่แม่อยากให้ลูกรู้ว่าแม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกแล้ว น้องแสบเป็นผู้หญิงน่ารัก และเราก็รู้จักน้องด้วยนะลูก” เพ็ญศรีเป็นหญิงหม้ายสามีตายจากด้วยโรคมะเร็งตับตั้งแต่มโนอายุได้ 10 ขวบ นางเป็นสาวแกร่งดูแลธุรกิจครอบครัวบริหารต่อจากสามีรอจนลูกชายโตแล้วก็มาช่วยงาน และตอนนี้เพ็ญศรีก็เกษียณงานออกมาอยู่บ้านรอเลี้ยงหลานแล้ว เพราะปีนี้ก็อายุ 59 ปีแล้วด้วย “แล้วแม่เคยคิดไหมครับว่าดีที่สุดของแม่อาจไม่ได้ดีที่สุดสำหรับลูกก็ได้นะครับ แม่ครับ ยกเลิกงาน...” “ไม่ได้หรอกลูก ยังไงลูกก็ต้องแต่งงานกับน้องแสบ” “คนไม่เคยสนิทกันจะมานอนเอากันได้ยังไงครับแม่” “โน! ทำไมลูกพูดน่าเกลียดแบบนี้ลูก ทีลูกยังไปเอากับพวกเร่ขายของสดที่ผ่านมาเป็นร้อยชายหลายสนามรบ ลูกยังเอากับพวกหล่อนได้ไม่เบื่อ แต่นี่หนูแสบ หนูแสบเป็นดั่งผ้าขาวแล้วทำไมลูกต้องรังเกียจน้องด้วย อีกอย่าง ลูกก็เคยเจอน้องเขาแล้ว” นางไม่ชอบเลยที่มโนพูดแบบนี้ ทำไมนะ ลูกชายของนางถึงได้ปากร้ายแบบนี้ “นั่นมันนานมาแล้วนะครับ อีกอย่างผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอคนนั้นจะหน้าตาเป็นยังไง ผมไม่อยากแต่งงานครับ” “ฝันดีนะลูก อีกสองวันก็แต่งงานแล้วไม่ต้องตื่นเต้นจนควบคุมสติตัวเองไม่ได้นะลูกรัก” นางไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอีก เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว “แม่...” “นอนจ้ะลูก แม่กลับนะลูกรัก” นางแทรกก่อนที่มโนจะพูดสุดความ “ฝันดีครับที่รักของลูก” มโนโน้มลงหอมแก้มของแม่ ก่อนจะโอบประคองแม่ไปส่งหน้าประตูห้อง เฮ้อ! ส่งแม่เสร็จก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก วันนี้วุ่นวายปวดหัวทั้งวัน แถมเพื่อน ๆ ของเขาก็ยังไม่เข้าใจเขาอีก ทำไมต้องดีใจและเห็นดีเห็นงามกับแม่ของเขาขนาดนั้นก็ไม่รู้ จริงอยู่รักษ์ ฝันดี เพ้อภพ และลวงร้อย นั้นเป็นเพื่อนรักสมัยพวกเขาเรียนโรงเรียนประจำด้วยกัน เป็นเพราะได้ชีวิตด้วยกัน อยู่ด้วยกันจริงทำให้พวกเขาทั้งห้าคนเป็นเหมือนแขนขาของกันและกัน ธนพลตื่นแต่เช้ามาดักรอลูกสาวคนดีของตน เมื่อคืนวานก็นั่งรอจนถึงเที่ยงคืน จะแต่งงานอีกวันสองวันอยู่แล้วตะปลิงลิงปลิงก็ยังออกไปเที่ยวเล่นแทบทุกวัน ไม่รู้ว่าลูกสาวของเขาคิดอะไรอยู่ตอนนี้ แต่ที่แน่ ๆ วันนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง และตอนนี้เจ้าตัวก็เดินมาโน่นแล้ว “สวัสดีตอนเช้าค่ะพ่อพล” ตะลิงปลิงเดินเข้ามาหาผู้เป็นพ่อที่หนังหน้าตึงอยู่ในห้องนั่งเล่น พร้อมยกมือไหว้สวัสดีเหมือนที่ทำเป็นประจำ “ไงลูก พ่อว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันให้รู้เรื่องสักทีนะหนูแสบ” ธนพลเอ่ยพลางมองหน้าลูกสาวที่เพิ่งหย่อนก้นนั่งโซฟาตรงข้ามกับตน “เรื่องอะไรดีคะพ่อที่เราต้องคุยกัน” หล่อนเอนกายพิงพนักโซฟา พลางเอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมพ์เช้านี้ขึ้นมาอ่านดูข่าว “เรื่องแต่งงานยังไงล่ะลูก ทำไม...” “แสบบอกว่าแต่งก็คือแต่งไงคะพ่อพล แต่ไม่รับปากว่าจะเป็นเมียที่ดีของผู้ชายคนนั้นได้หรอกนะคะ” พูดแทรกคำของผู้เป็นพ่อพร้อมวางหนังสือพิมพ์ในมือลงเหมือนเดิม “เรื่องแต่งงานยังไงล่ะลูก ทำไม...” “แสบบอกว่าแต่งก็คือแต่งไงคะพ่อพล แต่ไม่รับปากว่าจะเป็นเมียที่ดีของผู้ชายคนนั้นได้หรอกนะคะ” พูดแทรกคำของผู้เป็นพ่อพร้อมวางหนังสือพิมพ์ในมือลงเหมือนเดิม “หนูแสบลูก ลูกก็รู้ว่าพ่อรักและเป็นห่วงเราที่สุด พ่ออยากให้ลูกมีผู้ชายดี ๆ ดูแล หากว่าวันใดวันหนึ่งไม่มีพ่อพลคนนี้อยู่ด้วยแล้ว” ธนพลเอ่ยเสียงเศร้า ธนพลเป็นพ่อหม้ายลูกติดภรรยาเสียตั้งแต่คลอดตะลิงปลิงได้ไม่ถึงสิบนาทีแม่ของเธอก็จากเขากับเธอไป และหลังจากนั้นธนพลก็เลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวมาตลอด โดยไม่คิดจะมีภรรยาใหม่มาให้ลูกสาวน้อยใจ เจ้าของห้างทองคู่แท้ทำไมจะไม่รู้ว่าตะลิงปลิงนั้นไม่เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้มากแค่ไหน แต่ทำยังไงได้ ในเมื่อเขาอยากให้ลูกสาวมีผู้ชายดี ๆ อย่างมโนดูแล อีกอย่างเป็นสิ่งที่ภรรยาผู้ลาลับโลกไปขอไว้ก่อนจะสิ้นใจไป ฉะนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ธนพลจะทำเพื่อภรรยาและลูกที่รักได้ หากลูกสาวคนเดียวมีคนที่ดูแลเขาจะได้เบาใจ “พ่อคะ ทำไมพ่อถึงคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะดีกับลูกด้วยคะ อีกอย่างพ่อก็ดูแสบสิคะ จะให้แสบไปเป็นเมียที่ดีของใครไม่ได้หรอกนะคะ แต่ที่แสบยอมแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนแม่ก็เพราะว่าพ่อบอกว่ามันเป็นสิ่งที่แม่ขอร้องก่อนที่แม่จะจากพวกเราไป พ่อก็รู้ว่าผู้หญิงติดเที่ยวอย่างหนูยากที่จะมีผู้ชายมารักและอยากดูแล” หล่อนเอ่ย เพราะมันคือความจริง ผู้ชายที่ไหนอยากได้คู่ชีวิตแบบหล่อนกันละ ไหนจะแม่ของลูกอีก ผู้ชายทุกคนอยากมีแม่ของลูกน่ารักอ่อนหวานทั้งนั้น แต่สำหรับ ตะลิงปลิง เชิดศักดิ์ หรือ แสบ วัย 24 ปี คนนี้มันไม่ใช่ แม้ว่ารูปร่างภายนอกของหล่อนจะดีเป็นที่ดึงดูดพวกผู้ชายก็ตาม แต่พอได้มารู้จักและสัมผัสถึงตัวตนของเธอแล้วทุกคนก็ขยาดกลัว เพราะแบบนี้ไง หล่อนถึงไม่มีใครกล้ามาจีบ และไม่มีแฟนทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่น้อยหน้าใคร “หนูแสบของพ่อน่ารัก พ่อเชื่อว่าโนจะชอบและรักลูกสาวพ่อในสักวัน พี่เขาเป็นคนดี” “ผู้ชายที่พ่อบอกน่ะเหรอคะดี ดีแตกน่ะสิไม่ว่า ปากร้ายยิ่งกว่าผู้หญิง ผู้ชายแบบนั้นให้ตายยังไงลูกก็ไม่มีวันรักลงได้หรอกค่ะ” ตะลิงปลิงเอ่ยพลางนึกถึงเรื่องราวสมัยเด็ก ๆ ตอนที่พ่อพาไปทานข้าวบ้านของคุณป้าเพ็ญศรี จำได้ดีไม่มีวันลืมเลยแหละว่าครั้งแรกที่เจอกันผู้ชายคนนั้นทำอะไรกับตนบ้าง “นั่นมันตอนหนูแสบของพ่อเด็ก ตอนนี้หนูแสบของพ่อสวยปานนางฟ้าขนาดนี้มีหรือพี่เขาจะรังเกียจเรา” “ไม่เอา แสบไม่พูดเรื่องนี้แล้ว พูดไปงานแต่งงานก็ไม่มีวันถูกยกเลิกอยู่ดี” “หนูแสบไม่พูดให้พ่อห่วงสิลูก” “ก็มันจริงไม่ใช่เหรอคะ แสบไม่อยากเอาอิสระทั้งหมดของแสบมาผูกติดกับผู้ชายปากร้ายคนนั้น แต่คุณพ่อกับคุณป้าก็บังคับแสบ” “ไม่พูดแล้วหนูแสบ ตอนนี้ป้าพิมพ์คงตั้งโต๊ะอาหารเสร็จแล้วแหละ” เอ่ยพลางก้มมองดูนาฬิกาข้อมือของตน แล้วลุกขึ้นยืนยื่นมือส่งให้ลูกสาวจับลุกขึ้น แล้วสองพ่อลูกก็เดินไปยังห้องรับประทานอาหารด้วยกันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ซึ่งแตกต่างจากตอนพูดคุยกันก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง วันแต่งงานเป็นวันที่หนุ่มสาวใฝ่ฝัน แต่งานแต่งงานใหญ่โตที่ถูกจัดขึ้น ณ โรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุงในตอนนี้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวไม่ได้มีความยินดีปรีดากับงานวิวาห์ครั้งนี้เลย ฝ่ายเจ้าบ่าวที่กำลังยืนรอรับแขกหน้างานระหว่างรอเจ้าสาวแต่งตัวเสร็จก็ได้แต่หน้าบึ้งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนบรรดาเพื่อนเจ้าบ่าวต้องเดินมายืนเป็นเพื่อน “ยิ้มหน่อยไอ้เพื่อน” รักษ์เดินมาทำมือดึงแก้มทั้งสองของเพื่อนให้ยิ้ม “ไม่เว้ย! มึงก็ดูแม่กูสิ หน้าบานอย่างกับดอกทานตะวัน แม่ไม่เคยคิดถึงจิตใจกูเลยว่ะ” มโนปัดมือของเพื่อนรักออกจากหน้าของตน พลางส่งสายตาไปทางผู้เป็นแม่ที่กำลังพูดคุยสนุกสนานกับแขกที่มาร่วมงาน “เจ้าสาวมึงจะมาตอนไหนวะ รูปพรีเวดดิ้งก็ไม่ถ่าย กูละอยากเห็นหน้าจะแย่แล้วเว้ย แล้วคนอะไรกล้าตั้งชื่อลูกว่าตะลิงปลิง” ฝันดีพูดบ้าง เมื่อตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลาแล้ว แต่เจ้าสาวก็ยังไม่เข้ามาในงานเลย “พอแม่เขาพอใจจะตั้งไหมไอ้ฝัน อีกอย่าง เรื่องรูปกูไม่ถ่ายเองแหละ ถ่ายทำไม แต่งงานก็ใช่ว่าจะสำคัญที่รูปถ่าย อีกอย่าง กูไม่อยากเจอหน้ายัยเด็กนั้นด้วย” มโนกัดฟันแน่นเมื่อพูดถึงเจ้าสาวของตน แล้วภาพในอดีตก็ย้อนเข้ามาในหัว "เฮ้ย! เจ้าสาวมึงมาแล้วไอ้โน แม่งสวยชิบหายเลยไอ้เชี่ย” ลวงร้อยร้องบอกเพื่อน ๆ ของตนให้มองไปยังข้างหน้างานด้วยความตื่นเต้น สายตาของห้าหนุ่มจดจ้องไปยังเจ้าสาวชุดสีขาวยาวลากพื้น ชุดที่เปิดเผยไหล่เล็กนวลเนียนกำลังเดินหน้าตึงไม่ต่างจากเจ้าบ่าวมาทางพวกเขายืน “อะแฮ่ม! นั่นเมียกูเว้ย!" มโนบอกเพื่อนรักเพื่อเรียกสติ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD