“แสดงว่าพวกคุณไม่ได้คบกัน แบบนี้จะแต่งทำไมครับ หมดยุคสมัยคลุมถุงชนที่ผู้ใหญ่หาให้แล้ว คุณทิพปฏิเสธก็ได้นี่ครับ คุณเป็นคนน่ารัก ยังไงก็มีคนมารักมาชอบแน่นอน ถ้าลองเปิดใจมอง” ชายหนุ่มรีบบอก
“คุณปลัดไม่รู้อะไร พี่ธีร์นี่รักแรกรักเดียวของยายทิพเลยนะคะ พอผู้ใหญ่จัดให้ก็แทบจะต้องฉลอง แล้วจะเอาใจที่ไหนมาปฏิเสธ ไม่มีค้าา”
เอมอรพูดออกมา เพราะเธอรู้ว่าชายหนุ่มกำลังหมายถึงอะไร ไม่ใช่ว่าเธอจะขัดขวางหรอกนะ แต่เธอกำลังช่วยให้เขาทำใจไว้แต่เนิ่น ๆ ต่างหาก
เฮ้ย... เพื่อนเธอ คนที่มารักมาชอบก็ไม่รัก แต่ไปรักคนที่เขาไม่รักมันจะมีความสุขได้ยังไง
“หมายความว่า...เอ่อ..คุณทิพเต็มใจ??”
“จริง ๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกนะคะ ทิพเคยรู้จักกับพี่ธีร์มาตั้งแต่สมัยเด็ก เคยสนิทสนมกันมาก่อน” ทิพลดาชี้แจง
“ผมคงต้องแสดงความยินดีด้วย...จริง ๆ ใช่ไหม” ชายหนุ่มกล่าวออกมาเบา ๆ ก้มหน้าน้อย ๆ นัยน์ตาเศร้า นี่เขากำลังอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นเลยหรือ
ธีรกรนั่งทำงานที่ร้าน “มหาจักร” ทุกวันเป็นปกติ ไม่ได้เตรียมการอะไร แค่เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว เข้าร่วมพิธีก็พอ ทุกอย่างอุทุมพรเป็นธุระจัดการให้หมด ตั้งแต่ชุดงานแต่ง งานเลี้ยง เขาแทบไม่ต้องทำอะไร
ถ้าไม่ห้ามไว้อุทุมพรคงเชิญคนทั้งจังหวัดมาร่วมงาน ดีที่เขากับทิพลดาขอจัดงานเล็ก ๆ ก็พอ กว่าจะคุยกันลงตัวเล่นเอาเหนื่อยใจไปเหมือนกัน
งานแต่งที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่รักกัน จะจัดอย่างไรก็ไม่มีผลต่อชีวิตเขา ธีรกรจึงไม่มีความสนใจ ยังคงทำงานทุกวัน ให้ความสำคัญกับธุรกิจ มากกว่างานแต่งงานที่แต่งเพราะความจำเป็น ต้องรับผิดชอบเจ้าสาว
“ฮัลโล ว่าไง” ขณะที่คุยโทรศัพท์ สายตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
‘นายครับ เด็กเสิร์ฟที่สงสัยว่าจะมีส่วนร่วมวางยานาย หายตัวไป เบาะแสที่ได้ มีคนเจอตัวครั้งล่าสุดวันที่นายมาที่ร้าน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบตัวอีกเลย’
“ดูกล้องวงจรปิดที่ร้านยัง”
‘ดูแล้วครับกล้องเสียใช้ไม่ได้ซักตัว ช่วงเวลาตั้งแต่สองทุ่มภาพขาดหายไปจอดำหมด’
“อื้อ..ลองส่งคนไปตามดูเสี่ยเดชด้วย ถึงวันนั้นไม่เจอตัว แต่มันอาจจะอยู่เบื้องหลัง”
‘ครับนาย’
ธีรกรกำลังคิดว่าคนวางยาเขา ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว นี่มันอะไรกัน
ทีแรกคิดว่าน่าจะเป็นแผนการที่ต้องการกลั่นแกล้งเขาแต่เหมือนจะไม่ใช่ ดูร้ายมากกว่านั้น คิดว่าถ้าจับตัวมันได้จะจัดการไอ้คนที่มันกล้าเล่นงานเขาลับหลังให้หนัก
แต่พอฟังที่ลูกน้องรายงาน กลับเหมือนมีอะไรมากกว่านั้นแฝงอยู่ มันต้องการอะไรกันแน่ ทำไมถึงต้องสั่งเก็บเด็กเสิร์ฟ จากที่คิดว่าเล็กๆ อาจจะไม่ใช่ แล้วฝีมือใครกัน แม้ในใจค่อนข้างเชื่อว่าเสี่ยเดชมีส่วน แต่ก็ไม่มีหลักฐานให้สาวไปถึงตัวมัน
ในที่สุดก็ถึงวันงานมงคลสมรสของทิพลดากับธีรกร ซึ่งจัดงานที่บ้านของเจ้าบ่าว อุทุมพรรับเป็นเจ้าภาพจัดงานเองทั้งหมด และจัดการตกแต่งห้องหอที่บ้านของเจ้าบ่าว ลูกชายเธอเป็นแบบนี้จะปล่อยให้ไปสร้างความลำบากใจให้กับฝ่ายหญิงได้อย่างไร
แขกเหรื่อที่มาร่วมงานส่วนใหญ่เป็นญาติของฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาว และเพื่อนเท่านั้น จึงมีจำนวน ไม่มาก
เนื่องจากเป็นความต้องการของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ไม่อยากจัดงานใหญ่โต แต่บรรยากาศก็ดูคึกครื้น เพื่อนๆที่มาร่วมงานรอชมคู่บ่าวสาว
โดยเฉพาะแม่ของคู่บ่าวสาว อุทุมพร และกาญจนา ที่นั่งคุยกันอยู่ตรงหน้าบริเวณพิธีสู่ขวัญ มีสีหน้ายิ้มแย้มตลอด
ต่างจากเจ้าบ่าวที่นั่งอยู่ด้านหน้าพานบายศรีสู่ขวัญ ด้วยสีหน้านิ่ง เงียบขรึม ไม่คุยกับใคร จนใกล้เวลาฤกษ์สู่ขวัญ กาญจนาจึงเรียกให้ฟ้าใส น้องสาวของเจ้าสาวที่ลาเรียนมาร่วมงานแต่งของพี่สาว ไปตามเจ้าสาวออกมา
ในห้องแต่งตัว วันนี้ ทิพลดา ปานแก้ว เจ้าสาววัย 25 ปี ที่แต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองเสื้อแขนกระบอกพาดทับด้วยสไบไหมแพรวา สวมคู่กับผ้าถุงย้อมคราม ประกอบกับช่างแต่งหน้ามืออาชีพ จึงทำให้วันนี้เจ้าสาวที่ปกติแค่สวยธรรมดาไม่โดดเด่น กลายเป็นสวยสง่า ละมุนอ่อนหวาน ออร่าเปล่งประกาย สมกับราศีเจ้าสาว
ร่างบอบบางที่ความสูง 160 เซนติเมตร ดูเพรียวสมส่วน ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอแต่งชุดพื้นเมืองได้สวยสง่า เอมอรยังอดแซวเพื่อนไม่ได้ว่า ถ้าเจ้าบ่าวเห็นจะต้องตะลึงแน่นอน
“ว้าว... พี่สาวใครเนี่ยสวยเริ่ดมาก” เสียงอุทานของฟ้าใสที่ก้าวเข้ามาในห้อง เพื่อจะมาตามพี่สาวให้เตรียมตัวออกไปได้แล้ว
“สวยที่สุดเลยจ้า ดีใจด้วยนะ ขอให้พี่มีความสุขมาก ๆ ๆ” ฟ้าใสจ้องมองพี่สาวด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะยกแขนโอบเอวเอ่ยแสดงความยินดีออกมา
“ทิพแต่งตัวแบบนี้แล้วดูสวยเนอะ งานนี้เจ้าบ่าวต้องมีมองตาค้างกันบ้างแหละ” เอมอรเข้าคู่กับ ฟ้าใสอวยเพื่อนสาวอีกรอบ
“ของมันแน่อยู่แล้วพี่อร พี่พร้อมแล้วใช่ไหม แม่ให้มาตามบอกว่าใกล้ฤกษ์แล้ว ไปกันเถอะ” ฟ้าใสสำรวจพี่สาวอีกรอบหนึ่งจนแน่ใจว่าสวยพร้อมแล้ว จึงจับแขนทิพลดา ก้าวเดินออกมาจากห้องด้วยกัน โดยมีเอมอรเดินปิดท้าย
เจ้าสาวเข้ามานั่งพับเพียบลงข้างเจ้าบ่าว แต่ไม่เห็นเขาสนใจจะมองมาที่เธออย่างที่เอมอรพูด
‘เฮ้ยยย...ไม่มีซักนิด สายตาชื่นชอบจากเจ้าบ่าว’
ทิพลดาแอบชำเลืองตามองไปทางเจ้าบ่าวของเธอ ถึงเขาจะไม่มองเธอ แต่เธอจะมอง เพราะวันนี้ธีรกรหล่อมาก สง่างาม จนทำให้เธอรู้สึกใจเต้นนิด ๆ นี่คือเรื่องจริงใช่ไหม ที่เรากำลังแต่งงานกัน
ธีรกรที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ได้มอง แต่มองเพียงแวบเดียวจนสังเกตไม่ทัน เจ้าสาวของเขา วันนี้เธอสวยขึ้นจนแทบไม่เชื่อสายตา