บทที่ 16 สาวน้อย

1102 Words
“อ๊า...พี่ธีร์..อูย....” เสียงครางที่ดังจากปากหญิงสาว สร้างความชอบใจให้กับเขา จึงออกแรงโหมกระแทกกระทั้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเพิ่มแรง เร่งความเร็วตามที่ใจต้องการ ร่างกำยำกระแทกอยู่บนตัวหญิงสาวอย่างเป็นจังหวะจะโคน สร้างความเสียวซ่านให้กับคนทั้งคู่ จนเธอเผลอตัว จิกเล็บลงไปบนต้นแขนแกร่ง เพื่อระบายความกระสันเสียว ที่วิ่งปลาบวนไปทั่วร่าง พลางร้องครวญครางออกมาเสียงดัง “อูยยยย...อ๊ะ...อ๊ะ....ทิพย์ไม่ไหวแล้ว...พี่ธีร์” สองแขนกอดกวัดโอบไปที่แผ่นหลังของเขา ตอบสนองด้วยความเต็มใจ แล้วแต่เขาจะนำทาง      ยิ่งเขาแรงมาเท่าไหร่ ร่างกายเธอก็ตอบสนองเขามากเท่านั้น ทิพลดาแทบหมดเรี่ยวแรงหายใจ เมื่อความกระสันรัญจวนโจมตี จนตัวเกร็งบ่งบอกว่าเธอกำลังพุ่งทะยานไปยังแดนหฤหรรษ์ แล้วเสียงครางด้วยความสุขสมของพวกเขา ก็ดังก้องไปทั่วทั้งห้องหอ ทิพลดาลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้า ขยับตัวด้วยความปวดเมื่อย พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา สถานะของเธอได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ตอนนี้เป็นภรรยาของธีรกรเรียบร้อยโดยสมบูรณ์    ทั้งทางพฤตินัยและนิตินัย เธอหันหน้าไปมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ กลับพบแต่ความว่างเปล่า เห็นเพียงรอยบุ๋มของหมอนที่แสดงว่าเคยมีคนนอนมาก่อน เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้เธอหยุดความคิด และเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตูห้องน้ำ ธีรกรเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน แต่งตัวเงียบ ๆ จนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเขาก็หันมาทางเธอ “ตั้งแต่วันนี้ฉันจะย้ายไปอยู่ห้องข้าง ๆ ช่วงสายจะให้เด็กมาขนของย้ายเอาไปไว้ที่ห้องโน้นให้หมด ส่วนเธอก็ใช้ห้องนี้ไป อยู่ใครอยู่มัน ไม่ก้าวก่ายกัน อยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าจะไปไหนก็บอกด้วย หรือจะบอกเด็กไว้ก็ได้” พูดเสร็จก็เดินออกไปเลย ไม่แม้แต่จะให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ “พี่ธีร์ ” ทิพลดาน้อยใจจนน้ำตาซึม หลังคืนวิวาห์ คือการฮันนีมูนไม่ใช่เหรอ ไฉนหลังวันแต่งงานของเธอกลับกลายเป็นเจ้าบ่าวขอแยกห้องนอน ถึงเธอจะรู้ว่าธีรกรไม่รู้สึกอะไรกับเธอ แต่การที่เขาขอแยกห้องทันที มันก็ทำให้เจ็บปวดใจจนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ แต่ก็ทำไม่ได้กลัวคนอื่นจะได้ยิน ทิพลดาขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไร้เรี่ยวแรง ไม่อยากจะทำอะไรเลย แต่ก็ต้องฝืนตัวไว้ เพราะเธอจะนอนในสภาพแบบนี้ไม่ได้ นั่งนิ่งอยู่นาน ทำให้ย้อนคิดถึงช่วงเวลาเก่า ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธีรกรขึ้นมา เมื่อก่อนทิพลดาอยู่กับแม่และน้องสาว 3 คนแม่ลูก ส่วนพ่อเธอเสียตั้งแต่น้องยังเล็ก ส่วนเธอยังเรียน ม.ต้น จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำของเธอมาจนถึงทุกวันนี้ มันผ่านมานานมาก ตอนนั้นเธอกำลังเดินกลับบ้านในซอย มีกลุ่มวัยรุ่นกินเหล้าอยู่ในศาลา ภายในบ้านหลังหนึ่ง และตะโกนโห่แซว เมื่อเธอเดินผ่าน และหนึ่งในนั้นก็เดินตามเธอมา เธอตกใจกลัวจนเหงื่อผุดขึ้นมาตามหน้าผาก เหงื่อไหลซึมเต็มแผ่นหลัง จะตัดสินใจวิ่งก็คงไม่รอด จึงพยายามเดินให้เร็วเหมือนไม่ได้ยิน ไม่สนใจเสียงที่เรียกตามมา จนกระทั่งมันเดินมาทันและคว้าแขน เธอไว้ “จะรีบไปไหนจ้ะสาวน้อย” เธอยิ่งตกใจหน้าซีด ใจหวิว จะเป็นลมเพราะความกลัว “อย่ามายุ่งกับหนูนะ” เธอพยายามบิดแขนให้หลุดจากการ เกาะกุม “อย่ากลัวไปเลยน่า พี่ไม่ทำอะไรน้องหรอก แค่อยากทำความรู้จักกันไว้ เผื่อคราวหน้าเป็นแฟนพี่จะได้สนิทสนมกัน” มันแสยะยิ้มให้ ส่งสายตามหื่นใส่เธอ ยิ่งทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ พยายามแกะมือของมันออก เธอร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจนเสียงแหบ แต่ไม่มีใครโผล่มาช่วย พอมองไปรอบ ๆ ตัว มีเพียงบ้านหลังนี้ที่ตั้งอยู่กลางซอย ไม่มีผู้คนเลยนอกจากวัยรุ่นกลุ่มนั้น เด็กวัยรุ่นคนนั้นลากเธอไปตามแนวถนน เพื่อจะพาเข้าไปด้านหลังศาลาที่กลุ่มเพื่อนของมันกำลังส่งเสียงเชียร์ด้วยความสนุกสนาน เธอทั้งเตะทั้งถีบเพื่อช่วยเหลือตัวเองปากก็ตะโกนให้คนช่วยเหลือ ความหวาดกลัวเข้ามาครอบงำในใจจนน้ำตาไหล ทั้งขอร้องให้มันปล่อยเธอไป มันก็ยิ่งสนุกหันมากอด และยกเธอขึ้นจนเท้าไม่แตะพื้น พาเข้าไปในแนวต้นไม้ ก่อนที่เธอจะตกใจตาย ก็มีเสียงรถเครื่องและเสียงหนึ่งตะโกนเข้ามา  “จะทำอะไรน้องสาวฉัน” เธอรีบหันไปขอความช่วยเหลือทันที “ช่วยหนูด้วยค่ะ” เพราะมันไม่ทันระวังตัว จึงทำให้เธอออกแรงสะบัดทั้งถีบทั้งเตะจนหลุด แล้ววิ่งเข้าไปหาหนุ่มน้อยวัยรุ่นผมเกรียนที่นั่งอยู่บนรถเครื่อง ด้วยสภาพผมฟูเสื้อผ้ายับย่นและน้ำตานองหน้า “ไม่มีอะไร เห็นน้องเค้าเดินคนเดียวเป็นห่วง ก็ว่าจะชวนเข้ามานั่งเล่นในบ้าน ในเมื่อมีพี่ชายมารับพี่ก็ไม่ยุ่งแล้ว” มันมองมาที่เขาแล้วก็พูดออกมา ก่อนจะเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งกินเหล้าอยู่ริมถนนต่อ โชคดีที่พวกมันแค่ต้องการความสนุกสนาน ไม่ใช่ผู้ร้ายโดยสายเลือด ไม่แน่ว่าวันนั้นเธอกับธีรกรอาจจะต้อง   เจ็บตัว “ขึ้นมาเดี๋ยวพี่ไปส่ง บอกทางด้วยละกัน” แล้วเขาก็ขับรถเครื่องพาเธอไปส่งบ้าน หลังจากวันนั้นพอรู้ว่าคนที่ช่วยเหลือเธอคือ ลูกชายของป้าอุทุมพรที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของแม่   ชื่อ ธีรกร หรือ พี่ธีร์ เธอจึงสนิทสนมกับเขาด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ ทั้งสำนึกในบุญคุณที่เขาช่วยเหลือ เห็นเขาเป็นฮีโร่ของเธอเสมอมา จนวันหนึ่ง ขณะที่เธอรอธีรกรกลับบ้านพร้อมกันหลังเลิกเรียน ก็เห็นเขาเดินมากับเพื่อนหญิงในห้องเรียนเดียวกัน เธอเกิดความรู้สึกหวง ไม่อยากให้ธีรกรสนใจใคร หรือสาว ๆ คนใด มากกว่าเธอที่เป็นน้องคนสนิท จึงรีบเดินไปรอที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซด์ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD