บทที่ 3

773 Words
"ตัวอ่อนผีเสื้อคืออะไรวะ?" "อะไรนะครับนาย" ตุนท์ที่ยืนรออยู่ด้านนอกเห็นว่าทรงอัปสรออกไปแล้วเลยรีบเปิดประตูเข้ามาเผื่อเจ้านายมีเรื่องจะสั่งงาน "มึงรู้จักตัวอ่อนผีเสื้อไหมวะ" "ตัวอ่อนผีเสื้อ..หนอนน้อยน่ะหรือครับ" "หนอนน้อย?!" "มีอะไรครับเจ้านาย.. อย่าบอกนะครับว่า?" ตุนท์พูดพร้อมกับมองต่ำลงไปดูช่วงกลางลำตัวของผู้เป็นเจ้านาย "มึงมองอะไร!" "หึหึ" มองแล้วก็อดขำไม่ได้ แค่นี้ตุนท์ก็พอจะเดาได้แล้วว่าใครเป็นคนพูดประโยคนั้น "แต่ผมว่ามันน่ารักดีนะครับ" "น่ารักพ่อมึงสิ!" ร้ายกาจนะผู้หญิงคนนี้ กล้าดียังไงมาว่าของฉันเป็นหนอนผีเสื้อ อีกห้องหนึ่งในเวลาเดียวกันนั้น.. "เป็นไงบ้างคะคุณหนู" ข้าวปุ้นรออยู่ในห้องก็อดเป็นห่วงคุณหนูของเธอไม่ได้ "ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเรียกคุณหนูแล้ว ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กในบ้านแล้วนะ" "ก็มันชินปากนี่คะ" ข้าวปุ้นเป็นเด็กทำงานในบ้าน ครอบครัวของทรงอัปสรส่งเรียนจนจบปริญญา ก่อนหน้าข้าวปุ้นก็เข้ามาทำงานช่วยสกายตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เรียนไปด้วยเลยไม่ได้ทำงานเต็มที่ แต่พอทรงอัปสรเข้ามาทำงานที่นี่แบบเต็มตัวเธอเลยมาเป็นผู้ช่วยให้ "เราจะช่วยอลิสยังไงดี" "ไม่ได้เรื่องหรือคะ" "เธอก็รู้อยู่ว่าไอ้มาเฟียนั่นมันนิสัยยังไง" "ถ้าพิมพ์อยู่คงจะช่วยเราได้นะคะ" "พิมพ์งั้นเหรอ เธอมีเบอร์โทรของพิมพ์ไหม" "มีค่ะ" ทรงอัปสรเลยให้ข้าวปุ้นต่อสายถึงพิมพ์เพราะอยากจะปรึกษาหารือเรื่องนี้ เห็นว่าเป็นเบอร์ของข้าวปุ้นโทรมาพิมพ์เลยรีบรับสาย แล้วข้าวปุ้นก็แจ้งบอกว่าคุณอัปสรอยากคุยด้วย >>{"พิมพ์ว่างไหม"} {"ว่างค่ะคุณอัปสรมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"} >>{"ฉันอยากปรึกษาพิมพ์เรื่องของอลิสหน่อย"} ใช้เวลาคุยกันอยู่ไม่นานทรงอัปสรก็วางสายไป เธอคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ขอความช่วยเหลือจากพิมพ์ ผู้หญิงคนนี้หัวไวมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพิมพ์อยากให้อลิสเป็นคนใช้ความสามารถของตัวเองเอา เพราะไม่มีใครช่วยใครได้ตลอดเวลา ทรงอัปสรก็เลยเรียกอลิสเข้ามาหาในห้องทำงาน "เธอคิดว่าจะทำได้ไหม" ก่อนที่จะไปยื่นข้อตกลงนี้กับฝ่ายตรงข้าม อัปสรต้องคุยกับเจ้าตัวให้รู้เรื่องก่อน เพราะมันต้องใช้ทักษะส่วนตัวของบุคคลนั้น เหมือนที่พิมพ์เคยทำให้เห็นมาแล้ว "อลิสจะพยายามค่ะ" สิ่งที่ทรงอัปสรเรียกอลิสเข้ามาคุย คือจะให้โอกาสอลิสได้ใช้ฝีมือของตัวเองชิงตำแหน่งนี้กับคนใหม่ที่นเรศวรหามา หลังจากที่คุยกันเข้าใจแล้ว ทรงอัปสรก็จะไปพูดเรื่องนี้กับคนที่เธอไม่แม้แต่อยากจะเห็นหน้า หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา ถือสะว่าหาพรรคพวกไว้เพิ่มแล้วกัน เพราะถ้าช่วยอลิสได้นั่นหมายถึงคว้าใจของอลิสมาอยู่ฝั่งของเธอได้ด้วย "ฉันขอคุยกับคุณนเรศหน่อย" "เจ้านายกลับไปแล้วครับ" ภาณุก็คือคนของนเรศวรที่ให้ อยู่ประจำที่นี่ เวลาที่เขาไม่อยู่ก็ได้ภาณุนี่แหละดูงานแทน "กลับไปแล้ว?" ทรงอัปสรยกนาฬิกาข้อมือราคาแพงของเธอขึ้นมาดูเวลา เหลืออีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าคลับจะปิดทำไมเขาต้องรีบกลับ หรือว่าจะตามไปหาเด็กคนนั้น เอาไงดีเธอต้องคุยกับเขาคืนนี้ให้จบด้วยสิ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะเจอหน้าเขาตอนไหน กลัวว่าคนของเขาจะเข้ามารับตำแหน่งก่อนน่ะสิ "ช่วยต่อสายให้ฉันหน่อยได้ไหม" เธอไม่มีเบอร์โทรของหุ้นส่วนหรอก แต่ก่อนตอนซื้อขายหุ้นกันมีแค่เขาที่ติดต่อมาหาทนายของเธอ "ได้ครับ" ภาณุล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วก็โทรเข้าเบอร์ของตุนท์ เพราะตุนท์เป็นผู้ติดตามเจ้านายไป หลังจากที่คุยอยู่ครู่หนึ่งคนของเขาก็วางสายไปแล้วหันมารายงาน "เจ้านายบอกว่าถ้าคุณมีธุระก็เก็บไว้คุยกันพรุ่งนี้ครับ" "ฉันจะคุยวันนี้" "ถ้าคุณอยากคุยวันนี้ เจ้านายสั่งไว้ว่า.." "ว่าอะไรก็รีบพูดมาสิ" "ให้คุณตามไปที่คอนโดครับ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD