บทที่ 8 กลับร่างเดิม

1368 Words
บทที่ 8 กลับร่างเดิม หลังจากแสงแรกแห่งรุ่งอรุณสาดส่องผ่านหน้าต่างกระท่อม เหยียนหลีที่เพิ่งตื่นขึ้นมาก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย นางก้มลงมองมือของตนเองที่โปร่งแสงราวกับจะเลือนหายไป นางรู้สึกถึงกระแสพลังที่หมุนวนอยู่ในกาย แต่กลับไม่อาจควบคุมมันได้ “นี่มันอะไรกัน?” นางพึมพำกับตัวเอง ดวงตาสั่นไหวด้วยความสับสน เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียว ร่างกายของนางเริ่มส่องประกายแสงสีทองที่เจิดจ้า ก่อนที่แสงนั้นจะค่อย ๆ ห่อหุ้มตัวนางจนหมด นางรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปในห้วงมิติแห่งความเงียบงัน เมื่อแสงสีทองจางหาย ร่างมนุษย์ของเหยียนหลีหายไป เหลือเพียงดอกบัวสีทองดอกหนึ่งที่วางสงบนิ่งอยู่บนโต๊ะน้ำชา กลีบดอกบัวเปล่งประกายราวกับแสงจันทร์ นางพยายามจะพูดออกมา แต่ไม่สามารถเปล่งเสียงใดได้ “นี่ข้ากลับเป็นดอกบัวอีกแล้วหรือ?” เหยียนหลีคิดในใจ นางรู้สึกถึงความอ่อนล้าและสับสน “เหตุใดข้าถึงกลายเป็นแบบนี้? หรือว่าพลังในตัวข้ายังไม่สมบูรณ์?” ในเวลาเดียวกันนั้น หลงอวี่ที่ออกไปเก็บผลไม้ตั้งแต่เช้าตรู่เดินกลับมาที่กระท่อมพร้อมตะกร้าที่เต็มไปด้วยผลท้อสีชมพูสดและสมุนไพรป่าหลายชนิด ใบหน้าของเขายังเปื้อนรอยยิ้มขี้เล่นเหมือนเคย “เหยียนหลี! เจ้าอยู่ไหน?” เสียงเรียกของเขาดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เร่งร้อน แต่กระท่อมกลับเงียบสงัดไร้เสียงตอบรับ หลงอวี่กวาดตามองไปรอบห้อง ก่อนจะสังเกตเห็นแสงสีทองอ่อน ๆ เปล่งประกายจากโต๊ะน้ำชา เขาวางตะกร้าลงและเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ทันใดนั้นเขาก็เห็นดอกบัวสีทองดอกหนึ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หลงอวี่ชะงักไปชั่วครู่ เขามองดอกบัวด้วยความแปลกใจ “นี่มัน...อะไรกัน? ดอกบัวนี่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เขายื่นมือออกไปสัมผัส แต่กลับรู้สึกได้ถึงกระแสพลังอันอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากดอกบัว “หรือว่านี่จะเกี่ยวข้องกับเหยียนหลี?” เขาพึมพำ "สงสัยนางจะไปปลดทุกข์ข้างนอก..." หลงอวี่บ่นพึมพำ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ พลางมองดอกบัวอย่างพินิจพิเคราะห์ "แล้วดอกบัวนี่...นางคงเตรียมไว้ให้ข้าตุ๋น ดูจากพลังวิญญาณที่แผ่ออกมา น่าจะเป็นพันปีแน่นอน" ในมิติลี้ลับที่เชื่อมโยงกับดอกบัวนั้น เหยียนหลีวิญญาณแห่งดอกบัวนิรันดร์กำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นผลึกใส นางเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดของหลงอวี่ "เจ้าทึ่ม! เจ้าเป็นใครก็ไม่รู้ ข้าจะเตรียมไว้ให้เจ้าทำไมกัน!" นางคิดในใจ พลางกัดฟันแน่น แม้จะรู้สึกโมโหแค่ไหน เหยียนหลีก็ไม่กล้าสื่อสารออกไปตรง ๆ นางหวาดกลัวว่า หากชายแปลกหน้าผู้นี้ล่วงรู้ว่าร่างจริงของนางคือดอกบัวนิรันดร์ เขาอาจจะนำพลังของนางไปปรุงยาอย่างที่พูดจริง ๆ เหยียนหลีถอนหายใจยาว เงยหน้าขึ้นมองแสงสีทองที่กระจายอยู่รอบมิติของนาง พลังเหล่านี้คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงการดำรงอยู่ของเธอ นางพยายามรวบรวมสมาธิและทดลองกลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ก็ไร้ผล "ทำไมกัน?" นางครุ่นคิด ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จนในที่สุดก็สังเกตได้ว่า ช่วงเวลาที่เธอกลายร่างเป็นมนุษย์นั้นตรงกับ 6 ชั่วยามพอดี "หรือว่า...เมื่อครบ 6 ชั่วยาม ข้าจะคืนร่างเดิม? ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็แปลว่าร่างมนุษย์ของข้ายังไม่สมบูรณ์!" นางพึมพำกับตัวเอง สีหน้าของนางหม่นหมอง เพียงชั่วพริบตา หลงอวี่เดินหายเข้าไปในครัว เสียงฝีเท้าของเขาดังก้องเบา ๆ ท่ามกลางความเงียบงันในกระท่อม เหยียนหลีในมิติดอกบัวสังเกตทุกการกระทำของเขาผ่านสัญญาณพลังวิญญาณ นางรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง "เขาจะทำอะไรน่ะ?" นางคิดในใจ พยายามสงบสติอารมณ์ เวลาผ่านไปไม่นาน หลงอวี่เดินกลับมาพร้อมกับไฟที่สว่างไสวในครัว และถือหม้อเหล็กขนาดใหญ่ติดมือมาด้วย จากนั้นเขาวางหม้อบนเตาไฟอย่างระมัดระวัง พร้อมหยิบดอกบัวสีทองบนโต๊ะน้ำชา “นั่น! เจ้า...เจ้า!” เหยียนหลีร้องโวยวายอยู่ภายในมิติดอกบัว เสียงของเธอไม่มีใครได้ยิน หลงอวี่ไม่พูดสิ่งใด เขาเพียงเพ่งมองดอกบัวในมืออย่างจริงจัง ก่อนเดินกลับไปที่ครัวอีกครั้ง คราวนี้เขาหยิบสมุนไพรจำนวนมากมาวางเรียงอยู่ข้างหม้อ "อย่าบอกนะว่าเขาจะตุ๋นข้าจริงๆ กับสมุนไพรพวกนั้น!" เหยียนหลีเริ่มรู้สึกกังวลหนัก นางไม่เคยเผชิญสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนตั้งแต่ถือกำเนิดเป็นดอกบัวนิรันดร์ ในครัว หลงอวี่กำลังเตรียมน้ำในหม้อให้เดือด ควันที่ลอยกรุ่นเพิ่มบรรยากาศความเคร่งขรึม ราวกับจะบอกลางไม่ดีแก่ เหยียนหลี “เจ้าหยุดนะ!” เสียงใสดังขึ้นในหัวของหลงอวี่ เขาชะงักเล็กน้อย มือที่กำลังถือดอกบัวเตรียมหย่อนลงในหม้อชะงักไปชั่วขณะ “ใคร?” หลงอวี่เอ่ยถามเสียงเรียบ “ข้าเอง! ข้าเหยียนหลี!” เสียงนั้นดังอีกครั้ง คราวนี้มีน้ำเสียงตื่นตระหนก หลงอวี่หรี่ตาลง ก่อนจะวางดอกบัวไว้บนโต๊ะช้า ๆ เขาเดินห่างออกไปเล็กน้อยพร้อมยืนกอดอก “เหยียนหลี? แล้วเจ้าอยู่ที่ไหน?” “ข้าอยู่ในดอกบัว!” คำตอบนั้นทำให้หลงอวี่หัวเราะออกมาเบา ๆ “ในดอกบัว? เจ้าเป็นวิญญาณหรือปีศาจกันแน่?” “ข้าไม่ใช่ปีศาจ! ข้าคือวิญญาณบริสุทธิ์แห่งดอกบัว นิรันดร์!” เหยียนหลีโต้ตอบด้วยความโกรธ หลงอวี่ก้มลงมองดอกบัวสีทองบนโต๊ะด้วยสายตาสงสัย “ถ้าเช่นนั้น เจ้าอธิบายมาเสียสิ เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ในมือข้า และทำไมถึงมีพลังวิญญาณมหาศาลเช่นนี้?” “ข้าถูกล่ามไว้ในดอกบัวนี้ ข้าไม่ได้อยากอยู่ในมือของเจ้าเสียหน่อย!” “ล่ามไว้?” เขาเลิกคิ้ว “หมายความว่าอย่างไร?” เหยียนหลีถอนหายใจยาว นางลังเลอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจเล่า “ข้าเป็นดอกบัวนิรันดร์ที่กำเนิดจากพลังสวรรค์ เดิมทีเป็นเพียงสิ่งที่ไม่มีตัวตน แต่หลายวันก่อนข้าได้เซียนผู้หนึ่งพาข้ามาที่นี่และมอบตบะให้ข้า ข้าถึงมีตัวตนขึ้นมา” หลงอวี่ฟังอย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “แล้วเหตุใดเจ้าถึงกลายมาเป็นดอกบัว?” “ข้าไม่อาจกลายร่างเป็นมนุษย์อยู่ได้สมบูรณ์ อยู่ได้เพียง 6 ชั่วยาม ก่อนจะกลับสู่ร่างเดิม” คำพูดของเหยียนหลีทำให้หลงอวี่พยักหน้าช้า ๆ เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตาไฟ ก่อนจะถามต่อ “แล้วเจ้าอยากให้ข้าทำอย่างไร?” “เจ้าห้ามนำข้าไปตุ๋น! หลงอวี่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ้าคือดอกบัวนิรันดร์ที่หลายวันก่อน สำนักเซียนต่าง ๆ แย่งชิงกันใช่หรือไม่?” น้ำเสียงของเขาทรงพลังพอที่จะทำให้บรรยากาศภายในห้องอึดอัดขึ้น เหยียนหลีที่ซ่อนตัวอยู่ในมิติดอกบัวสะดุ้งเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าชายผู้นี้จะรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ นางตัดสินใจตอบกลับด้วยเสียงที่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม “เจ้ารู้ได้อย่างไร? หรือว่าเจ้าเป็นหนึ่งในผู้คนที่ต้องการแย่งชิงพลังของข้า?” หลงอวี่ส่ายหน้าเล็กน้อย เขาเดินไปหยิบสมุนไพรบนชั้นข้างผนังแล้วหันมาพูดต่อ “ข้าเปล่า สำนักของข้าไม่ได้เข้าร่วมการแย่งชิงในครั้งนั้น เพียงแต่เหตุการณ์วันนั้นทำให้สัตว์อสูรแตกตื่นจนข้าพลัดหลงมาที่นี่ สำนักของหน้าบำเพ็ญตบะเพื่อจะขึ้นไปดินแดนสวรรค์เพียงเท่านั้น” “สวรรค์งั้นหรือ?” เหยียนหลีครุ่นคิด นึกไปถึงเฟิงหลงเหยียนที่กลับดินแดนสวรรค์ เช่นนั้นนางก็มีหนทางไปหาชายคนที่พึงพอใจแล้ว

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD