~ Intro ~
@The University A
รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำขวับคันหรูแล่นเข้ามาในมหาวิทยาลัยกึ่งรัฐกึ่งเอกชนแห่งหนึ่ง ใบหน้าคมสันเจ้ารถคันหรูมีสีหน้าไม่สบอารมณ์มากนักที่ต้องมาเรียนในวันเสาร์แบบนี้ ขณะที่ข้างกายของเขามีหญิงสาวหน้าตาน่ารักนั่งอยู่ด้วย
-วิลล์-
“พี่วิลล์คะ แล้วถ้าฝันไม่มาเรียนต้องถูกไทร์ไปเลยเหรอคะ”
“แล้วคิดว่าไงล่ะ” ผมเอ่ยปากตอบเพียงฝันด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ผมไม่ได้หงุดหงิดเธอ แต่ผมกำลังหงุดหงิดวิชาที่ผมกำลังจะไปเรียนต่างหาก
“ไม่รู้สิคะ ฝันไม่เคยเรียนแบบนี้มาก่อน” ผมพยักหน้ารับเบา ๆ อย่างเข้าใจ เธอคนนี้ชื่อเพียงฝันเพิ่งย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันกับผม จะว่ายังไงดีล่ะ คือ พ่อผมมีน้องชายฝาแฝดใช่ไหม แล้วคุณอาเนี่ยก็มีเพื่อน ซึ่งเพื่อนของคุณอาก็เป็นมาเฟียทำธุรกิจสีเทา และมีเพียงฝันเป็นลูกสาวคนเดียว เดิมทีเธอใช้ชีวิตอยู่อิตาลี ใช้ชีวิตแบบปิด เรียนก็เรียนที่บ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหนด้วยความที่มีพ่อที่มีศัตรูเยอะ ทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีข้อจำกัด
แต่ประเด็นมันอยู่ตรงนี้
แม่ของเธอเป็นน้องสาวของคุณอาที่เป็นเมียอาผม เธอก็เลยถูกนำมาฝากไว้ให้คุณอาดูแลที่ประเทศไทยเพราะเพียงฝันอยากใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา จริง ๆ เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม คนที่รับหน้าที่ดูแลเธอคือน้องชายของผมที่เป็นลูกคุณอา แต่ไอ้นั่นมันทะเลาะกับพ่อมันหนีไปไหนก็ไม่รู้ เธอก็เลยได้มาอยู่ที่นี่กับผม
“ขอบคุณที่พาฝันมาเรียนด้วยนะคะ” ผมแค่พาเธอมาดูมหา’ ลัย เพราะเธอจะต้องมาเรียนที่นี่วันจันทร์นี้เป็นวันแรก ขณะที่ผมเพิ่งขึ้นปีสาม แต่ที่ได้มาเรียนวันเสาร์ เพราะวิชาเสรีที่ผมลงเรียนมันไม่ได้ปิดเทอมน่ะสิ และมันก็เรียนวันเสาร์ด้วย
“พี่วิลล์คะ อิทธ์ไปไหนคะ”
“ไม่รู้”
“ฝันไม่เห็นอิทธ์หลายวันแล้วตั้งแต่วันนั้น”
“ปล่อยมันไปเถอะ”
“ฝันคิดถึงอิทธ์ค่ะ” ผมถอนหายใจออกมาที่ได้ยินอย่างนั้น ฝันคงอึดอัดที่ต้องมาอยู่กับผม เธอไม่ได้สนิทกับผมแต่ไหนแต่ไร แค่อยู่บ้านเดียวกัน บ้านผมใหญ่มากบางวันไม่ได้เดินสวนกันด้วยซ้ำ อีกอย่างผมก็ไม่ได้พักอยู่บ้านด้วย
“แล้วพี่วิลล์จะกลับบ้านอีกทีวันไหนคะ”
“กลับแค่เสาร์อาทิตย์”
“เหรอคะ ฝันอยู่บ้านคนเดียวแล้วอึดอัดค่ะ ฝันอยากย้ายไปอยู่คอนโด”
“เดี๋ยวพี่พูดให้”
“จริงเหรอคะ เย่!” ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ ให้กับท่าทางเหมือนเด็กของเธอ เพียงฝันเหมือนเด็กที่เพิ่งได้ออกจากกรงทอง เป็นเพราะเธอต้องย้ายมาอยู่ต่างถิ่น และต้องอยู่บ้านคนเดียวกับคุณพ่อ และคุณอา เธอก็คงอึดอัด จริง ๆ ผมมีน้องสาวด้วยอายุเท่าเพียงฝันแหละ แต่เธอเรียนต่างประเทศกับน้องชายผมอีกคนหนึ่งที่เป็นฝาแฝดกับไอ้อิทธ์ที่ผมเพิ่งพูดถึงไป
“ถึงแล้วเหรอคะ” ผมพยักหน้าให้เธอพร้อมกับหมุนพวกมาลัยรถเข้าไปในคณะวิทยาศาสตร์ ผมไม่ได้เรียนวิทยาศาสตร์หรอก ผมเรียนแพทย์นานาชาติเหมือนเพียงฝัน แต่ที่มาคณะวิทย์ฯ เพราะผมลงวิชาสิ่งแวดล้อมที่จะสอนโดยคณะนี้
“อยากไปไหน ทำอะไรก็บอกพี่”
“โอเคค่ะ” เพียงฝันพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนที่ผมจะเปิดประตูรถลงไป และเดินขึ้นตึกคณะเพื่อเข้าห้องเรียน ตอนนี้ผมหวังว่าผมจะได้เจอใครบางคน
ใครบางคนที่ผมไม่เคยเจอเลยตั้งแต่ผมมาเรียนวิชาเสรีนี้ และที่สำคัญ ใครบางคนที่ผมว่าแม่งได้เป็นคู่ทำโปรเจคกับผม
ผมได้ยินเพื่อนร่วมคลาสบอกว่าเธอเป็นดารา ก็เลยไม่ค่อยว่างมาเรียน ผมว่ามันเป็นข้ออ้างว่ะ
แอ๊ดดด~
ผมเปิดประตูเข้าห้องเรียนพร้อมกับเพียงฝันที่เดินตามหลังเข้ามา ผมค่อนข้างชินกับสายตาของใครหลายคนที่มองมาที่ผม ผมหล่อมั้ง มีคนพูดอย่างนั้น อีกอย่างผมเคยมีวงดนตรีด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว หลายคนก็เลยค่อนข้างที่จะรู้จักผม
“พี่วิลล์คะ คนมองเราเยอะมาก” เพียงฟันเธอคงไม่ชินที่มีคนมองเยอะขนาดนี้ และคลาสนี้ก็มีเป็นร้อยคน ไม่แปลกที่เธอจะตระหนก
“ทำตัวปกติ ไม่ต้องกังวล” ผมพาเธอเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลังห้องมันเป็นที่นั่งประจำของผม และก็มีเก้าอี้ว่างอีกหนึ่งตัวที่อยู่ติดตัวที่ผมนั่งประจำ เพราะมันเป็นที่ของคู่ทำงานที่ผมพูดถึงไง เธอคงไม่มาเรียนเหมือนเคย
“นั่งนี่แหละ ดูการเรียนไป คณะเราก็มีเรียนแบบนี้ด้วย ถ้าเธอชอบสิ่งแวดล้อมเธอก็ลงวิชานี้เลย”
“โอเคค่ะ” ผมนั่งลงเรียนพร้อมกับฟังอาจารย์ที่เริ่มเลคเชอร์เมื่อถึงเวลา ก่อนที่อาจารย์จะถามหาความคืบหน้าของโปรเจค
มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เป็นดาราแล้วมันไม่ใช่คนเหรอวะถึงมีอภิสิทธิ์ไม่มาเรียนก็ได้ ผมเคยเอาเรื่องนี้ไปถามคุณลุงที่เป็นอาจารย์มหาลัยนี้เหมือนกัน คุณลุงบอกว่าการมีชื่อดาราเรียนที่นี่ก็เหมือนกับเป็นการโปรโมทมหาลัยไปในตัว แต่ผมแค่บังเอิญซวยมากที่ได้ทำงานคู่กับเธอคนนั้น
พิ้งค์พราว...คือชื่อของเธอ
แค่ชื่อก็ดูตอแหลแล้ว
“นักศึกษาครับ อาจารย์ต้องการดราฟงานอาทิตย์หน้านะครับ” ผมอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมากุมขมับ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อทำอะไรบางอย่าง
ผมควรไปตามยัยนั่นให้มาทำโปรเจคด้วยกัน ถามว่าผมทำเองคนเดียวได้ไหม มันก็ได้ แต่เรื่องอะไรที่ผมจะทำคนเดียวแล้วใส่ชื่อยัยนั่นให้เธอผ่านไปด้วย
ผมค้นชื่อของเธอลงในในอินเทอร์เน็ต เพื่อจะได้หาทางติดต่อแล้วจะได้ส่งข้อความไปหาเธอได้ แต่สิ่งที่ผมเห็นมันกลับทำให้ผมยกยิ้มขึ้น
Gf Condo…
“หึ” ผมขำออกมาเมื่อเห็นอย่างนั้น ก่อนที่เพียงฝันจะมองผมด้วยสายตางงงวยว่าผมขำอะไร
“เดี๋ยวพี่จะไปส่งฝันที่บ้านพักนะ จะพาไปหาเพื่อนพี่ด้วย”
“แล้วทำไมต้องฝากอ่ะคะ”
“เพราะพี่มีที่ต้องไป”
“อ้อ ก็ได้ค่ะ” ผมคิดว่าผมควรไปหายัยดาราคนนั้นแทน เพราะดูจากโซเชี่ยลที่มีคนติดตามเยอะแบบนี้เธอคงไม่สนใจข้อความผม อีกอย่างผมอยากไปด่าเธอด้วยที่ไม่มาเรียนมันทำให้ผมต้องทำงานคนเดียว และต้องคอยตอบคำถามอาจารย์คนเดียวแบบนี้
-Vill end-
เวลาต่อมา...
@The Great Feature Condo.
ตื๊ดด ตื๊ดดด ตื๊ดดดดดดด~
เสียงกดออดคอนโดหรูดังขึ้นถี่ ๆ ด้วยแรงอารมณ์ของคนที่อยู่นอกห้อง ก่อนที่หญิงสาวเจ้าของห้องจะสะดุ้งตื่นจากการหลับใหลในวันหยุด
“หมดกันวันหยุดของฉัน!!” เธอแว้ดเสียงขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะดีดตัวลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนไปดูจอมอนิเตอร์ เพื่อดูว่าใครมากดออดหน้าห้องเธอ แต่แล้วเธอก็ต้องชะงัก พร้อมกับคิ้วเรียวสวยที่ยกขึ้นด้วยความสงสัย
“ใครกัน ทำไมถึงขึ้นมาที่นี่ได้” หญิงสาวมึนงงที่เห็นใครก็ไม่รู้มายืนทำหน้าบึ้งที่หน้าห้องของเธอ และที่สำคัญคอนโดหลายสิบหล้านแบบนี้ทำไมถึงปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ขึ้นมาในชั้นส่วนตัวของเธอแบบนี้
“คลั่งรักแน่ ๆ” เธอพึมพำออกมาเมื่อคิดว่าเขาคนนี้คงเป็นแฟนคลับที่คลั่งรักเธอ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นตบแรง ๆ ที่ออดของเธออีกครั้ง มันทำให้หญิงสาวตกใจเพิ่มมากขึ้น
“หน้าตาก็ดีไม่น่าเป็นโรคจิตเลย” ว่าแล้วเธอก็เดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหารปภ. ให้มาจัดการ พร้อมกับนั่งลงหน้าโต๊ะกระจกเพื่อแต่งหน้า คนอย่างดาราสาวพิ้งค์พราวไม่มีทางที่จะออกไปพบหน้าคนอื่นด้วยหน้าสดหรอก คนอย่างเธอต้องเฉิดฉายและมีไฟส่องตลอดเวลา เดี๋ยวเรื่องนี้ก็คงจะเป็นข่าวด้วย แต่ทว่า
แกร็ก~
พรึ่บ!
เจ้าของใบหน้าสวยเฉี่ยวหันขวับไปมองต้นเสียงที่ดังขึ้นมาจากบานประตู
แอ๊ดดดด~
ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะเบิกกว้างให้กับการปรากฏตัวของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ก่อนหน้านี้เขาอยู่ข้างนอก แต่ตอนนี้เขากลับกำลังมายืนจังก้าในห้องของเธอ!!
“กรี๊ดดดดดดด~~”