ตอนที่ 14 ทวงคืน!!!/1

2717 Words
“หลันฮวา! รีบหนีออกมา!!!” เสียงตะโกนก้องของหวังเหล่ยดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน ร่างสันทัดของหัวหน้าแก๊งฮ่องกงพยายามยันกายของตนออกจากหลุมทรายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล จนสามารถประคองร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นยืนได้เป็นผลสำเร็จ และเสียงตะโกนดังกล่าวปลุกสติและความเป็นตัวตนของแม่สาวน้อยคนงามให้หวนกลับคืนมา พรึ่บ!!! ดวงตากลมโตคู่งามเปิดขึ้นทันใด ขนตางามงอนกะพริบขึ้นลงติดต่อกันเมื่อเธอพบว่ากำลังจุมพิตตอบโต้ซากโครงกระดูกที่บัดนี้คืนร่างกลับมาเป็นคนได้อีกครั้ง “ยะ..แย่แล้ว! ทำไมเราจะต้องเคลิบเคลิ้มฟินไปกับการจูบด้วยวะเนี่ย นี่ฉันกำลังจูบกับผีอยู่นี่หว่า” หญิงสาวรำพึงในใจ ตุบ! ตุบ! ตุบ! กำปั้นน้อยๆ ทุบลงบนแผ่นอกกว้างตรงหน้าเธออย่างไม่ยั้งมือเลยทีเดียว ทว่าแทนที่ร่างใหญ่นั้นจะรู้สึกแต่ตรงกันข้ามแรงทุบตีของหญิงสาว มิได้สะเทือนผิวกายหรือระคายเคืองแม้แต่น้อย แม่ทัพในตำนานยังคงระดมจุมพิตสตรีสาวโฉมงามตรงพระพักตร์อยู่เช่นนั้น ในขณะที่อีกฝ่ายพยายามขืนร่างของเธออย่างเต็มที่ให้หลุดพ้นจากร่างใหญ่ที่เริ่มจะทำท่าดึงรั้งกายอรชรของไป๋หลันฮวาให้แนบชิดกายเนื้อมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม “ไอ้ผีชีกอ! จูบเอาจูบเอาไม่ยอมปล่อยเลย ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย! สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าขาอยู่แห่งหนใดบ้างช่วยหนูด้วยเถิด!!!” ไป๋หลันฮวาเพรียกหาคนช่วยเหลืออยู่ภายในใจ พร้อมพยายามดิ้นรนสะบัดแขนของเธอให้หลุดพ้นจากการยื้อยุดของแม่ทัพหนุ่มในตำนาน ทันทีใดนั้นเอง แวบบบ!!! จู่ๆ แสงสว่างเจิดจ้าพุ่งออกจากกระดองเต่าซีกที่ห้อยอยู่บนลำคอระหงของแม่มาเฟียสาวคนงามออกมาทันที พร้อมแรงกระชากมหาศาลมิรู้มาจากแห่งหนใดดึงร่างอรชรออกจากอ้อมกอดของแม่ทัพในอดีตโดยพลัน เหวอออ!!! หญิงสาวร้องอุทานเสียงหลงเมื่อแรงกระชากนั้นดึงเธอออกมาจากแม่ทัพหนุ่มจนมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าหวังเหล่ย เพื่อนร่วมแก๊งของเธอที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ ตุบ! ร่างระหงลอยมาหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่มที่กำลังยืนมองอ้าปากค้างอยู่ในขณะนั้นท่ามกลางสายพระเนตรที่เต็มไปด้วยความแปลกพระทัยขององค์ชายโจวโยว่เฉิง ว่าแม่นางน้อยผู้นั้นหลุดพ้นจากอ้อมกอดของพระองค์ไปได้เยี่ยงไร “เสี่ยวหลัน! แกลอยตัวได้ตั้งแต่เมื่อไรวะ”หวังเหล่ยถามเพื่อนสาวกลับไปทันใดด้วยความตกใจระคนสงสัย ใบหน้าสวยของไป๋หลันฮวาหันกลับไปมองเพื่อนร่วมแก๊งทางด้านหลังก่อนจะหันกลับไปมองร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพในอดีตที่กำลังยืนมองเธอด้วยความงุนงงเช่นเดียวกัน “มาได้อย่างไงวะเนี่ย!”หญิงสาวเอ่ยพึมพำด้วยความงุนงง ก่อนจะได้ยินเสียงหวังเหล่ยดังแทรกขึ้นครั้นหายจากอาการตกตะลึง “อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยแก..รีบหนีออกไปจากที่นี่เถอะ ไอ้ผีบ้าตัวนั้นมันยังยืนจ้องแกไม่วางตาเลย นี่ถามจริงรอดมาได้อย่างไงวะนึกว่าจะถูกมันจับหักคอเสียแล้ว ที่ไหนได้ดันคว้าคอแกไปจูบเฉย” หวังเหล่ยกล่าวพลางรีบคว้าข้อมือเพื่อนสาวร่วมแก๊งให้วิ่งหนีไปด้วยกันทันที “เฮ้ย! เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนอาเหล่ย” ไป๋หลันฮวากล่าวพร้อมขืนร่างของเธอไม่ยอมวิ่งตาม “อะไรอีกละแก! รีบหนีเร็วๆ เข้ามันมาแล้ว!!” หวังเหล่ยกล่าวพร้อมชี้ไปยังทิศทางที่แม่ทัพในอดีตยืนอยู่ และกำลังก้าวเดินตรงมาหาทั้งสอง “แกถูกยิงไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้ฉันยังเห็นอาการร่อแร่จะตายเสียให้ได้ แต่ทำไมตอนนี้ถึงลุกเดินได้แล้ว” หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปด้วยความแปลกใจ พร้อมก้มลงมองแผ่นอกของสหายร่วมแก๊งที่บัดนี้เหลือเพียงรอยเลือดแดงฉานและรูกระสุนปืนเท่านั้น ทันทีที่หวังเหล่ยได้ยินเพื่อนสาวถามกลับมาเช่นนั้น มือใหญ่ยกขึ้นจับหน้าอกของตนทันใด พร้อมรีบคลำหารอยกระสุนที่เจาะเข้าไปในแผ่นอกและสร้างความเจ็บปวดเจียนตายอย่างแสนสาหัสเมื่อครู่ที่ผ่านมาซึ่งสัมผัสได้เป็นอย่างดี “เออใช่วะจริงด้วย! เมื่อกี้ฉันถูกไอ้พวกเวรนั่นยิงโดนหน้าอกนี่หว่า โคตรเจ็บเป็นบ้า! แต่ทำไมตอนนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยมิหนำซ้ำรอยกระสุนฝังในก็ไม่มีแล้วด้วยหลันฮวา” หวังเหล่ยบอกเพื่อนสาวกลับไป “เฮ้ย! เป็นไปได้เหรอ!!!” หญิงสาวถามกลับไปด้วยไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ภาพอักขระโบราณในยุคสร้างแผ่นดินปรากฏให้เห็นก่อนที่เธอและผีรูปหล่อต่างอ่านจารึกนั้นออกมาพร้อมกัน หลังจากนั้นการคืนร่างจากซากโครงกระดูกก็ปรากฏตามติดมาทันที แต่เหตุใดหวังเหล่ยที่ถูกยิงปางตายกลับกลายเป็นปกติเสมือนมิเคยถูกยิงมาก่อนฉันใดก็ฉันนั้น ดวงตาคู่สวยหยุดมองที่รอยเลือดตรงหน้าอกของหวังเหล่ย ก่อนจะก้มลงมองฝ่ามือของเธอที่มีเลือดสีแดงฉานเปรอะเปื้อนอยู่เต็มไปหมด และบนฝ่ามือของหญิงสาวปรากฏมีรอยแผลเกิดขึ้นเป็นทางยาวเพราะถูกคมมีดสั้นของแม่ทัพในอดีต ในขณะที่ตัดเชือกมัดมือและเท้าให้เป็นอิสระบาดลึกเข้าไปด้วยความบังเอิญ และในขณะที่ประคองร่างของหวังเหล่ยเพื่อตรวจดูบาดแผล เลือดของไป๋หลันฮวาหยดถูกร่างของเพื่อนรัก จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิ่งไม่คาดคิดปรากฏขึ้นกับหัวหน้าแก๊งฮ่องกงนั่นเอง ใบหน้าสวยคมเซ็กซี่พยักขึ้นลงติดต่อกันพลางจับจ้องอยู่ที่ฝ่ามือของตัวเองอยู่ตลอดเวลา “ฉันพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมอาเหล่ยถึงไม่ได้เป็นอะไรเลย เลือดพรหมจรรย์ของฉันกับคาถาที่เห็น ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม..ไม่น่าเชื่อเลย! ไม่น่าเชื่อจริงๆ”แม่สาวน้อยพูดพึมพำพร้อมเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนชายคนสนิท ทว่ายังมิทันที่จะกล่าวสิ่งใดออกมา ร่างระหงถูกคว้าข้อมือกระชากให้วิ่งตามหลังไปติดๆ พร้อมเสียงแหกปากตะโกนดังลั่นของหวังเหล่ยดังออกมาท่ามกลางความเงียบงัน “อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย! ไอ้ผีบ้ามันตรงมาหาพวกเราแล้ว!”หัวหน้าแก๊งฮ่องกงตะโกนโวยวายพลางฉุดลากข้อมือของเพื่อนสาวให้วิ่งตามไปด้วยกัน พระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของแม่ทัพในตำนานหยุดยืนทอดพระเนตรสตรีสาวที่ทรงได้จุมพิตนางจนทำให้คืนร่างกลับมาเป็นคนได้อีกครั้งกำลังวิ่งหนีพระองค์ไปยังเนินทรายมุ่งหน้าไปทางเครื่องบินที่จอดนิ่งสนิท “นางทำให้ข้ากลับคืนร่างมาเป็นคนได้อีกครั้งจริงๆ ทั้งๆ ที่ข้าสิ้นชีพวิบัติโรยราไปตั้งแต่คราเปรียบเทียบฝีมือกับนางปีศาจงูตนนั้น นี่ข้าตายไปนานเพียงใดแล้วเล่า จะทำเช่นไรต่อไปดีหนอ ที่แห่งนี้ไม่มีราชบัลลังก์แห่งซีโจวให้ช่วงชิงกลับคืน ไม่มีไค๋หยวนและอู๋ฮองเฮา ให้ข้ากลับไปเด็ดหัวของมันเพื่อชำระหนี้แค้นแทนพระบิดาและพระมารดาอีกต่อไป ข้าควรจะเริ่มต้นชีวิตที่ได้หวนคืนกลับมาเยี่ยงไรดีเล่า” สุรเสียงรับสั่งพึมพำ สายพระเนตรยังคงจับจ้องร่างระหงของสตรีสาวที่พระองค์ทรงมีโอกาสได้สัมผัสกับนางโดยมิคลาดคราแม้แต่น้อย พระหัตถ์ยกขึ้นสัมผัสกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในพระศอพร้อมทบทวนเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผ่านมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน “กระดองเต่าที่ข้าสวมอยู่ในเวลานี้จะต้องมีบางอย่างแอบแฝงเอาไว้เป็นแน่ จารึกโบราณตั้งแต่สมัยยุคสร้างแผ่นดินต้องซ่อนเร้นปริศนามากมายที่ข้ายังมิล่วงรู้เป็นแน่แท้ แม่นางผู้นั้นและข้าต่างครอบครองกันคนละครึ่ง และคราใดที่ทั้งสองส่วนประกบเข้าหากันจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันตามติดมาทุกครา ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่ควรปล่อยนางไป” สิ้นเสียงของแม่ทัพในตำนาน พระหัตถ์ที่สัมผัสอยู่กับกระดองเต่าในเวลานั้นถูกยกขึ้นนำมาทอดพระเนตรพร้อมทรงมีรับสั่งตามติดมา “หากแม้นลิขิตสวรรค์ทำให้ข้าครอบครองกระดองเต่านี้ ได้โปรดชี้แนะข้าด้วยเถิดว่าจะทำเช่นไรต่อไปดี ข้าเคยเห็นนางล่องหนต่อหน้า แล้วข้าเล่ากายสามารถเลือนหายทำได้เช่นนางหรือไม่”ทันทีที่ทรงมีรับสั่งเช่นนั้นพระองค์รวบรวมญาณจิตจนสงบนิ่งเพื่อค้นหาวิธีใช้กระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงได้ครอบครอง ฉับพลันพระหัตถ์ที่กำลังถือกระดองเต่าซึ่งนำมาทอดพระเนตรค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางสายพระเนตรของแม่ทัพในตำนานทรงทอดพระเนตรพระวรกายกำลังเลือนรางหายไปและกลายสภาพล่องหนไปในที่สุดเพียงชั่วพริบตา “กายข้าเลือนหายได้จริงๆ หรือนี่” รับสั่งด้วยความตระหนกระคนแปลกพระทัยอย่างยิ่งยวด “ข้าพอจะล่วงรู้แล้วว่ากระดองเต่านี้มีวิธีใช้เยี่ยงไรบ้าง ช่างเป็นสิ่งล้ำค่าเสียนี่กระไร”แม่ทัพในอดีตรับสั่งพร้อมรีบวิ่งติดตามผู้ครอบครองกระดองเต่าอีกครึ่งซีกเฉกเช่นเดียวกับพระองค์ไปอย่างกระชั้นชิด ในขณะที่ไป๋หลันฮวาและหวังเหล่ยบัดนี้ทั้งสองต่างวิ่งมาถึงเฮลิคอปเตอร์ที่กลุ่มคนโฉดบังคับเครื่องเพื่อนำเหยื่อมาฆ่าทิ้งกลางทะเลทราย แต่กลับกลายเป็นว่าพวกมันต่างทิ้งชีวิตอยู่ที่นี่แทน ร่างไร้วิญญาณนอนตายกระจัดกระจายอยู่บนผืนทรายท่ามกลางรอยเลือดที่เริ่มเลือนรางยามเมื่อสายลมพาดผ่านพัดพาฝุ่นทรายกลบรอยเดิมไปเกือบมิเห็นอะไร “นายบังคับเฮลิคอปเตอร์เป็นเหรออาเหล่ย” หญิงสาวหันกลับไปถามสหายร่วมแก๊งทันทีที่เห็นหวังเหล่ยก้าวข้ามไปประจำที่นั่งคนขับ “เคยไปอบรมจนได้รับใบประกาศมาแล้วเรียบร้อยวะ” ชายหนุ่มตอบกลับไปท่ามกลางความโล่งใจของไป๋หลันฮวา “ค่อยยังชั่วหน่อยที่นายขับเป็น อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะตก เดี๋ยวจะกลายเป็นผีเฝ้ากลางทะเลทรายเหมือนกับอีตาผีตัวนั้น รวมไปถึงไอ้พวกข้างล่างนั้นด้วย”หญิงสาวกล่าวพร้อมเอื้อมมือไปเลื่อนปิดประตูเฮลิคอปเตอร์ ก่อนจะผงะถอยหลังด้วยรู้สึกถูกบางอย่างชนเข้าให้อย่างจัง จนล้มฟุบไปกับเบาะข้างๆ โครม! บานประตูของเฮลิคอปเตอร์เลื่อนปิดลงด้วยตัวเองท่ามกลางความงุนงงของหญิงสาว พร้อมเสียงของหวังเหล่ยเอ่ยแทรกดังขึ้นตามติดมา “ถ้าจะบอกแกตามตรงว่านี่เป็นการควบคุมเครื่องขึ้นบินเป็นครั้งแรกของฉันเลยวะหลันฮวาแกจะว่าอย่างไง”หวังเหล่ยบอกเพื่อนกลับไปตามตรง ห๊ะ!!! ไป๋หลันฮวาลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเบาะทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “นี่เป็นครั้งแรกของนายอย่างนั้นเหรออาเหล่ย!!”หญิงสาวถามกลับไปเสียงหลง หวังเหล่ยพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันเป็นการยอมรับ พลางส่งยิ้มแห้งๆ กลับมาพร้อมเริ่มกดปุ่มมากมายเพื่อเตรียมพร้อมเอาเครื่องขึ้นบิน “พวกเราสองคนยังไม่ตายตอนนี้แน่นอนเชื่อดิ! เพราะถ้าจะตายจริงๆ ละก็คงไม่มานั่งอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก”หวังเหล่ยพูดพร้อมเหลือบสายตามองไปด้านนอกตัวเครื่องบิน “ตอนนี้ไอ้ผีบ้ากามที่คอยจะวนจูบแก ก็หายไปแล้วด้วย! มันคงไปตามทางที่สมควรจะไปแล้วละ และเราสองคนตอนนี้ก็ต้องรีบกลับไปจัดการไอ้เริ่นเจินเสียที ไม่รู้ว่ามาอยู่กลางทะเลทรายกี่วันแล้ว” คำกล่าวของหวังเหล่ยทำให้มาเฟียสาวคนสวยหันกลับไปมองด้านนอกตัวเครื่องบิน และเธอก็ไม่พบร่างสูงใหญ่ของผีรูปหล่อที่ระดมจูบเธออย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ที่ผ่านมาตามคำกล่าวของเพื่อนร่วมแก๊งจริงๆ “หายไปจริงๆ ด้วยแฮะ” หญิงสาวกล่าวพร้อมใช้สายตาสำรวจไปทั่วบริเวณอีกครั้ง พร้อมเฮลิคอปเตอร์ค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้นลอยจากผืนทรายเหินฟ้าสู่เบื้องบน ในขณะที่คนถูกเอ่ยถึง พระเนตรสีนิลคมกล้ากำลังทอดพระเนตรออกไปนอกตัวเครื่องเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินอยู่เหนือผืนทรายในระดับความสูงที่แม้แต่นกอินทรีอาจจะบินไม่ถึง “เจ้านกยักษ์ตัวนี้ช่างแข็งแกร่งและน่าหวาดหวั่นเป็นที่พรั่นพรึงเสียนี่กระไร มิหนำซ้ำยังบินได้สูงถึงเพียงนี้เชียว ช่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก” รับสั่งด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาได้ เมื่อทรงทอดพระเนตรเหตุการณ์ประหลาดมากมายนับตั้งแต่ทรงฟื้นคืนพระชนม์ชีพกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเอาแต่จับจ้องอยู่ที่ใบหน้างามของสตรีสาวตรงพระพักตร์ซึ่งพระองค์ทรงประทับจุมพิตอย่างดูดดื่มถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน มือเรียวสวยยกขึ้นสัมผัสริมฝีปากอวบอิ่มของเธอครั้นนึกถึงรอยจุมพิตอย่างดูดดื่มที่ได้สัมผัสกับผีรูปหล่อ ซึ่งเท่าที่ดูจากเครื่องแต่งกายจะต้องเป็นคนในยุคโบราณอย่างแน่นอนแต่จะยาวนานเพียงใดนั้น เธอก็มิอาจล่วงรู้ได้เช่นกัน “ไปที่ชอบ ที่ชอบนะท่านผู้เฒ่า! เดี๋ยวจะจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบทำบุญตามไปให้ รูปหล่อซะขนาดนั้นเสียดายตายเร็วไปหน่อยไม่น่าเลย นี่ถ้าเป็นคนจริงๆละก็ เสร็จไป๋หลันฮวาแน่จะยอมจีบผู้ชายเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยสิเอา!!!” หญิงสาวเผลอตัวหลุดปากพึมพำออกมาเบาๆ โดยมิล่วงรู้เลยว่าคนที่กำลังกล่าวถึงกำลังนั่งเคียงข้างเธอบนเฮลิคอปเตอร์อยู่ในขณะนี้ พระวรกายล่องหนประทับนั่งเคียงคู่อยู่กับไป๋หลันฮวา พระพักตร์หล่อเหลาคลี่แย้มพระโอษฐ์ออกมาบางๆ ครั้นทรงได้ยินถ้อยเจรจาของแม่สาวน้อยคนงามทุกประโยคอย่างชัดเจน “ท่านผู้เฒ่าอย่างนั้นเหรอ! นี่ข้ากลายเป็นเช่นนั้นตามความรู้สึกของนางจริงหรือนี่”รับสั่งพึมพำ “จริงสิ! เวลานี้ผ่านไปยาวนานเท่าไรแล้วก็มิอาจรู้ได้ กาลเวลาผันเปลี่ยนไปเพียงใดหนอ ที่ข้าต้องสิ้นชีพจากไปโดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้แม้แต่น้อย และจะหาคำตอบเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน”รับสั่งรำพึงด้วยความรู้สึกสับสนมิรู้วาย แม่ทัพในตำนานทอดพระเนตรใบหน้าของไป๋หลันฮวา สตรีสาวที่ทรงมีโอกาสสัมผัสเป็นครั้งแรกตลอดพระชนม์ชีพที่ผ่านมา การหวนคืนกลับมามีชีวิตใหม่ในครั้งนี้หาใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด และที่พระองค์ต้องสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันทั้งๆ ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแม้แต่น้อยก็เพราะเป็นไปตามลิขิตของสวรรค์ เมื่อองค์ชายโจวโยว่เฉิงในยุคอดีตและไป๋หลันฮวาสตรีสาวจากยุคอนาคตเป็นผู้ที่ถูกกำหนดจากหนึ่งในสามราชาซึ่งเป็นเจ้าของกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์นี้ให้ทั้งคู่ได้ครอบครองสิ่งล้ำค่าสุดวิเศษจากกษัตริย์ในตำนาน เพื่อทำหน้าที่สืบทอดต่อจากพระองค์ พิทักษ์แผ่นดินซีโจวตามลิขิตของสวรรค์คือหน้าที่ของแม่ทัพไร้พ่าย หน้าที่กำจัดปีศาจและหมู่มารที่ซ่อนเร้นแอบแฝงอยู่กับมนุษย์ เป็นหน้าที่ของสตรีสาวที่ถูกเลือกนั่นก็คือไป๋หลันฮวา ทั้งสองต้องร่วมเผชิญชะตากรรมไปด้วยกันหาใช่ความบังเอิญ ทว่ามันถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้ามาอย่างยาวนานนานนับหลายพันปี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD