“คุณพ่อโอนค่าขนมเข้าบัญชีให้แล้วนะคะ”
แดงอ้อยหรือป้าแดงเอ่ยบอกเด็กสาววัยกำลังจะสิบแปดปีในเดือนหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่เรียกได้ว่าดีที่สุดเท่าที่คนแก่อายุหกสิบกว่าอย่างเธอจะทำได้ออกไปด้วย
เมื่อเธอนั้นมีหน้าที่ดูแลเด็กสาวอย่างเนื้อทองในทุกๆเรื่องแทนผู้เป็นเจ้านายที่ไม่เคยมาดูแลลูกเลี้ยงคนนี้เลย
แต่ความจริงแล้วเธออยากจะตำหนิเด็กสาวตรงหน้าออกมาสักคำเมื่อเห็นเต็มสองตาเลยว่าเด็กสาวนั้นใส่กระโปรงสั้นผิดกฎระเบียบของโรงเรียน
แถมด้วยเสื้อซับในที่ควรใส่ก็ไม่ได้ใส่ ทำให้มองเห็นไปถึงเสื้อชั้นในสีชมพูอ่อน
ยิ่งมองก็ยิ่งต้องการทำมากว่าการตำหนิ นึกแล้วก็อยากจะตีให้หายดื้อสักที
“น้อยนิดเหมือนไม่ได้ให้”
เนื้อทองที่เห็นยอดเงินที่ผู้เป็นพ่อเลี้ยงอย่างปรินทร์โอนมาให้แล้วก่อนหน้าที่จะออกมาจากห้องนอนก่อนที่จะมามีใครพูดให้เธอฟัง
เธอส่งสีหน้าไม่พอใจมองไปยังแดงอ้อยที่เป็นทั้ง พี่เลี้ยง แม่นม และบุพการีของเธอในยามจำเป็นเมื่อโรงเรียนเรียกหาผู้ปกครอง
เงินที่คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อได้โอนมาให้เธอนั้นมันน้อยนิดเรียกได้ว่ากินอาทิตย์เดียวก็แทบจะไม่พอ
เธอแทบอยากจะโอนกลับไปคืนเขาเพื่อให้เขาได้รู้ว่ามันน้อยนิดมากแค่ไหน
แต่ติดตรงที่ทำไม่ได้ เพราะถ้าทำเธอจะไม่ได้เงินสักบาทกลับไปใช้ที่โรงเรียน
ด้วยพ่อเลี้ยงของเธอที่เธอไม่เคยเห็นหน้าเลยตั้งแต่เกิดมา เห็นแต่รูปที่ติดไว้ตรงฝาบ้านเป็นคนบ้า
ถ้าเธอประชดกลับเขาจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับเธอ เธอเคยลองแล้วและไม่อยากลองอีกเพราะการไม่มีเงินมันไม่ค่อยสนุกสักเท่าไหร่
“คุณหนูก็อย่าดื้อนักสิคะ คุณพ่อจะได้ไม่ตัดค่าขนมอีก”
แดงอ้อยพยายามดัดนิสัยของเด็กสาวตรงหน้าแม้มันจะดัดอยากไปสักนิดด้วยเนื้อทองนั้นค่อนข้างดื้อมาก
เธอเคยบอกหลายครั้งหลายคราวแล้วว่าให้ทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงปกติเขาทำกันแต่เนื้อทองก็ไม่เคยเชื่อ
และครั้งนี้ก็คงเหมือนเดิม แต่ด้วยความเป็นห่วงเพราะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กก็อดไม่ได้ที่จะคอยสั่งสอน ไปพร้อมกับการอยากจะตีสักทีให้หายดื้อนั่นแหละ
“มันก็เรื่องปกติ ใครๆเขาก็มีเรื่องทะเลาะกันนิดๆหน่อยแบบนี้แหละ คนหัวโบราณเท่านั้นที่จะไม่เข้าใจ”
เนื้อทองที่มักมีเรื่องตบตีกับเพื่อนๆนักเรียนด้วยกันเองบ่อยครั้งมองว่าทุกอย่างมันก็ปกติดี
เพราะที่เธอทำลงไปก็เพื่อปกป้องตัวเอง ปกป้องศักดิ์ศรี ไม่ได้ทำอะไรผิด
ใครๆเขาก็เข้าใจกันทั้งนั้นในเรื่องแบบนี้ จะมีก็คนที่เรียกว่าเกือบจะเป็นครอบครัวของเธอเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ
และเมื่อไม่เข้าใจก็ไม่คิดจะโทรมาถามเธอสักคำ แต่กลับตัดค่าขนมของเธอออกอย่างไม่ยุติธรรม
“คุณหนู”
คนแก่ที่มีส่วนในการไม่เห็นด้วยกับนิสัยชอบมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนของเด็กสาวถึงกับออกอาการโมโหขึ้นเสียงใส่ เพราะเหมือนกำลังถูกต่อว่าโดยอ้อมๆอยู่
แต่เธอก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะเด็กสาวตรงหน้าเป็นถึงคุณหนูของบ้านไร่กลางป่ากลางดงที่ต้องคอยดูแล
เธอคนนี้ไม่ใช่หลานสาวหรือญาติพี่น้องที่สนิทกันที่จะให้เธอลงไม้ลงมือสั่งสอนได้
“หนูกลับโรงเรียนก่อนนะ เอ่อ แล้วอย่าลืมบอกให้เขาโอนเงินส่วนที่หักตามไปด้วยล่ะ ไม่อย่างนั้นหนูจะหนีออกจากโรงเรียน”
ก่อนจะเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ที่ไม่มีใครอาศัยอยู่มีเพียงเธอกับแดงอ้อยที่ทำทุกหน้าที่พักอยู่ เธอหันมาพูดในเรื่องที่เรียกได้ว่าจำเป็นกับแดงอ้อย
เพราะถ้าไม่ได้เงินจำนวนที่ถูกหักไปกลับคืนมาเธอคงอยู่ที่หอพักของทางโรงเรียนไม่ครบเดือนแน่
คงต้องมีการหนีออกจากหอพักเพราะความอดอยาก และขายขี้หน้าที่ไม่มีเงินจะกิน
แล้วนั้นไม่ใช่แค่คำขู่ เนื้อทองเธอจะทำแบบนั้นจริงๆเพราะว่าเธอเคยทำมาแล้ว
และก็ไม่มีใครหาตัวเธอเจอ จนกระทั่งยอมทำตามข้อเรียกร้องที่มากมายเท่าภูเขาลูกใหญ่ เธอถึงยอมกลับเข้าหอพักของทางโรงเรียนตามเดิม
“อย่าดื้อกับคุณพ่อแบบนั้นนะคะ”
แดงอ้อยเดินตามไปขอร้องเด็กสาวที่ดูจะดื้อเกินจะต้านเอาไว้ไหวต่อ อย่างคนมีความพยายาม
เพราะถึงใจอยากจะตีอยากจะฟาดด้วยไม้เรียวแรงๆสักแค่ไหน เธอก็รักเด็กคนนี้มากจนทำไม่ลงและทิ้งไปไม่ได้อยู่ดี
ถึงเนื้อทองจะไม่ใช่คุณหนูที่น่ารัก แต่ก็น่าสงสารมากจนเกิดเป็นความรักด้วยเนื้อทองไม่เคยมีใครมาคอยดูแล มีก็แต่เงินเท่านั้นที่ถูกส่งมาเลี้ยงดูเธอ
จะว่าไปแล้วที่เนื้อทองเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะผู้ปกครองของเธอไม่เคยมาดูแลเธอ ไม่ใช่ว่าเธอจะทำให้ตัวเองดื้อตั้งแต่แรกหรอก
“เขาทำไม่ดีกับหนูก่อน”
เมื่อพูดถึงคนที่อ้างตัวว่าเป็นบุพการีของเธอแต่ไม่เคยมาทำหน้าที่อะไรเลย ก็ทำเอาเด็กสาวอารมณ์ขึ้น
เธอหันมาตวาดใส่คนแก่อย่างแดงอ้อยแบบลืมตัว และลืมที่จะหักห้ามใจเพราะว่าเธอโมโห
ก็คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อเลี้ยงเอาแต่สั่งๆกับแดงอ้อยให้มาบอกเธอทำอย่างนั้นอย่างนี้แต่ไม่เคยมาสนใจสั่งสอนเธอเองเลย
คนเหมือนจะขาดความอบอุ่นจากครอบครัวอย่างเธอก็ต้องทำตัวไม่ดีออกไปเพื่อให้ลืมว่าโหยหาอยากเห็นหน้าพ่อมากแค่ไหนนอกจากนั่งมองรูปถ่าย
แดงอ้อยถึงกับเงียบไปไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก ด้วยรู้ดีว่าเจ้านายอย่างปรินทร์ทำผิดกับผู้เป็นลูกเลี้ยงอย่างเด็กสาวมาโดยตลอด
เขาไม่เคยมาดูแลเธอเลยนอกจากส่งเงินกับคำสั่งมา และนั้นก็ทำให้เด็กสาวต้องเป็นแบบนี้
“แล้วนั้นคุณหนูจะไปไหนคะ ตาส่งยังไม่มาเลย นั่งรอก่อนซิคะ”
ยังไม่ทันได้สงสารเด็กสาวให้จับขั้วหัวใจก็ต้องรีบวิ่งตามเด็กสาวออกไปเมื่อเด็กสาวนั้นกำลังเดินออกจากบ้านไปทั้งที่รถที่ผู้เป็นสามีของเธอไปขับมารับยังไม่มาเลย
“ให้ตาส่งของป้าเอาของไปส่งที่หน้าหอด้วยนะ หนูไปก่อนล่ะ บาย”
เนื้อทองหันมาโบกไม้โบกมือลาป้าที่เธอเคารพรักมากกว่าคนเป็นพ่อเลี้ยงเสียอีก
ก่อนจะกระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ของเพื่อนชายที่ขี่เข้ามารับเธอที่ตรงหน้าบ้านพอดี
แล้วสั่งให้เพื่อนชายนั้นขับรถออกไปด้วยความรวดเร็วก่อนที่คนแก่อย่างแดงอ้อยจะตามมาทัน
“ทำไมดื้อแบบนี้นะ ถ้าคุณพ่อรู้ต้องถูกตีแน่ๆ”
แดงอ้อยที่ไม่อาจตามเด็กสาวได้ทัน ได้แต่คว้าเอาสายลมจากความเร็วที่รถมอเตอร์ไซด์ออกตัวไปไว้ได้
ได้แต่บ่นกับตัวเองเบาๆโดยไม่อาจทำอะไรมากไปกว่านั้นได้ เพราะว่าเด็กสาวนั้นได้เหาะหนีเธอไปแล้ว
มันก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เธอก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีก ด้วยปรินทร์เคยสั่งห้ามเด็กสาวเอาไว้แล้ว
เพราะว่าการนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์นั้นมันอันตรายมาก คนเป็นพ่อไม่อาจรับเรื่องนี้ได้
แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะไม่ฟัง และพยายามท้าทายให้คนเป็นพ่อเลี้ยงได้เห็นอีกครั้ง
“อ้าว คุณหนูไปแล้วเหรอ”
บุญส่งสามีของแดงอ้อยที่ขับรถมาจอดเทียบท่าตรงหน้าทางเข้าบ้านเอ่ยถามออกมา
เมื่อสายตาแก่ๆของเขามองไม่เห็นคุณหนูของบ้านเลย ไม่รู้ว่าเธอไปยืนอยู่ตรงไหน หรือว่าไปแล้ว
“ก็แกมันแก่ แล้วก็ชักช้า วัยรุ่นที่ไหนเขาจะรอ”
แดงอ้อยที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆเพราะเด็กสาวมาก่อนแล้วถึงกับระเบิดอารมณ์ใส่สามีออกไป
เพราะความชักช้าของสามีที่แก่ชราของเธอ ถึงทำให้เด็กสาวต้องซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ที่โคตรจะเร็วออกไปแล้ว
“เอากระเป๋าไปส่งที่หน้าหอเหมือนเดิมด้วยคุณหนูครีมเธอสั่งเอาไว้”
พร้อมกันนั้นเธอก็หยิบกระเป๋าเสื้อผ้า และของใช้หลายอย่างที่คุณหนูจัดเตรียมเอาไว้ขึ้นหลังรถเพื่อให้สามีของเธอนำไปให้เด็กสาวที่โรงเรียน
“แล้วนี่แกจะรายงานคุณหนึ่งว่ายังไง”
บุญส่งที่ลงมาช่วยภรรยาขนของขึ้นรถกระบะอดไม่ได้ที่จะถามออกไปด้วยความสงสัย
เพราะอีกไม่นานปรินทร์ผู้เป็นเจ้านายต้องโทรมาถามถึงคุณหนูที่หนีไปแล้วแน่ๆ
“ก็ทำเหมือนทุกครั้งไปนั่นแหละ แกก็มีหน้าที่หุบปากไว้ก็แล้วกัน”
แดงอ้อยที่ไม่อาจใจดำพูดความจริงออกไปได้เตรียมที่จะโกหกอีกครั้งเพื่อเด็กสาวอย่างเนื้อทอง
เธอคงไม่พูดเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซด์คันนั้นเพื่อให้เด็กสาวไม่มีความผิดใดๆ
และก็หวังไม่ให้ใครในไร่ หรือว่าสามีของเธอไปพูดความจริงให้เจ้านายฟังเหมือนคราวก่อนๆอีก
“แบบนี้ซิ คุณหนูถึงดื้อไม่ยอมฟังใครเพราะมีแกคอยให้ท้าย”
บุญส่งกลับขึ้นรถไปอีกครั้งเพื่อที่จะเอาของไปส่งให้กับเด็กสาวเปิดกระจกรถมาต่อว่าภรรยาที่เข้าข้างคุณหนูของบ้านแบบไม่ลืมหูลืมตา
แล้วก็รีบขับรถกระบะคันเก่าๆออกไปเลย เพราะถ้าอยู่ต่อเขาคงฟังเมียด่าไม่หวาดไม่ไหวแน่ๆ
“ไอ้ส่ง ไอ้ปากหมา”
แดงอ้อยถึงกับแผดเสียงดังลั่นบ้านด้วยความโมโหเมื่อสามีอย่างบุญส่งมาพูดแบบนั้น
เธอไม่ได้ให้ท้ายคุณหนู แต่กำลังช่วยให้คุณหนูไม่ถูกดุ ไม่ถูกหักเงินค่าขนมก็แค่นั้นเอง
“นางตัวดีมานู้นแล้ว”
ปภาวีเด็กสาวที่ถือเป็นดาวเด่นของโรงเรียน เพราะทั้งสวยและก็เก่งรอบ เธอแหวกกลุ่มเพื่อนที่มายืนล้อมพูดคุยกันอยู่ตรงหน้าหอพักออกไป
เธอตรงดิ่งไปหาเนื้อทองคู่กรณีของเธอที่มีเรื่องแยกของรักกันก่อนที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านกันเมื่อก่อนวันหยุดยาว
และวันนี้ที่โรงเรียนเปิดก็ได้โอกาสชำระแค้นสักทีหลังจากทนรอมาหลายวัน
และก็มีบรรดาเพื่อนสนิทเดินตามมาด้วยหลายคนราวกับรอเป็นกำลังเสริมให้กับเธอ
“อิจฉาเหรอ ถึงได้มายืนรอกันหน้าสลอนแบบนี้”
เนื้อทองที่เดินมาคนเดียวเพราะว่าเพื่อนชายที่เพิ่งไปแย่งมาได้จากปภาวีของแยกตัวเอาของไปเก็บที่หอพักชาย
เธอเดินเข้าหาปภาวีที่ยกพวกเดินเข้ามาหาเธออย่างไม่กลัว พร้อมกับส่งคำพูดที่ชวนน่าฟังนั้นออกไปทักทาย
และสายตาก็มองไปยังปภาวีและพรรคพวกที่ดูไร้น้ำยาอย่างเยาะเย้ยที่คนพวกนั้นทำได้แค่เดินเข้ามาหาเรื่อง
“อี”
ปภาวีที่ไม่อาจอดทนกับคนหน้าด้านที่แย่งแฟนของเธอต่อไปได้อีกรีบวิ่งเข้าไปหาเนื้อทอง เพื่อให้ฝ่ามือของเธอนั้นเดินทางไปถึงใบหน้าของอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด
“อีจ๋า”
แต่คนอย่างเนื้อทองไม่มียอมใคร เธอรีบวิ่งเข้าไปหาปภาวีและลงมือตบก่อน
แล้วทำให้ปภาวีล้มลงด้วยฝ่าเท้าถีบเข้าไปที่หน้าท้องก่อนจะนำพาตัวเองที่ร่างบอบบางขึ้นไปคร่อมร่างของปภาวีเอาไว้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
อาจารย์ที่มีหน้าที่ดูแลเด็กๆในหอพักของโรงเรียนรีบวิ่งเข้ามาห้ามศึกที่ดูจะใหญ่โตของสองนักเรียนหญิง
รีบจับสองนักเรียนหญิงแยกออกจากกัน สิ้นสุดเรื่องทะเลาะวิวาทอย่างเร็วที่สุด
แล้วพาสองนักเรียนหญิงไปยังห้องปกครองที่เปิดเครื่องปรับอากาศรอเอาไว้อย่างเย็นเฉียบพร้อมกับโทรตามผู้ปกครอง