ปากดี

1974 Words
“มีรถหรูมาจอดในโรงเรียน ไม่รู้ว่าใช่ของตระกูลคนรวยแถวนี้หรือเปล่านะ” เด็กสาวที่เป็นเพื่อนสนิทที่อยู่กลุ่มเดียวกันของปภาวีเอ่ยพูดขึ้นมาหันไปเห็นเนื้อทองกำลังเดินผ่านมาทางนี้พอดี พร้อมกับรีบสะกิดปภาวีที่กำลังนั่งคุยอยู่ข้างๆให้หันเข้ามาร่วมวงสนทนานี้ด้วย เพราะก่อนหน้านี้เธอกับปภาวีได้ไปเห็นรถหรูสีดำคันหนึ่งจอดอยู่แถวๆหน้าห้องของผู้อำนวยการโรงเรียน และก็นัดกันมาอย่างดิบดีแล้วว่าถ้ามาเจอเนื้อทองเธอจะจัดการเนื้อทองให้ต้องอับอายด้วยวิธีนี้ “รถของผู้ดีเขาต้องนู้น กระบะเก่าๆ” ปภาวีที่หัวไวพอตัวรีบหันไปพูดเสียงดังๆใส่คนที่กำลังเดินมาอย่างเนื้อทองแบบไม่มีปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป พร้อมกับส่งสายตาเยาะเย้ยถากถางไปด้วย เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเนื้อทองที่มาจากตระกูลร่ำรวยไม่เคยนั่งรถหรูแบบนั้นมา เนื้อทองที่พวกผู้ใหญ่มักพูดกันว่ามาจากบ้านที่รวยที่สุดในจังหวัดจะนั่งแต่รถเก่าๆที่พร้อมจะพังมาเรียนเท่านั้น “คงอยากโดนดีอีกซินะ” เนื้อทองไม่อาจปล่อยผ่านคนที่พูดว่าเธอไปได้ เธอที่ถูกตามตัวให้ไปยังห้องของผู้อำนวยการโรงเรียนแวะตรงข้างทางทันที พร้อมกับเงื้อมือชูสูงไปด้วยหมายจะเอาเลือดปากของคนที่พูดมากใส่เธอออกมาดูเล่น เธอไม่รีบเพราะผู้อำนวยการโรงเรียนต้องรอเธอได้ เธอขอจัดการกับคนพวกนี้ให้มันรู้จักจำว่าอย่ามายุ่งกับเธออีกก่อนก็แล้วกัน “เนื้อทองอย่า” ปรียาที่กำลังจะเดินไปตามเนื้อทองตามคำสั่งของผู้อำนวยการโรงเรียนมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี เธอรีบเข้าไปดึงตัวเนื้อทองเด็กที่เธอเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาออกมาทันทีก่อนที่จะเกิดเรื่อง ถึงเนื้อทองทำอะไรจะไม่มีความผิดหรือมีก็น้อยมากเพราะผู้ปกครองของเธอจะจ่ายเงินมาสร้างนู้นนี้ของโรงเรียนเพื่อแก้ปัญหา แต่เธอก็ไม่อยากให้เนื้อทองก่อเรื่องอะไรทั้งนั้น เพราะบรรดาเพื่อนๆในโรงเรียนอาจมองเนื้อทองไม่ดี “ฉันกลับมาเอาคืนแน่” เนื้อทองชี้หน้าทุกคนที่กล้ามาปากดีใส่เธอเพื่อคาดโทษเอาไว้ ก่อนที่จะถูกปรียาอาจารย์ที่ปรึกษาลากตัวออกมาจากตรงนั้น เธอไม่พอใจสักเท่าไหร่แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะลึกๆแล้วเธอเกรงใจปรียาที่แสนดีกับเธอ ถึงอาจารย์คนนี้จะดูไม่ค่อยรักเธอ ไม่ค่อยชอบเธอ แต่ก็มักแอบช่วยเหลือเธออยู่ เธอรู้ดี “ต้องเข้าซินะ” เมื่อพากันเดินมาถึงหน้าห้องของผู้อำนวยการโรงเรียน เนื้อทองก็แอบลอบถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างนึกเบื่อหน่าย เธอรู้ว่าไม่ใช่ผู้อำนวยการที่ต้องการจะพบเธอ แต่คงเป็นคนที่พวกคนรวยๆส่งมาจัดการกับเธอ ไม่อยากต้องเข้าไปเจอกับอะไรแบบนั้นที่มันทำให้ชีวิตที่แสนน่าเบื่อของเธอต้องมีความน่าเบื่อเพิ่มขึ้นไปอีก แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะคนที่คิดทำสิ่งนี้เป็นถึงผู้ปกครองของเธอเพียงคนเดียวที่จ่ายเงินเลี้ยงดูเธอ “มีอะไรหรือเปล่า” ปรียาเห็นว่าเด็กสาวดูจะกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่จึงเอ่ยถามเพราะความเป็นห่วง เพราะเธอเองในวันนี้ก็ไม่รู้ว่ามีใครมาหาเนื้อทอง ไม่อาจบอกอะไรเด็กสาวมากได้ เธอยังแอบมีความกังวลเล็กๆถึงบุคคลลึกลับนั้นที่มาหาเนื้อทอง แล้วเด็กคนนี้จะไม่เกิดความกังวลได้ยังไงกัน “เคยเบื่อไหมล่ะที่ต้องคอยใช้ชีวิตอย่างที่คนอื่นต้องการ ไม่เคยได้เลือกอะไรเลยแม้แต่โรงเรียน” เนื้อทองพูดในสิ่งที่อึดอัดอยู่ภายในใจของเธอออกมาให้กับคนที่น่าจะสนิทกับเธอที่สุดแล้วภายในโรงเรียนประจำแห่งนี้ เธออยากพูดเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจสักเล็กน้อยก่อนที่จะเข้าไปพบกับอะไรก็ไม่รู้ในห้องนั้น คำพูดของเธอนั้นมันไม่ได้เกินจริงอะไรหรอกนะ มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด คนพวกนั้นที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนรวย บังคับให้เธอมาเรียนที่นี่ทั้งที่เธอสอบได้โรงเรียนดังในกรุงเทพ มันเป็นความเสียใจของเด็กอย่างเธอที่ยังคงฝังใจไม่เคยลืมเพราะเคยอุตส่าห์ตั้งใจทำมันเพื่อให้ได้ไปอยู่กับคนที่ใครๆก็บอกว่าเขาคือพ่อ “วันนี้มันอาจจะไม่ได้โหดร้ายแบบนั้นก็ได้ ลองเข้าไปก่อนอย่าเพิ่งตัดสินใจ” ปรียายกมือลูบไปที่ไหล่ของเด็กสาวเบาๆเพื่อให้เธอนั้นใจเย็นลงบ้างกับเรื่องที่ยังไม่ได้พบเจอ วันนี้มันอาจไม่ได้เหมือนเมื่อวาน มันอาจจะดีกว่านั้น เธอไม่อยากให้เด็กสาวตัดสินลงไปทั้งที่ยังไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง “มันจะดีหรือไม่ดีสุดท้ายหนูก็จะทำให้มันจบแบบเดิม” คนอย่างเธอจะไม่ยอมให้คนบ้านนั้นมาทำอะไรกับเธอได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะส่งใครมาเธอก็จะส่งกลับไปอย่างสาหัส ไม่สนด้วยว่าคนพวกนั้นจะจ่ายค่าจ้างมาแพงมากแค่ไหน เธอจะทำให้ทุกอย่างมันพังคามือเธอเอง “ลูกสาวแกมานู้นแล้ว” ไพรัตน์ที่มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนสะกิดบอกเพื่อนอย่างปรินทร์เมื่อเห็นว่าลูกเลี้ยงของปรินทร์ที่ใช้ให้เด็กนักเรียนและก็อาจารย์ที่ปรึกษาไปตามตัวมาเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง พร้อมกับยิ้มอย่างโล่งอกที่เด็กสาวยอมเดินมาที่ห้องของเขา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงขายขี้หน้าเพื่อนอย่างปรินทร์แย่ ที่ไม่สามารถอบรมเด็กสาวตัวเล็กๆนั้นได้ “ถึงกับต้องมาที่นี่ด้วยตัวเองเลยเหรอ” เนื้อทองเดินมายังโต๊ะทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อมองหน้าคนที่มาหาเธอให้ชัด ก่อนจะเอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตรเมื่อจำได้ดีว่าเขาคนนี้คือใคร เพราะว่าแดงอ้อยติดรูปเขาไว้ทั่วบ้าน เขาคือพ่อเลี้ยงของเธอที่เธอในอดีตเคยอยากเจอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วเพราะเธอโตพอที่จะรู้แล้วว่าเขาไม่เคยรักลูกเลี้ยงอย่างเธอคนนี้เลย “ไปขึ้นรถ” มือหนาของปรินทร์คว้าเอากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเพื่อนอย่างไพรัตน์ด้วยความรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเด็กสาวเดินมาถึงแล้ว พร้อมกับลุกขึ้นเพื่อจะพาเด็กสาวกลับไปจัดการอบรมที่บ้านในทันทีเพราะเขาเสียเวลานั่งรอมาสักพักใหญ่แล้ว เขาต้องการที่จะจบทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว ไม่อยากต้องเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์แม้แต่นาทีเดียว “ฝันไปเถอะ” เนื้อทองที่ทุกคนภายในห้องนี้มองว่าเธอเป็นแค่เด็กมอหกคนหนึ่งส่งเสียงเกรี้ยวกราดออกมา คนอย่างเธอไม่ยอมให้ใครมาสั่งให้ทำนู่นนี้ง่ายๆหรอกเพราะนี้มันชีวิตของเธอ เธอมีสิทธิ์สั่งแค่คนเดียวเท่านั้น “ปากดี” คำพูดไม่น่าฟังพูดพ่นออกมาจากปากของปรินทร์เมื่อเขาหมดความอดทนกับเด็กสาวตรงหน้า สายตาคมจ้องมองเธอเขม็งอย่างเอาเรื่อง ออกแนวเหมือนจะอยากเข้าไปบีบคอเธอที่กล้าขัดคำสั่งของเขา “ส่งเงินมาซิ ถ้ามันมากพอฉันก็อาจจะทำตามที่คุณสั่ง พวกคุณชอบทำแบบนั้นกันไม่ใช่เหรอ” เธอที่ควรจะกลัวเมื่อถูกผู้เป็นพ่อเลี้ยงสวนกลับมาด้วยคำพูดแบบนั้น แต่เธอกลับยิ้มเยาะที่ทำให้เขาโมโหออกมาได้ และแบมือยื่นไปข้างหน้าตั้งท่าของเงินเขาให้ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เห็นไปเลยว่าคนพวกนี้ถนัดที่จะใช้เงินแก้ปัญหามากแค่ไหน เหมือนกับที่พวกเขาเฝ้าทำมาตลอดตั้งแต่เธอเข้ามาเรียนที่นี่ตอนมอหนึ่งจนถึงเมื่อวานนี้ “ใช่” มือหนายื่นไปกระชากแขนที่ยื่นมาหาเขาเข้าเต็มแรงโดยไม่สนว่าเธอเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็กที่แขนเล็กนิดเดียว เพราะเธอกล้าที่มาทำให้เขาโมโหต่อหน้าคนอื่นได้เธอก็ต้องรีบผลกรรมที่ทำลงไป “ปล่อยนะ ปล่อย” มือที่เหลืออีกข้างของเนื้อทองพยายามแกะเอามือหนาที่แสนแข็งแรงของเขาออก ส่วนร่างกายก็พยายามดึงตัวเองไปทางด้านหลังเพื่อให้แขนหลุดออกจากการจับกุม แต่ทุกอย่างเหมือนจะไร้ผล เพราะมือของเขานั้นเหมือนเป็นเหล็กกล้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เนื้อทองถูกลากตัวไปขึ้นรถที่จอดอยู่ตรงหน้าห้องโดยไม่มีทางขัดขืนใดๆ เพราะไม่ว่าจะดิ้นจะร้องมันก็ไร้ผล ไม่สามารถหนีไปจากมือหนาของเขาได้ และก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเธอ เพราะภายในโรงเรียนนี้เธอไม่มีมิตรเลยสักคนมีแต่ศัตรู “ทำไมต้องทำแบบนี้” เมื่อรถหรูเคลื่อนตัวออกจากโรงเรียนเนื้อทองที่ถูกบังคับพาตัวมาก็ตั้งคำถามใส่เขาในทันที พร้อมกับใช้สายตาแห่งความเกลียดชังจ้องมองไปยังเขาตาแทบไม่กะพริบ เพราะเมื่อใดที่มีโอกาสเธอจะซัดหน้าเขาด้วยหมัดของเธอให้หายแค้นใจกับเรื่องที่เขาทำกับเธอแน่นอน เธอจะไม่ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามอย่างที่เขาอยากให้เป็นหรอก “เธอจะถูกส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ” เขาพูดเพียงสั้นๆแล้วก็เงียบไป เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดกับเด็กเหลือขอคนนี้ให้มากความ “ไม่ไป” เสียงหวานๆที่แสนแข็งกระด้างในคราวเดียวกันตอบปฏิเสธทันควันด้วยเธอไม่ได้อยากจะไปเรียนที่นั่น เธอคิดจะไม่เรียนต่ออีกแล้ว พอกันทีกับการศึกษาที่พวกเขาชอบมาบังคับ อยากจะหยุดทุกอย่างเอาไว้แค่ตรงนี้ แล้วไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการบ้าง “เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” เขาตอบออกไปด้วยความเย็นชา ไม่มีเยื่อใยแห่งความรักที่พ่อควรจะมีให้ลูก “อีกสองเดือนฉันจะอายุสิบแปดปีเต็ม พวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรกับฉันทั้งนั้น” เธอย้ำเตือนบางสิ่งออกไปเพื่อว่าเขาจะลืมไปว่าคนอย่างเธอนั้นโตพอที่จะเลือกชีวิตในแบบของตัวเองได้แล้ว พวกเขาเคยป่าวประกาศบอกเธอเอาไว้เองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเธอเมื่อวันนั้นเดินทางมาถึง “เดี๋ยวก็รู้” ปรินทร์ที่ไม่มีทางยอมให้วันของเธอเดินทางมาถึงก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรลงไป เขาจะส่งเธอไปเรียนต่อและไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศให้ได้เพื่อไม่ให้เธอนั้นมาสร้างปัญหาให้กับเขาอีก เพราะถ้าเธอยังอยู่ผู้เป็นแม่ของเขาที่เป็นภรรยาของพ่อเธอก็จะมาวนเวียนวุ่นวายกับเขาไม่เลิกไม่ราสักที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD