[ซีรีส์ชุด | Bad boy  3] บริการรัก มาเฟียเถื่อน

[ซีรีส์ชุด | Bad boy 3] บริการรัก มาเฟียเถื่อน

book_age18+
6.4K
FOLLOW
36.5K
READ
billionaire
HE
mafia
drama
bxg
highschool
cruel
surrender
like
intro-logo
Blurb

เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18+ ขึ้นไป ผู้ที่มีาอายุ 18+ ควรได้รับคำแนะนำ เนื้อหากล่าวถึง วงการสีเทา คำหยาบคายและฉากกระทำที่รุนแรงอาทิเช่น การต่อสู้ ฉากร่วมเพศระหว่างชายหญิง ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ

chap-preview
Free preview
INTO
INTO ประเทศอังกฤษ.. โรงเรียนคอนแวนต์แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนมีหญิงสาววัยมัธยมปลายต่างมารอรับโทรศัพท์จากผู้ปกครองหรือแม้กระทั่งรอจดหมายติดต่อกลับมาในรอบสัปดาห์ ทุกคนได้รับการติดต่อจากผู้ปกครองหมดแล้วยกเว้นเสียแต่เธอ ‘มุกดา’ “รอจดหมายจากผู้ปกครองหรอ” ในขณะที่เธอกำลังยืนหน้าเศร้ามองนักเรียนทุกคนต่างดีใจกับการติดต่อกลับมาจากครอบครัวอยู่นั้นเสียงเอ่ยทักเป็นภาษาอังกฤษของใครบางคนก็เอ่ยขึ้น “มาสเซอร์” เธอเอ่ยเรียกมาสเซอร์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง “ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อย” “ได้ค่ะ” มุกดาตอบเพียงเท่านั้นก็เดินตามมาสเซอร์ไปที่ห้องของเขา “ผู้ปกครองไม่ได้ติดต่อเธอมาหลายสัปดาห์แล้ว รู้ใช่มั้ย” มาสเซอร์ถามในขณะที่ยืนหันหลังให้คนตัวเล็ก "รู้ค่ะ" "ทางโรงเรียนช่วยติดต่อกลับไปให้แล้ว แต่ก็ไม่มีสัญญาณอะไรตอบกลับมา ไม่สามารถติตต่อได้" คำพูดของมาสเซอร์ทำให้สีหน้าของเธอยิ่งเจื่อนลง "สัปดาห์นี้หนูขอลากลับบ้านนะคะมาสเซอร์" "เขียนใบลามาส่งฉัน แล้วอาทิตย์นี้ก็กลับบ้านได้เลย" "ได้ค่ะมาสเซอร์" มุกดาขานรับแล้วย่อตัวเคารพมาสเซอร์ก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากห้อง เพื่อที่จะเดินไปยังห้องพักของตนเอง ซึ่งห้องพักก็เป็นห้องพักรวมขนาดใหญ่ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องเพราะเป็นวันศุกร์ทุกคนต้องไปรอรับการติดต่อจากผู้ปกครอง ซึ่งในแต่ละสัปดาห์จะได้รับการติดต่อแค่เพียงวันศุกร์เท่านั้น มุกดาหย่อนร่างอรชรนั่งลงบนเตียงนอนแล้วหยิบปากกาและสมุดมาเขียนจดหมายลากลับบ้านในอาทิตย์นี้ พอเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปส่งจดหมายลาให้มาสเซอร์ … (มุกดา) ครืดด~~~ ครืดด~~ (หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…) ความหวังสิ้นสลายเมื่อพยายามโทรกลับไปหาพ่อและแม่แต่ไม่มีใครรับ ฉันถอนหายใจออกมาแล้วทรุดตัวนั่งลงที่นั่งตรงป้ายรถ หลายอาทิตย์ที่แล้วที่ฉันไม่ได้ติดต่อครอบครัวแล้วก็ไม่มีใครติดต่อกลับมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและคนในตระกูลฉันก็แทบจะไม่รู้จักใครเลยตั้งแต่เด็กแล้วเพราะถูกส่งมาเรียนต่างประเทศตั้งแต่จำความได้ ปั้ง! และในขณะเดียวกันเสียงปืนปริศนาก็ดังขึ้นบริเวณนั้น ทำให้ผู้คนแตกตื่นและกรีดร้องออกมาพร้อมกับวิ่งหนี สติสัมปชัญญะตีรวนสายตาพยายามมองหาต้นเสียงของปืนก็พบว่ามาจากกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำและพวกมันก็กำลังตรงดิ่งมาทางนี้ "เห้ย!" เสียงของคนนั้นที่มองเห็นฉันเป็นคนแรกร้องสะกิดเรียกเพื่อนตนเองแล้วพวกมันก็วิ่งกรู่เข้ามา ร่างกายวิ่งหนีอัตโนมัติพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวกระหน่ำ คนพวกนี้เป็นใครกัน ทำไมถึงได้วิ่งไล่ตามฉัน เขาเล็งเป้าหมายผิดตัวรึเปล่า คำถามมากมายผุดเข้ามาในหัว? ปั้ง! ปั้ง!! "ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!" เสียงปืนไล่ยิงตามหลังมาติดๆ ฉันพยายามเอ่ยขอร้องความช่วยเหลือแต่ผู้คนบริเวณนั้นก็หวาดกลัวไม่มีกล้าเข้ามาใกล้หรือแม้แต่ที่คิดจะช่วย เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย ตึก ตึก ตึก ตึก… ไม่รู้ว่าวิ่งได้มาไกลเท่าไหร่แต่รู้ตัวอีกทีตัวเองก็หายเข้ามาในซอกของตึกร้างแล้ว และทางตรงหน้าก็เหมือนจะเป็นทางตัน พอถอยหลังหันกลับมาก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มเดิมยืนเรียงหน้ากระดานดักเอาไว้แล้วจ่อปืนมาที่ฉัน "พวกนายต้องการอะไร" ฉันถามออกไปเสียงสั่นเครือ พยายามถอยหลังไปชิดกำแพงแล้วหายใจออกมาเหนื่อยหอบ "ถามพ่อกับแม่เธอดูสิสาวน้อย" "ฉันไม่รู้เรื่อง" "พ่อกับแม่เธอติดต่อไม่ได้ คงคิดว่าจะหนีพ้น" "ฉันก็ติดต่อท่านไม่ได้เหมือนกัน แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าพ่อกับแม่ไปทำอะไรให้พวกนาย" "ไม่รู้หรือช่วยปิดบังที่กลบดานให้กันแน่" มันพูดพร้อมกับเตรียมกดยิงกระสุนขู่ "พวกนายจะฆ่าฉันตายก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะถึงจะตายไม่ตายฉันก็ให้คำตอบเรื่องพ่อกับแม่ให้พวกนายไม่ได้" "ก็จริง" หนึ่งคนที่เหมือนจะเป็นคนนำทีมตอบแล้วมันก็เก็บกระบอกปืนเอาไว้ ก่อนจะหยิบยุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอย่างใจเย็น "เอาไงดี" "จับตัวมันไปขาย" พอได้ยินคำนั้นก็เหมือนหัวใจของฉันจะร่วงหล่นไปถึงตาตุ่ม มองไปทางไหนก็ไร้หนทางหนี ได้แต่ปล่อยให้นํ้าตามันไหลออกมาเป็นสายเพราะไม่ตายก็คงถูกจับไปขาย "ปล่อยนะ! ช่วยด้วย!! อึก!" เสียงสุดท้ายที่พยายามร้องขอความช่วยเหลืออย่างไร้ความสิ้นหวังหายไป พวกมันพุ่งเข้ามาจับตัวแล้วใช้ยาสลบโบ๊ะเข้าที่จมูก จากนั้นไม่นานความมืดก็เข้าครอบงำ ... มุกดารู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตนเองอยู่ในสถานที่หนึ่งเป็นห้องขังที่มีกรงล้อมรอบ เธอถูกมัดตัวด้วยเชือกติดกับเก้าอี้ เปลือกตาคู่สวยเปิดขึ้นแล้วกวาดมองไปทั่วบริเวณรอบก่อนจะหยุดที่แสงจากช่องลมเล็กๆ ที่เล็ดลอดเข้ามา มองออกไปเป็นทะเลสีฟ้าครามอันกว้างไกลไร้จุดหมาย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าตนเองกำลังถูกส่งไปยังนอกประเทศอย่างที่พวกนั้นได้บอกเอาไว้เหมือนตอนแรก มุกดาคิดวิตกเธอมองหาวิธีเอาตัวรอดก่อนจะนึกได้ว่าตนเองมีนาฟิกาที่สามารถโทรออกได้ซ้อนไว้บนรองเท้าผ้าใบ เพราะก่อนหน้านั้นเธอกำลังจะนำไปขายเพื่อใช้เงินบินกลับประเทศไทย มุกดาพยายามใช้มือก้มถอดรองเท้าตนเองแล้วหยิบนาฬิกาขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เบอร์โทรเพียงคนเดียวจากทางตระกูลที่พอจะจำได้มีเพียงลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อภาคิน นึกได้แบบนั้นก็ไม่รอช้าติดต่อหาภาคินทันที แล้วไม่นานปลายสายก็กดรับ (สวัสดีครับ) "พี่คิน" (คุณ เป็นใคร?) "จำหนูได้ไหมคะ" มุกดาพูดผ่านปลายสายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือคล้ายกับจะร้องไห้ (จำไม่ได้ ใครครับ) "หนู มุกดาค่ะ มุกดา ลูกสาวของคุณแม่กับคุณพ่อ หลานขอบคุณย่าโสภา" (ลูกสาวคุณป้าหรอ?) "ใช่ค่ะ" (…) พอได้ยินคำตอบแบบนั้นภาพความทางจำหลายๆ อย่างก็สอดแทรกเข้ามาในห้วงความคิดของภาคิน มุกดา หรือที่ทุกคนเรียกน้องมุก เธอคือลูกสาวเพียงคนเดียวของเมสินีและเอกนัย ในวัยเด็กภาคินเคยเจอเธอแค่ครั้งเดียวและหลังจากนั้นมุกดาก็ถูกส่งตัวไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ตอนนั้น ที่แทบจะเป็นคนที่ถูกลืมไปในตระกูลเสียแล้ว ยิ่งพ่อกับแม่ถูกตัดออกจากกองทายาท ชีวิตของมุกดาตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นยังไง เขาคงเป็นคนเดียวในบรรดาหลานๆ ของตระกูลที่เคยคุยกับเธอ "พี่คิน ช่วยน้องดาหน่อยได้มั้ยคะ" ตี้ดดดด……… •••

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
11.8K
bc

อ้อนรักพ่อผัว

read
1K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
10.8K
bc

ไฟรักซาตาน

read
53.3K
bc

ปราบพยศรักยัยรุ่นพี่

read
1K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
9.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook