เฟยได้แต่ถอนหายใจ ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่เจียมเนื้อเจียมตัว ท่องไว้เสมอว่าเขาไม่คู่ควรกับเธอ เขาเป็นใครเธอเป็นใคร อย่าคิดแม้แต่จะขึ้นไปที่สูงทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์
["คุณหนูมาทำอะไรที่นี่ครับ" เมื่อเห็นว่าเจินมาที่คอนโดของปริญ ซึ่งวันนี้เขาก็มาพักอยู่ด้วย มองหน้านิ่งๆถามด้วยความแปลกใจ ร้อยวันพันปีเธอไม่เคยมาที่นี่
"เจินมาหาเฮียปริ้น" หญิงสาวผู้เอาแต่ใจก็ตอบ พร้อมกับเดินเข้าไปนั่งในห้องอย่างถือวิสาสะ
"เฮียปริ้นไม่อยู่ครับ"
"เฮียไปไหน"
"..." เฟยไม่ได้ตอบอะไรยืนนิ่งอยู่แบบนั้น
"เฮียเฟย..." เจินถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ เมื่อเฟยไม่ตอบที่เธอถาม
"ผมว่าคุณหนูกลับไปเถอะครับ วันนี้เฮียปริ้นไม่อยู่แล้วก็จะไม่กลับมาด้วย" เฟยพูดเสียงเรียบ
"เจินไม่กลับ เจินจะอยู่ที่นี่"
"แต่มันไม่ดีครับคุณหนู ห้องนี้มีแค่ผม ผมเป็นผู้ชายทั้งเราไม่ได้เป็นญาติกัน จะมาอยู่สองต่อสองแบบนี้..."
"..." พูดยังไม่ทันจบ หญิงสาวตรงหน้าก็ลุกมาสวมกอดเขา
"คุณหนู..."
"เจินคิดถึงเฮียเฟย ทำไมต้องเฉยชาและห่างเหินกับเจินขนาดนี้ด้วย" เธอพูดพร้อมกับกอดเขาไว้แน่น เขาจะไม่รู้สึกแบบที่เธอรู้สึกจริงๆหรอ
"ปล่อยเถอะครับคุณหนู" เขาพูดพร้อมกับค่อยๆแกะมือเธอออก แต่เธอกลับยิ่งกอดเขาแน่น
"ไม่ปล่อย เจินจะกอดเฮียเฟยไว้แบบนี้ เจินจะกอดให้นานๆ และจะกอดตลอดไป"
"คุณหนู..."
จุ๊บ และเจินก็เงยหน้าขึ้นไปจูบเฟยทันที เธอจูบช้าเนิบอยู่แบบนั้น แต่เฟยก็ยังยืนนิ่งไม่ได้จูบเธอตอบแต่อย่างใด
"เฮียเฟย ตอนนี้เจินโตจนจะเข้าเรียนมหาลัยแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆเหมือนแต่ก่อนแล้ว"
"..."
"เราคบกันเป็นแฟนได้ไหม เจินอยากอยู่กับเฮียเฟย เจินอยากอยู่กับคนที่เจินรัก" เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"คุณหนู..."
"เป็นแฟนกับเจินนะ" แล้วก็ยังเป็นเธอที่ขอเขาเป็นแฟนเสียเอง
"..." ตอนนี้เขาหูอื้อมาก สมองก็ไม่สั่งการอะไร เขารักเธอมาก รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว...
เธอก็เอื่อมตัวขึ้นไป กำลังจะจูบเขาอีกครั้ง แต่เขาที่ตัวสูงกว่าเธอมากก็หันหน้าไปอีกทาง พร้อมกับไม่หันกลับมามองหน้าเธออีก
"เฮียเฟย..." เธอพูดเบาราวกับละเมอ เขาไม่ได้คิดอะไรแบบที่เธอคิดจริงๆใช่ไหม
"คุณหนูกลับไปเถอะนะครับ"
"แล้วที่ผ่านมาเรื่องของเรา..."
"ไม่มีเรื่องของเราครับ"
"เฮียเฟย..."
"ไม่เคยมี" เฟยพูดเสียงเรียบ พร้อมกับหันมามองคนตรงหน้า ที่น้ำตาไหลเป็นสายอยู่
"มะ...ไม่เคยมีเลยหรอ..." เธอพูดเสียงแผ่ว น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาประท้วงความอ่อนแอในใจของตัวเอง
"ครับ"
แล้วที่เคยดูแลเธอมาตลอด ทำนั่นทำนี่ให้ทุกอย่าง ประคบประหงมเธอยิ่งกว่าอะไรดี แบบนี้คือเขาไม่เคยคิดอะไรกับเธอจริงๆหรือ...
เขารักเธอจะตายห่าแล้ว แต่เพราะรักนั่นแหละ เขาถึงได้ทำแบบนี้ อยู่กับเขามีแต่จะลำบาก เขารักเธอเกินกว่าจะเห็นแก่ตัวได้...]
"อ้าว ทำไมไปนานจังเลยเจิน แกท้องเสียปะเนี่ย" รรินดาถามแกมเย้าแหย่
"เปล่า แกได้ยังเรารีบกลับกันเถอะ" เจินพูดด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยดี สร้างความแปลกใจให้รรินดาอยู่ไม่น้อย
"แกเป็นไรเจิน"
"พอดีฉันเจอคนรู้จัก ฉันเลยหงุดหงิดนิดหน่อย" ทั้งยังตอบด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี
"อือ ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ" เมื่อเพื่อนไม่อยากเล่าเธอก็จะไม่เซ้าซี้ถามให้มากความ
"ปะ ฉันจะไปส่งแกที่บ้านนะ วันนี้ฉันก็จะเลยกลับไปบ้านอาม่าเลย" แล้วก็เกิดอาการเบื่อๆเซ็งๆไม่อยากอยู่คนเดียว
"แกส่งฉันที่ซอยถัดจากห้างก็ได้ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง"
"ไม่เอาฉันจะกลับไปส่งแก จะได้เข้าไปทักทายแม่กับยายแกด้วย"
"เสียใจจ้ะ แม่ฉันกับยายไปปฎิบัติธรรมตั้งแต่เช้าแล้ว ตั้งสองคืนสามวันแหน่ะ"
"เสียดาย แต่ไม่เป็นไรฉันไปส่งแกเฉยๆก็ได้"
"ยังไงก็จะไปส่งให้ได้ใช่ไหม" รรินดาก็ยิ้มและส่ายหน้าเบาๆ
"ใช่ฉันจะไปส่งแก แกยังอ่อนแออยู่ฉันจะทิ้งแกไปได้ยังไง" เจินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ขอบใจแกมากเลยนะเจิน" พูดพร้อมกับจับมือเจินแน่น
ทุกช่วงเวลาของชีวิตวัยรุ่นของเธอ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเจินคือคนที่อยู่กับเธอทุกสถานการณ์ เจินเป็นคนน่ารักและห่วงใยคนอื่นมาก
และทั้งสองคนก็จับมือเดินไปด้วยกัน พร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบาๆ ความสดใสของทั้งสองคน อยู่ในสายตาของคนที่แอบมองอยู่ห่างๆ อย่างเฟยและเขาก็ทำได้เพียงคลี่ยิ้มบางๆออกมา
Rrrr Rrrr Rrrr
"ครับเฮีย"
"กูเสร็จธุระแล้ว มึงอยู่ไหน"
"อยู่..."
"ร้านหนังสือ?" ปริญรู้มาตั้งแต่เด็กแล้วว่าเฟยชอบอ่านอนิเมะมากๆ ทุกครั้งที่มาห้าง เขาต้องได้ติดไม้ติดมือไปมากกว่า 2 เล่ม
"ครับเฮีย" เฟยได้แต่มองเข้าไปที่ร้านหนังสือ และถอนหายใจในทันที
"เอ่อ ได้กี่เล่มแล้ว รีบมา"
"ครับ" ไม่ได้ซักเล่มทั้งยังเจออะไรที่น่าสนใจกว่าหนังสือ...
ณ คฤหาสน์ วัฒนเลิศทรัพย์
รถหลายคันทยอยเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ ของคฤหาสน์หลังใหญ่โดยไม่ได้นัดหมาย ไม่บ่อยครั้งนักที่จะมารวมตัวกันได้แบบนี้
"เจ่เจ้..." เมื่อเห็นพี่สาวลูกพี่ลูกน้อง ที่สวยราวกับนางพญาก้าวลงมาจากรถหรูคันใหม่เอี่ยมของเธอ ที่ราคาประเมินจากสายตาคงไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน พร้อมกับถือกระเป๋าแบรนด์เนม ราคาก็คงแพงเอาเรื่องเช่นกัน
'หงส์หยก' พี่สาวคนนี้ เป็นคนที่ค่อนข้างดุและเจ้าระเบียบมาก ด้วยความที่เป็นคนมั่นใจในตัวเอง และไม่สนใจอะไร ทำให้ใครหลายคนยำเกรงในรังสีอำมหิตที่อยู่รอบตัวเธอกันหมด
แม้ความเป็นจริงแล้วเธอจะเป็นคนใจดีมากก็เถอะ แต่ด้วยบุคคลิก Working Women ในหมาดนักธุรกิจสาว เลยทำให้เกิดอาการประหม่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้
และตามด้วยเจินน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของเขาอีกคน ที่ลงมาจากรถหรูของเธอเช่นกัน น้องสาวเขาคนนี้ก็ค่อนข้างที่จะสนิทกับเขา เพราะเธอเรียนคณะโลจิสติกส์ เพื่อที่จะได้เข้าไปช่วยเขาบริหารงานในบริษัท ที่กำลังจะขยายบริษัทในเครือไปอีกหลายแห่ง ทั้งคู่เลยได้คุยกันเยอะที่สุด และกลายเป็นสนิทกันไปโดยปฏิยาย
"เจ่เจ้สวัสดีค่ะ " เจินยกมือไหว้พี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเธอด้วยความประหม่า
"เป็นยังไงบ้างเรา"
"ก็..."
"อ้าว เจ่เจ้ก็มาด้วยหรอครับ สวัสดีครับ" และปริญก็เข้ามาทักทายเช่นกัน
"เจ้ก็ไม่รู้ว่าพวกเธอสองคนก็มา" หงษ์หยกพูดพร้อมกับยิ้มมุมปาก
"คะ...ค่ะ งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ" เจินรีบตัดบท
เจินที่เห็นเฟย ก็ทำท่าทีไม่สบอารมณ์ และรีบเเดินเข้าบ้านไปทันที ส่วนเฟยเองก็มองจนหญิงสาวลับสายตาไป
"อาม่าาาาาาาา" และเจินก็วิ่งไปกอดอาม่าทันที
อาม่ากิมฮัว อายุ 75 ปี แต่ยังแข็งแรงทุกอย่าง ทั้งยังเป็นคนที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง ทุกกิจการทุกอย่างของครอบครัว ทั้งยังมีแนะนำเสนอไอเดียให้ลูกหลานไปทำธุรกิจของตัวเอง จนตอนนี้ทุกคนก็ต่างร่ำรวยกันหมดแล้ว
"อาเจิน ลื้อจะเสียงดังให้อั๊วหนวกหูทำไม"
"ก็เจินคิดถึงอาม่าหนิ ไม่เจออาม่านานมากกก"
"ก็ลื้อไม่มา ลื้อจะเจออั๊วได้ยังไง" อาม่ากิมฮัวได้แต่ก้มลงมองและส่ายหน้าให้หลานสาวตัวแสบ
หลานอีก 2 คนก็เดินเข้ามา จนอาม่ากิมมองด้วยความแปลกใจ
"สวัสดีค่ะม่า" หงษ์หยกก็ทักทาย
"สวัสดีครับอาม่า" และปริญก็ทักทายตาม
"เดี๋ยวนะ นี่ลมอะไรหอบพวกลื้อมา"
"มาก็ว่าไม่มาก็ว่า" หงส์หยกพูดพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟา
"ก็พวกเราคิดถึงอาม่าไงครับ"
"พวกลื้อนัดกันมา?"
"เหอะ เจินไม่ได้นัดนะคะ เจินมาของจนเอง"
"ผมก็มาของผมเอง"
"อือๆ ช่างพวกลื้อเถอะ เดี๋ยวอั๊วไปบอกให้อาจางอีทำอาหารอร่อยๆให้พวกลื้อก่อน"
"ขอบคุณครับอาม่า" ปริญพูดพร้อมกับเดินเข้าไปกอดอาม่าเช่นกัน
"พอได้แล้ว เดี๋ยวอั้วมา" อาม่าก็แกะมือปริญออก และเดินไปสั่งเหล่าแม่บ้านทันที