บทที่1 ความเป็นมาของซ่องโสเภณี

1157 Words
บทที่1 ความเป็นมาของซ่องโสเภณี ตรอกสำราญ ใครๆ ก็ต่างรู้ว่าตรอกสำราญเป็นแหล่งค้าประเวณีที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่หน้าซอยยันท้ายซอยบ้านทุกหลังแม้แต่ร้านอาหารโรงแรมต่างก็มีการค้าประเวณีกันทั้งนั้น แม้แต่ร้านอาหารของครอบครัวโยเกิร์ตตอนนี้ก็กลายเป็นซ่องโสเภณีที่มีสาวสวยพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โยเกิร์ตเป็นลูกสาวของโบตั๋นอดีตนักร้องสาวสวยและเป็นเจ้าของร้านอาหารโบตั๋นตอนนี้เธอผันตัวมาเป็นแม่เล้าโดยมีลูกสาวเป็นผู้ช่วย โยเกิร์ตไม่ได้อยากทำงานแบบนี้แต่นาทีนี้ครอบครัวของเธอกำลังอยู่ในช่วงขาลงตรอกสำราญเคยเป็นพื้นที่แหล่งการท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศเมื่อผู้นำเปลี่ยนอะไรๆ ก็เปลี่ยนตามเศรษฐกิจพังผู้มีอำนาจในบ้านเมืองปล่อยปละละเลยทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เมื่อก่อนร้านอาหารโบตั๋นขึ้นชื่อเรื่องความสดสะอาดและมีดนตรีมีเสียงเพลงโดยเจ้าของร้านแต่ตอนนี้กลายเป็นช่องโบตั๋นที่ถูกขนานนามไม่ต่างกัน แต่ถึงอย่างไรซ่องโสเภณีที่อยู่ในตรอกนี้ก็ต้องจ่ายส่วยให้กับผู้คุมดูแลอย่างองศาเขาเป็นผู้ปกครองอาณาจักรโสเภณีและกาสิโนขนาดใหญ่ไม่มีใครโค่นล้มได้ ประวัติขององศาก็ไม่ธรรมดาเขาเป็นลูกชายของเจ้าพ่อกาสิโนที่ไม่ต่างจากมาเฟียเพียงแต่ไม่ได้มีการยิงกันเหมือนในหนังมาเฟียที่หลายคนเคยดู ทุกครั้งที่องศามาตรวจตราซ่องเล็กๆ ในตรอกสำราญไม่ว่าเขาจะก้าวเดินไปที่ไหนลูกเล็กเด็กแดงก็ไม่มีสิทธิ์มองหน้าเพราะเขาไม่ชอบให้ใครสบตาหากใครทำอะไรไม่ถูกใจมีสิทธิ์หายไปจากโลกใบนี้เช่นกัน "โยเกิร์ตเราส่งเธอแค่นี้นะถ้าเกิดคนที่บ้านเรารู้ว่าเราเข้าไปในตรอกนั้นได้โดนบ่นหูชาแน่" "ไม่เป็นไรขอบใจมากนะมะปรางเราขอกลับบ้านก่อนช่วงนี้แม่เราไม่ค่อยสบาย" "โอเค ไว้เราจะหารายงานมาจ้างเธอทำก็แล้วกันจะได้มีเงินเยอะๆ ไปละ^^" โยเกิร์ตดินเข้ามาในตรอกสำราญผู้คนในตรอกรู้จักเธอเป็นอย่างดีแต่เธอไม่อยากคุยกับใครเพราะผู้ชายที่เข้ามาในตรอกนี้ต่างก็เข้ามาหาความสุขให้ตัวเองกันทั้งนั้นสังคมภายนอกที่ได้ยินชื่อเสียงของตรอกสำราญต่างก็รู้ว่านี่คือดงโสเภณีผู้หญิงที่อยู่ในนี้ต่างก็ขายตัวกันทั้งนั้น คงจะมีเพียงโยเกิร์ตที่ไม่เคยคิดทำเรื่องพวกนั้นเลย ร้านโบตั๋น นักศึกษาสาวปีสี่อย่างโยเกิร์ตเดินเข้ามาในร้านก็เจอลูกค้าหื่นกามส่งสายตาให้เธอ เธอพยายามไม่สนใจไม่มองหน้ารีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดเพื่อลงมาช่วยงานในครัว วันนี้แม่ของเธอไปหาหมอมาป่านนี้คงนอนพักอยู่บนห้องหน้าร้านมีพี่ละออผู้ช่วยคนสนิทของแม่เธอรับลูกค้าอยู่ "วันนี้ไปเรียนมาเป็นยังไงบ้างโย" เสียงของชายหนุ่มผู้เป็นเชฟประจำร้านเอ่ยถาม เขาแอบชอบโยเกิร์ตมานานแล้วแต่เขาเป็นแค่เชฟทำงานอยู่ก้นครัวฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดีนักจึงไม่กล้าจีบเธอแม้จะแอบมองเธอทุกครั้งที่ได้เจอ "เหนื่อยมากเลยพี่ภู ได้รายงานของเพื่อนมาทำด้วยอย่างน้อยก็พอได้ผสมค่าไฟของเดือนนี้ว่าแต่วันนี้ลูกค้าเยอะไหมพี่" "มาเยอะช่วงเย็นนี้แหละเมื่อเช้าก็เงียบพี่แทบจะนั่งหลับเลย" "โยอยากเรียนจบเร็วๆ จะได้ไปหางานทำหาเงินมาใช้หนี้ให้หมดๆ ไปสักที" ภูริแอบสงสารเธอไม่น้อยตั้งแต่เขามาทำงานที่นี่เมื่อ 5 ปีที่แล้วเธอยังเป็นเด็กนักเรียนมอปลายช่วยเสิร์ฟอาหารล้างจานทำงานในครัวเธอทำได้ทุกอย่างแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วบ้านเมืองเศรษฐกิจมันพังการท่องเที่ยวไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคนร้านอาหารทยอยปิด ร้านของฝากก็อยู่ไม่ได้ต้องประกาศขายตึกกันเป็นแถวจนมีนักลงทุนเข้ามากว้านซื้อหลังจากนั้นก็เริ่มมีเรื่องอบายมุขเข้ามาจากแหล่งท่องเที่ยวเริ่มกลายเป็นแหล่งการพนันแหล่งมั่วสุม ยิ่งมีนายหน้ามาเสนอให้ผู้คนที่พักอาศัยร้านค้าต่างๆ เปลี่ยนแปลงจากร้านอาหารร้านนวดแผนไทยให้กลายเป็นซ่องโสเภณีตอนแรกเจ้าของกิจการต่างๆ ก็ต่อต้านประท้วงกันอยู่นานแต่ก็ถูกนายทุนที่เข้ามากว้านซื้อกดดันและกลั่นแกล้งส่งคนมาป่วนจนทำให้ลูกค้าที่มีเพียงน้อยนิดไม่กล้าเข้ามาเหยียบในตรอกสำราญอีกเลยและสุดท้ายคนที่อยู่ที่นี่ก็ต้องยินยอมพร้อมใจในการเปิดซ่องโสเภณีอันสกปรกเพื่อความอยู่รอดของตนเองและครอบครัว "พี่ภูคะ มีลูกค้าขอพบเชฟค่ะ" ภูริรีบถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วเดินออกไปด้านนอกตามคำสั่งของลูกค้าภูริเองก็เป็นหนุ่มหล่ออายุเพียง 28 ปีเขามักจะถูกอาซ้อที่เข้ามาทานอาหารเรียกตัวไปพบเพื่อยื่นข้อเสนอมากมายแต่ภูริก็ไม่ได้คิดที่จะหลับนอนกับใคร "อีกแล้วเหรอเนี่ยปุยนุ่นวันนี้แม่ฉันกลับเย็นหรือเปล่า" "กลับมาตั้งแต่บ่ายแล้วนะมาถึงก็ขอไปนอนข้างบนคงจะเพลียน่ะ เออโยเกิร์ตวันนี้ฉันเห็นคุณองศาด้วยนะเห็นตอนไปทิ้งขยะด้านหลังน่ะเห็นคุณองศายืนสูบบุหรี่อยู่โชคดีที่คุณองศาไม่ได้หันมามองไม่งั้นฉันคงหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว" ปุยนุ่นพูดติดตลกเธอเป็นน้องสาวของภูริและเป็นเพื่อนต่างสถาบันของโยเกิร์ตด้วย "ถ้าตอนนั้นแม่ฉันมีเงินคงไม่ต้องทนลำบากกันแบบนี้ ถ้ามีเงินสักก้อนแม่คงจะไปเปิดร้านอาหารและจ้างพี่ภูมาเป็นเชฟแต่ตอนนั้นทั้งเนื้อทั้งตัวแม่มีเงินเหลืออยู่แค่ 700 บาทแม่ของฉันเซ็นสัญญาทั้งน้ำตาเลยฉันจำได้ดีว่าแม่บอกว่าถ้าเกิดหนี้ก้อนนั้นแม่ไม่มีปัญญาใช้คืนแม่จะให้ฉันหนีไปให้ไกลที่สุดคิดแล้วก็เศร้าเงินตั้ง5 ล้านฉันกับแม่จะเอาปัญญาที่ไหนไปใช้คืนคุณองศา" ทั้งสองพูดคุยกันไม่นานภูริก็เดินส่ายหน้าเข้ามาก็คงเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เวลามีอาซ้อมาขอซื้อตัวเขาก็ปฏิเสธตรงๆ บางทีก็อ้างว่าไม่ชอบผู้หญิงจะได้ตัดปัญหาเรื่องพวกนี้ไป --------------------------------- คุณองศานี่ใหญ่มาจากไหนใครก็มองหน้าไม่ได้ อ่านแล้วคอมเมนต์+เพิ่มเข้าชั้นด้วยนะคะทุกคน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD