“ทำยังงี้ได้ยังไง นี่มันกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวกันชัดๆ ไร้มารยาท ไม่รู้ว่าเป็นพวกโรคจิตหรือเปล่า” มินตราหัวเสีย สันนิษฐานถึงพฤติกรรมของชายคนนี้ไปในทางร้ายต่างๆนาๆ
“ช่างเถอะมิน อยากถ่ายก็ถ่ายไป”
“ได้ยังไง” น้ำเสียงของมินตราเอาเรื่อง เธอหยัดร่างขึ้นจากเก้าอี้ไม้ไผ่ ก้าวยาวๆไปยังชายหาดอีกด้าน ลงส้นเท้าหนังจนน่าเป็นห่วง ดารินได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง
“นี่!...คุณ” หญิงสาวเรียกด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น เมื่อก้าวเข้าไปใกล้
“ครับ” เขาขานรับ แกล้งทำหน้าซื่อ ทั้งที่ประมาณเอาจากน้ำเสียงของมินตราได้ว่าเธอไม่พอใจในการกระทำของเขาอย่างแน่นอน
“คุณกำลังทำอะไรของคุณ?” เธอย่นหน้าผาก เปิดฉากกับเขาในทันที
“เอ่อ…ก็ เห็นอยู่ว่าผมกำลังถ่ายภาพ” เขาแกล้งทำไขสือ
“ถ่ายภาพอะไร?” เธอคาดคั้น ราวกับพนักงานสอบสวน
“เอ่อ…ก็ถ่ายภาพทั่วๆไป”
“โกหก เห็นอยู่ว่าคุณแอบถ่ายภาพฉัน กรุณาหยุดถ่ายภาพฉันเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากมีเรื่อง” เธอว่า
“เอ่อ ขอโทษครับ ถ้าเมื่อครู่ มันเป็นการรบกวนคุณ” เขายอมรับว่าแอบถ่ายภาพเธอ
“ใช่ค่ะ มันไม่ใช่แค่รบกวน แต่มันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ฉันไม่รู้ว่าที่ผ่านมามีใครเคยสอนมารยาทให้คุณบ้างหรือเปล่า ว่าสิ่งที่คุณทำ คือการก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคนอื่น” เธอว่า
“ขอโทษครับ” เขาหลุบตา ทำสีหน้าเหมือนเด็กๆเมื่อถูกครูตำหนิ ทว่าสิ่งที่เธอไม่เชื่อว่าเขาสำนึกอย่างแท้จริง ก็คือประกายตาที่แลเห็นอาการล้อเลียนวูบไหวอยู่เบื้องหลังดวงตาคมกริบของเขา แต่คำขอโทษที่เขากล่าวออกมา ก็ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดเริ่มคลายลง
“คุณถ่ายรูปฉันไปทำไม” มินตราลดน้ำเสียง ทว่าสีหน้ายังเครียดขรึม เอาจริง
“ก็...เอ่อ เห็นว่าคุณสวยดี” เขาตอบยิ้มๆ
มินตราส่ายหน้า นอกจากจะไม่รู้สึกปลาบปลื้มในคำชม กลับคิดว่าเขาแกล้งตีสำนวนยวนยีเสียมากกว่า ปกติมินตราไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องใครก่อน เลี่ยงได้เธอจะเลี่ยง หากครั้งนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำให้เธอทนไม่ได้ ถ้าจะปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านเลยโดยไม่ตำหนิเขา
“อย่ามาทำทะลึ่ง…แล้วก็ไม่ต้องมาชมฉัน” เธอว่า
“ชมก็ไม่ได้” เขาเถียงเบาๆ
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันว่าถ่ายรูปฉันไปทำไม”
“ตอบแล้วนี่ครับ…ก็บอกว่าคุณสวยดี”
“เก็บคำชมเอาไว้ใช้กับผู้หญิงคนอื่นเถอะค่ะ…อย่าหวังว่าฉันจะตัวลอยไปกับคำเยินยอของคุณ แล้วอย่ามาแกล้งชมเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัว”
“ที่ถ่ายรูปคุณ สาบานได้ว่าผมไม่มีเจตนาที่จะเอาไปใช้ในทางที่เสียหาย”
“แต่มันก็ไม่สมควรอยู่ดี” เธอกอดอก ไม่หลบสายตาเขา แปลกที่ชายหนุ่มตรงหน้าก็จงใจสู้สายตาเธอเช่นกัน
“ว่าแต่คุณไม่ใช่พวกโรคจิตใช่ไหม” หญิงสาวหรี่ตามองเขา
“โธ่คุณ…หน้าตาผมเหมือนคนโรคจิตตรงไหนเนี่ย” เขาเบะปาก ยักไหล่
“ไม่รู้แหละ…คนสมัยนี้ รู้หน้าไม่รู้ใจ”
“แต่ผม…ใจกับหน้าตรงกันนะครับ” เขาทำน้ำเสียงทะเล้น
“กรุณาลบภาพฉันออกให้หมด...เดี๋ยวนี้”
“จะให้ลบจริงๆหรอ...” เขามองหน้าเธอ ทำน้ำเสียงต่อรอง แววตาบ่งบอกว่าเสียดายภาพเหล่านั้น
“เอามานี่” มินตรารีบคว้ากล้องมาจากมือเขา เมื่อเห็นท่าทางอิดออดของชายหนุ่ม
“เดี๋ยวสิคุณ…ใจเย็นๆ เดี๋ยวผมลบให้ก็ได้” เขาเสียงอ่อน
“ไม่ต้อง…ฉันจะลบเอง”
เธอเลื่อนดูภาพทีละรูปๆ
“ระวังจะเจอภาพลับเฉพาะของผมนะ…เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน” เขาหลิ่วตา ทำสีหน้าทะเล้น
มินตราหยุดกึก เมื่อนึกถึงคำว่าภาพลับเฉพาะของเขา
“ฉันชักจะไม่เชื่อซะแล้ว ที่คุณปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นโรคจิต” เธอหรี่ตามองเขา
“อ้าว…ทำไมคิดยังงั้นล่ะคุณ” เขาเบ้ปาก มีอารมณ์กระเซ้าปนอยู่ในน้ำเสียง
“คนปกติคงไม่ถ่ายรูปลับเฉพาะของตัวเองหรอกค่ะ” เธอว่า
“แหม…มันก็ต้องมีบ้างแหละ คุณเองก็เถอะ ถามจริงๆ…ไม่เคยเลยหรอ อย่างน้อยก็ถ่ายแล้วลบ” เขากล่าวยิ้มๆ
“บ้า…อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนคุณ” เธอนึกตำหนิในใจว่าเขาช่างหน้าไม่อาย จริงไม่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรเอามาพูด
ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้เธอ แกล้งเอียงตัวมองดูหญิงสาวค่อยๆกดลบรูปจากกล้องของเขาทีละภาพ จนแน่ใจว่าในส่วนที่เป็นภาพของเธอ ได้ถูกลบจนหมด จากนั้นจึงยื่นกล้องคืนเจ้าของ
“แล้วจำเอาไว้ว่าทีหน้าทีหลัง อย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีก” เธอฝากให้เขาคิด ก่อนจะหมุนตัวกลับ แล้วก้าวเดินจากมา
“เดี๋ยวสิคุณ...มาถึงก็ว่าฉอดๆ เสร็จแล้วก็จะไปง่ายๆ” เขาท้วงคนที่กำลังจะเดินหนี
มิตราหยุดกึก เธอค่อยๆหันกลับมาส่งสายตาค้อนให้เขา
“แล้วเรามีอะไรต้องคุยกันด้วยหรือคะ”
“เอ่อ…ผมชื่อกันย์นะครับ” เขารีบแนะนำตัวออกไป ชายหนุ่มเผลอจ้องดวงหน้าสวย ขณะที่แสงแดดอาบไล้พวงแก้มสะอาดสะอ้าน ไล่สายตาลงมาตลอดลำคอกลมกลึง ลาดเรื่อยลงมาถึงรอยพับของต้นแขนอ้อนแอ้น น่าทะนุถนอม
“ไม่ได้ถามสักหน่อย” เธอยักไหล่เล็กน้อย
“เอาเป็นว่าผมอยากบอก” เขาทำหน้าเจื่อน หากยังไม่ละความพยายามที่จะทำความรู้จักกับเธอ
“หมดธุระแล้วใช่ไหมคะ”
“ผมว่าเราน่าจะคุยกันดีๆได้นะครับ”
“ใช่ค่ะ...เราน่าจะคุยกันดีๆ ถ้าคุณไม่แอบถ่ายรูปฉันอย่างไร้มารยาท” เธอวกกลับมาที่การกระทำอันเป็นความผิดของเขา
“บอกตรงๆว่าผมสะดุดตา...เอ่อ ครั้งแรกที่เห็นคุณ เห็นสิ่งที่คุณทำ”
“สิ่งที่ฉันทำ?” เธอทวนคำของเขา
ดวงตาคมประกายของหญิงสาวหรี่มองเหมือนจะค้นความจริงในสิ่งที่เขาพูด จากดวงตาคมกริบของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า