“มือไม่ต้องสั่นขนาดนี้ก็ได้ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก” ผู้ชายตรงหน้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทพูดขึ้นเพราะตอนนี้มือของฉันสั่นจริงๆ นั่นเป็นเพราะใบหน้าของเขามันมีแต่รอยแผลและเลือดที่กำลังซึมออกมา
“แต่หน้าตาพี่มันไว้ใจไม่ได้ เลิฟไม่อยากสนิทกับคนที่มีเรื่องบ่อยๆมันน่ากลัว” ฉันตอบกลับไปตามตรงเพราะแผลบนใบหน้าเขามันค่อยข้างน่ากลัว อาการช้ำเริ่มออกสีแล้ว
“เฮีย”เขาพูดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ฉันมองหน้าอย่างงุนงงเพราะอยู่ๆก็พูดขึ้นมาคำเดียวแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“อะไรคะ” ฉันถามกลับทันที
“เรียกฉันว่าเฮีย เฮียปั้น”
“ทำไมเลิฟต้องเรียกคะ” ฉันถามขึ้นอีกครั้งเพราะมันมีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องเรียกเขาว่าเฮีย ฉันไม่ได้อยากสนิทกับเขา อีกอย่างคนที่มีเรื่องต่อยตีไม่เว้นแต่ละวันแบบเขาอยู่ใกล้ไปก็คงไม่ปลอดภัย
“เธอเป็นเพื่อนข้าวหอมเรียกฉันว่าเฮียแปลกตรงไหน”
“โอเค เรียกก็เรียก” ฉันตอบกลับอย่างตัดปัญหา บางทีเหตุผลของเขาอาจจะเป็นเพราะฉันเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวของเขานั่นแหละ
“เลิฟทำแผลเสร็จแล้ว เฮียปั้นขยับออกไปได้แล้วค่ะ” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้กล่องอุปกรณ์ทำแผลมันถูกเลื่อนออกไปจากตรงหน้าของฉันสักพักแล้ว มีแต่เจ้าของบาดแผลที่ยังคงนั่งอยู่
“ทำไมฉันต้องขยับ” คนหน้ามึนอย่างเขาพูดขึ้นอีกครั้ง
“เราไม่สนิทกันขนาดที่จะนั่งใกล้กันขนาดนี้นะคะ” แน่นอนว่าฉันคิดแบบที่พูด ผู้ชายแบบเขาเป็นคนที่ฉันควรอยู่ห่างที่สุดเพราะเขาดูเป็นคนที่น่ากลัวและน่าอันตรายไปพร้อมๆกัน
“แต่ตอนที่เธอทำแผลให้ฉันเมื่อกี้ มันใกล้กว่านี้นะและใกล้ขนาดนี้ด้วย” ฉันขับตัวถอยหนีทันทีเพราะประโยคเมื่อกี้ที่เขาพูดขึ้นมา เขาขยับตัวเข้าใกล้ฉันเรื่อยๆจนมากกว่าตอนทำแผลเสียอีก
“เธอดูรังเกียจฉัน” เขาพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าฉันขยับตัวหนีห่าง
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ เลิฟแค่คิดว่าอยู่ใกล้เกินไปไม่ดี” ฉันตอบกลับอีกครั้ง จริงๆไม่ได้รังเกียจแต่การรักษาระยะห่างระหว่างกันมันดี
“แต่ฉันอยากอยู่ใกล้เธอ อยากสนิทกันเธอ” เฮียปั้นพี่ชายของเพื่อนสนิทพูดขึ้นอีกครั้ง
บอกตามตรงเลยว่าปกติฉันไม่เคยคุยกับเขานานขนาดนี้มาก่อน มีแค่ทักทายกันเฉยๆเพราะฉันไม่เคยที่จะนั่งอยู่สองต่อสองแบบนี้ ยัยข้าวหอมเพื่อนของฉันไปไหนเนี่ย เข้าห้องน้ำเป็นครึ่งชั่วโมงเลยหรือไง
“สนิทได้ค่ะ ยังไงเลิฟก็เป็นเพื่อนข้าวหอมแต่อยู่ใกล้อย่าดีกว่าค่ะ” ฉันพูดขึ้นอีกครั้ง
“ทำอะไรเพื่อนหนูอะเฮีย ดูมันทำหน้าเข้าสิ” เหมือนเสียงสวรรค์เพราะตอนนี้ยัยข้าวหอมเดินกลับมาแล้ว
“มาก็ดีแล้ว เข้าห้องน้ำอะไรนานขนาดนี้” ฉันพูดขึ้นพร้อมกระชากแขนข้าวหอมเข้าหาตัว
รู้สึกหายใจทั่วท้องยิ่งกว่าเก่าเมื่อข้าวหอมกลับมา
“ฉันท้องเสียไงแก เป็นยังไงอ่านถึงไหนแล้ว” ข้าวหอมถามขึ้นอีกครั้ง
“จะอ่านได้ยังไง ในเมื่อฉันทำแผลให้พี่ชายแกอยู่นะ” ฉันตอบกลับไปก่อนจะเลิกสนใจพี่ชายของยัยข้าวหอม
“ฉันรู้หรอกนะว่าแกตั้งใจทิ้งฉันไว้กับพี่ชายของแก” ฉันพูดขึ้นอย่างรู้ทันเมื่อเฮียปั้นเดินออกไป ตอนนี้อยู่กับยัยข้าวหอมสองคน ฉันก็พูดได้แบบไม่ต้องเกรงใจเขา
“ทิ้งอะไรแค่ฝากให้ทำแผลให้ มีน้ำใจกับสัตว์ทั้งหลายก็มีน้ำใจกับพี่ชายฉันหน่อยเถอะ” ยัยข้าวหอมพูดขึ้นด้วยท่าทางประชดประชัน ก็ฉันเป็นคนรักสัตว์ไม่แปลกที่จะใจดีกับสัตว์ทั้งหลาย
“ก็ทำแล้วแต่พี่ชายแกน่ากลัวชะมัด” ความรู้สึกขนลุกยังไม่หายไปเลย ยิ่งตอนที่เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันกลับรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องแปลกๆ
ที่ฉันพูดว่าเขาดูน่ากลัว มันจริงนะ ผู้ชายผิวสีแทน ร่างกายกำยำและสูงมากๆและมีรอยสักเกือบทั่วทั้งร่างกาย
“แกก็พูดเวอร์ เห็นเฮียปั้นแบบนั้นเขาใจดีจะตาย” ก็คงต้องเออ ออไปตามนี้เพราะข้าวหอมเป็นน้องสาวของเขา
“ใจดีก็ใจดี” ฉันตอบกลับไปก่อนจะเลิกสนใจยัยข้าวหอมและหันมาสนใจหนังสือตรงหน้า
“ฉันว่าเราเลิกอ่านเหอะ สอบติดมหาลัยแล้วไม่ต้องอ่านกันแล้วหรอก” ยัยข้าวหอมพูดขึ้นอีกครั้ง
“ก็ต้องแบบนั้น ขืนอ่านทุกวันเครียดตายพอดี" เพราะฉันก็ไม่ใช่เด็กเรียนอะไรขนาดนั้นที่จะต้องอ่านหนังสือทุกวัน มีแค่ช่วงที่เรากำลังจะสอบเข้ากันเท่านั้นที่ฉันจะมาติวกับข้าวหอมทุกวัน
“ถ้าไม่อ่านหนังสือกันแล้ว แกจะมาบ้านฉันบ่อยๆได้ไง”
“ฉันโตแล้วนะ แม่ฉันไม่หวงขนาดนั้น”
“แม่ของแกหวงแกยิ่งกว่าอะไรซะอีกยัยเลิฟ” จะว่าแบบนี้ก็ได้ ก็ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวกว่าจะมีฉันแม่ของฉันพยายามมากๆ จะไม่ให้หวงก็แปลกแต่ฉันชอบนะ การที่มีคนคอยหวงห่วงเรามันรู้สึกดีชะมัด
“ไม่พูดดีกว่า งั้นวันนี้ฉันกลับเลยแล้วกัน” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเก็บของเข้ากระเป๋าเพราะตอนนี้ก็เกือบเย็นแล้ว
“เฮียปั้นมาพอดีเลย เฮียปั้นไปส่งยัยเลิฟหน่อยสิ ไหนๆก็จะไปข้างนอกไม่ใช่หรอ” ยัยข้าวหอมตะโกนขึ้นทำเอาพี่ชายหันมามอง
“ฉันกลับเองได้” ฉันพูดขึ้นเพราะฉันว่าการกลับแท็กซี่ก็คงจะดูปลอดภัยมากกว่าการให้เขาไปส่ง
“กลับยังไงที่บอกว่ากลับเองได้” เฮียปั้นพี่ชายของยัยข้าวหอมถามขึ้นทันที
“แท็กซี่ค่ะ” ฉันตอบกลับไป
“ไปกับฉันปลอดภัยกว่าแท็กซี่” เฮียปั้นพูดขึ้นพร้อมกับจับมือของฉันเดินออกจากบ้านโดยที่ฉันไม่ทันที่จะพูดอะไรสักคำ แบบนี้มันเรียกว่ามัดมือชกชัดๆ
❤️
อุ๊บส์ อิพี่ เบาๆหน่อยจ้า