พันธนาการรักข้ามกาลเวลา EP.05 พี่ชายผู้คลั่งน้องสาว (3)

1337 Words
“ไม่ได้ครับ ออกไปคนเดียวมันอันตราย พี่เป็นห่วง” “แค่ออกไปเดินห้าง คนออกจะพลุกพล่านซะขนาดนั้น ไม่มีใครกล้าทำร้ายหรอก ที่สำคัญก็ไม่มีใครรู้จักเหม่ยเยวี่ยด้วย ยิ่งพี่แดนเนียลให้บอดีการ์ดของพี่เดินตามเหม่ยเยวี่ย เหม่ยเยวี่ยก็ยิ่งเป็นอันตราย” ‘ให้เธอไปคนเดียวจะปลอดภัยกว่าไปกับคนของเขา ในฮ่องกงไม่มีใครรู้จักเธอเสียหน่อย แล้วจะเกิดอันตรายกับเธอได้อย่างไร คิดมากไม่เข้าเรื่อง ที่สำคัญเธอไม่ใช่คนอ่อนแอเสียหน่อย ที่จะปล่อยให้คนอื่นเข้ามาทำร้ายได้’ ศศิกานต์สัญญากับตนเองเอาไว้ว่าเธอจะไม่ทำร้ายใครก่อน หากมีคนคิดร้ายกับเธอก็อย่านึกว่าเธอจะปล่อยคนเหล่านั้นมีความสุข เธอเจ็บแค่ไหน คนที่คิดร้ายต่อเธอจะต้องได้รับความเจ็บปวดกว่าร้อยเท่าพันเท่า “อันตรายที่ไหน พี่ว่าปลอดภัยมากกว่า ไม่รู้ล่ะถ้าเหม่ยเยวี่ยจะออกไปไหนก็ต้องเอาคนของพี่ไปด้วย หรือเหม่ยเยวี่ยจะให้พี่ไปเป็นเพื่อน” ในเมื่อตัดสินใจไปแล้วเขาไม่มีทางล้มเลิกเด็ดขาด ชายหนุ่มละสายตาจากน้องสาวแล้วหันไปมองสองลูกน้องคนสนิท วันนี้เขาไปด้วยไม่ได้ ดังนั้นให้หย่งเสียนกับเหวินถังตามไปดูแลเหม่ยเยวี่ยก็แล้วกัน “พวกนายสองคนตามไปดูแลคุณหนูเหม่ยเยวี่ยด้วย” “ครับนายน้อย/ครับนายน้อย” “เอาล่ะครับคุณหนูเหม่ยเยวี่ย ตอนนี้จะไปไหนก็บอกเจ้าสองคนนี้ได้เลยนะครับ” แดนเนียลหันมาเอ่ยกับเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่เอาแต่ทำหน้างอใส่เขาอย่างอารมณ์ดี นึกหรือว่าเขาจะปล่อยให้ไปคนเดียว ไม่มีทางเสียล่ะ รอยยิ้มแต้มตรงมุมปากของแดนเนียล ทำให้ศศิกานต์หน้างอเข้าไปอีก ‘คิดจะควบคุมเธอหรือไง ไม่ใช่พ่อเธอเสียหน่อย เป็นแค่พี่ชายต่างมารดาเท่านั้น เชอะ! คิดหรือว่าเธอจะยอมเชื่อในคำพูดของเขา’ “ถ้าไม่พาคนของพี่ไป ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากห้องนี้เลย” “แบบนี้มันเผด็จการชัดๆ เลยนะคะพี่แดนเนียล” “เผด็จการที่ไหนกัน ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะรักและเป็นห่วงทั้งนั้น” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ร่างสูงขยับลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจไปมา จากนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าน้องสาวจอมดื้อรั้น ใบหน้าคมสันโน้มลงมาแทบจะชิดใบหน้าหวาน ศศิกานต์ยกมือขึ้นมาดันแผงอกกว้างอย่างตกใจ ผงะแทบจะหงายหลัง โชคดีที่ว่าเธอยังนั่งอยู่บนโซฟาเลยไม่เป็นอะไร หากเธอยืนอยู่มีหวังได้ล้มตึงลงไปนอนกองอยู่กับพื้นให้ต้องอับอายขายขี้หน้าแน่ ดวงตาคู่งามเงยขึ้นมองเจ้าของใบหน้าคมสันอย่างเอาเรื่องกึ่งตำหนิ “อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ ใครมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี อย่าลืมสิคะว่าเราเป็นพี่น้องกัน” “ก็เป็นพี่น้องกันน่ะสิครับสาวน้อย ถ้าไม่เป็นพี่น้องกัน ป่านนี้เหม่ยเยวี่ยคงโดน... ‘พี่ปล้ำไปแล้ว’ ” หากแต่ประโยคนี้กลับดังอยู่ในใจ แดนเนียลมองดวงหน้าสวยหวานอย่างหลงใหล เขายอมรับอย่างไม่อายว่าครั้งแรกที่เขาได้เห็นน้องสาวต่างมารดาผู้นี้ เขาก็ตกหลุมรักเธอแทบจะทันที แต่ติดตรงที่เขากับเธอเป็นพี่น้องกัน ไม่อย่างนั้นสาวน้อยหน้าหวานคนนี้คงไม่รอดเงื้อมมือเขา “อย่าแม้แต่จะคิดนะคะ ถึงเราสองคนจะมีแม่คนละคนกัน แต่เราสองคนก็มีพ่อคนเดียวกัน” ใช่ว่าเธอจะดูไม่ออก สายตาพี่ชายต่างมารดายามที่มองเธอมันชวนให้รู้สึกอึดอัด มันเป็นแววตาของผู้ชายที่มองผู้หญิงที่ตนรัก ซึ่งเธอไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น หรือต่อให้ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน เธอก็ไม่มีวันรักเด็ดขาด ศศิกานต์เบี่ยงหน้าหลบ มือที่ดันอกกว้างก็ดึงกลับมาวางเอาไว้บนตัก แดนเนียลชะงักไปกับคำพูดเชิงตำหนินั้น ระหว่างเขากับสาวน้อยผู้นี้มันคงเป็นได้แค่พี่ชายกับน้องสาว เขาไม่ควรมีความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ผิดศีลธรรมเช่นนั้นเลย ทำไมผู้หญิงที่ทำให้หัวใจเขาหวั่นไหวเป็นครั้งแรกถึงได้เป็นน้องสาวต่างมารดาผู้นี้ ‘บ้าเอ๊ย! นี่แกคิดบ้าอะไรอยู่ เหม่ยเยวี่ยเป็นน้องสาวของแกนะ แดนเนียล บัดซบเอ๊ย!’ ชายหนุ่มสบถอยู่ในใจอย่างเดือดดาล เมื่อรู้ว่าลึกๆ เขารู้สึกอย่างไรกับหวังเหม่ยเยวี่ย น้องสาวผู้น่ารัก อ่อนหวานของเขาคนนี้ “น้องสาวฉันคิดมากจัง เราเป็นพี่น้องกันนะครับ และขอโทษถ้าทำให้คิดมาก ฉันอาจจะดีใจ ตื่นเต้นไปหน่อยที่มีน้องสาวเพิ่มมาอีกคน เอาล่ะ คราวหลังฉันจะระวังตัวให้มากกว่านี้” น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาดูเศร้าไป ทำให้ศศิกานต์ถึงกับหน้าซีด นึกเสียใจที่ดันปากเสีย พูดจาไม่ดีออกไปเมื่อก่อนหน้านี้ ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นไปมองสีหน้าเคร่งขรึมของพี่ชายต่างมารดาแล้วก็ใจหายวาบ อีกทั้งสายตาที่เคยระยิบระยับก็กลับนิ่งสงบจนเธอเริ่มกลัว “พี่แดนเนียลคะ ขอโทษที่พูดจาไม่ดีออกไปนะคะ คือ...ฉัน...เอ่อ...เหม่ยเยวี่ยไม่ชินนะคะที่จู่ๆ ก็มีผู้ชายเข้ามาใกล้ถึงขนาดนี้ ถึงจะเป็นพี่ชายก็เถอะ แต่เหม่ยเยวี่ยจะพยายามปรับตัวนะคะ พี่แดนเนียลอย่าโกรธเหม่ยเยวี่ยเลยนะคะ ยิ้มหน่อยสิคะ นะคะ...ยิ้มหน่อย” คนที่รู้ตัวว่าผิดเอ่ยขอโทษพร้อมกับออดอ้อนไปในตัว ดวงตาคู่งามจ้องมองเจ้าของร่างสูงที่ยืนหน้าตึงอย่างเว้าวอน ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเกาะแขน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังยืนนิ่งทำหน้าตึงใส่เธออยู่ “อย่าโกรธเหม่ยเยวี่ยเลยนะคะ” “ก็ไม่ได้โกรธนี่ครับ” แดนเนียลตอบแต่ยังยืนหน้าตึง ทว่าในใจกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็นอาการงอนง้อของน้องสาว ใจจริงเขาก็ไม่ได้โกรธหรือตำหนิในคำพูดเชิงตำหนินั่นสักนิด เพราะสิ่งที่หญิงสาวพูดมามันเป็นความจริง เขาเคยแอบคิดไม่ซื่อจริงๆ นั่นแหละ ที่ยืนนิ่งทำหน้าเครียดก็เพราะไม่รู้จะพูดหรือแสดงสีหน้าอะไรออกไปได้ในตอนนี้ เขายังช็อกกับความจริงที่มันแอบซุกซ่อนอยู่ในใจต่างหาก “แน่นะคะ” ศศิกานต์ถามย้ำเพื่อความมั่นใจ “ครับ พี่โกรธหนูเหม่ยเยวี่ยผู้แสนน่ารักคนนี้ไม่ลงหรอกครับ” แดนเนียลตอบ ก้มหน้าส่งยิ้มให้สาวน้อยช่างอ้อนข้างกาย เห็นรอยยิ้มหวานที่ส่งกลับมาชวนให้หัวใจหวั่นไหวเหลือเกิน อยากจะบ้าตายจริงๆ ทำไมเขาต้องมาหวั่นไหวเพราะน้องสาวของตนด้วย หากเล่าให้ใครฟัง เขาคงถูกประณามจนแทบพลิกแผ่นดินหนีเป็นแน่ หย่งเสียนกับเหวินถังต่างกลืนน้ำลายดังเฮือกเมื่อเห็นพฤติกรรมของเจ้านายหนุ่มกับคุณหนูเหม่ยเยวี่ย พวกเขาดูออกว่าผู้เป็นนายไม่ได้โกรธคนเป็นน้องสาวแม้แต่น้อย แต่อาการนิ่งเงียบนั้นมันทำให้เขารู้สึกหนาวยะเยือก เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดมันเป็นจริง ‘นายน้อยของพวกเขาแอบรักน้องสาวต่างมารดาจริงๆ’ ///////////////////////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD